บทที่ 193 เขาคือชีวิตของฉัน
บางทีแบบนี้เหมือนว่าตัวเองโหดร้ายไปหน่อย แต่ว่าเมื่อเห็นแม่ที่ทุกข์ทรมานไร้ที่พึ่ง ทุกวันทำได้เพียงนั่งถอนหายใจอยู่ในโรงพยาบาล แต่ฟู้ชูเหม่ยสองแม่ลูกกลับใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญ แค่คิดเจียงหยุนเอ๋อก็จะโมโห
แม่ของตัวเองช่างลำบากเหลือเกิน
“อ่อ ฉันรู้แล้ว ขอบคุณนะ” สิ่งที่อยากรู้ก็รู้แล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็เตรียมตัวที่จะกลับ หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว “ฉันกลับก่อนนะ”
พูดจบเจียงหยุนเอ๋อก็ลุกขึ้นยืน
“ช้าก่อน” กู้ลั่วจิ่นก็รีบคว้าข้อมือของเจียงหยุนเอ๋อไว้ทันที
เจียงหยุนเอ๋อหันหน้ากลับไป ขึงตาใส่กู้ลั่วจิ่น
ตอนนี้ตัวเองเป็นภรรยาของลี่จุนถิงแล้ว กู้ลั่วจิ่นทำไมถึงมาจับมือของเธอในที่สาธารณะแบบนี้
กู้ลั่วจิ่นรู้ว่าตัวเองนั้นวู่วามเกินไป จึงได้รีบหดมือกลับมา เกาหัวตัวเอง แล้วกล่าวขึ้น: “ผมก็แค่อยากที่จะชวนคุณทานข้าวเย็นด้วยกัน”
เจียงหยุนเอ๋อส่ายหัว: “ไม่แล้วล่ะ ฉันต้องไปรับถวนจื่อแล้ว เขาใกล้เลิกเรียนแล้ว”
พูดจบ เจียงหยุนเอ๋อก็เดินออกไปจากร้านกาแฟโดยที่ไม่ได้หันหลังกลับมาเลย
กู้ลั่วจิ่นยืนอึ้งอยู่ที่เดิมคนเดียว มองดูเจียงหยุนเอ๋อที่เดินจากไป ด้วยสีหน้าที่เศร้าใจ
ในวันที่สอง ลี่จุนถิงเนื่องจากที่บริษัทมีเรื่องให้ต้องไปจัดการ ดังนั้นจึงต้องออกไปทำงานนอกสถานที่สักสองวัน
วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ตอนเช้าเจียงหยุนเอ๋อก็ได้ตื่นขึ้นมาเล่นสนุกกับถวนจื่อ ระหว่างที่เล่นกันอยู่ก็ได้รับโทรศัพท์ของพี่สาวลี่จุนถิง
ลี่จุนซินบอกว่าอยากจะคุยกับเจียงหยุนเอ๋อ
เจียงหยุนเอ๋อเดิมทีอยากที่จะปฏิเสธเธอ
เธอไม่รู้ว่าทำไมลี่จุนซินถึงต้องการพบเธอ เธอรู้ว่าคนในตระกูลลี่นอกจากลี่จุนถิงแล้วไม่มีใครชอบเธอเลย
เพียงแต่ลี่จุนซินนั้นเธอดูไม่ออกเลยว่าชอบเธอหรือเปล่า ดูเหมือนไม่ว่ากับใครเธอก็มีท่าทีที่เฉยๆ
แต่เมื่อมาคิดดู หากตัวเองปฏิเสธก็คงจะทำให้เธอรู้สึกไม่ดีต่อตัวเองหรือเปล่า แล้วก็ต้องให้ลี่จุนถิงมาปรับความเข้าใจกันอีก แบบนี้ลี่จุนถิงก็ต้องเหนื่อยมาก ดังนั้นจึงได้ตัดสินใจไป
ถวนจื่ออยู่บ้านคนเดียวเธอก็ไม่ไว้ใจ หลังจากที่ถามแล้วว่าสามารถพาถวนจื่อไปด้วยได้มั้ย
ลี่จุนซินอนุญาต
ลี่จุนซินนัดเธอไว้ที่ร้านอาหารเล็กๆร้านหนึ่ง
เจียงหยุนเอ๋อมาถึงที่ร้านอาหาร ก็แจ้งชื่อของลี่จุนซิน ก็มีคนพาเธอเข้าไปในห้องวีไอพี
ตอนที่ผลักประตูเข้าไปนั้น ก็เห็นลี่จุนซินนั่งอยู่ตรงกลางห้องวีไอพีแล้ว
“พี่คะ” เจียงหยุนเอ๋อก็เรียกลี่จุนซิน
ถวนจื่อก็มีมารยาทมากเช่นกัน ทักทายคุณป้าด้วยเสียงที่น่ารัก: “สวัสดีครับคุณป้า”
ลี่จุนซินยิ้มแล้วพยักหน้าเล็กน้อย: “นั่งเถอะ อย่าเกรงใจเลย”
เจียงหยุนเอ๋อก็นั่งลงตรงข้ามของลี่จุนซิน
“อยากกินอะไรก็สั่งได้เต็มทีเลย ไม่ต้องเกรงใจ” ลี่จุนซินยื่นเมนูไปให้เจียงหยุนเอ๋อ “โดยเฉพาะเด็กน้อย”
ถวนจื่อได้ยินลี่จุนซินเอ่ยถึงตัวเอง ก็พูดด้วยความดีใจ: “ขอบคุณครับ คุณป้า”
ลี่จุนซินได้ยิ้มให้กับถวนจื่อ
เจียงหยุนเอ๋อที่รู้สึกเกรงใจก็ยื่นเมนูกลับไป: “พี่คะ พี่เป็นคนสั่งดีกว่าค่ะ”
ลี่จุนซินก็ไม่ได้ยัดเยียดกลับ ก็ได้สั่งอาหารโดยตรง
“ก็ตามนี้ละกัน ขอนมให้เด็กแก้วหนึ่ง” ลี่จุนซินสั่งเสร็จก็ได้ยื่นเมนูให้กับบริกร
เจียงหยุนเอ๋อก้มหน้า จับเสื้อผ้าของตัวเองไว้ แม้จะรู้ว่าแบบนี้มันไม่ค่อยดี แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น: “พี่คะ ไม่ทราบว่าวันนี้พี่เรียกฉันออกมามีเรื่องอะไรเหรอคะ?”
ลี่จุนซินยิ้มๆ ค่อนข้างที่จะคล้ายลี่จุนถิงอยู่เหมือนกัน ถึงอย่างไรเขาก็เป็นพี่น้องกัน: “ก็ไม่มีเรื่องอะไร สองสามวันก่อนที่เจอกันยังไม่ได้คุยกันดีๆเลย ได้ยินพวกเขาพูดกันว่าน้องชายฉันแคร์เธอมาก ดังนั้นจึงอยากที่จะทำความรู้จักกับเธอมากหน่อย”
คำพูดนี้ที่ออกมาจากปากของลี่จุนซิน เจียงหยุนเอ๋อไม่รู้ว่าควรที่จะดีใจหรือ………
มองเจียงหยุนเอ๋อแวบหนึ่ง ก็ค่อยๆพูดขึ้นมา: “น้องชายฉันคนนี้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบทีเดียว อายุน้อยๆก็รับช่วงบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ป เดิมทีทุกคนนั้นก็ยังไม่ค่อยไว้ใจเขา ไม่คิดว่าเพียงแค่เวลาสั้นๆไม่กี่เดือนเขาก็สามารถทำผลงานที่ยิ่งใหญ่ออกมาได้ คนในตระกูลต่างชื่นชมเขาทั้งนั้น”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า: “อืม จุนถิงเป็นคนที่สมบูรณ์แบบจริงๆ”
เจียงหยุนเอ๋อที่อยู่กับลี่จุนถิงมานาน ก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าเขาเก่งมากขนาดไหน
“ก็เพราะว่าตั้งแต่เด็กก็เก่งแบบนี้ ดังนั้นเขาก็ไม่ค่อยเห็นคนอื่นอยู่ในสายตา ฉันถึงได้แปลกใจ น้องชายของฉันที่หยิ่งผยองคนนี้ คิดไม่ถึงจะมีคนที่ชอบด้วย หลายปีมานี้ ฉันไม่เคยได้ยินเขาชอบใครมาก่อนเลย” ขณะที่ลี่จุนซินพูดนั้น มุมปาก็ได้ยกขึ้นเล็กน้อย
เจียงหยุนเอ๋อเพียงแค่ก้มหน้า ก็ไม่ได้พูดอะไร เธอไม่รู้ว่าลี่จุนซินคิดอะไรอยู่
“เธอรู้สึกว่าน้องชายของฉันคนนี้สมบูรณ์แบบมากมั้ย?”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า: “มันแน่นอนอยู่แล้ว”
“เฮ้ย น่าเสียดาย เขาไม่ถูกใจใครเลย แนะนำให้ก็ไม่เอา แต่มันก็ดี ตอนนี้เขาชอบเธอ” ใบหน้าของลี่จุนซินมีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนดูไม่ออกว่าความคิดที่แท้จริงของเธอคืออะไร
“เออ ใช่แล้ว ฉันได้ยินมาว่าเธอกับคุณป้าของฉันเคยมีเรื่องกัน?”
เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้ามองไปที่ลี่จุนซิน รีบปรับจิตใจให้สงบ: “ฉันกับคุณป้าอาจจะมีเรื่องที่เข้าใจผิดกันนิดหน่อย”
พูดไปพูดมาก็ได้ก้มหน้าลงอีกแล้ว
“อ่อ แบบนี้นี่เอง” ลี่จุนซินพยักหน้า หากเข้าใจผิดกัน คุณป้าเป็นคนที่ดีมาก “เพียงแต่ถูกคุณพ่อฉันตามใจจนเสียคน มีนิสัยเป็นคุณหนูที่เอาแต่ใจ”
เจียงหยุนเอ๋อที่ฟังคำพูดเหล่านี้ของลี่จุนซิน รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
ความรู้สึกที่ลี่จุนซินให้กับเธอนั้น ไม่สามารถพูดได้ว่าชอบ แต่ก็ไม่ถึงขั้นเกลียด แต่ว่าเจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าสิ่งที่เธอถามนั้นมันช่างบาดใจ อีกอย่างรู้สึกว่าคำพูดของเธอนั้นมีความหมายอื่นซ่อนอยู่
“หนูน้อยชื่ออะไรคะ?” ลี่จุนซินได้มองไปยังถวนจื่อที่นั่งเงียบๆไม่พูดไม่จาอยู่ด้านข้าง
เมื่อเอ่ยถึงถวนจื่อนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็ได้ยิ้มออกมา: “เจียงซิ่งหวี ซิ่งที่แปลว่าโชค หวีที่แปลว่าเหลือเฟือ”
ลี่จุนซินพยักหน้า: “ชื่อเพราะดี ได้ยินว่าเขาชอบเล่นเกมมาก?”
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า “ใช่ค่ะ เขาชอบเกมการแข่งขันออนไลน์”
“งั้นก็ดีเลย ฉันได้ซื้อเครื่องเกมมาเครื่องหนึ่ง เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดเลย การออกแบบและคุณสมบัติระดับพรีเมียร์ ฉันได้เอากลับมาจากอเมริกาโดยเฉพาะ” ลี่จุนซินที่พูดอยู่ก็ได้หยิบกล่องออกมาจากด้านหลังกล่องหนึ่ง
ตอนที่ถวนจื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ของลี่จุนซินนั้น ตาคู่นั้นก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที เหมือนว่าชอบมาก แต่ก็ไม่ได้ยื่นมือออกไปรับ
ถวนจื่อนั้นได้หันไปมองเจียงหยุนเอ๋อก่อน ความหมายก็คือจะถามเธอ ว่ารับได้หรือเปล่า
มือข้างหนึ่งของเจียงหยุนเอ๋อที่วางอยู่บนหลังของถวนจื่อ ก็ตบที่หลังของเขาเบาๆ: “รับไว้สิ ของขวัญที่คุณป้ามอบให้หนู”
ถวนจื่อยื่นสองมือไปรับเครื่องเกมมา พูดอย่างดีใจ: “ขอบคุณครับ คุณป้า ผมชอบมากเลย”
ไม่ต้องขอบคุณหรอก ลี่จุนซินยิ้มๆแล้วลูบหัวของถวนจื่อเบาๆ จากนั้นก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ “เอ่อ ใช่แล้ว พ่อของเด็ก……….”
เจียงหยุนเอ๋ออึ้งไปทันที สีหน้ามีความกระวนกระวายเล็กน้อย ดูไม่ค่อยดีเลย
ลี่จุนซินได้มองทุกอากัปกิริยาของเจียงหยุนเอ๋อไว้ในสายตา: “ฉันไม่มีความหมายอื่นเลย แค่ถามไปอย่างนั้นเอง ขอโทษด้วยนะ”
เจียงหยุนเอ๋อที่อึดอัดได้เม้มริมฝีปากไว้: “ไม่เป็นไร ไม่ว่ายังไงก็แล้ว ถวนจื่อก็คือชีวิตของฉัน”
หลังจากที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก: “เอาละไม่พูดเรื่องเหล่านี้แล้ว รีบกินเถอะ กับข้าวร้านนี้ถือว่าใช้ได้ทีเดียวเลยนะ”