ตอนที่ 505 สำหรับนายแค่สาวใช้ของฉันก็เหลือเฟือ !
แปล Tarhai
ขณะนี้ ภายนอกวิลล่าบนภูเขาโลนฮิล
ชายหนุ่มในชุดดำคนหนึ่งยืนอยู่เงียบ ๆ ข้างนอกคฤหาสน์
ชายหนุ่มคนนี้อายุประมาณ 25 ปี เขามีอายุใกล้เคียงกับฉิงเฟิงแต่ผิวคล้ำกว่า เขามีรูปร่างปานกลางและมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่ง
ชายหนุ่มผิวแทนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือเสือดำ หนึ่งในสี่ทรราชย์ของจังหวัดหูเจียง มาพร้อมกับสมุนร่างใหญ่สองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา
ลูกน้องของเขาก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน มือของพวกเขาถูกปูดโปดไปด้วยเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความเข้มแข็งทางด้านการต่อสู้
มีนักเลงหลายสิบคนที่เต็มไปด้วยเลือดนอนอยู่บนพื้นรอบๆ พวกเขาร้องโอดโอยด้วยความทุกข์ทรมาน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสยดสยอง
อันธพาลเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มของพันธมิตรฉิงเฟิง พวกเขาพยายามที่จะหยุดยั้งเสือดำ แต่พวกเขาทั้งหมดก็พ่ายแพ้ด้วยการโจมตีเพียง 3 ครั้ง
“พี่เสือดำ ทำไมคิงคองถึงยังไม่มาอีก ?” ลูกสมุนที่อยู่ทางซ้ายถาม
เสือดำยิ้มอย่างมั่นใจและกล่าวว่า “พวกนายไม่ต้องกังวล ถ้าคิงคองมันยังพอมีสมอง หลังจากโดนอัดจนน่วมขนาดนั้นมันย่อมสวามิภักดิ์ต่อเราแน่นอน”
“ถูกต้อง พี่เสือดำเป็นหนึ่งในสี่นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของหกเมืองทางภาคตะวันออก คิงคองซึ่งเป็นเพียงแค่ผู้นำในเมืองทะเลตะวันออกย่อมไม่สามารถเปรียบเทียบกับพี่เสือดำได้ ” ลูกสมุนที่อยู่ทางด้านขวากล่าวด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความชื่นชม
ทุกๆคนในหกเมืองของฝั่งตะวันออกต่างก็รู้จักชื่อเสือดำ เขาเป็นคนที่สามารถเปรียบเทียบได้กับเสือนภา
จากนั้นเสือดำก็ตะโกนดังขึ้น ” คิงคอง ! ออกมาและยอมสยบต่อพวกฉันซะ มิฉะนั้นฉันจะฆ่าพวกนายทุกคนในพันธมิตรฉิงเฟิง !”
“ทำลายพันธมิตรฉิงเฟิง ? ฉันละอยากเห็นจังใครกันที่จะทำลายพันธมิตรฉิงเฟิง” เสียงของฉิงเฟิงดังออกมาจากในคฤหาสน์ จากนั้นเขาก็เดินออกมาพร้อมกับคิงคองและเหมียวซิยี้
ทันใดนั้นฉิงเฟิงก็ได้เห็นเสือดำเมื่อเขาเดินออกมาจากคฤหาสน์ เสื้อยืดที่สกรีนลายหัวเสือดำนั้นดูเด่นชัดอย่างมาก ไม่เพียงแค่นั้น ฉิงเฟิงยังสามารถรับรู้ได้ถึงตัวตนที่แข็งแกร่งของเขา เขาเป็นนักสู้ในระดับ S
นักสู้ระดับ S อาจจะดุทรงพลังมากในสายตาของคนอื่น แต่สำหรับฉิงเฟิง นักสู้ระดับ S ก็เหมือนลูกเจี๊ยบตัวหนึ่ง
“แกเป็นใครกันวะ ? ไสหัวไป ! ฉันต้องการคุยกับคิงคอง” เสือดำคำร้องออกมาอย่างเย็นชา
จากข้อมูลที่เขารวบรวมได้มา เขารู้ว่าผู้นำกองกำลังใต้ดินของเมืองทะเลตะวันออกก็คือคิงคอง เขาไม่รู้จักชายหนุ่มผู้หล่อเหลาคนนี้
คิงคองโกรธมากเมื่อได้ยินคำสบประมาทของเสือดำต่อฉิงเฟิง เขาตะโกนว่า
“บัดซบ เสือดำ ! แกใหญ่มาจากไหนถึงกล้าดูถูกท่านปู่หลี่ !?”
