“แล้วเป็นไงบ้าง? ทำไมเราไม่มาผ่อนคลายกันสักหน่อยหล่ะ?”
รินะพูดกับผมด้วยรอยยิ้มที่กระหายการต่อสู้บนใบหน้าของเธอ
ผมส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
“เธอมีวิธีผ่อนคลายที่ไม่เหมือนใครเลยนะ”
ผมพูดขณะที่มองไปยังผู้หญิงนักกีฬาหูกระต่ายสุดเซ็กซี่ตรงหน้า หูกระต่ายขนาดใหญ่ของเธอสั่นด้วยความตื่นเต้น เมื่อได้ยินคำพูดของผม
รอยยิ้มของเธอกว้างขึ้นขณะส่ายแขนและพูด
“ไม่มีอะไรดีไปกว่าการต่อสู้จนถึงขีดสุดเพื่อผ่อนคลายแล้วแหละ”
“เห้อออ…เธอนี่บ้าการต่อสู้จริงๆ เลยนะ”
“จะให้ฉันทำยังไงหล่ะ? ก็ฉันเป็นของฉันแบบนี้หนิ”
รินะหยักไหล่และพูดต่อไปอย่างไร้ยางอาย
ผมไม่ต้องการโต้เถียงกับผู้หญิงสมองกล้ามคนนี้ต่อเลยเดินไปที่ขอบของเวทีการต่อสู้ก่อนจะหันหน้าไปหารินะ
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เรายืนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ ความเงียบปรากฎขึ้นมาภายในห้อง ฟื้นคืนชีพ ในขณะที่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้เริ่มถูกจุดประกายในตัวพวกเรา
วินาทีต่อมารินะก็หายไปจากจุดที่เธอยืนอยู่ และในเสี้ยววินาทีต่อมามือขนาดใหญ่ก็เริ่มลงมาบนใบหน้าของผม
ผมยืนอย่างมั่นคงขณะที่ต่อยกลับ ในไม่ช้ามือของผมก็ปะทะกับกำปั้นขนาดใหญ่ตรงหน้า ความเงียบครั้งที่ 2 ยังคงอยู่ก่อนที่เราทั้งคู่จะกระเด็นออกจากกัน ผมถอยหลัง 1 ก้าวในขณะที่รินะถูกเหวี่ยงกลับไป
“ได้ยังไงกัน?”
เสียงแปลกใจของรินะแว่วเข้าหูผม ซึ่งก็เป็นไปตามคาดเพราะผมสามารถรับการโจมตีเต็มที่ของรินะได้โดยที่ยังคงยืนอยู่อย่างปกติ
คนเดียวที่ทำได้คือเจค็อบและนั่นเป็นเพราะเขาได้รับพรจากพลังสายเลือดของเขา แต่นี่ผมกำลังเหยียบหัวเธอโดยที่ถอยหลังไปเพียงหนึ่งก้าว ตามจริงแล้วผมไม่ได้ใช้กำลังเต็มที่กับหมัดนั้นด้วยซ้ำ เพราะผมอยู่ในระดับต้นกำเนิดขั้น 10 แล้ว การต่อยเธอนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย
“แปลกใจเหรอ?”
ผมถามด้วยน้ำเสียงยั่วยุ แต่ไม่นานรินะก็สงบลง รอยยิ้มของเธอกลับมาเมื่อเธอเริ่มหักข้อนิ้ว
“นี่จะต้องสนุกแน่ๆ”
และจากนั้นขาของเธอก็เริ่มสั่นก่อนที่จะขยายใหญ่ขึ้น ลมกระโชกแรงขณะที่ขาของเธอซัดเข้ามาหาใบหน้าของผมเพื่อตั้งใจจะบดขยี้มัน
ผมไม่ถอยในขณะที่รวบรวมมานาจำนวนมากไว้ที่ขาของตัวเองและฟาดไปข้างหน้าโดยเล็งไปที่ขาขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างหน้า เราปะทะกันอีกครั้งและรินะก็กระเด็นไปข้างหลังเช่นเดิม ความแข็งแกร่งของระดับต้นกำเนิดขั้น 10 เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…..น่าสนุกจัง!”
