ตอนที่ 111 พวกเรามาถึงแล้ว!

ท่าทีที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของนางหยุดชะงักลงเมื่อได้ยิน นางได้เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะมองไปที่หยางเย่พร้อมกล่าว “ในตอนแรกข้าไม่คิดจะดึงเจ้าลงมาพัวพันด้วยหรอก เพราะเจ้าอยู่เพียงขั้นปราณมนุษย์เท่านั้น ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่ ข้าก็ไม่ได้คิดจะติดตามเจ้าไป แต่เพราะทางที่ข้าจะหนีนั้นเป็นทางเดียวกับเจ้าพอดี กล่าวได้ว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ!”

“เรื่องบังเอิญ?” หยางเย่แทบจะตบนางเมื่อได้ยินเช่นนั้น ข้าต้องมาถูกไล่ล่าจากสองกองทัพเพราะเรื่องบังเอิญงั้นหรือ?”

เวลานี้เขาไม่ทราบว่าควรจะหัวเราะหรือปล่อยไปตามอารมณ์โกรธ

สตรีชุดเงินกล่าวต่อ ” สําหรับการมุ่งไปยังโบราณสถานของราชวงศ์ชางนั้น ข้าเองก็ไม่มีทางเลือก เพราะด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง สัตว์อสูรจิตวิญญาณด้านหลังเราได้ระดมพลสัตว์อสูรในขุนเขาไม่สิ้นสุดเพื่อไล่ล่าเรา อันที่จริงเขาไม่ควรกล้าที่จะสร้างความวุ่นวายขนาดนี้แต่ก็ได้ทําไปแล้ว ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะทราบเหตุผลว่าเพราะเหตุใด!”

หยางเย่ไร้ซึ่งคํากล่าวเมื่อได้ยินเช่นนั้น เหตุผลโดยธรรมชาติคงเป็นเพราะราชันหมาปาที่ไปกระตุ้นต่อมความอยากรู้อยากเห็นเข้า ดังนั้นสัตว์อสูรจิตวิญญาณจึงไม่ลังเลที่จะใช้กําลังแทบทั้งหมดในขุนเขาไม่สิ้นสุดเพื่อไล่ล่า มันก็ไม่ต่างจากหยางเย่หาเรื่องพวกนี้มาใส่ตนเอง แต่หากไม่ใช่เพราะนางตั้งแต่แรก

เมื่อนึกได้เช่นนั้น หยางเยรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เขาหันไปมองสตรีชุดเงินก่อนเอ่ยคํา “แล้วเหตุใดท่านยังไม่ไปจากข้าเสียที่? ทันทีที่ท่านไป พวกเขาก็จะปล่อยข้าอยู่แล้ว อย่างน้อยพวกทหารม้าเหล่านั้นคงไม่ตามข้ามาแน่!”

สตรีชุดเงินเริ่มยิ้มอีกครั้ง ”น้องชาย อย่าคิดจะทิ้งพี่หญิงไว้เลย พี่หญิงไม่สามารถห่างเจ้าได้แล้วตอนนี้”

คงต้องล้อเล่นเป็นแน่ ในที่สุดนางก็เจอขุมพลังที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เช่นนั้นจะให้นางปล่อยมือทิ้งจากสิ่งนี้ได้ยังไง?

” ท่านไม่ละอายใจบ้างหรือ?”

“ไม่ว่าเจ้าจะว่ายังไงพี่หญิงก็ไม่ยอมไปจากเจ้า สรุปคือพี่หญิงเลือกเจ้าเป็นคู่ชีวิตแล้ว!”

“ไม่ว่ายังไงท่านก็เป็นถึงยอดฝีมือขั้นปราณราชัน ช่วยมีคุณธรรมสักหน่อยไม่ได้หรือไง?”

