“ขอบคุณพี่ฉางโซ่วที่ชี้แนะข้า!”
ที่ชายป่า บัดนี้ อ๋าวอี่ผู้มีเขาอยู่บนศีรษะและอยู่ในร่างของชายหนุ่มโค้งคารวะให้หลี่ฉางโซ่วอย่างซาบซึ้งใจ
เขาได้ละเมิดหลักการของตัวเขาเองในฐานะมังกรและทำการร้องขออย่างห้าวหาญกับหลี่ฉางโซ่ว…
แม้จะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ร่วมกัน แต่แท้จริงแล้วความปรารถนาที่มากเกินไปของเขาก็ทำให้พี่ฉางโซ่วลำบาก
พี่ฉางโซ่วมีประสบการณ์ในสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินน้อยเกินไปและเป็นคนเงียบขรึมเฉยเมย เรื่องของสำนักเทพทะเลทักษิณนั้น ทำได้เพียงลับๆ เท่านั้น และข้าต้องเก็บมันไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด
แม้พี่ฉางโซ่วจะไม่ได้เอ่ยตรงๆ แต่อ๋าวอี่หาใช่มังกรที่โง่เขลาไม่ แล้วเขาจะเดาไม่ได้อย่างไรกัน
ยามนี้ สำนักเทพทะเลทักษิณได้เริ่มมีแรงผลักดันขึ้นแล้ว มีพวกพ่อมดที่ปลอมตัวเป็นทูตเทวะ และยังมีหลักคำสอนที่ส่งเสริมการรู้แจ้งและหลักการพิเศษที่ลึกซึ้ง นอกจากนี้ ยังมีปรมาจารย์จากสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินเป็นผู้สนับสนุนอีกด้วย!
อ๋าวอี่ได้เห็นบุญเครื่องสักการะมากมายด้วยตาของเขาเอง มันเป็นของจริงอย่างแน่นอน
ตอนนี้เผ่ามังกรขาดสิ่งใดมากที่สุด
ตอนนี้เผ่ามังกรขาดอะไรมากที่สุด
บุญ!
ในยุคโบราณอันห่างไกลนั้น เผ่ามังกรและหงส์ก่อให้เกิดกรรมร้ายอย่างไร้ที่สิ้นสุดเพราะพวกเขาทำลายโลกบรรพกาล
เวลานั้น เผ่าหงส์ทำลายและบดขยี้ภูเขาไฟอมตะทันที
เผ่ามังกรมีความสามารถแข็งแกร่งในการสืบพันธุ์ พวกเขาใช้สมบัติจำนวนนับไม่ถ้วนในการยับยั้งชะตากรรมของเผ่าพันธุ์ และใช้ร่างของเผ่าต่างๆ นับไม่ถ้วนเพื่อเติมเต็มแหล่งน้ำบาดาลทั้งเก้าแห่งสวรรค์และปฐพี[1] ในครั้งนั้น และยังแทบจะไม่รอด…
ในสมัยโบราณ เผ่าพันธุ์มังกรได้แอบสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มมนุษย์ที่ยังไม่พัฒนาแข็งแกร่งขึ้น พวกเขาได้กลายเป็นหินสลักของบางเผ่าที่แอบสะสมบุญบางอย่างไว้อย่างลับๆ ซึ่งช่วยบรรเทาสถานการณ์ที่ยากลำบากของเผ่าพันธุ์มังกรลงได้
ดังนั้น เผ่ามังกรจึงมีความเข้าใจลึกซึ้งอย่างยิ่งว่า บุญมีความสำคัญเพียงใด และกรรมนั้นเลวร้ายน่าสะพรึงกลัวเพียงใด
เมื่อสักครู่นี้ แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะกล่าวออกมา แต่อ๋าวอี่ยังคงทำ
“พี่ฉางโซ่ว ข้ามาช่วยที่สำนักเทพทะเลทักษิณได้หรือไม่ ข้าสามารถเป็นผู้พิทักษ์และยังได้รับบุญเพื่อปกป้องตัวเองได้เช่นกัน”
ความจริงแล้ว อ๋าวอี่อยากได้รับบุญให้กับเผ่าพันธุ์มังกรด้วยตัวของเขาเอง
ทว่าสิ่งที่ทำให้อ๋าวอี่ประหลาดใจก็คือ…หลี่ฉางโซ่วตกลงอย่างรวดเร็ว
แต่เขารู้ว่า หลี่ฉางโซ่วยอมรับคำขอของเขาอย่างไม่เต็มใจเท่าใดนัก
อ๋าวอี่ก็เข้าใจเช่นกัน แต่หลี่ฉางโซ่วไม่ใช่ผู้รับผิดชอบที่แท้จริง เขาเป็นเพียงตัวแทนผู้รับมอบหมายที่ถูกผลักออกไปเท่านั้น
หลี่ฉางโซ่วต้องคิดอย่างมากเพราะเห็นคุณค่าในมิตรภาพระหว่างเราทั้งสองคน ดังนั้นเขาจึงยอมตกลงอย่างไม่เต็มใจและปล่อยให้ข้ามาที่เมืองอันสุ่ยภายในเวลาครึ่งเดือน…เพื่อมาฟัง
เมื่อเป็นเช่นนี้ ในช่วงนี้ ข้าจะกลับไปหาพระบิดาที่วังมังกรทะเลบูรพาเพื่อพูดคุยดีๆ กับเขา
มังกรจะวางแผนสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับสวรรค์!
ในเวลานี้ หัวใจของอ๋าวอี่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เขากล่าวคำขอบคุณหลี่ฉางโซ่วและโค้งคำนับอีกครั้งแล้วครั้งเล่า
หลี่ฉางโซ่วก็โค้งคำนับตอบซ้ำแล้วซ้ำเล่าและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะแสดงความกังวลอย่างแนบเนียนออกมา…
และในไม่ช้า อ๋าวอี่ก็ท่องคาถากตัญญู และสาบานว่าจะไม่บอกเรื่องของหลี่ฉางโซ่วกับสำนักเทพทะเลทักษิณให้ผู้ใดต่อหน้าเขาทันที
ด้วยวิธีนี้ หลี่ฉางโซ่วจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
อ๋าวอี่ถอนหายใจในใจของเขา
อ๋าวอี่จะต้องตั้งใจผูกมิตรสนิทแน่นกับหลี่ฉางโซ่วอย่างแน่นอน!
หลี่ฉางโซ่วส่ายศีรษะขณะที่มองดูมังกรน้อยบินจากไปอย่างรวดเร็วบนก้อนเมฆ
นับจากนี้ไปในอนาคต ข้าควรปฏิบัติต่อเขาให้ดี ให้เขาเป็นรองเจ้าสำนักย่อมดีกว่า
เมื่อเจ้าเข้าร่วมสำนักเทพทะเลทักษิณแล้ว ข้าจะให้เจ้าเป็นเพียงผู้พิทักษ์ได้อย่างไร
หลี่ฉางโซ่วได้เตรียมการที่จำเป็นแล้ว เขาแต่งตั้งอ๋าวอี่ให้เป็นรองเจ้าสำนักของสำนักเทพทะเลทักษิณโดยตรงและยังให้เป็นผู้พิทักษ์มังกรครามของสำนักอีกด้วย!
ต่อมา เขาจะจัดการเรื่องการบริหารและสอนบทเรียนให้แก่ทูตเทวะ เขาจะเพิ่มรูปปั้นของรองเจ้าสำนักถัดจากรูปปั้นแต่ละรูปของเขา และปันส่วนแบ่งสองในสิบส่วนของบุญจากการถวายเครื่องสักการะจากสำนักเทพทะเลทักษิณให้กับเผ่ามังกรโดยตรง!
หากไม่ใช่เพราะเต๋าสวรรค์รู้จักเขาว่าเป็นเทพแห่งท้องทะเลทักษิณแล้ว เขาก็จะไม่อาจเปลี่ยนเจ้าสำนักได้เว้นแต่เขาจะทำลายสำนักของเขา
หลี่ฉางโซ่วต้องการเลียนแบบปราชญ์มนุษย์ในสมัยโบราณและมอบตำแหน่งเจ้าสำนักของสำนักเทพทะเลทักษิณให้กับปรมาจารย์จากสำนักของเขาเอง
บุญจากการถวายเครื่องสักการะเหล่านี้ยังคงไม่อาจมอบให้กับเผ่ามังกรและปล่อยให้พวกเขาใช้ประโยชน์ได้โดยไร้เหตุผล
หลังจากใช้หลีกลี้ปฐพีซ่อนกายแล้ว หลี่ฉางโซ่วก็เริ่มยุ่ง บัดนี้ได้ดำเนินการขั้นตอนที่สำคัญที่สุดไปแล้ว ต่อไปเขาก็จะต้องดูปฏิกิริยาของเผ่าพันธุ์มังกร
แล้วเกิดอันใดขึ้นกับเหตุการณ์นี้
เดิมที ข้าเป็นร่างเดิมของเทพแห่งท้องทะเลซึ่งมาเพื่อทำลายสำนักเทพทะเล แต่แผนของข้าก็ถูกขัดจังหวะทีละขั้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อมีหลายฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม ข้าจึงตกอยู่ในวิกฤตที่เสี่ยงต่อการถูกเปิดเผย…
หลี่ฉางโซ่วคิดว่า สำนักตู้เซียน และสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินจะมีปฏิกิริยาอย่างไรหากตัวตนของเขาในฐานะเทพเจ้าแห่งท้องทะเลถูกเปิดเผย ไม่รู้ว่าเขาจะมีสัมพันธภาพอันดีกับปรมาจารย์ของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน และต่อต้านแผนการของปรมาจารย์สำนักบำเพ็ญประจิมได้หรือไม่
แต่เขาก็ยังคงคาดการณ์ และผลสุดท้ายก็คือความตาย
ไม่ต้องกล่าวถึงพลังของปราชญ์เทพเลย เพราะแค่ตำราเจ็ดลูกศรหัวตะปูและพิธีกรรมเปิดแท่นบูชานักพรตเต๋าก็สามารถสาปแช่งและสังหารเซียนต้าหลัวจินได้!
ในยามคับขัน หลี่ฉางโซ่วได้เปลี่ยนความคิดของเขาทันทีและพยายามเอาชีวิตรอดโดยพลิกสถานการณ์เพื่อเปลี่ยนปัจจัยที่เดิมเป็นอันตรายต่อเขาให้กลายเป็นประโยชน์ต่อเขา!
เขายอมรับเทพเจ้าแห่งท้องทะเลทักษิณและใช้สถานะของเขาในฐานะศิษย์ของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินและความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับอ๋าวอี่เพื่อไปเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์มังกร
จากนั้นเขาจะใช้เผ่ามังกรเป็นเกราะป้องกันแรงกดดันจากสำนักบำเพ็ญประจิมในอนาคตเพื่อดึงดูดความสนใจของทุกคน
ต่อจากนี้ไป หลี่ฉางโซ่วจะจัดระเบียบกิจการภายในของสำนักเทพทะเล ปรับปรุงรายละเอียดของคำสอน ปรับโครงสร้างการจัดการของทูตเทวะให้สมบูรณ์ และเพิ่มการเฝ้าระวังตนเองภายในสำนัก…
ในเวลาเดียวกันนั้น เขาต้องการให้เผ่ามังกรเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับการปรากฏตัว และยังต้องการให้เผ่ามังกรปกป้องเหล่าสานุศิษย์และป้องกันการต่อสู้นองเลือดระหว่างพวกเขา
ด้วยวิธีนี้ เขาจะสามารถบรรลุเป้าหมายหลักของการเดินทางไปทะเลทักษิณ คือเพื่อหลีกเลี่ยงกรรม
รางวัลที่เขามอบให้กับเผ่ามังกรคือบุญจากเครื่องสักการะบูชาสองในสิบส่วนที่อ๋าวอี่ได้รับไป
ไม่ว่าจะอย่างไร หลี่ฉางโซ่วก็ไม่มีอะไรสูญเสียเลย
สิ่งที่เผ่ามังกรขาดที่สุดในยามนี้คือบุญและโชค
หลี่ฉางโซ่วคาดว่า แม้อ๋าวอี่จะประสบปัญหาบางอย่างหลังจากกลับไปที่วังมังกรทะเลบูรพา แม้จะมีการพลิกผันบ้าง แต่เขาก็จะกลับมาตรงเวลา
นอกจากนี้ ยังมีโอกาสสูงที่อ๋าวอี่จะนำปรมาจารย์มังกรมาประจำการที่ชายทะเลทักษิณ
เขาต้องทำสามสิ่งเท่านั้นก่อนจะจากไปได้และปล่อยให้สำนักเทพทะเลทักษิณดำเนินการเอง
เขาจะใช้การวางยาเพื่อจัดการกับทูตเทวะของหมู่บ้านสง
และเขาต้องคิดหาวิธีปกปิดใบหน้าจากรูปปั้นต่างๆ ของเขามากมาย
เขาต้องจำกัดการพัฒนาของสำนักเทพทะเลทักษิณเพื่อให้พวกเขาสามารถเทศนาเผยแผ่เต๋าได้เฉพาะในบางพื้นที่ตามแนวชายฝั่งทะเลเท่านั้น และไม่ให้แตะต้องผลประโยชน์ของสำนักเต๋า
นี่เป็นงานใหญ่ครั้งแรกที่หลี่ฉางโซ่ววางแผนจริงจัง…
ไม่อาจกล่าวได้ว่าเขาได้รุกคืบเข้าควบคุมสถานการณ์ แต่เขาถูกคนเหล่านั้นไล่ต้อนไปถึงขอบหน้าผาจริงๆ จึงทำได้เพียงแค่เสี่ยงและตอบโต้กลับอย่างดุดันเท่านั้น
เขาต้องเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดและปรับเปลี่ยนรายละเอียดให้ได้มากที่สุด!
ในขณะนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นักพรตเต๋าของหลี่ฉางโซ่วรีบตรงไปที่หมู่บ้านสงทันทีและใช้สิ่งเดียวที่ทำได้โดยใช้รูปปั้นนั่นคือ การปรากฏในความฝันของผู้อื่น
ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นักพรตเต๋ายังคงแสดงตนให้เป็นที่รู้จักในหมู่บ้านสงควบคู่ไปกับการวางยา และได้เปลี่ยนคนโง่ส่วนใหญ่ที่อาจแต่งงานกับญาติของพวกเขาให้กลายเป็นสานุศิษย์ผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งท้องทะเล
จะมีปรมาจารย์เผ่าพันธุ์พ่อมดไล่ตามเรื่องนี้หรือไม่
พวกเขาจะทำอย่างไรกับมัน
[1] แหล่งน้ำบาดาลทั้งเก้าแห่งสวรรค์และปฐพี ตามความเชื่อของคนจีน นี่คือสถานที่ของคนที่ตายไปแล้ว