รินะกรีดร้องขณะเริ่มโจมตีผมอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
ผมก็สู้กลับด้วยความตื่นเต้นที่เข้ามา ผมก็ออมมือไว้ในขณะที่ต่อสู้เพราะอยากจะสนุกไปกับการต่อสู้ด้วยเช่นกัน
เราโจมตีกันด้วยความเร็วแทบขาดใจ เสียงระเบิดดังไปทั่วห้องฝึกซ้อมในตอนที่แขนและขาของเราปะทะกันในการต่อสู้ มันเป็นการต่อสู้ที่ใช้ศิลปะการต่อสู้และพลังล้วนๆ ทำให้เราค่อนข้างสนุกและผ่อนคลาย
แขนของรินะได้ฟาดมาที่หน้าของผม
ผมใช้มือปัดมันในขณะที่โจมตีเธอด้วยขา เธอไม่ถอยในขณะที่เพิ่มขนาดศีรษะของตัวเองและชนกับหัวของผม
เสียงโซนิคบูมดังขึ้นอีกครั้งเมื่อขาของผมชนกับหัวของเธอ ผมไม่ลดละและใช้มืออีกข้างของตัวเองจับไปที่ท้องของเธอก่อนจะเหวี่ยงออกไปจนหลังเธอกระแทกพื้น
สิ่งนี้ไม่ได้บั่นทอนอารมณ์ของเธอเลยเมื่อเธอลุกขึ้นมาโจมตีผมอีกครั้ง ไม่นานนักมันก็เกิดการทะเลาะวิวาทกันในขณะที่เราตีกัน
รินะเล่นสกปรกในบางครั้งเมื่อเธอเริ่มเล็งไปที่เป้ากางเกงของผมโดยไม่มีความปราณี เนื่องจากเป็นกรณีนี้ผมเองก็ไม่ได้รั้งเธอไว้และตีหลังเธอจนเกิดเสียงฟ้าร้อง แม้ว่าผมจะแน่ใจว่าจะไม่ทำร้ายเธอมากก็ตาม
1 ชั่วโมงต่อมา~~
“แฮ่ก….แฮ่ก….แฮ่ก….นายมันสัตว์ประหลาด”
รินะพูดในขณะที่นอนเหยียดยาวอยู่บนพื้น ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ ในขณะที่รอยฟกช้ำสามารถเห็นได้ที่นี่และที่นั่น ส่วนผมหน่ะเหรอ? ผมยืนอยู่ข้างเธอขณะมองลงไปที่เธออยู่ ลมหายใจของผมสม่ำเสมอและดูเหมือนสบายดี มันไม่ง่ายเลยที่ผมจะเหนื่อย ไม่ใช่กับพลังทั้งหมดที่ผมมี
“เธอโอเคไหม?”
“แฮ่ก….ไม่…..แฮ่ก”
ได้ยินดังนั้นผมก็ได้แต่ยิ้มขณะนั่งลงข้างเธอ นิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่กี่นาทีผ่านไปรินะก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“ดีจัง ทำให้นึกถึงอดีตเลยเนอะ”
“อ๋อ? เธอหมายถึงตอนที่เธอเป็นเด็กเอาแต่ใจหน่ะเหรอ?”
