บทที่5ตอนที่24

ไอริสและเพื่อนๆต่างวิ่งไปรอบๆเมืองเพื่อค้นหาโนโซมุและมาร์ แต่หลังจากมืดพวกเขาก็มารวมตัวกันที่ประตูหลักของสถาบัน

ทุกคนหอบหายใจและแสดงท่าทีร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด

「เป็นไงบ้าง เจอพวกเขาสองคนไหม!?」

「ไม่เจอเลย ไม่ได้อยู่ทางเหนือ……」

「ยันต์ของข้าน้อยก็ไม่ได้ผลเลย……」

「น่าจะไม่ได้อยู่ในเมือง……」

ไอริสถามฟีโอที่กลับมาแต่ผลลัพธ์ก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร สิ่งที่เหลือคือทิม่าที่ไปดูย่านการค้าและซีน่าที่ไปทางเขตชานเมือง

เมื่อไอริสเริ่มออกตามหาโนโซมุ เธอจึงมุ่งหน้าไปที่หอพักชาย นักเรียนในหอพักที่เห็นก็ตกใจแต่ก็ไม่เจอโนโซมุ

หลังจากนั้นก็วิ่งไปรอบๆเมืองเพื่อค้นหาเขา แต่ก็ไม่เจอทั้งสองคนเลย

「มาร์น่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่งในย่านการค้า แต่โนโซมุ……。อาาา! อยู่ไหนกันนะ……」

ไอริสพยายามสงบสติอารมณ์ขณะกัดริมฝีปากแน่น เพราะหาโนโซมุไม่เจอ

ถ้าถามเขาก่อนหน้านี้ละก็…ความเสียใจเข้าปกคลุมจิตใจของไอริส

「ไอ! ฉันเจอมาร์คุงแล้วล่ะ!」

อย่างไรก็ตามเสียงของเพื่อนสนิทก็ดังเข้ามาในหู เมื่อไอริสหันไปก็เจอทิม่าและมาร์กำลังวิ่งมาที่นี่

「…………」

「…………」

มาร์และไอริสที่เจอหน้ากันต่างเงียบ ดวงตาที่เธอจ้องมองไปที่มาร์มีแต่ความโกรธ

มาร์ตกใจมากที่เห็นไอริสจ้องเขาแบบนั้น แต่เมื่อเขาตัดสินใจได้ ก็ก้มหน้าลง

「ขอโทษทุกคนด้วยจริงๆ! ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตรายก็เพราะข้า!」

มาร์ขอโทษออกมา ไอริสและคนอื่นๆก็จ้องมองมาร์ด้วยท่าทีเคร่งขรึม

「เอ่อไม่ยกโทษให้ข้าก็ไม่เป็นไรหรอก! จะทุบตีเท่าไรข้าก็ไม่ว่า!」

「…………」

ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างมาร์และไอริสชั่วขณะหนึ่ง มาร์ก้มหน้าลงและรอฟังคำพูด

ในที่สุดไอริสก็เปิดปากพูดอย่างช้าๆ

「……มาร์คุง ใครกันที่ควรได้รับคำขอโทษจากนายมากที่สุด นายก็น่าจะรู้นะคะ?」

「……อาาา รู้สิ ไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะต่อว่ามากแค่ไหน ข้าก็จะยอมรับความผิดทั้งหมด!เพราะงั้นแล้วช่วยมาหาโนโซมุด้วยกันเถอะ !」

「……เข้าใจแล้วนะทุกคน?」

มาร์ขอร้องให้ทุกคนช่วยตามหาโนโซมุพร้อมกันกับเขา บางทีเพราะยอมรับคำขอโทษของเขาแล้วทุกคนจึงพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของไอริส

「……ขอบคุณนะ」

มาร์รู้สึกขอบคุณพวกเขาที่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น

「ทุกคนมารวมตัวกันแล้วสินะ」

ในขณะนั้นเองเสียงของซีน่าก็ดังขึ้น ข้างหลังก็เห็นอาจารย์อันริอยู่ด้วย

「ซีน่าคุง! และก็อาจารย์อันริ!?」

ไอริสและเพื่อนๆประหลาดใจกับการโผล่มาของอันริ แต่ซีน่ายังคงพูดต่อ

「เจอเขาแล้วละนะ」

「จริงเหรอคะ!?」

ไอริสตะโกนถามซีน่า เธอรีบมองไปรอบๆแต่ไม่เห็นโนโซมุเลย

「……โนโซมุดูเหมือนกำลังร้อนใจอยู่เลยเนอะ?」

「เขาพูดเช่นนั้นแล้วก็เข้าไปในป่า」

「หมายความว่ายังไง!?」

ไอริสตะโกนใส่คำพูดของซีน่าเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด ตอนนี้อารมณ์ของเธออ่อนไหวมากๆ จึงวิ่งไปคว้าคอเสื้อซีน่า

