ตอนที่ 199 นักวาดโดจินระดับพระกาฬ

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 199 นักวาดโดจินระดับพระกาฬ

ถึงแม้ภาพวาดจะขายไม่ได้เงินมามากนัก แต่หลินเยวียนก็ไม่ได้หัวเสียแต่อย่างใด

เพราะเขาเชื่ออย่างหนึ่ง

ว่าต่อให้ในตอนนี้เขาไม่มีทางได้รับการ์ดตัวละครของฉีไป๋สืออีก เขาก็ยังมีโอกาสแตะถึงระดับความสามารถการวาดภาพที่ใกล้เคียงกันในอนาคต

เมื่อมีฝีมือในระดับใกล้เคียงกันแล้ว เขานึกอยากวาดภาพอย่างกุ้งหกตัวออกมาอีกสักกี่แผ่นก็ไม่มีปัญหา

เพราะเขามีกล่องสมบัติ

ก่อนหน้านี้ระบบเคยแนะนำไว้แล้ว

สิ่งที่เรียกว่าทักษะนั้นมีการแบ่งระดับ

เหนือระดับมืออาชีพ ยังมีระดับปรมาจารย์ และระดับสมบูรณ์แบบ

ทักษะการวาดภาพของการ์ดตัวละครของฉีไป๋สือ น่าจะอยู่ในระดับปรมาจารย์ หรือบางทีฝีมือการวาดภาพกุ้งของเขาก็อาจเข้าใกล้ระดับสมบูรณ์แบบแล้วก็ได้?

ที่น่าเสียดายก็คือ

ทักษะความสามารถของระดับซึ่งเหนือกว่าปรมาจารย์ จะเปิดได้จากกล่องสมบัติทองขึ้นไปเท่านั้น จนถึงปัจจุบันนี้หลินเยวียนยังไม่เคยได้รับกล่องสมบัติทองเลยสักใบ

ทั้งเนื้อทั้งตัวเขา เหลือเพียงกล่องสมบัติเงินเพียงใบเดียวที่ยังไม่ได้เปิด

“ฉันซื้อสกิลได้มั้ย” หลังจากกลับถึงบ้าน หลินเยวียนก็ถามอย่างอดไม่ได้

ระบบตอบกลับ “ซื้อไม่ได้ ทำได้แค่รับสกิลจากกล่องสมบัติ”

หลินเยวียนเข้าใจทันที

เป็นเหมือนที่เขาคาดเดาไว้

มอบปลาให้มีหรือจะสู้สอนให้จับปลา ภาษิตกล่าวไว้ถูกต้องแล้ว

ความสามารถถึงจะเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด!

ผลงานเหล่านี้ อาจทำให้ตนได้ผลประโยชน์ในระยะสั้น แต่ในระยะยาว ความสามารถจะใช้ประโยชน์ได้มากกว่า

“ตัวอย่างเช่นการวาดภาพ การเล่นเปียโน ก็มีประโยชน์กับฉันในชีวิตประจำวันเหมือนกัน…”

หลินเยวียนคิดมาตลอดว่าเมื่อมีฟังก์ชันสั่งผลิตผลงานแล้ว ตนจะไม่ต้องพึ่งพากล่องสมบัติมากเกินไปแล้ว

ทว่าดูจากตอนนี้แล้ว กล่องสมบัติยังต้องใช้ความสามารถหามา มีแค่กล่องสมบัติเท่านั้นที่จะมีหวังเปิดออกมาเป็นความสามารถ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลินเยวียนก็เบนสายตาไปยังกล่องสมบัติเงินที่ตนเหลือทิ้งไว้ในคลังไอเทมของระบบอย่างอดไม่ได้

ในนี้จะมีสกิลไหมนะ

เอาเถอะ ไว้ค่อยเปิดตอนมือขึ้นก็แล้วกัน

หลินเยวียนข่มความสงสัย

สามวันต่อมาเป็นวันเสาร์

หลินเยวียนเรียกหลัวเวยไปยังออฟฟิศของตน ตอนนี้หลัวเวยรับตำแหน่งผู้ช่วยวาดการ์ตูนของเขาอย่างเป็นทางการแล้ว

“อาจารย์”

เมื่อหลัวเวยพบหน้าหลินเยวียนอีกครั้ง ท่าทีก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ไม่ว่าจะด้วยสถานะผู้ช่วยวาดการ์ตูน หรือด้วยฝีมือการวาดภาพพู่กันโบราณ ให้เรียกหลินเยวียนว่าอาจารย์ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

หลินเยวียนไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยเรื่องคำเรียกมาแต่ไหนแต่ไร ยังไงซะเขาก็เคยถูกเรียกด้วยสารพัดชื่อไปแล้ว

อาจารย์ ท่านเทพ ตัวแทน รุ่นน้อง…

นี่ไม่ใช่เรื่องสำหลักสำคัญอะไร

หลินเยวียนเริ่มอธิบายเงื่อนไขในการทำงานกับหลัวเวย การ์ตูนเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสเริ่มงานได้อย่างเป็นทางการในวันนี้