“คุณธรรม? มันคืออะไร? ทั้งหมดที่พี่หญิงต้องการคือความเป็นธรรมเท่านั้น…”

หยางเย่ไร้ซึ่งคํากล่าวใด เขานึกถึงคํากล่าวที่ว่า คนไร้ยางอายยังไงก็ไม่มีวันเอาชนะได้” สตรีผู้นี้ก็เป็นเช่นนั้น

“น้องชาย เจ้าไม่ต้องการจะเข้าร่วมสถาบันจักรพรรดิจริงหรือ? เชื่อพี่หญิง ทันทีที่เจ้าเข้าร่วมกับพวกเรา เช่นนั้นความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ของเจ้าจะต้องทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดได้แน่นอน เวลานั้นไม่ว่าจะเคล็ดวิชา กระบวนท่า อํานาจ หรือโฉมงาม เพียงแค่คําเดียว เจ้าก็จะได้มันทั้งหมด” สตรีชุดเงินยังไม่คิดจะยอมแพ้ที่ต้องการให้หยางเย่เข้าร่วมด้วย

หยางเย่หันไปมองพร้อมแสยะยิ้มมุมปาก “โฉมงามที่เจ้ากล่าวคงเป็นตัวเจ้าเองใช่หรือไม่?”

สตรีชุดเงินชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นใบหน้านางกลายเป็นสีแดง แต่ไม่นานก็กลับเป็นปกติ นางยิ้มยั่วยวนเล็กน้อยขณะมองไปที่หยางเย่ “หากน้องชายสามารถเป็นหนึ่งในสามอันดับแรกของสถาบันจักรพรรดิได้ เช่นนั้นคงไม่ยากที่จะได้แต่งงานกับข้า แต่น้องชายยังมีความสามารถไม่เพียงพอตอนนี้ ไม่ใช่ว่าพี่หญิงเย้ยหยันเจ้านะ แต่อัจฉริยะของสถาบันจักรพรรดินั้นนับว่าร้ายกาจ แน่นอนว่าน้องชายไม่มีโอกาส.”

” หยุด!” หยางเย่กล่าวขัดจังหวะ “ข้าไม่สนใจในอันดับบ้าบอนั่น เช่นนั้นก็อย่าเปลืองลมหายใจอีก นอกจากนั้นข้ายังไม่สนใจท่านเลยแม้แต่น้อย พวกเราจะแยกกันทันทีที่ไปถึงโบราณสถานที่เจ้าว่า”

สตรีชุดเงินถอนหายใจเมื่อเห็นว่าหยางเย่ไม่สนใจอย่างแท้จริง แต่นางเองก็ยังไม่คิดยอมแพ้พร้อมกล่าวด้วยท่าที่จริงจัง “ความแข็งแกร่งของเจ้าไม่ธรรมดา พรสวรรค์ก็นับว่ายอดเยี่ยม แต่เจ้าควรตระหนักไว้ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใดแต่ปราศจากทรัพยากรบ่มเพาะพลัง สุดท้ายเจ้าก็ไม่สามารถไปถึงจุดสูงสุดได้ และโดยเฉพาะอํานาจหนุนหลัง หากอัจฉริยะไม่มีอํานาจหนุนหลัง เช่นนั้นก็อาจจะอายุสั้นกว่าที่คิด”

นางเคยแลกเปลี่ยนการโจมตีจากหยางเย่เพียงครั้งเดียว แต่มันก็เป็นการโจมตีที่ทําให้นางตกตะลึงอย่างมาก แม้ตอนนี้ก็ยังจําพลังและความเร็วจากการฟาดดาบครั้งนั้นได้ เมื่อรวมกับสิ่งที่หยางเย็บอกว่าเขาไม่ได้อยู่ในสํานักใด มันยิ่งทําให้นางมีความหวังที่จะดึงหยางเย่มาอยู่ข้างจักรวรรดิต้าฉิน

” อํานาจหนุนหลัง?” หยางเย่หัวเราะเยาะเล็กน้อยก่อนจะส่ายหัว “ท่านกล่าวถูกต้องว่าการมีกําลังหนุนหลังนั้นสําคัญ แต่มันจะพึ่งพาได้จริงหรือไง? ตอนนี้ข้ามีทั้งพรสวรรค์ ความมั่งคั่งและความแข็งแกร่ง สํานักมากมายไม่ลังเลที่จะรับข้าเป็นศิษย์ แต่ข้ามั่นใจว่าที่พวกเขาพร้อมจะหนุนหลังนั้นก็เพราะพลังของข้าเองทั้งหมด ดังนั้นพลังที่แท้จริงก็มาจากตนเอง การมีกองกําลังหนุนหลังสําหรับข้านั้นแทบไม่จําเป็น!”

เมื่อนึกถึงสิ่งที่สํานักดาบราชันคิดจะส่งเขาและน้องสาวให้พวกราชวังบุปผาในวันนั้น ความโกรธเคืองก็ปะทุขึ้นในใจหยางเย่ เมื่อไม่นานมานี้หยางเย่คิดว่าสํานักดาบราชันสามารถสนับสนุนเขาได้ และยังภูมิใจที่ได้เป็นศิษย์ของสํานักดาบราชัน แต่พวกเขาทํายังไงกับหยางเย่? เพียงผู้อาวุโสของราชวังบุปผาต้องการ บรรดาผู้อาวุโสของสํานักดาบราชันก็ไม่ลังเลที่จะส่งเขาและน้องสาวให้

เช่นนั้นแล้วเขาได้รับสิ่งใดจากอํานาจหนุนหลัง?

สตรีชุดเงินกําลังจะกล่าวบางอย่างแต่ก็เงียบไปพร้อมถอนหายใจเบา ในฐานะคนของราชวงศ์ นางเข้าใจหลักการนี้อย่างลึกซึ้ง

นางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวอีกครั้ง ”น้องชาย พี่หญิงไม่ทราบว่าเจ้าเจอสิ่งใดมาก่อนหน้านี้ แต่ข้ายังคงอยากให้คําแนะนําอยู่ ด้วยพรสวรรค์ของเจ้า หากได้สถาบันจักรพรรดิสนับสนุน เจ้าจะต้องโด่งดังไปทั่วยุทธภพแน่นอน สําหรับการถูกทอดทิ้งนั้น ข้าคิดว่าหากไม่ต้องการถูกทอดทิ้งจากผู้สนับสนุน เช่นนั้นเจ้าก็ควรฝึกให้หนักเพื่อความแข็งแกร่ง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเจ้าจะถูกทอดทิ้งได้อย่างไร?”

หยางเย่ยิ้ม ” ท้ายที่สุดข้าก็ต้องพึ่งพาตนเองอยู่ดีไม่ใช่หรือ? สําหรับทรัพยากรการบ่มเพาะพลังนะหรือ? ข้าแทบไม่ขาดแคลนแม้แต่น้อย นอกจากนั้นเลิกเรียกข้าว่าน้องชายได้แล้ว ข้ามีนามว่าหยางเย่”

สตรีชุดเงินถอนหายใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่นางก็ยังไม่ยอมแพ้ ตอนนี้ทําได้เพียงยับยั้งความคิดนั้นไว้ชั่วคราวที่จะเกลี้ยกล่อมหยางเย่ เพราะนางทราบดีว่าหนทางที่จะสําเร็จนั้นยากลําบากแต่ก็ยังมีโอกาส

” รอเดี๋ยว” หยางเย่หันไปมองนางพร้อมกล่าวอย่างจริงจัง “อันที่จริงท่านมีจุดประสงค์อะไรที่จะให้ข้าเข้าร่วม? อย่าบอกนะว่าเพื่อผลประโยชน์ของจักรวรรดิ เพราะท่านไม่ได้ดูเหมือนคนทําเพื่อผู้อื่นเช่นนั้น”

สตรีชุดเงินกะพริบตา จากนั้นนางได้เอ่ย “เจ้าคงจะทราบได้แล้วว่าสถานะของข้านั้นไม่ได้ธรรมดา เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว มันผิดตรงไหนที่ข้าจะหาอัจฉริยะมาเข้าร่วมกับจักรวรรดิ? อย่าบอกนะว่าพี่หญิงยังไม่ได้บอกเจ้าก่อนหน้านี้? หากเข้าร่วมกับสถาบันจักรพรรดิ และขึ้นไปอยู่ในสิบอันดับแรกได้ของเทียบอันดับจักรพรรดิได้ พี่หญิงก็สามารถรอดจากการหนีการแต่งงานครั้งนี้ได้มันเหมือนกับยิงปืนนัดเดียวได้นอกสองตัว!”

หยางเย่มองอย่างสงสัยไปที่สตรีชุดเงิน สัญชาตญาณบอกว่านางไม่สามารถเชื่อได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าที่นางกล่าวนั้นมีเหตุผล แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันยังมีสิ่งอื่นอีกนอกจากสองเหตุผลนี้

จากนั้นหยางเยส่ายหัวพร้อมหันกลับไป และหยุดคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ ไม่ว่านางจะมีเจตนาเช่นไร เขาก็คิดจะแยกทางทันทีที่เมื่อถึงโบราณสถาน เพราะเขาไม่ต้องการอยู่กับสตรีที่ฉลาดแกมโกงอย่างนางอย่างแท้จริง

ทันใดนั้นนางได้เอ่ยถาม “น้องหยาง สตรีที่เจ้าชอบนั้นงดงามเหมือนข้าหรือไม่? รูปร่างนางดีกว่าข้าหรือเปล่า?”

หยางเย่ส่ายหัว “เป็นการดีสุดที่ข้าจะไม่กล่าวสิ่งใด ข้าเกรงว่ามันจะทําให้ท่านเจ็บเกินไป”

“เจ็บเกินไป?” นางขมวดคิ้วพร้อมกล่าว ” พี่หญิงไม่เชื่อว่าจะมีคนเช่นนั้นอยู่ในโลก” น้ำเสียงของนางดูมั่นใจอย่างมาก

” ท่านเคยได้ยินคําว่าความงดงามนั้นขึ้นอยู่กับผู้ที่มองหรือไม่?” หยางเย่กล่าว “นางงดงามที่สุดสําหรับข้า กล่าวคือนางดูดีกว่าท่านถึงสิบเท่า ไม่สิ ร้อยเท่า ไม่ ท่านไม่สามารถทัดเทียมนางได้ด้วยซ้ำ!”

ในที่สุดเขาก็พบเจอโอกาสที่จะจิกกัดนาง

“เอาล่ะ งั้นก็ให้นางเป็นผู้หญิงที่งดงามที่สุด!” สตรีชุดเงินเผยรอยยิ้มเล็กน้อย ” แต่นางนั้นได้ศึกษาการปรนนิบัติมาเหมือนพี่หญิงหรือไม่? พี่หญิงจะบอกความลับให้ พี่หญิงทราบวิธีเอาใจชายมากกว่าร้อยอย่าง และท่าต่าง ๆ อีกมากมาย หากเจ้าร่วมมือกับพี่หญิง รับรองว่าเจ้าจะต้องมีความสุขอย่างมากในทุกวัน เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”

มุมปากหยางเยบิดเบี้ยว นางยังเรียกว่าสตรีอีกหรือ? แม้แต่ผู้ชายที่โอหังยังไม่กล้าเท่านาง!?

หลังจากผ่านไปชั่วครู่เขาส่ายหัวพร้อมกล่าว “ท่านช่างหลอกล่อเก่งกาจนัก”

ขณะที่กําลังจะกล่าวคํา นางได้ตบไหล่หยางเย่พร้อมชี้ไปที่จุดดําตรงหน้า ”น้องชายพวกเรามาถึงแล้ว!”