「ทำไมถึงปล่อยเขาไปละคะ!? เขาบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอไง!?」

「ไอริสดิน่าาาซังงงงงงงง! ใจเย็นๆน้า~~!」

อันริประหลาดใจที่เห็นไอริสเดือดดาล แต่เธอก็ร้อนรนและรีบวิ่งไปหาอันริทันที

「อาจารย์อันริ! คุณก็ด้วยทำไมไม่หยุดเขาไว้ละคะ!?」

「ฉันกับอาจารย์ก็พยายามจะหยุดแล้ว! แต่เขาบอกว่าเขาต้องไปที่นั่น เมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็รู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องไปที่นั่นในตอนนี้」

ซีน่านึกภาพของโนโซมุที่ถามตัวเธอ

“ขออีกครั้งหนึ่งละครับ ผมต้องการสงบสติอารมณ์ผมอยากไปหาอาจารย์ที่กำลังหลับไหลอยู่ ตอนนั้นที่กระท่อมที่ผมเคยนำทางให้ซีน่าและเพื่อนๆน่ะ ผมอยากให้ทุกคนมาที่นั่นในวันพรุ่งนี้ครับ”

ความวิตกกังวลและความกลัวซ่อนอยู่ในนัยน์ตาของเขา แต่โนโซมุก็มองตรงไปข้างหลังซีน่าและอันริ ด้วยความรู้สึกที่ว่าเขาอยากจะก้าวไปข้างหน้า แม้ว่าจะมีความทรงจำอันแสนเศร้าอยู่ก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้กำหนดสถานที่แห่งความทรงจำของเขาที่เขาพูดคุยกับอาจารย์ แน่นอนว่าไม่มีที่ไหนที่ทำให้เจตจำนงของตัวเขาเองมั่นคงมากกว่าที่นั่นอีกแล้ว

「โนโซมุคุงอะน้า~。ตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านของอาจารย์น่ะ~」

「อาจารย์เหรอคะ?」

ไอริสและคนอื่นๆก็สงสัยว่าใครคืออาจารย์ของโนโซมุ แต่ซีน่าก็อธิบาย

「เป็นคนที่สอบวิชาดาบคาตานะให้เขา ดูเหมือนว่าสถานที่ๆเขาจะไปนั้นเป็นบ้านของอาจารย์ที่เคยอยู่กับเขา」

「……เคยอยู่?」

「……อืม ดูเหมือนว่าอาจารย์ของเขาจะจากไปแล้ว……」

ซีน่าบอกไอริสและคนอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องที่พวกเธอได้คุยกับโนโซมุที่เขตชานเมือง

เขาได้พบกับอาจารย์ของเขาอย่างไรและเริ่มฝึกดาบยังไง ทุกๆวันในการฝึกฝน เขาที่ยังคงเหวี่ยงดาบต่อไป และคำสุดท้ายที่อาจารย์ฝากโนโซมุไว้ให้ตระหนักถึงความเป็นจริง

「ดูเหมือนอาจารย์ของโนโซมุจะพูดคำนี้ไว้เป็นคำสัญญาระหว่างเธอกับโนโซมุก่อนที่เธอจะจากไป “จะหนีก็ไม่เป็นไร แต่จงตระหนักไว้ว่าตัวเองกำลังหนีความจริงอยู่ หนีไปเท่าไรก็อย่าได้ลืม ว่าสักวันเจ้าจักต้องก้าวไปข้างหน้าให้ได้”……」

「…………」

ทุกคนสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าทั้งสองถูกผูกพันด้วยความลึกซึ้งถึงเพียงใดจากคำพูดเหล่านั้น

ในทางกลับกันพวกเขาไม่เคยรู้เลยว่าโนโซมุมีอาจารย์อยู่

ไอริสรู้สึกว่าเหมือนกับใจเธอกำลังพังทลาย

ทำไมพวกเขาถึงไม่เชื่อใจโนโซมุมากกว่านี้……。

ความคิดเช่นนั้นยังคงแล่นอยู่ในหัว และก็รู้สึกได้เลยว่าเขารู้สึกทึ่งกับความรู้สึกที่เวลาที่ใช้กับอาจารย์ค่อยๆจางหายไปและหายไปในที่สุด