“เป็นเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสเองเหรอเนี่ย”

หลัวเวยทึ่งไป ทันใดนั้นก็เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ที่แท้ก็เป็นนิยายเรื่องนี้นำมาดัดแปลงเป็นการ์ตูน ฉันชอบนิยายเรื่องนี้มากเลยล่ะ เคยอ่านมาบ้าง อาจารย์ได้สิทธิ์ในการดัดแปลงผลงานมาหรือยังคะ”

“ได้แล้วครับ”

หลินเยวียนได้ประกอบพิธีมอบสิทธิ์ให้กับตัวเองในใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลัวเวยปรับตัวเข้ากับบทบาทการเป็นผู้ช่วยของตนแล้ว “ฉันจะกลับไปอ่านนิยายเรื่องนี้ให้จบ…งั้นเรามากำหนดกรอบกันดีกว่า คุณมีแบบร่างไหมคะ”

“สักครู่นะครับ”

หลินเยวียนเริ่มลงมือวาดรูปทันที

ก่อนอื่นต้องยืนยันสไตล์และลายเส้นในการวาดตัวละครก่อน

หลินเยวียนวาดลักษณะของตัวละครทั้งหมดออกมาตามแบบของต้นฉบับ

ล้วนเป็นรูปแบบดั้งเดิมของเรื่องเจ้าชายลูกสักหลาด สไตล์มังงะญี่ปุ่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์

เพียงแต่บนโลกนี้ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าสไตล์มังงะญี่ปุ่นหรือไม่มังงะญี่ปุ่นก็แค่นั้นเอง

“นี่คือหลงหม่า?”

หมวกเทนนิสสุดคลาสสิก เครื่องแบบเซงากุสีน้ำเงินขาว ผมหน้าม้าลงปรกหน้า แต่กลับเผยให้เห็นดวงตาคมเป็นประกายคู่นั้น

หล่อเหลาและมุ่งมั่น

จากนั้นก็เป็นฟูจิ ชูสึเกะและตัวละครสำคัญคนอื่นๆ

เมื่อเห็นหลินเยวียนออกแบบรูปลักษณ์ของตัวละครแล้ว แววตาของหลัวเวยก็ยิ่งตกตะลึงมากขึ้นเรื่อยๆ

เธอรู้ดีว่าหลินเยวียนมีฝีมือในการวาดภาพสเก็ตช์

แต่การมีฝีมือในการสเก็ตช์ เป็นคนละเรื่องกับความสามารถในสร้างภาพสเก็ตช์ เธอนึกไม่ถึงว่าหลินเยวียนจะออกแบบรูปลักษณ์ของตัวละครซึ่งเป็นการ์ตูนได้ดีขนาดนี้

ในฐานะคนที่เคยอ่านต้นฉบับนิยายมา หลัวเวยมั่นใจว่ารูปลักษณ์ของตัวละครเหล่านี้ตรงกับที่บรรยายไว้ในนิยาย!

ต่อให้เป็นแฟนคลับตัวยงของเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิส ก็คงไม่มีทางเกิดความรู้สึกกังขากับรูปลักษณ์ของตัวละครเหล่านี้มากนัก

“ตัวละครที่ปรากฏตัวตอนแรกๆ ก็รูปลักษณ์ตามนี้เลยครับ”

หลินเยวียนใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมง ก่อนจะวางมือ “คุณช่วยผมทำได้ถึงระดับไหน ก็ทำเต็มที่เลยนะครับ”

หลัวเวยแววตาพราวประกาย

ทันใดนั้นเธอก็จ้องมองหลินเยวียน พูดว่า “ถ้าฉันช่วยคุณทำงานได้มากพอ คุณรับปากได้มั้ยคะว่าหลังจากนี้จะสอนฉันวาดภาพพู่กันโบราณ?”

วาดภาพพู่กันโบราณ?

หลินเยวียนชะงักไป ตอนนี้เขาสอนหลัวเวยไม่ได้หรอก เพราะระดับความสามารถในการวาดภาพพู่กันโบราณของเขาก็พอๆ กับหลัวเวยนั่นแหละ

แต่ถ้าหากเขาสามารถเปิดความสามารถด้านจิตรกรรมระดับปรมาจารย์ได้จากกล่องสมบัติสีทอง ก็อาจจะสอนหลัวเวยได้

เรื่องแบบนี้ หลินเยวียนไม่กล้ารับประกัน

ขณะที่หลินเยวียนกำลังจะเอ่ยปาก จู่ๆ ระบบก็ปรากฏขึ้น [ยินดีด้วย โฮสต์ได้รับภารกิจใหม่ ถ้าค่าความโด่งดังด้านจิตรกรรมของโฮสต์สามารถแตะถึงสามแสนได้ภายในหนึ่งปี จะมอบรางวัลเป็นกล่องสมบัติทองที่มีความสามารถด้านจิตรกรรมระดับปรมาจารย์ให้กับโฮสต์!]

“รับภารกิจ!”

หลินเยวียนดีใจขึ้นมาบ้าง

ระบบไม่ได้คิดจะหลอกกินเงินจากเขาแค่อย่างเดียว แต่ก็มีช่วงเวลาที่เป็นห่วงเป็นใยกันกับเขาบ้าง

ตัวอย่างเช่นในช่วงเวลาที่ตนต้องการความสามารถด้านจิตรกรรมมากที่สุด ระบบก็จะมอบหมายภารกิจเช่นนี้ให้

หลังจากรับภารกิจมาแล้ว

หลินเยวียนก็หันไปมองหลัวเวย “ถ้าคุณช่วยผมได้มากพอ ผมจะสอนวาดภาพพู่กันโบราณให้ครับ”

“ได้ค่ะ!”

หลัวเวยตื่นเต้นดีใจยกใหญ่

หลินเยวียนเป็นท่านเทพของชมรมจิตรกรรม ความสามารถในการสอนของเขายอดเยี่ยมจนเป็นที่เลื่องลือในหมู่นักศึกษา ดังนั้นหลัวเวยจึงอยากรู้เหลือเกินว่า การสอนวาดภาพพู่กันโบราณของหลินเยวียนจะเก่งกาจถึงขนาดนั้นไหม

ใช่แล้ว

ด้วยฝีมือด้านจิตรกรรมในตอนนี้ของหลัวเวย ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียนรู้จากปรมาจารย์ด้านจิตรกรรมสักคน

ทว่าปัญหาอยู่ที่ คนที่วาดภาพเก่งมีอยู่ไม่น้อย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสอนได้

“งั้นเราเริ่มกันเลยแล้วกันค่ะ”

หลินเยวียนพยักหน้า เขาออกแบบสตอรีบอร์ดออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ส่วนรายละเอียดและความสมบูรณ์แบบ เขาอยากส่งต่อให้หลัวเวย ดูว่าหลัวเวยจะทำได้ดีมากแค่ไหน

หลัวเวยก็ไม่ได้รีรอ

หลินเยวียนออกแบบสตอรีบอร์ด เธอก็คัดลอกแบบของตัวละครหลงหม่าและคนอื่นๆ ตามที่หลินเยวียนวาดไว้

หลังจากคัดลอกแบบเช่นนี้ได้สักพัก เธอก็สามารถวาดรูปลักษณ์ของตัวละครอย่างหลงหม่าและคนอื่นๆ ตามแบบฉบับของหลินเยวียนได้อย่างอิสระ

“ไม่เลว”

เมื่อวาดสตอรีบอร์ดเสร็จ หลินเยวียนก็มองไปยังตัวละครที่หลัวเวยคัดลอกแบบ แทบไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่เขาวาดเลย

แต่ถึงอย่างนั้น นี่คือความสามารถของยอดฝีมือ และก็เป็นเหตุผลที่หลินเยวียนอยากให้หลัวเวยมาช่วย

ผู้ช่วยทั่วไป สามารถช่วยหลินเยวียนวาดได้เพียงส่วนฉากง่ายๆ แต่ผู้ช่วยระดับหลัวเวย กลับสามารถช่วยหลินเยวียนวาดการ์ตูนออกมาได้จริงๆ!

อันที่จริง

บนอินเทอร์เน็ต ยอดฝีมือด้านจิตรกรรมที่สามารถดึงเสน่ห์ของตัวละครต้นฉบับออกมาได้นั้นมีไม่น้อย คนกลุ่มนี้โดยทั่วไปแล้วจะเป็นนักวาดโดจินระดับพระกาฬ

นักวาดโดจินบางคน สามารถวาดรูปลักษณ์ของตัวละครออกมาได้โดยแทบไม่เพี้ยนไปจากต้นฉบับ

หลัวเวยจัดอยู่ในผู้ช่วยกลุ่มนี้

แต่หลินเยวียนกลับไม่รู้ว่า เดิมทีหลัวเวยก็เป็นนักวาดที่มีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ แถมยังเคยวาดผลงานโดจินมาบ้าง จนได้รับการยอมรับจากแฟนคลับของผลงานต้นฉบับไม่น้อยเลยทีเดียว…

หลินเยวียนรู้เพียงว่า ตั้งแต่นี้เขาก็จะวาดปรินซ์ออฟเทนนิสกับผู้ช่วยอย่างหลัวเวยได้แล้ว

ถึงอย่างไร งานสตอรีบอร์ดส่วนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนมากนักสำหรับหลินเยวียน

เขาสามารถรับผิดชอบวาดเล่มแรก จากนั้นก็ทำสตอรีบอร์ดของเนื้อหาในเล่มที่สองไว้ล่วงหน้า จากนั้นค่อยส่งต่อให้หลัวเวยวาด

………………………………………..