“คิงคอง แกกล้าด่าฉัน ? อยากโดนอัดอีกรึไง ?”
“ใช่ ฉันกำลังด่าแกนั่นละ แกควรจะชะโงกดูเงาตัวเองบ้าง แกกล้าดียังไงมาทำตัวหยิ่งยโสต่อหน้าท่านปู่หลี่ ?”
“คิงคอง แกมีเพียงสองทางเลือกในวันนี้ ประการแรกคือสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อฉันและกลายเป็นคนขี้ข้าของฉัน ไม่งั้นก็ ตาย !” เสือดำข่มขู่
คิงคองยิ้มอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินคำข่มขู่ของเสือดำ เขากล่าวด้วยความรังเกียจว่า “ฉันเป็นลูกน้องและซื่อสัตย์ต่อท่านปู่หลี่เพียงผู้เดียว คนอย่างแกไม่มีคุณสมบัติที่จะรับความจงรักภักดีของฉัน !”
เสือดำกล่าวด้วยความโกรธว่า “คิงคอง ทางที่ดีแกควรจะเชื่อฟังคำสั่งของฉันซะดีกว่า ในขณะที่ฉันยังอารมณ์ดี แกไปเรียกไอ้หนุ่มหน้าหล่อคนนั้นว่าท่านปู่ได้อย่างไร ? เขามีคุณสมบัติเหมาะสมพอหรือ ?”
ฉิงเฟิงรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกเสือดำวิจารณ์ เขาคิดในใจว่า
นายหมายถึงอะไรที่ว่าฉันมีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ?
“เสือดำ นายผิวสีแทนดีนะ ถ้านายไม่พูดแล้วยืนเฉยๆฉันคงคิดว่านายเป็นก้อนถ่านดำ” ฉิงเฟิงดูถูกเสือดำ
อะไรวะ ? ก้อนถ่านดำ ?
เหล่าอันธพาลที่ล้อมรอบต่างก็มึนงง แต่บางคนเริ่มหัวเราะ ฝีปากของท่านปู่หลี่ช่างเหลือร้ายไม่เคยเสื่อมคลาย เขาด่าว่าเสือดำ ดำเหมือนถ่าน
“บัดซบเอ้ย ! แกกล้าดียังไงมาด่าฉัน แกอยากตายรึไง !?” เสือดำตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ความจริงแล้วเสือดำผิวดำมาตั้งแต่เกิด เขามักจะถูกรังแกและถูกล้อเลียนอยู่เสมอจนกลายเป็นปมด้อย เพราะเหตุนี้เขาจึงได้พยายามเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้จากผู้อาวุโสท่านหนึ่งและทุบตีทุกคนที่เยาะเย้ยเขา จากนั้นเขาใช้ทักษะของเขาจนกลายเป็นหนึ่งในสี่ทรราชย์ผู้ยิ่งใหญ่จากทั้งหกเมืองทางภาคตะวันออก
ในภาคตะวันออก ทุกคนจะเรียกเขาว่าลูกพี่เสือดำ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครกล้าที่จะบอกว่าเขาผิวดำ มันเป็นรอยแผลเป็นในหัวใจของเขา แต่วันนี้มีคนกล้าด่าเขาเสียแล้ว
“อะไร ? ถ้าฉันพูดว่านายผิวดำแล้วจะยังไง ? นายมองสารรูปตัวเองก่อนเถอะ นอกจากฟันแล้วทุกส่วนของนายดำเมี่ยมไปหมด นายต้องเกิดมาจากเหมืองถ่านหินอย่างแน่นอน เฮ้อ… ช่างเป็นเด็กที่น่าสงสาร นายไม่เพียงแค่ดำเท่านั้นแต่ยังอุบาทว์อีก นายคงต้องยังโสดอยู่แน่นอน ! กลางคืนยังช่วยตัวเองอยู่ใช่ไหม ?” ฉิงเฟิงด่าเสือดำไม่หยุด
การแสดงออกของเสือดำมืดครึ้มลงทุกคำพูดของฉิงเฟิง เมื่อฉิงเฟิงพูดจบ เสือดำก็โกรธจนแทบคลั่ง ใบหน้าเขาอึมครึมมากจนไม่มีสีอื่นบนใบหน้า
“หลี่ฉิงเฟิง !! แกทำให้ฉันโกรธ วันนี้ฉันต้องทำให้แกและคิงคองกลายมาเป็นสมุนของฉันให้ได้ ! จากนั้นฉันจะส่งแกไปทำงานในเหมืองถ่านหิน ให้แกได้อยู่ในเหมืองไปตลอดชีวิต !” เสือดำกล่าวด้วยความโมโห
“เด็กโง่ งานขุดถ่านหินที่เหมืองเป็นงานของนายต่างหากไม่ใช่ฉัน” คำพูดของฉิงเฟิงทำให้เสือดำโกรธจนแทบกระอักเลือด
สารเลวเอ้ย ! เกิดมาฉันไม่เคยเห็นใครฝีปากร้ายขนาดนี้มาก่อน ปากของเขาเต็มไปด้วยพิษร้าย
เสือดำคิดในใจ
“พี่เสือดำครับ อย่าโกรธไปเลย ผมจะสั่งสอนมันให้พี่เอง” ลูกสมุนทางซ้ายมือของเสือดำกล่าว
“โอเค ไป ! ไปเล่นมัน แต่อย่าตีมันจนตายก็แล้วกัน ฉันต้องการส่งมันไปทำงานที่เหมืองถ่านหิน” เสือดำกล่าวอย่างเย็นชา
ลูกสมุนของเสือดำพยักหน้าและเดินเข้าหาฉิงเฟิงด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เขาชี้ไปที่ฉิงเฟิงและกล่าวว่า “แก ! มานี่ ข้าจะสั่งสอนแกให้หลาบจำ”
ฉิงเฟิงยิ้มตอบกลับอย่างหนาวเย็น ในขณะที่เขากำลังจะก้าวไปข้างหน้าเหมียวซิยี้ก็ขวางไว้และกล่าวว่า
“นายท่าน ตัวตลกพวกนี้ไม่จำเป็นต้องให้คุณลงมือหรอก แค่ชั้นก็พอ อย่าทำให้มือของคุณสกปรกเพราะพวกมันเลย” เหมืองซิยี้กล่าวด้วยความเคารพ
ฉิงเฟิงพยักหน้าและพูดว่า “ก็ได้ ซิยี้ เธอไปสั่งสอนพวกเขาสักเล็กน้อยก็แล้วกัน”
“ค่ะ นายท่าน” เหมียวซิยี้กล่าวด้วยความเคารพ จากนั้นเธอก็หยิบแส้ดำขึ้นมาและเดินไปข้างหน้า
ด้วยความงามของเหมียวซิยี้ เธอมีใบหน้าที่มีเสน่ห์และผิวเนียนนุ่มเป็นประกายราวกับเทพธิดา ซึ่งลูกสมุนของเสือดำไม่เคยพบผู้หญิงที่บริสุทธิ์งดงามขนาดนี้มาก่อน จึงทำให้ดวงตาของเขาเร่าร้อนขึ้น
“สาวงาม เธองดงามยิ่งนัก พี่จะปล่อยน้องไปนะถ้าน้องยอมเป็นผู้หญิงของพี่ !”
ลูกสมุนของเสือดำกล่าวอย่างตื่นเต้น
ในฐานะลูกสมุนของเสือดำผู้ยิ่งใหญ่ เขาได้พบกับผู้หญิงสวยมามากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกของเขาที่ได้เห็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ หัวใจของเขาแทบหยุดเต้นเมื่อได้สบตากับเหมียวซิยี้เป็นครั้งแรก
“เป็นผู้หญิงของนายงั้นเหรอ ? นายเป็นใครมาจากไหน?” เหมียวซิยี้โกรธกับคำพูดของเขามาก ในหัวใจของเธอมีเพียงเจ้านายของเธอฉิงเฟิงเท่านั้นที่มีคุณสมบัติพอที่จะพูดกับเธอ