“ใช่ มันเป็นช่วงเวลาที่สนุกจริงๆ”
“ถ้าอย่างนั้นเธอคงจำผิดแล้วแหละ”
ผมส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มขมขื่น
เมื่อก่อนตอนที่ผมช่วยทั้งรินะและซานะ ทั้ง 2 คนเป็นเพียงเด็กเอาแต่ใจที่หนีออกจากศูนย์วิจัยที่ทรมานและสร้างพวกเธอขึ้นมา ความเชื่อใจที่มีต่อผู้อื่นโดยพื้นฐานแล้วเป็นศูนย์ แถมทั้งคู่ยังสติไม่ดีอีกด้วย มันต้องใช้ความพยายามอย่างมากจากฝ่ายของผมก่อนที่พวกเธอจะเริ่มเปิดเผยเกี่ยวกับตัวเอง
และหลังจากที่ผมช่วยพวกเธอแก้แค้น พวกเธอก็เริ่มสนใจและรักผมอย่างแท้จริง มันไม่ง่ายเลย ผมต้องต่อสู้กับรินะมากมาย, ต้องสอนพื้นฐานมารยาทและสามัญสำนึกทั้งหมดให้พวกเธอ ผมต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4 เดือนเพื่อสอนและอยู่ข้างๆ พวกเธอ พวกเธอเหมือนระเบิดเดินได้ที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อ
“นายรู้ไหม…ฉันไม่เคยพูด แต่ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่ได้พบนาย”
จู่ๆ รินะก็พูดขึ้นมาทำให้ผมประหลาดใจ
“นี่มันไม่ใช่นิสัยของเธอเลยนะ”
“ไม่หรอก มันเป็นเรื่องที่ฉันอยากจะบอกนายมานานแล้ว”
“งั้นเหรอ”
ผมพยักหน้าให้เธอในขณะที่เงียบไป ไม่กี่วินาทีต่อมาผมก็พูดอีกครั้ง
“พูดตามตรงฉันมีแรงจูงใจที่จะช่วยเหลือพวกเธอ แต่ภายหลังเธอสามารถพูดได้ว่าฉันเริ่มที่จะสนุกไปกับทั้งการอยู่ร่วมกับเธอ รินะผู้อันตรายและซานะผู้เงอะงะแล้ว เป็นคอมโบตลกๆ ที่ฉันชอบอยู่ด้วย”
“จะไปว่านายตอนนั้นก็คงไม่ได้ บวกกับทุกคนทำสิ่งต่างๆ ด้วยแรงจูงใจอยู่แล้ว มันไม่มีอะไรใหม่ แต่นายได้ให้ชีวิตใหม่แก่พวกเราและฉันรู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งนั้นจริงๆ”
ผมไม่ตอบและทำได้แต่นิ่งเงียบ ความจริงแล้วผมสงสัยมาตลอดว่ารินะไม่เคยพูดความรู้สึกของเธอกับผมเลย เธอเป็นคนตรงไปตรงมาและเป็นคนทะนงตัว ถ้าเธอชอบผม เธอควรจะพูดมันต่อหน้าผมนานแล้ว จนถึงตอนนี้ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากเธอเลย ตอนแรกผมไม่ได้สนใจมัน แต่ตอนนี้มันทำให้เกิดคำถามมากมายในใจของผม
“นี่รินะ…เธอพบใครในสถาบันที่เธอชอบหรือเปล่า? อาจจะเป็นแฟน?”
ผมถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต่กลับได้เพียงแค่การพ่นลมหายใจใส่
“ไม่ ฉันไม่พบคนที่ชอบเลย ฉันไม่คิดว่าตัวเองสนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ แถมนายยังเป็นผู้ชายคนเดียวที่ฉันสนิทด้วย”
รินะพูดอย่างเมินเฉย เมื่อแบบนั้นก็เกิดความคิดก่อตัวขึ้นในหัวของผม แต่ก่อนที่ผมจะทันได้พูดอะไร รินะก็พูดออกมา
“แล้วนายหล่ะ เจอคนที่ชอบรึยัง?”
คำพูดของเธอไม่ใยดีและสบายใจ แต่เมื่อผมมองไปที่หูของเธอ ผมก็เห็นพวกมันเต้นซ้ายและขวาเป็นสัญญาณของความไม่สบายใจ
ผมแสร้งทำเป็นคิดสักพักก่อนที่จะพูด
“ไม่ยังไม่ใช่ตอนนี้ แต่ฉันสนใจที่จะเริ่มคบกับใครสักคนแล้ว”
“งั้นเหรอ…ขอให้โชคดีนะ”
รินะตอบ แต่ผมยังเห็นว่าหูของเธอตั้งตรงด้วยความยินดี และจากนั้นผมก็เข้าใจอย่างสมบูรณ์….เธอนี่มันโคตรซื่อบื้อเลย! ดูเหมือนว่าเธอเองจะไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง
‘ให้ตายเถอะ นี่มันค่อนข้างหักมุมเลย’
เมื่อเห็นผลลัพธ์ ผมก็ยิ้มออกมา
ดูเหมือนว่าอนาคตของผมกับรินะจะต้องสนุกอย่างแน่นอน
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต