ตอนที่ 343 ศัตรูที่แข็งแกร่ง (6)
ฮวาเหยาและเฉียวฉู่มองไปที่จวินอู๋เสียด้วยความประหลาดใจ แผ่นหลังที่บอบบางของนางนั้น แข็งแกร่งยิ่งกว่าใครๆ ที่พวกเขาเคยพบมาทั้งหมด!
“ข้าไม่ต้องการการปกป้องจากพวกเจ้า พวกเราเป็นแค่พันธมิตรชั่วคราวกันเท่านั้น พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องมาตายเพื่อข้า ข้าไม่สามารถชดเชยให้พวกเจ้าได้” นางเป็นหนี้ชีวิตคนงี่เง่าคนนั้นชีวิตหนึ่งแล้ว นางไม่อยากจะติดหนี้ชีวิตใครซ้ำสองอีก
ฮวาเหยาและเฉียวฉู่ตกตะลึง พวกเขามองไปที่จวินอู๋เสียด้วยสายตาที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง
คำพูดของจวินอู๋เสียเกือบจะเรียกได้ว่าไร้ความปรานี แต่ทั้งสองคนรู้ว่าเหตุผลที่จวินอู๋เสียพูดจาโหดร้ายแบบนั้น เป็นเพราะว่านางไม่ต้องการดึงพวกเขาเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
“ไม่จำเป็นต้องชดเชยหรอก พวกเราเต็มใจ” เฉียวฉู่พูดด้วยรอยยิ้ม
แผ่นหลังของจวินอู๋เสียแข็งทื่อ นางไม่กล้าแม้แต่จะหันหน้ากลับไปมองพวกเขา
บุรุษชุดขาวมองดูฉากมิตรภาพอันแสนซาบซึ้งแล้วรู้สึกหงุดหงิด ตะโกนออกไปอย่างไม่อดทนว่า “ไอ้หนู ข้าต้องการเพียงวงแหวนภูติวิญญาณของเจ้าเท่านั้น หากเจ้าไม่อยากให้สหายของเจ้าต้องมาตายเพราะเจ้า ก็ส่งมอบวงแหวนภูติวิญญาณของเจ้าออกมาให้ข้าแต่โดยดีเสีย”
เด็กหนุ่มทั้งสามคนนั้น รวมกันยังไม่พอให้เขาทรมานเล่นด้วยซ้ำ
“หยุดพูดไร้สาระสักที! คิดจะแตะต้องน้องเสีย เช่นนั้นก็ข้ามศพของพวกข้าไปก่อน!” เฉียวฉู่สู้ไม่ยอมถอย พลังวิญญาณบนตัวของเขาถูกปลดปล่อยออกมา และทันใดนั้น ประกายแสงสีม่วงสว่างไสวที่คาดไม่ถึงก็กระจายออกมารอบตัวเขา!
ฮวาเหยาเอง ก็ปลดปล่อยพลังวิญญาณสีม่วงบริสุทธิ์ออกมาล้อมรอบตัวเขาเช่นกัน!
ทั้งสองคนนี้ ถึงกับเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง!
จวินอู๋เสียมองไปที่ฮวาเหยาและเฉียวฉู่ด้วยความประหลาดใจ พวกเขามีอายุมากกว่านางเพียงไม่กี่ปี แต่พลังวิญญาณของพวกเขากลับขึ้นมาถึงขั้นสีม่วงสูงสุดแล้ว!
พลังวิญญาณขั้นสีม่วงไม่ปรากฏตัวในโลกนี้มานานนับศตวรรษแล้ว แต่ทำไมพวกเขาถึงเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงตั้งแต่อายุยังน้อยเช่นนี้ได้!
บุรุษในชุดขาวแสดงความประหลาดใจเมื่อเขาเห็นพลังวิญญาณขั้นสีม่วงแผ่ออกมาจากร่างของฮวาเหยาและเฉียวฉู่ แต่ในไม่ช้าเขาก็หัวเราะ
“บังคับยกระดับพลัง เกรงว่าจะทนได้ไม่นานเท่าไหร่กระมัง พลังวิญญาณขั้นสีม่วงหรือ…ฮ่าๆ นี่คงเป็นระดับสูงสุดที่พวกเจ้าสามารถบังคับยกระดับพลังได้ในตอนนี้แล้วกระมัง แต่น่าเสียดาย…พลังวิญญาณขั้นสีม่วงสองคนยังไม่อยู่ในสายตาของข้า!” บุรุษชุดขาวหรี่ตาลงเล็กน้อย และเพียงพริบตาเขาก็พุ่งเข้าไปหาฮวาเหยาและเฉียวฉู่พร้อมด้วยเจตนาฆ่า!
