บทที่ 76 เสียใจภายหลัง

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

แต่ครู่ต่อมา เมื่อณัฐณิชาได้นั่งอยู่ในรถตามคำขอของธิปติพัศนั้น ในที่สุดเธอก็รู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมา…

แม่มึงเอ๊ย!ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่อันตรายแบบนี้ ให้ตายก็ไม่มีทางตอบรับแน่ๆ!

ณัฐณิชาร้องไห้ไม่ออก ตอนนี้กลับตัวกลับใจทันไหมนะ?

“งงอะไรอยู่ คาดเข็มขัดสิ”

ธราเทพใช้มืออันเรียวยาวของเขาถือผ้าไหมสีดำไว้ ณัฐณิชามองดูจากนั้นก็ขดปากในทันใด “เอ่อเรื่องนั้น ตอนนี้ฉันขอยอมแพ้ได้ไหม?”

“สละสิทธิ์?”

“อืม…จริงๆแล้วยังไงซะธิปติพัศเขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของนายอยู่ดีใช่ไหมล่ะ?ธราเทพ บางเรื่องฉันก็คงจะต้องบอกนาย นายก็เห็นว่าตั้งแต่เด็กฉันก็อยู่ที่สถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้ามา ไม่มีคนมาคอยรักให้ความเป็นห่วงเป็นใย ฉันเข้าใจเด็กพวกนั้นดีเลยล่ะ อย่าไปมองว่าตอนนี้ธิปติพัศนั้นมองนายอย่างไม่เจริญหูเจริญตาเลย การที่เขาทำแบบนั้นมันอาจจะมีเหตุผลก็ได้ การที่ทำตัวเป็นเด็กดื้อเด็กซนก็เพื่อที่จะเรียกร้องความสนใจจากนายเท่านั้นแหละ ก็คงเหมือนกับที่พวกเด็กหนุ่มนั้นชอบแกล้งหญิงสาวเพื่อเรียกร้องความสนใจอะไรประมาณนั้น”

“ความหมายของเธอคือฉันเป็นหญิงสาวเหรอ?”

“ฉัน…”

“หรือเธอจะบอกว่าธิปติพัศสนใจฉันงั้นเหรอ?”

“พร๊วด–”

ณัฐณิชาสำลักกับคำพูดของธราเทพ เธอเม้มปากไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี

เธอไม่เชื่อว่าธราเทพจะไม่รู้ว่าเธอหมายความถึงอะไร เขาแค่ไม่ต้องการที่จะเข้าใจมันก็เท่านั้น ณัฐณิชาสะอื้น ร้องไม่ออกเลยด้วยซ้ำ ธราเทพรู้ดีว่าเขาไม่สามารถเชื่อถือในตัวเธอได้ ดังนั้นจึงไม่ได้คาดหวังอะไรกับเธอ เขาหยิบผ้าไหมสีดำขึ้นมาผูกตา การเคลื่อนไหวนี้รวดเร็วเป็นอย่างมาก

ผ้าไหมสีดำได้ปิดตาของเขาเรียบร้อยแล้ว

“อึก” ณัฐณิชากลืนน้ำลายลงไปอย่างไม่เย่อหยิ่ง ท่าทางของธราเทพนั้นทำให้เกิดกิเลสดีจริงๆ

ทำไมเขาถึงเกิดมาหน้าตาดีแบบนี้กันนะ?เป็นฝีมือของพระเจ้างั้นเหรอ?คิ้วที่เหมือนดาบกลับด้าน ดวงตาที่ดูนุ่มลึกและสงบ จมูกที่สูงโด่งราวกับเป็นงานศิลปะที่ฟากฟ้าบรรจงทำมา ไหนจะริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆราวกับลูกเชอร์รี่ชั้นดีอีก ช่างทำให้ผู้คนอยากจะลิ้มรสจูบเสียจริง!

“ดูพอหรือยัง?”

“เอ่อ…” ณัฐณิชาเพิ่งตระหนักได้ว่าเธอได้ทำน้ำลายหกใส่เขา น่าอาย น่าอับอายขายขี้หน้าที่สุด!

เธอที่ไม่ได้ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็วก็ได้เห็นธราเทพเริ่มบิดกุญแจสตาร์ทรถและเคลื่อนตัวออกไปในรวดเดียว

ส่วนด้านข้าง ธิปติพัศนั้นกลับเพิ่งสวมผ้าปิดตาสีดำ

นภสรณ์ที่นั่งอยู่ข้างคนขับมองดูตนอย่างคับแค้นใจ!บรรยากาศที่น่าอันตรายนี้ทำให้ณัฐณิชารู้สึกเครียด ใจของเธอนั้นเต้นแรงพร้อมกับมองไปที่ธราเทพอย่างน้อยใจและถามซ้ำอีกครั้งว่า “ไม่มีโอกาสกลับตัวกลับใจแล้วจริงๆเหรอ?”

“เมื่อตะกี้ไม่ใช่เธอหรอกเหรอที่ทำตัวปากคอเราะร้ายน่ะ?”

“ที่ฉันทำแบบนั้นก็เพราะนายต่างหาก!” ณัฐณิชาทำท่าทางแยกเขี้ยวพร้อมกับโบกมือเล็กๆของตน “ฉันแค่ไม่อยากให้นายทำตัวโง่เง่าต่อหน้าน้องชายของนายต่างหาก แต่โง่เง่าก็โง่เง่าสิ พวกเราไม่จำเป็นที่จะต้องถึงขนาดเอาชีวิตเข้าไปแข่งกันเลยใช่ไหมล่ะ? แค่ชีวิตฉันคนเดียวน่ะมันก็ไม่มีค่าอะไรหรอกแต่นายน่ะสำคัญ เป็นถึงประธานของแกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ป ถ้านายโชคร้ายตายขึ้นมาแล้วคนอีกมากมายในแกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ปจะทำยังไง…..!”

“หนวกหูจังเลย”

ยังไม่ทันที่ณัฐณิชาจะพูดจบก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาล มวลอากาศถ่ายเทพัดผ่านไป

ทันทีหลังจากนั้น รถก็เคลื่อนไหวพุ่งไปราวกับลูกศรที่ออกจากคันธนู

หูมีเสียงลมหวืดผ่าน เส้นผมปลิวไสวไปตามสายลม ณัฐณิชาคว้าที่จับเอาไว้ “อ๊าอ๊าอ๊าอ๊าอ๊า…”

เธอยังไม่อยากตายนะ!