ตอนที่ 197 ศึกใหญ่ในสถาบัน 5

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 197 ศึกใหญ่ในสถาบัน 5

ช่วงนี้กระแสของลูตี้ไม่ค่อยดีนัก

เรื่องราวหลังเวทีของเธอพังทลายลง และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ตกหลุมพรางของเธอ หากเธอไม่สามารถกอบกู้ชื่อเสียงดี ๆ เอาไว้ได้ คราวนี้จะไม่โชคดีอย่างเช่นเคยแน่นอน

ถ้าไม่ใช่ว่าเธอต้องคอยประพฤติตัวอ่อนน้อมถ่อมตนเพื่อหลีกเลี่ยงความไม่พึงพอใจ คิดว่าเธอจะสนใจคนสารเลวพวกนั้นเหรอ?!

ยกตัวอย่างเช่น เฮอร์ คลิทซ์ อาจารย์ประจำสถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิ

“สวัสดีค่ะ เฮอร์ ไม่ได้คุยกันนานเลยนะคะ” ลูตี้ในวิดีโอยังคงใสซื่อและน่ารัก อีกทั้งยังแฝงไปด้วยเสน่หา

เฮอร์เสพติดความงามของอีกฝ่ายจนไม่สามารถผละตัวออกมาได้ หลังจากจ้องมองอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็กล่าวขึ้นด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ขอโทษนะ ผมโทรมารบกวนเวลานอนคุณหรือเปล่า?”

“ไม่หรอกค่ะ คุณโทรหาฉันได้ตลอดเลยนะคะ เพราะว่าฉันว่างรับสายตลอด”

ลูตี้อมยิ้มเล็กน้อย ขณะที่ชุดนอนสายเดี่ยวที่เธอกำลังใส่อยู่ร่นลงมาโดยบังเอิญตามที่เธอตั้งใจไว้ จนเผยให้เห็นส่วนเว้าโค้งที่สมบูรณ์แบบของเธอ

“อ๊ะ!” ลูตี้รีบดึงสายเดี่ยวขึ้นอย่างเขินอายและสวมชุดคลุมทับอีกตัวหนึ่ง “แย่จัง เกือบไปแล้วนะคะ!”

จิตวิญญาณของเฮอร์แทบจะล่องลอยหายไป ลมหายใจของเขาสั่นสะท้าน ดวงตาเปิดกว้างจนแทบถลนออกมา

ลูตี้กำลังเหยียดหยามในใจ นอกจากโอคาซีแล้ว ชายคนอื่นก็เป็นแค่พวกตัณหากลับเท่านั้น

“ผม ผมขอโทษ!” เฮอร์ขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่า และรู้สึกเสียดายภายในใจ ถ้าเกิด…

“ช่วงนี้งานของคุณเป็นยังไงบ้างคะ? ยังถูกกลั่นแกล้งอยู่หรือเปล่า?” ลูตี้ส่ายหัวเบา ๆ แสดงความห่วงใยที่ไม่จำเป็นออกมา โดยการถามเฮอร์อย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร!” เฮอร์อยากจะเล่าให้ลูตี้ฟังว่าวันนี้เขาโดนนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งฟ้องร้องอย่างไรบ้าง รวมทั้งเรื่องถูกหักเงินเดือน เดือนนี้เขาสัญญากับลูตี้ไว้ว่าจะสมัครสมาชิกเพลงชุดเต็มของเธอ แต่เมื่อมองดูเงินในบัตรแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เงินมีไม่พอ!

“ได้ยินมาว่าองค์หญิงสามจะแข่งขันกับนักเรียนปีสองเหรอคะ? คุณอยู่ในสถาบันทหาร ช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหมคะ?”

“องค์หญิงสามถ่อมตนอะไรล่ะ! ฮึ่ม! เป็นอย่างที่คุณพูดเลยครับ ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจและเจ้าเล่ห์จริง ๆ จงใจทำให้ผมขาดสอนไปห้าคลาสจนผมเกือบถูกหักเงินเดือน!”

เฮอร์ไม่ใช่คนโง่เขลา เขารับรู้ได้ทันทีที่ได้รับบทลงโทษ ว่าองค์หญิงสามเป็นคนวางแผน

ไม่อย่างนั้น ทำไมถึงไม่รายงานตั้งแต่ครั้งแรก หรือครั้งที่สอง แต่กลับมารายงานครั้งที่ห้า?!

ลูตี้ก่นด่าคนโง่เขลาในใจทันทีที่ได้ยินดังนั้น แม้แต่ไอ้งั่งยังมองเห็นปัญหาเหล่านี้ แต่นายเป็นอาจารย์ในสถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิแท้ ๆ กลับมองไม่เห็นปัญหาพวกนี้เนี่ยนะ?!

นอกจากนี้นายยังลงมือทำสิ่งไม่ดีอย่างโจ่งแจ้ง แล้วใครบ้างจะมองไม่เห็น? ถ้าองค์หญิงสามจับจุดอ่อนที่โจ่งแจ้งแบบนั้นไม่ได้ องค์หญิงสามคนนี้คงไม่สามารถเปลี่ยนความคิดของประชากรทั่วทั้งห้วงดวงดาวได้ภายในไม่กี่เดือนหรอก!

“แล้วคุณจะทำยังไงต่อล่ะคะ?” ลูตี้เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“ฮึ่ม! คุณบอกให้ผมไม่ต้องเข้าไปสอนพวกเขาไม่ใช่เหรอ? งั้นผมก็จะเข้าไปสอนพวกเขา ฮ่า ๆ ต่อจากนี้ไปมันจะดีหรือแย่ก็ขึ้นอยู่กับคำพูดของผม”

เมื่อได้ยินดังนั้น ลูตี้ถึงกับรู้สึกตกตะลึงกับความโง่เขลาของเฮอร์

มันโจ่งแจ้งไปหรือไม่ที่จะปล่อยให้ผู้คนจับได้อีกครั้ง?!

“เฮอร์ ฉันไม่คิดว่าคุณกำลังทำถูกนะคะ ถ้าเกิดคุณถูกจับได้อีกครั้งล่ะคะ?!” ลูตี้เตือนสติเขา “และในกรณีนั้น คุณอาจจะถูกไล่ออกได้”

“อ๊ะ?! ถ้าอย่างงั้นผมควรทำยังไงครับ?” เฮอร์รู้สึกวิตกกังวลเมื่อได้ยินเรื่องดังกล่าว

เขามีชีวิตอยู่ได้ด้วยเงินเดือนเท่านั้น!

“ง่ายมาก คุณก็แค่ตั้งใจสอนพวกเขา” ลูตี้กล่าว “ไม่เคยได้ยินประโยคนั้นเหรอคะ? อาจารย์ผู้เข้มงวดสอนลูกศิษย์ยอดฝีมือ”

อาจารย์ผู้เข้มงวดสอนลูกศิษย์ยอดฝีมือ?! เฮอร์ตกตะลึง นั่นหมายความว่าอย่างไร?

“เฮอร์คะ ฉันเหนื่อยจังค่ะ ไปนอนก่อนนะคะ ส่วนคุณก็ควรเข้านอนได้แล้ว!” ลูตี้ไม่ต้องการพูดคุยกับเขาอีกต่อไป หากเขายังไม่เข้าใจคำใบ้ของเธอ แสดงว่านั่นคงสิ้นหวังแล้วจริง ๆ และเธอคงจะต้องตัดขาดกับเขาเสียที

เฮอร์ยังคงครุ่นคิดอย่างหนัก และเหล่านักเรียนทั้งหลายก็ขัดแย้งกันอีกครั้ง

นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งชนกลุ่มน้อยกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องสมุด ทว่าพวกเขากลับโดนนักเรียนชั้นปีที่สองทุบตีเพราะไปบังเอิญชนแก้วน้ำของอีกฝ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ

ชนกลุ่มน้อยเหล่านี้ไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังเผชิญหน้ากับนักเรียนชั้นปีที่สอง เป็นผลให้พวกเขาถูกนักเรียนทั้งหลายในห้องสมุดปิดล้อมเอาไว้ ไล่ทุบตีและโยนลงมาจากชั้นบน

สวี่หลิงอวิ๋นที่กำลังเตรียมตัวอาบน้ำและเข้านอนในห้องพัก รับรู้ข่าวในทันที

ทันทีที่ได้ยินเรื่องดังกล่าว เธอรีบสั่งการทหาร นายพล และนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งปิดล้อมห้องสมุด

“ปิดล้อมห้องสมุดให้ฉันด้วย!” สวี่หลิงอวิ๋นโกรธจัด “บัดซบ ไอ้พวกสารเลว! กล้าลงมือกับคนของฉันงั้นเหรอ?! ทุกคนห้ามโยกย้ายไปไหน! เชี่ย! ถ้าไม่ได้ทุบตีไอ้เด็กเมื่อวานซืน ฉันก็ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น!”

สวี่หลิงอวิ๋นสบถออกมาอย่างขุ่นเคือง ไม่หลงเหลือความเป็นราชวงศ์อยู่อีกต่อไป

“เปิดซอฟต์แวร์ถ่ายทอดด้วย!” สวี่หลิงอวิ๋นเย้ยหยัน ในตอนแรกเธอพยายามไม่ทำมันให้เป็นเรื่องใหญ่ เพียงแค่หยอกล้อเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะทำดีด้วยไม่ได้แล้ว!

นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งที่มีซอฟต์แวร์ถ่ายทอดสดก็รีบเข้าสู่ระบบทันที

ยังมีชาวเน็ตอีกหลายคนที่ยังไม่ผล็อยหลับไป ตั้งแต่องค์หญิงสามเข้ามาในสถาบัน ก็ไม่มีรายการสนุกให้ดูเลย และในที่สุดนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งก็ประกาศสงครามกับนักเรียนชั้นปีที่สอง ชาวเน็ตนั่งอ่านกระทู้อีกนาน แต่ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องเด็ก ๆ ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย

ผิดหวังเหลือเกิน!

ทว่า “ห๊ะ? รายการถ่ายทอดสดของสถาบันการศึกษาทางการทหารเหรอ? เฮ้! ไม่รู้ว่าจะมีองค์หญิงสามไหม รีบลุกขึ้นมาดูเร็ว”

ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรที่จะสรรหาความเพลิดเพลิน ทุกคนต่างให้ความสนใจกับสถาบันการศึกษาทางการทหารมาเป็นเวลานาน ดังนั้นเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์แจ้งเตือนว่ารายการถ่ายทอดสดของสถาบันการศึกษาทางการทหาร เด็กนักเรียนที่ง่วงเหงาหาวนอนอยู่บนเตียงก็กลิ้งออกจากผ้าห่มและรีบตรงไปที่โซฟา พร้อมของว่าง เนื้ออบแห้ง เครื่องดื่มและอื่น ๆ

หวั่นเกรงว่าองค์หญิงสามจะเตรียมอาหารบางอย่าง เพราะไม่มีที่ไหนตอบสนองความหิวโหยของเขาได้อีกแล้ว

“ห๊ะ? นี่มันอะไรกัน? ทุกคนไปล้อมรอบอาคารทำไมกัน?” พอลองมองให้ดี นี่คือห้องสมุดไม่ใช่เหรอ!

เป็นการถ่ายทอดสดว่านักเรียนจากสถาบันการศึกษาทางการทหารของจักรวรรดิเรียนหนักแค่ไหนหรือไง?!

เยล ออสมอนด์ หัวหน้านักเรียนชั้นปีที่สองก็เข้ามาเช่นกัน

“องค์หญิงสาม ท่านกำลังทำอะไรครับ?” เยล ออสมอนด์นำนักเรียนชั้นปีที่สองและตั้งกลุ่มแยกออกจากนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งอย่างชัดเจน

“ฉันจะทำอะไรงั้นเหรอ? นายไม่รู้หรือไงว่าฉันกำลังจะทำอะไร?” สวี่หลิงอวิ๋นเย้ยหยัน ขณะจ้องมองไปที่เยล “ฉันก็อยากถามนายเหมือนกันว่ามาทำอะไรที่นี่?”

“มาปกป้องบางคนหรือไง?”

“องค์หญิงสาม นี่เป็นแค่การเรียนรู้ซึ่งกันและกันระหว่างนักเรียนเท่านั้น ท่านทำให้มันวุ่นวายเกินไปแล้ว!” เยลยังคงเล่นลิ้น และไม่ยอมรับว่าคนของเขาลงมืออย่างโหดเหี้ยมเกินไป

“เรียนรู้ซึ่งกันและกัน? คนจากฝ่ายกำลังพลต่อสู้เข้ามาเรียนรู้กับคนจากแผนกเทคโนโลยีเนี่ยนะ? คนจากระดับ 6 ดาวมาเรียนรู้คนจากระดับ 4 ดาวงั้นเหรอ? นี่คือความสามารถของชั้นปีที่สองหรือไง?!”