เฉียวฉู่และฮวาเหยาดึงพลังวิญญาณทั้งหมดออกมาพร้อมต่อสู้กับบุรุษชุดขาวในทันที แม้แต่งูกระดูกสองหัวและหมีหยินหยางก็เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย จวินอู๋เสียไม่สามารถนั่งอยู่บนหลังของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำทั้งเช่นนั้นได้ จึงสั่งให้เจ้าสัตว์ร้ายสีดำกระโดดเข้าสู่สนามรบอีกคน!
ภาพการต่อสู้แบบหกต่อหนึ่ง แม้ว่าจำนวนที่เหนือกว่าสมควรจะได้เปรียบ แต่ความเป็นจริงนั้นมันช่างโหดร้ายกว่าที่พวกเขาคิดไว้!
ภายใต้การโจมตีอย่างเต็มกำลังของทั้งหก บุรุษชุดขาวกลับมาสารถยืนรับการโจมตีของพวกนางได้อย่างง่ายดาย!
พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่แข็งแกร่งสองคน ยังไม่แม้แต่จะสามารถสร้างรอยแผลให้กับบุรุษขาวผู้นั้นด้วยซ้ำ
ไม่ต้องพูดถึงจวินอู๋เสียที่เพิ่งทะลวงระดับขึ้นมาถึงขั้นสีส้มเลย
บุรุษชุดขาวหัวเราะเสียงเย็น ตอบโต้การโจมตีของพวกนางด้วยสีหน้าดูถูกเยาะเย้ย เขาตบหางของงูกระดูกสองหัวด้วยฝ่ามือเดียว แล้วเตะหมีหยินหยางขึ้นไปในอากาศโดยตรงด้วยเท้าเพียงข้างเดียวของเขา ร่างที่บินอยู่ในอากาศเข้ามาประชิดตัวฮวาเหยาและเฉียวฉู่จากทางซ้ายขวาแล้วบีบไหล่ของทั้งคู่ไว้แน่นจนกระดูกร้าว ฮวาเหยาถูกเหวี่ยงร่างออกไปในทันที แล้วใช้มือข้างที่ว่างตรงนั้นหันมาซัดหมัดใส่หน้าเฉียวฉู่อย่างเต็มกำลัง!
เพียงพริบตา!
โลหิสีแดงสดสาดกระเซ็นไปทั่ว!
เฉียวฉู่คิ้วแตก เลือดไหลออกมาจากบาดแผลของเขาไม่หยุด รอยฟกช้ำขนาดใหญ่เกิดขึ้นทั่วใบหน้าของเขา
สัตว์ร้ายสีดำพุ่งเข้าหาบุรุษชุดขาวจากทางด้านหลัง แต่เขาก็คว้าคอของมันไว้และยกมันขึ้น
“ไอ้หนู ขืนสู้ต่อ คราวนี้สหายของเจ้าคงได้ตายจริงๆ” บุรุษชุดขาวจับคอของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำไว้แน่นแล้วยิ้มอย่างชั่วร้าย
ร่างกายของจวินอู๋เสียเต็มไปด้วยบาดแผลเล็กใหญ่ทั่วร่าง กระดูกข้อมือซ้ายของนางหักจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ นางเม้มริมฝีปากลงแน่น จ้องไปที่บุรุษชุดขาวที่แข็งแกร่งอย่างน่ากลัวผู้นี้ด้วยสายตาเย็นชา
ตอนที่ 344 ศัตรูที่แข็งแกร่ง (7)
“ทำไมต้องดิ้นรนถึงเพียงนี้ด้วย เจ้าตายไปคนเดียว ยังดีกว่าให้พวกเขาต้องมาตายไปพร้อมกับเจ้าด้วยไม่ใช่หรือ” บุรุษชุดขาวยิ้มอย่างไม่เป็นพิษเป็นภัย แต่ดวงตาของเขานั้น กลับดุร้ายราวกับถูกแช่อยู่ในน้ำยาพิษ
จวินอู๋เสียกัดฟันแน่น นี่เป็นครั้งแรกเลยนับตั้งแต่ที่นางเกิดใหม่ ที่นางรู้สึกพ่ายแพ้เช่นนี้
ในโลกที่แตกต่างนี้ ผู้แข็งแกร่งมีมากมายราวกับก้อนเมฆ และพิษของนางก็ใช้ไม่ได้ผลกับพวกเขาแม้แต่นิดเดียว!
“เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถกำหนดความเป็นความตายให้กับผู้อื่นได้? แน่นักเจ้าก็ลองฆ่าข้าดูสิ! ไม่อย่างนั้นก็อย่าได้มาพูดจาไร้สาระ!” เฉียวฉู่ฝืนลุกขึ้นยืนอย่างลำบาก ใบหน้าของเขาบวมช้ำ เบ้าตาข้างหนึ่งแตก และบนใบหน้ายังมีเลือดไหลลงมาไม่หยุด เพราะการโจมตีก่อนหน้านี้ ทำให้เขาสูญเสียการมองเห็นข้างหนึ่งไป แต่เขาก็ไม่กลัวเลย ยังลากสังขารขึ้นมาเดินมาหยุดอยู่ด้านข้างจวินอู๋เสีย โอบไหล่ของนางไว้ด้วยอาการหอบเล็กน้อย
“ข้าเคยพูดไปแล้ว ตราบเท่าที่เจ้ายังอยู่ในสำนักชิงอวิ๋น ข้าจะปกป้องเจ้าเอง ตอนนี้พวกเรายังอยู่ในอาณาเขตของเทือกเขาเมฆานะ” เฉียวฉู่ชี้ลงไปที่พื้นถนนทางขึ้นเขาที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาแล้วยิ้ม รอยยิ้มบนใบหน้าที่เปื้อนคราบโลหิตนั้นดูน่าเกลียดมากจริงๆ
“ข้าบอกแล้วว่าจะพาเจ้ากลับไปด้วยเพื่อช่วยหลอมเม็ดยาให้กับพวกเรา ถ้าเจ้าไม่ไป พวกเราก็จะไม่ไป” ฮวาเหยาเองก็ฝืนพยุงตัวเองเข้ามาหานางเช่นกัน กระดูกสะบักของเขาหัก และแม้ว่าเขาจะสามารถควบคุมรูปร่างของกระดูกทั่วทั้งร่างของเขาได้ แต่เขาก็ยังไม่สามารถจัดมันกลับเข้าที่ได้
ลมหายใจของจวินอู๋เสียคล้ายกับว่าจะช้าลงในขณะนี้ อารมณ์แปลกๆ แพร่กระจายไปทั้งหัวใจของนาง ทั้งแปลกหน้า…แต่ก็ค่อนข้างคุ้นเคย
“ในเมื่อพวกเจ้าอยากตายนัก ข้าก็จะสนองให้!” บุรุษชุดขาวออกแรงบีบไปที่คอของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำมากขึ้นอีกส่วน ร่างของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำก็ดิ้นพล่านครั้งหนึ่งก่อนจะหยุดลงไป ขาทั้งสี่ข้างของมันตกลงอย่างหมดแรง
เฉียวฉู่และฮวาเหยาต้องการจะก้าวขึ้นไปข้างหน้าอีกครั้ง แต่คราวนี้พวกเขากลับถูกจวินอู๋เสียบังคับให้หยุด ร่างเล็กพุ่งเข้าไปหาบุรุษชุดขาวทันที
นางอาจจะยังไม่แข็งแกร่งพอ หรืออาจจะหนีไม่พ้น แต่นางเชื่อมั่นว่าตัวเองมีความสามารถพอจะลากอีกฝ่ายไปลงนรกพร้อมๆ กันได้!
ท่านปู ท่านอาเล็ก… อู๋เสียขออภัยพวกท่านแล้ว
จวินอู๋เสียหรี่ตาลง เข็มเงินในมือของนางก็ฝังไปยังจุดชีพจรขนาดใหญ่หลายจุดทั่วทั้งร่างของตัวเอง พริบตานั้นเงาของร่างเล็กก็พุ่งไปหยุดที่หน้าบุรุษชุดขาวอย่างรวดเร็ว บุรุษชุดขาวชะงักไปเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจวินอู๋เสียถึงต้องวิ่งเข้ามาหาที่ตายด้วย แต่ก่อนที่เขาจะได้เอะใจอะไร เจ้าสัตว์ร้ายสีดำในมือของเขาที่สมควรจะถูกเขาหักคอตายไปแล้วก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเตะกระแทกไปที่แผ่นหลังของเขา หมุนตัวกลับมากัดที่ลำคอของเขาอย่างแรง
บุรุษชุดขาวซึ่งถูกสัตว์ร้ายสีดำกัด ในใจของเขาก็ระเบิดความโกรธออกมาทันที เขาคว้าหัวของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำด้วยมืออีกข้าง จากนั้นก็เหวี่ยงร่างของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำออกไป พลังงานประหลาดไหลซึมเข้ามาในร่างกายของมนุษย์ชุดขาว ความรู้สึกแบบนั้น มันเหมือนกับว่าจู่ๆ ก็มีดวงวิญญาณอีกดวงหนึ่งค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาในร่างกายของเขาอย่างช้าๆ แล้วรบกวนความคิดของเขาให้สับสนยุ่งเหยิงไปหมด!
“เจ้าอยากได้ภูติวิญญาณของข้าหรือ ได้สิ! ข้าจะให้เจ้า! แต่ก็ต่อเมื่อเจ้าตายไปแล้วล่ะนะ!” จวินอู๋เสียปรากฏตัวขึ้นที่หน้าของบุรุษผู้นั้น นางเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่เย็นเยียบของนางเต็มไปด้วยการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว
เมื่อถูกจ้องมองด้วยดวงตาคู่นั้น บุรุษชุดขาวก็ขยับตัวไม่ได้เป็นเวลากว่าครึ่งนาที!
คมเขี้ยวของสัตว์ร้ายสีดำ เจาะเข้าไปในเนื้อของเขา แล้วเปิดช่องทางสำหรับจิตวิญญาณ ให้ดวงวิญญาณแปลกหน้าอีกดวงแทรกเข้าไปในร่างกายของเขา
จวินอู๋เสียและเสี่ยวเฮยทั้งสองเป็นร่างที่ใช้จิตวิญญาณดวงเดียวกัน เมื่อจิตวิญญาณของทั้งคู่ถูกเผาผลาญ มันก็จะทำลายล้างดวงวิญญาณของใครก็ตามที่เป็นปฏิปักษ์ด้วย!
บุรุษชุดขาวผู้นี้แข็งแกร่งและทรงพลังมากก็จริง แต่การจู่โจมทางจิตวิญญาณของพวกนาง ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถหลีกเลี่ยงได้ง่ายๆ!
ที่จวินอู๋เสียสั่งให้เสี่ยวเฮยแสร้งทำเป็นตายก่อนหน้านี้ หวังก็เพื่อโอกาสนี้!
ยินดีเป็นหยกที่แตกละเอียด แต่จะไม่ขอเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ครบชิ้น[1]!
ครั้งนี้นางจะไม่ยอมให้สหายต้องมาตกตายเพราะนางอีก!
ทั้งหมดนี้ นางเต็มใจที่จะรับมันไว้เพียงลำพัง!
……
…
สหายอู๋เสียผู้ไร้เดียงสาของเรา จะสามารถเติมเต็มเจ็ดอารมณ์หกปรารถนาที่ขาดหายไปได้หรือไม่ [ผู้อ่าน: อย่าคิดว่าเบี่ยงประเด็นแล้ว เราจะยอมปล่อยผ่านความจริงที่ว่าคุณทรมานนางเอกของเราไป!]
…………………………………..
[1] ยินดีเป็นหยกที่แตกละเอียด แต่จะไม่ขอเป็นกระเบื้องที่สมบูรณ์ครบชิ้น หมายความว่ายอมตายไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี ภายหลังมักใช้หมายถึงการยึดมั่นในหลักความเชื่อ – อุดมการณ์ของตนอย่างแน่วแน่ แม้จนตัวตายก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง