บทที่ 215 ยอมรับความพ่ายแพ้
บทที่ 215 ยอมรับความพ่ายแพ้
ความหวังของฮวงฟู่จินซุนพังทลาย หัวใจของเขาเย็นวาบราวกับตกลงไปในทะเลสาบน้ำแข็ง
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าตัวเองกำลังเผชิญกับความซวยอย่างหนัก
โจวอี้ได้รับการปกป้องจากบุคคลที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นปรมาจารย์และมีมากกว่าหนึ่งคน แสดงให้เห็นว่าตัวตนของอีกฝ่ายนั้นพิเศษมาก อาจเป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายเป็นทายาทของผู้นำสำนักโอสถ!
หากการคาดเดาของเขาถูกต้อง ทั้งตระกูลก็จะถูกทำลาย
เขาควรทำอย่างไรดี?
ฮวงฟู่จินซุนอยู่ในภวังค์ความคิดจนเสียสมาธิ และถูกถงหู่ซัดฝ่ามือเข้าที่หน้าอก ส่งผลให้ร่างของเขาถอยหลังไปราว ๆ เจ็ดแปดก้าวก่อนจะยืนได้อย่างมั่นคง
“หยุดก่อน!” ฮวงฟู่จินซุนสูญเสียจิตวิญญาณในการต่อสู้ไปแล้ว เขายกมือขึ้นและตะโกนออกมา
ถงหู่ไม่สนใจอีกฝ่าย ในสภาพอากาศที่มีพายุหิมะเช่นนี้ เขากระโดดขึ้นไปบนความว่างเปล่า และหมัดของเขาก็เหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่ที่ระดมอัดใส่ฮวงฟู่จินซุน
โจวอี้เองก็ไม่หยุดเช่นกัน
ไม้เท้าหัวมังกรในมือของเขาคำรามยืดยาวออกเป็นแส้มังกรสีทอง โจวอี้ใช้มันฟาดคนของตระกูลฮวงฟู่คนอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง
“ระเบิด!!” โจวอี้ตะโกนออกมาพร้อมกับโคจรพลังปราณในร่างกายและปะทุมันออกมา ขณะเดียวกัน แส้มังกรก็พุ่งเข้าพันรอบตัวศัตรูทั้งสองทันที จากนั้นก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ ทำให้ผู้โชคร้ายทั้งสองกลายเป็นเศษเลือดเศษเนื้อ
“โจวอี้! พวกเราตระกูลฮวงฟู่ขอยอมรับความพ่ายแพ้ เราหยุดกันก่อนได้ไหม?!” ฮวงฟู่จินซุน คำราม
คนที่เขาพามาที่จินหลิงในครั้งนี้ล้วนแต่เป็นญาติที่สนิทที่สุดของเขา หากเขายังคงต่อสู้ต่อไป เขารู้ว่าคนเหล่านี้จะถูกฆ่าตายไปทั้งหมด
และผลลัพธ์ที่ตามมาหลังจากคนเหล่านี้ตายคือตำแหน่งของเขาในตระกูลฮวงฟู่จะลดลงอย่างมาก
แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นใหญ่ในตระกูลฮวงฟู่ แต่ถ้าหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนของเขาด้วย เขาจะไปมีสิทธิ์พูดอะไรกับฮวงฟู่เหวินเยว่ได้?
“ยอมแพ้? เฮ้อ ตระกูลฮวงฟู่ขี้ขลาดแบบนี้เหมือนกันทุกคนไหม?” โจวอี้พูดแต่ก็ยอมหยุด เมื่อเห็นคนที่เหลือเพียงไม่กี่คนของตระกูลฮวงฟู่ถอยกลับอย่างเร่งรีบ เขาก็เยาะเย้ยออกมา “ถงหู่ กลับมาเถอะ”
ถงหู่ไม่เต็มใจที่จะถอย เขารู้สึกว่าเขากำลังจะสามารถฆ่าฮวงฟู่จินซุนได้ในไม่ช้า
แต่เขาก็เชื่อฟังโจวอี้ตั้งแต่ยังเด็ก เขาจึงหยุดโจมตีและถอยกลับไปหาโจวอี้
ร่างกายของฮวงฟู่จินซุนสั่นสะท้าน เมื่อเห็นว่ามีเพียงญาติหกคนเท่านั้นที่ยังคงมีชีวิต หัวใจของเขาหลั่งเลือดออกมาเงียบ ๆ หลังจากเงียบไปสักพัก เขาก็พูดอย่างขมขื่นว่า “โจวอี้ เรายอมแพ้ นายบอกเงื่อนไขมาได้เลย ตราบเท่าที่ตระกูลฮวงฟู่ของเราสามารถทำได้ เราจะทำให้นายแน่นอน”
“โอ้? ให้ผมบอกเงื่อนไขเองเลยงั้นเหรอ ไม่กลัวว่าผมจะเอ่ยเงื่อนไขแบบมโหฬารหรอกเหรอ” โจวอี้เย้ยหยัน
“แม้ว่าตระกูลฮวงฟู่ของเราจะมีรากฐานที่ลึกล้ำ แต่ฉันเกรงว่ายังมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างตระกูลฮวงฟู่กับสำนักโอสถ เมื่อเราต่อสู้กันจนตัวตาย ฉันมั่นใจว่าตระกูลฮวงฟู่ของเราจะถูกทำลาย แต่สำนักโอสถของนายก็ต้องจ่ายในราคาที่สูงเช่นกัน ซึ่งฉันไม่ต้องการเห็นข้อสรุปแบบนี้” ฮวงฟู่จินซุนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
โจวอี้เงียบไป
เขาไม่รู้ว่าปัจจุบันนี้สำนักโอสถเป็นยังไงบ้าง
ไม่สิ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสำนักโอสถนั้นยิ่งใหญ่ลึกล้ำแค่ไหน มันดีกว่าตระกูลฮวงฟู่จริง ๆ เหรอ?
แต่เขารู้อย่างหนึ่งนั่นคือต่อให้ฆ่าศัตรูได้หนึ่งพัน แต่หากมันจะทำให้คนหนึ่งร้อยแปดคนลำบากเขาก็ไม่เอาด้วยหรอก
แท้จริงแล้วฮวงฟู่จินซุนกำลังกังวลมากที่สุด แม้ว่าเขาจะพูดว่าสำนักโอสถจะต้องจ่ายมาก แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นแค่การขู่ ถ้าสำนักโอสถตั้งใจจะทำลายตระกูลฮวงฟู่ของเขาจริง ๆ สำนักโอสถคงไม่ระตายผิวเลยด้วยซ้ำ
“โจวอี้ สมาชิกตระกูลฮวงฟู่ของเราหลายคนเสียชีวิตไป แต่นายยังไม่ได้สูญเสียอะไรเลย นี่นับได้ว่าเป็นบทเรียนที่ร้ายแรงมากสำหรับเราแล้ว ในอนาคตตระกูลฮวงฟู่ของเราจะไม่เป็นศัตรูกับนาย ดังนั้นตั้งเงื่อนไขมาได้เลย และช่วยปล่อยเราไปในครั้งนี้” ฮวงฟู่จินซุนยิ้มอย่างขมขื่น
“ก็ได้!”
“อย่างแรก ฮวงฟู่เหวินเยว่และเจิ้งเทียนเหอต้องตาย”
“อย่างที่สอง ภายในสามปี สมาชิกในตระกูลฮวงฟู่จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่จินหลิง”
“และสาม จ่ายค่าชดเชยมาหนึ่งพันล้านหยวน”
หลังจากโจวอี้พูดจบ เขาก็มองไปที่ฮวงฟู่จินซุนและรอคำตอบของอีกฝ่าย
ใบหน้าของฮวงฟู่จินซุนเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พยักหน้าช้า ๆ และพูดว่า “ฉันสัญญา แต่นายต้องรักษาสัญญาด้วยว่าอย่าโจมตีตระกูลฮวงฟู่ของเราอีก”
“แน่นอน! อันที่จริง ผมไม่ได้ตั้งใจจะเป็นศัตรูกับตระกูลฮวงฟู่อะไรเลย แต่มันเป็นพวกคุณที่มาแก้แค้นผมก่อน!”
ฮวงฟู่จินซุนถอนหายใจ เขาประสานมือแล้วพูดว่า “ถ้างั้นพวกเราขอตัวก่อน”
เขาโบกมือให้สมาชิกในตระกูลที่รอดตายแบกศพบนพื้นแล้วจากไป
“ส่งคนสองคนกลับไปกับผมด้วย มีสองศพที่คุณต้องเอาไปด้วย” โจวอี้เริ่มอารมณ์เย็นลงแล้วจึงพูดเสียงอ่อนลงกว่าเดิมเล็กน้อย
“เดี๋ยวฉันไปเอง” ฮวงฟู่จินซุนอาสา
ไม่กี่นาทีต่อมา
ชายชรายืนรออยู่นอกบ้าน
เขาเห็นถงหู่กลับมาพร้อมกับศพสองศพ และยังมีหญิงชราหลังค่อมที่เดินออกมาจากห้องนั่งเล่น
แม่เฒ่าเทียนจี้?
ทำไม?
ฮวงฟู่จินซุนตัวสั่นและก้าวถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว
เหตุผลที่เขาเลือกมาที่นี่เพื่อเอาศพของคนในตระกูลไปก็เพื่อดูว่าใครคือผู้แข็งแกร่งที่เฝ้าอยู่ที่นี่ แต่เมื่อเขาเห็นแบบนี้แล้ว เขาก็จำตัวตนของอีกฝ่ายได้ทันที
ตัวตนของอีกฝ่าย…ทำให้เขาหวาดกลัวจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง
สำนักโอสถมีแปดสาขา แม่เฒ่าเทียนจี้คือหัวหน้าสาขาผู้ควบคุมสัตว์ หญิงชราคนนี้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ทะลวงเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ถ้าเขาเดาถูก แม่เฒ่าเทียนจี้คนนี้คงต้องทะลวงระดับไปถึงขั้นเซียนแล้ว
เพราะเมื่อห้าสิบปีก่อนแม่เฒ่าคนนี้อายุมากถึงร้อยปี คงต้องทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเท่านั้นจึงจะยังมีชีวิตอยู่ได้!
ฮวงฟู่จินซุนนึกไม่ถึงว่าสำนักโอสถจะถึงขนาดส่งคนระดับเซียนมาที่นี่เพื่อปกป้องโจวอี้
แปลว่าโจวอี้เป็นผู้สืบทอดของประมุขสำนักโอสถใช่ไหม?
ฮวงฟู่จินซุนนำศพของตระกูลตนเองมาจากถงหู่ เขามองไปที่ประตูอีกครั้ง ก่อนจะโค้งกายและพูดด้วยเสียงทุ้มว่า “ในสามวัน พวกท่านจะต้องพอใจ”
ด้านนอกห้องโถง
โจวอี้ยืนกอดอกมองฮวงฟู่จินซุนออกไปพร้อมกับศพ จากนั้นเขาก็หันไปหาคุณย่าโจวและถามว่า “ย่าโจว สำนักโอสถของเราแข็งแกร่งมากเลยเหรอ?”
“ปัจจุบันนี้ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนหรอก” แม่เฒ่าเทียนจี้ส่ายหัวและถอนหายใจ
“แล้วถ้าเทียบกับตระกูลฮวงฟู่ในเซี่ยงไฮ้ล่ะ?”
“ตระกูลฮวงฟู่? ฮึ ๆ พวกมันไม่ต่างจากมดเมื่อเทียบกับสำนักโอสถของเรา” แม่เฒ่าเทียนจี้แสดงสีหน้าดูถูกก่อนจะถามว่า “ศัตรูคือตระกูลฮวงฟู่?”
“ถูกต้อง!”
“จะแก้ยังไง”
“ให้ตัวต้นเรื่องตาย สมาชิกตระกูลฮวงฟู่ไม่สามารถก้าวเข้ามาในจินหลิงเป็นเวลาสามปี และให้พวกเขาชดเชยหนึ่งพันล้าน”
“แค่นั้น?” แม่เฒ่าเทียนจี้ถามด้วยรอยยิ้ม
“ไม่พอเหรอ?”
“โฮะ ๆ เจ้านี่ใจดีจริง ๆ ถ้าเป็นอาจารย์ของเจ้า ตระกูลฮวงฟู่จะเต็มไปด้วย… โฮะ ๆ” แม่เฒ่าเทียนจี้ยิ้มและส่ายหัว จากนั้นก็หันกลับไปที่ห้องนั่งเล่น
อาจารย์ของเขา?
โจวอี้แสดงสีหน้าแปลกประหลาดเมื่อเขารู้คำตอบแล้ว
ถ้าเปลี่ยนเป็นอาจารย์ อาจารย์ของเขาคงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ของอีกฝ่าย และมุ่งไปทำลายตระกูลฮวงฟู่ทั้งหมดใช่ไหม?
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้อยากจะฆ่าล้างทุกคนในตระกูลฮวงฟู่
เขาถูกสอนให้มีเมตตาต่อผู้อื่นตั้งแต่ยังเด็ก แม้ว่าวิชาของสำนักโอสถจะช่วยคนหรือฆ่าคนได้ด้วยทักษะทางการแพทย์ แต่เขาก็ยังไม่อยากให้มือของเขาเปื้อนเลือดมากเกินไป
ท้ายที่สุดแล้ว เหตุผลที่ตระกูลฮวงฟู่ตามมาฆ่าเขาถึงที่นี่เป็นเพราะความประสงค์ของคู่สามีภรรยานั่น
ตราบใดที่สองคนนั้นตาย ปัญหาก็จะได้รับการแก้ไข แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
“ถงหู่ ถามอะไรหน่อยสิ”
“ว่าไงพี่?”
“ถ้าฉันทุ่มเทเต็มที่เพื่อฝึกฝนเหมียวเหมี่ยวและเสี่ยวรุ่ย หลังจากนี้นายคิดว่าความสำเร็จของพวกเธอจะสามารถเทียบได้กับเสี่ยวถังที่อาจารย์ของฉันพาตัวไปฝึกไหม”
“ไม่มีทาง!” ถงหู่ส่ายหัว
“แน่ใจนะ?” โจวอี้ยิ้ม
“แน่นอน เพราะอาจารย์ของพี่คือประมุข แต่พี่มีแค่ตัวของพี่เองนะ”
“โฮ่ ๆ…” โจวอี้ หัวเราะพลางใช้ความคิด
เขาได้ตัดสินใจที่จะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อฝึกฝนเด็กทั้งสอง อย่างน้อยก็เพื่อให้เด็กหญิงทั้งสองทะลวงไปสู่ระดับปรมาจารย์ได้เร็วกว่าถังเสี่ยวถัง