ซีน่าเหลือบมองไปทางไอริสและยังคงพูดต่อไปโดยไม่สนอะไร

「……และอีกนัยหนึ่ง เขาไม่เคยพูดถึงพลังของเขา แต่พลังของเขาอันตรายกว่าที่พวกเราคิดไว้มาก」

「……หมายความว่ายังไงคะ?」

ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างหรี่ตาและฟังคำพูดของซีน่า

「อย่างที่เขาพูดไว้ ยามใดที่เขาใช้พลังนั่นจะมีเจตจำนงอื่นที่ไม่ใช่ตัวเขาอยู่ และเจตจำนงนั่นคิดว่าคนในเมืองเป็นเพียงแค่อาหารอันโอชะของมัน」

ไอริสที่เคยได้เห็นพลังของโนโซมุตอนที่ต่อสู้กับรูกาโต้

พลังอันมหาศาลที่แม้แต่พลังเวทย์ของรูกาโต้ที่เป็นถึงแรงค์ S ยังค้องหวาดกลัว

นั่นคือพลังของเขา ถ้าลองคิดดูก็น่าจะมีค่าใช้จ่ายอันสูงส่งตามมา

「……อาาาาา!!」

ไอริสกัดริมฝีปากแน่นโดยไม่รู้ตัว

มีหลายอย่างที่ให้สังเกตเห็นแท้ๆ……。

เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ก็พยักหน้าตอบรับได้เลยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของโนโซมุแปลกไปเร็วๆนี้

ทำไมถึงไม่ถามเขาเลย……。

มีเพียงความเสียใจที่กัดเซาะหน้าอกของไอริส

「เขาคิดว่าเขากังวลเกี่ยวกับพลังของมัน และไม่เคยคุยกับใครเลย เพราะอย่างนั้นเลยกดดันตัวเองมาโดยตลอด」

「……แม้แต่พวกเราก็ไม่สามารถพูดได้งั้นเหรอคะ?」

「โซเมีย……」

โซเมียแสดงสีหน้าร้องไห้ออกมา

นั่นไม่ใช่ความผิดโซเมียหรอก เพราะฉันไม่เคยถามเขาต่างหาก……。

พูดแบบนี้ฉันก็พยายามปลอบโซเมียที่กำลังร้องไห้ออกมา แต่ไอริสก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

「ไม่ได้จริงๆหรอกนะ ฉันคิดว่ามันตรงกันข้ามกันน่ะ เขาพูดไม่ได้เพราะมันสำคัญอย่างมาก เขารู้เพราะว่ามันเคยเกิดเรื่องแบบนั้นกับเขามาก่อน ยิ่งกังวลมากเท่าไร ก็ยิ่งไม่อยากพูดถึงมันมากเท่านั้น หัวใจอันด้านชาทำให้ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้」

แต่แทนที่จะเป็นไอริสซีน่ากลับปลอมโซเมียแทน

เธอเดินเข้าหาโซเมียและก้มตัวลง ใช้มือลูบโซเมียเบาๆเพื่อปลอบเธอ

อาการเจ็บหน้าอกมันรุนแรงขึ้น เปลือกตาร้อนผ่าว และน้ำตาก็ไหลออกมา

「ฮึก!!」

ไอริสกัดริมฝีปากอย่างสิ้นหวังและพยายามกลั้นน้ำตาของเธอไว้ ซีน่าเองก็มองมาทางไอริส

「โนโซมุกำลังรอเราอยู่ที่กระท่อมในส่วนลึกของป่า ฉันรู้สถานที่นั้นแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะพาทุกคนไปเอง」

「กระท่อมกลางป่างั้นเหรอ?」

เมื่อได้ยินคำพูดของซีน่า มิมุรุและทอมก็ทำท่าทางสงสัย แต่พวกเขาก็ส่งเสียงตกใจออกมาราวกับนึกอะไรบางอย่างออก

「นี่ ซีน่ากระท่อมนั่นหรือว่า……」

「ใช่แล้วล่ะ มิมุรุ กระท่อมที่เราหนีภัยเข้าไปไง เขาที่แนะนำให้เราไปที่จุดนั้นน่ะ」

「……หนีภัย?」

มาร์และเพื่อนๆไม่เข้าใจเรื่องที่ซีน่าพูด คำว่า “หนีภัย”ยิ่งทำให้ไม่สบายใจ

「พรุ่งนี้ไว้จะเล่าให้ฟัง แม้ว่าพวกเราจะต้องไปที่นั่นก็ตาม ที่นั่นเป็นสถานที่ฝึกดาบกับอาจารย์ของเขา และเป็นสถานที่แห่งความทรงจำอันแสนสำคัญสำหรับเขา โนโซมุบอกว่าอยากจะทำหัวให้โล่ง วันนี้ปล่อยให้เขาอยู่กับตัวเองเถอะ」

「……แต่ว่า」

อีกสักพักซีน่าจะพาไปหาโนโซมุ อย่างไรก็ตามเสียงของไอริสขัดคำพูดของเธอ

「ไม่นะ โนโซมุยังบาดเจ็บอยู่…ยังไงก็ควรจะให้เขาพักผ่อนในสถานที่ๆเหมาะสมกว่านี้นะ……」

「ไม่หรอกที่นั่นแหละดีแล้ว โนโซมุรู้จักที่แห่งนั้นดีกว่าใคร เขารู้ตัวดีไม่ควรเข้าป่าตอนกลางคืนยามหมดแรง」

คำพูดของไอริสที่ดูเหมือนจะหมดความอดทน

ซีน่าปฏิเสธกลับทันที แต่เธอก็อยากจะไปหาโนโซมุอยู่ดี และเธอก็อยากเข้าไปในป่าตอนนี้เลยด้วยซ้ำ

「……เดี๋ยวก่อนสิ ไอริส」

อย่างไรก็ตาม มาร์เองก็บอกให้ไอริสรอ

คำพูดของซีน่าที่บอกว่า “ทุกคนล้าแล้ว” รั้งหัวใจเอาไว้

「ถ้าหมอนั่นบอกให้รอ..ก็รอเถอะ หมอนั่นเองก็ต้องการเวลา」

「อืม ฉันเองก็คิดแบบนั้น」

ซีน่าพยักหน้ากับคำพูดของมาร์

「แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับข้า…สำหรับหมอนั่นไม่เป็นไรหรอกที่อยู่ป่าในตอนกลางคืน」

คำพูดของมาร์ยังคงพูดออกไปราวกับเชื่อมั่นในคำพูดของเขา

「อาร่า? ท่าทีดูสุขุมมากเลยนะ คิดว่าจะบุกเข้าป่าไปคนเดียวเพราะทนไม่ไหวซะอีก」

「……มีหลายเรื่องเลยละที่อยากจะพูด」

มาร์ตอบสนองต่อคำยั่วยุของซีน่า และยิ้มออกมา

「ไอริสรอก่อนเถอะนะ?」

「…………」

ความปรารถนาที่อยากจะเจอกับโนโซมุและความปรารถนาที่ไม่อยากให้ทุกคนตกอยู่ในความเสี่ยงมันผสมปนเปกันไปหมด

โซเมียที่อยู่ใกล้กับพี่สาวจับมือเธอเบาๆซึ่งกำลังกัดริมฝีปากแน่น

ไอริสรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากน้องสาว เธอจึงค่อยๆพยักหน้ากับคำพูดของซีน่า

「งั้นพรุ่งนี้ไปหลังเลิกเรียน จุดนัดพบคือเขตชานเมืองตามปกติ」

ขณะที่ทุกคนแยกย้ายไปตามคำพูดของซีน่า มาร์ก็เรียกเธอขณะที่กำลังจะกลับ

「ซีน่าคือว่า…เรื่องสำหรับวันนี้ข้าขอโทษนะ……」

มาร์ก้มหัวลงและขอโทษต่อความเขลาของตัวเอง ซีน่าไม่คิดอะไรมาก

「……เข้าใจแล้ว ขอโทษก็ดีแล้วล่ะ ที่เหลือก็พูดต่อหน้าเขาซะ」

「อาาา รู้แล้วล่ะน่า」

ซีน่าพูดเพียงคำพูดเดียว มาร์ขอโทษเธออีกครั้ง

◇◆◇

หลังจากกลับมาที่คฤหาาสน์ไอริสและโซเมียกลับไปที่ห้องของตัวเองหลังจากทานอาหารและล้มตัวลงนอน

การฝึกพิเศษและการต่อสู้กับมังกรแห่งความตาย ความเข้าใจผิดระหว่างโนโซมุกับมาร์และความเหนื่อยล้าที่สะสมไปจากการวิ่งไปทั่วทั้งเมือง ความเหนื่อยล้านั่นพยายามทำให้เธอหลับไหล

อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับร่างกายที่อยากพักผ่อน หัวของเธอกลับคิดอะไรหลายอย่าง ส่งผลให้เธอหลับๆตื่นๆ

เขากำลังทำอะไรอยู่กันนะ……。

ทุกสิ่งที่เข้ามาในหัวของเธอคือภาพของเขาที่กำลังกังวลอะไรบางอย่าง

ลักษณะที่เขาชอบหันหลังให้ฉันราวกับจะจากไป นั่นยิ่งทำให้เธอยิ่งโหยหา

ครั้งแรกที่พบกับเขาที่ห้องพยาบาล เขาเต็มใจช่วยนักเรียนหญิงที่ได้รับบาดเจ็บ

หากลองคิดดูแล้วตัวเขาต่างจากข่าวลือโดยสิ้นเชิง

ครั้งต่อไปที่พบกันก็คือสวนสาธารณะกลาง เป็นการพบกันครั้งที่สองฉันเห็นเขากำลังพูดคุยกับน้องสาวของฉันอย่างสนุกสนาน

โซเมียเองก็พูดถึงเพื่อนใหม่ที่ได้เจอแต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเขาคนนี้

เขาเองก็ไม่รู้ว่าโซเมียเป็นน้องสาวของฉัน เขาตกใจอย่างมากที่รู้ว่าโซเมียเป็นน้องสาวของฉัน ตอนนั้นฉันแอบแหย่เขาเล่นด้วย……。

ฉันนึกถึงน้องสาวของฉันที่เป็นชนชั้นสูงที่ผู้คนต่างเข้าหาเพราะหวังผลประโยชน์แอบแฝง แต่ว่าไอริสไม่รู้สึกถึงสัญญาณเตือนภัยจากตัวโนโซมุเลยแม้แต่น้อย

และเหตุการณ์วันเกิดของโซเมีย

เขาช่วยฉันและโซเมียจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างข้อตกลงลับๆของตระกูลฉันกับตระกูลวาเซียร์ตในอดีต หลังจากนั้นเขาก็ยังมอบของขวัญวันเกิดให้โซเมีย

โนโซมุไม่เปลี่ยนท่าทีที่มีต่อทั้งสองคน แม้ว่าจะเป็นคนที่เขาช่วยชีวิตไว้ก็ตาม

สำหรับไอริสและคนอื่นๆที่เห็นผู้ใหญ่ที่ได้เปรียบแล้วมักจะเปลี่ยนทัศนคติชอบทวงบุญคุณ แต่สำหรับโนโซมุมันไม่ใช่เลยเขาไม่เคยคิดอะไรแม้แต่น้อย

หลังจากนั้นไอริสก็ชวนโนโซมุออกเดทเพื่อเป็นการขอบคุณ

ฉันมักจะเป็นฝ่ายถูกเชิญมาตลอด แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเป็นฝ่ายเชิญอีกฝั่ง ตื่นเต้นมากๆเลยล่ะ

ฝ่ามือของเขาอุ่นกว่าที่คาดไว้ และท่าทางของเขาที่ดูสนุกสนานและร้อนรนนั้น ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขอย่างมากจนปล่อยตัวไปตามธรรมชาติอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แวะร้านทำขนมระหว่างทางและทานขนมที่เขาทำเป็นครั้งแรก

เขาทะเลาะกับซอนเน่ซึ่งพบกันตั้งแต่ครั้งแรก

การเห็นท่าทีร้อนรนของเขามันสนุกมากเลยล่ะ และฉันเองก็ยังขอให้เขาเรียกฉันด้วยชื่อเล่น

และพอมาสังเกตดูฉันก็กลายเป็นคนที่อยู่เคียงข้างเขาซะแล้ว

ไอริสกอดฝ่ามือของเธอขณะจ้องมองมัน

ในวันที่ออกเดทกับโนโซมุ แค่จับมือข้างที่เขาจับมือฉันใจก็เต้นแรงและหัวใจก็อบอุ่นขึ้น

แต่ตอนนี้มันเพียงแค่ความเจ็บปวดที่ไหลผ่านหน้าอกของฉัน

ในขณะนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น และประตูก็เปิดออกพอมองไปก็เจอโซเมียในชุดนอนกำลังทำสีหน้าไม่สบายใจอยู่

「……พี่คะ」

「โซเมีย?」

「…………」

โซเมียยืนอยู่หน้าประตูครู่หนึ่งแต่แล้วก็รีบวิ่งไปหาพี่สาวของเธอด้วยฝีเท้าอันรวดเร็วและกระโดดเข้าอ้อมอกของฉัน

ไอริสกอดโซเมียและพยายามจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตัวเธอสั่นเทามาก

「……ไม่เป็นไรหรอกนะโซเมีย ไม่เป็นไรหรอก」

ไอริสลูบหลังของโซเมีย

กอดเธอเบาๆราวกับกำลังสะท้อนภาพของตัวเอง ฉันพยายามขจัดความกังวลใจของเธอให้ได้มากที่สุด

โซเมียเอาหน้าซุกมาในอกของฉันเพื่อสงบสติ เมื่อสงบสติได้เธอก็เงยหน้าขึ้นมา

อย่างไรก็ตามใบหน้านั้นยังคงแข็งทื่อ อาจเป็นเพราะยังกังวลอยู่

「พี่คะ เกี่ยวกับเรื่องของคุณโนโซมุ……」

หลังจากนั้นเองโซเมียก็ถามเรื่องของโนโซมุ

โซเมียกังวลว่าจะคืนดีกับโนโซมุได้ไหมเธอมาหาพี่สาวเพราะต้องการคำตอบที่แน่ใจ

ไอริสเองก็กังวล ถึงกระนั้นก็ลูบหัวน้องสาวของเธอเบาๆด้วยรอยยิ้ม พยายามสร้างความมั่นใจให้โซเมีย

「……ไม่เป็นไรหรอก จากคำบอกเล่าของซีน่า ดูเหมือนว่าโนโซมุกำลังรอพวกเราอยู่……」

ไอริสพูดกับโซเมียด้วยรอยยิ้ม ขจัดความกังวลในใจเธอ

ขณะพยายามสร้างความมั่นใจให้โซเมีย เธอก็บอกกับตัวเอง

「……แต่ว่าถ้าคุณโนโซมุคุงหายไปละคะ……」

「…………」

โนโซมุเองก็มีความสำคัญต่อโซเมียเช่นกัน

เป็นผู้มีพระคุณและเพื่อนสนิทของโซเมีย

เด็กสาววัยอายุ 11 ขวบที่กำลังมองหาโนโซมุที่ดูเหมือนพี่ชายของเธอ

เด็กสาวที่กลัวการสูญเสียครอบครัวคนสำคัญ

สำหรับเธอแล้วความวิตกกังวลที่โนโซมุหายไปนั้นใหญ่หลวง แม้แต่น้องสาวที่เยือกเย็นก็ยังกังวล

ไม่มีอีกแล้วล่ะ

ความรู้สึกแบบนั้นฝังในใจของไอริส

「ถ้าโนโซมุจะหายไปจริงๆละก็……」

การฝึกตอนเช้าที่ทำร่วมกัน ก็จะไม่มีอีกต่อไป

การที่ได้ทานข้าวด้วยกันตอนกลางวันกับเขาทำให้อาหารอร่อยกว่าปกติหลายเท่า

การที่เดินไปรอบๆเมืองด้วยกัน ช่วงเวลาที่ยิ้มออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

ทั้งหมดนั้นจะหายไป

ช่วงเวลาที่จินตนาการถึงอนาคตที่ไม่มีเขา มันช่างหนาวเหน็บเหลือเกิน ราวกับเกิดแผลใจขนาดใหญ่

(ไม่เอาหรอกนะ…เรื่องแบบนั้นน่ะ……)

ไม่เอาหรอก เรื่องแบบนั้น จะไม่ยอมให้เขาจากไปไหนอีกแล้ว! ฉันอยากให้เขาจะมาอยู่ข้างๆฉัน!

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับโนโซมุนั้นอาจจะหายไป

อย่างไรก็ตามอนาคตดังกล่าวฉันไม่ยอมรับมันหรอก

ความรู้สึกที่ไม่มีเขาอยู่มันก็เหมือนกับการไร้ซึ่งพลัง แรงบันดาลใจต่างๆในการใช้ชีวิตมันหดหายไปหมด

ใบหน้าวิตกกังวลของโซเมียตรงหน้าเธอ เธอเองก็อาจจะมีสภาพเช่นนั้นหากเขาจากไปจริงๆ เธอกอดโซเมียแน่นขึ้นและพยายามจะขจัดความมืดมิดในใจออกไป

「……โซเมีย แน่นอนเราไม่รู้หรอกว่าจุดจบจะเป็นยังไง แต่เราก็มีโอกาสไม่ใช่เหรอ」

「……พี่คะ」

ความปรารถนาที่ไม่อยากสูญเสียเขาอีกต่อไป มันเผาผลาญความกังวลใจไปจนหมด

นี่เป็นช่วงเวลาอันแสนสำคัญ

การต่อสู้ระหว่างความกลัวที่จะสูญเสียกับความเต็มใจที่จะปฏิเสธอนาคตเหล่านั้น มันจะจบลงด้วยเจตจำนงที่จะเอาชนะในสถานการณ์แห่งนี้

ด้วยหัวใจดวงเดียวนี้ไม่อยากจะสูญเสียความอบอุ่นที่อยู่ในเอื้อมมือนี้ ไอริสพูดต่อไปด้วยความจริงจัง

「ฉันจะไม่ยอมให้เขาได้หายไป…ฉันยังมีสิ่งที่ทำได้อยู่เพราะงั้นพวกเราจะไปหาโนโซมุกัน!」

บอกโซเมียถึงคนที่แสนสำคัญ และที่สำคัญที่สุดคือตัวฉันเอง

คราวนี้แหละจะต้องคุยกันให้รู้เรื่อง

ด้วยความมุ่งมั่นในใจเช่นนั้น ไอริสสาบานเช่นนั้นต่อหน้าน้องสาว

◇◆◇

ในป่าที่แม้แต่แสงจันทร์ยังไม่ส่องแสง ยักษ์ตัวหนึ่งที่ขนาดเท่าบ้านนอนอยู่บนพื้น

ศพที่ซีดเซียวและกลิ่นเน่าเสีย

ดวงตาที่ดูแวววาวตลอดช่วงเวลามีชีวิต ถูกขูดออกไปอย่างไร้ความปราณี คอขาดและนอนราบบนพื้น

มังกรที่มีความขัดแย้งกับความเป็นและความตาย ถูกผูกมัดไว้ด้วยความหิวกระหาย บัดนี้เป็นอิสระจากความทุกข์ทรมานอย่างแท้จริง

เดิมทีมันจะไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไปและควรเป็นอาหารของสัตว์ตัวอื่นๆ

อย่างไรก็ตามมีเงาหนึ่งเคลื่อนตัวอยู่ข้างศพ

บุคคลลึกลับที่สวมหมวกคลุมศีรษะ เมื่อสัมผัสร่างของมังกรด้วยมือของเขา ร่างกายก็ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีขาว

เมื่อแสงสว่างเข้าปกคลุมร่างอันแสนมืดมิด ร่างของมังกรก็ลุกขึ้นอีกครั้ง

ซากศพที่บิดเบี้ยวกำลังขยับเขยื้อนเหมือนกำลังยืดเส้นยืดสาย

เมื่อแสงสีขาวโอบรอบหลังของมัน ปีกที่หายไปก็ได้รับการฟื้นฟู

คอที่ควรจะขาดไปก็อยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น

ในทีสุดการเต้นของหัวใจก็สงบลง และท่าทีอันสงบนิ่ง ดวงตาก็เบิกกว้าง ตัวมันฟื้นคืนมาอีกครั้ง

ชายสวมหมวกคลุมหน้าและมังกรเผชิญหน้ากัน

ไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของบุคคลนั้นได้ อย่างไรก็ตามมังกรเองก็ไม่โจมตีเช่นกัน

เป็นเพราะคนตรงหน้าชุบชีวิตมันขึ้นมา มีเหตุผลใดอื่นอีก?

อย่างน้อยแม้ดวงตามันจะไร้ซึ่งแสงสว่างแห่งชีวิต แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ตัวมันก็ไม่ได้ดูอิดโรยเหมือนแต่ก่อน

「…………」

「…………」

ปากของคนสวมหมวกคลุมหน้าขยับ มังกรที่จ้องมองไปก็กางปีกบนหลังและออกบินไป

บุคคลคนนั้นยืนอยู่เพียงลำพังโดยมองมังกรแห่งความตายบินออกไป

◇◆◇

ช่วงเปลี่ยนของวัน โนโซมุยังคงเหวี่ยงดาบอยู่หน้ากระท่อมของชิโนะ

ดาบของอาจารย์และแผ่นจารึกที่วางฝังศพอยู่หน้ากระท่อม โนโซมุทำซ้ำๆแบบนั้นราวกับถูกอาจารย์จับจ้องอยู่

ทั้งร่างกายยังคงเหนื่อยล้า และแม้ว่าร่างกายจะหนักเหมือนท่อนเหล็ก แต่หัวใจเขาก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง

「ฮ่าห์!」

เขาฟาดดาบลงไปและลมก็พัดผ่านหน้าเขา

กลิ่นของต้นไม้และกลิ่นของพื้นดิน

เสียงลมที่ดังขึ้นทุกครั้งที่ฟาดดาบลงไป โนโซมุรู้สึกพึงพอใจที่จะขจัดมันไปพร้อมกับความกลัวและความกังวลเหล่านั้น

สองสามเดือนที่แล้วผมสู้กับอาจารย์ที่นี่และยอมรับในสิ่งที่เธอเป็น แม้ว่าเวลาจะผ่านไปได้ไม่นาน โนโซมุก็รู้สึกเหมือนยาวไกล

แม้ว่าจะสาบานกับตัวเธอไว้ว่าจะไม่ละเลยความจริงแม้ว่าตัวเองกำลังหนีอยู่ก็ตาม

ความกังวลเกี่ยวกับพลังอันแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดที่อยู่ในใจของตัวเอง มันฝังแน่นอยู่ในใจของโนโซมุมาโดยตลอด

จะเกิดอะไรขึ้นหากทุกคนรู้ว่าตัวเองเป็นดราก้อนสเลเยอร์…จะเกิดอะไรขึ้นหากควบคุมพลังไม่ได้……。

ความกังวลดังกล่าวยิ่งพองโตขึ้นด้วยข้อเท็จจริงเหล่านั้น และตัวเขาเองที่ปลดปล่อยพลังเหล่านั้นมาเพราะความโกรธ

ความวิตกกังวลวเพิ่มขึ้นทุกวันและความเข้าใจผิดระหว่างพวกไอริสทำให้เกิดช่องว่างระหว่างพวกเขา โนโซมุไม่สามารถเปิดเผยความลับเหล่านั้นได้ เหล่าสาวๆเองก็ไม่กล้าตั้งคำถามกับเขา

มันเป็นเส้นแบ่งที่ทั้งสองฝ่ายไม่เคยข้าม และรอยแยกระหว่างทั้งสองก็ยิ่งใหญ่มากขึ้น

และคราวนี้ก็ถึงคราวแตกหัก ถ้าคิดตามปกติแล้วโนโซมุที่ลังเลจะใช้พลังขนาดนั้น มาร์ที่ควบคุมพลังไม่ได้ก็ทำให้เกิดการทะเลาะกัน

「แต่ซีน่าและคนอื่นๆก็ก้าวผ่านมันมาได้แล้ว……」

สิ่งที่ฟื้นคืนเข้ามาในจิตใจของโนโซมุคือซีน่าและคนอื่นๆ ที่เคยทำผิดพลาดในครั้งก่อนเช่นเดียวกับโนโซมุ

มิมุรุที่ขาดความสงบเพราะเห็นคนรักบาดเจ็บ ซีน่าเองก็แสดงความเกลียดชังและความแค้นต่อสัตว์อสูรสีดำ

มันเป็นสถานการณ์อันแสนเลวร้ายแต่ท้ายที่สุดก็ก้าวผ่านมันมาได้

โนโซมุอิจฉาพวกเขาที่ดูแพรวพราวดั่งดวงดาว

「ถ้าผมใช้พลังนั่นในตอนนั้น」

เมื่อวานนี้โนโซมุซึ่งแอบไปฝึกคนเดียวที่เขตชานเมืองก็ได้คำพูดของซีน่าช่วยเขาเอาไว้

เธอบอกว่าไม่สามารถคืนดีกับมิมุรุและทอมได้หากไม่มีโนโซมุ หากโนโซมุใช้พลังของดราก้อนสเลเยอร์ก็ไม่มีโอกาสแบบนั้นเกิดขึ้น

“ฉันรู้สึกขอบคุณนายจริงๆ ต้องขอบคุณที่ทำให้ฉันกับมิมุรุและเหล่าวิญญาณคืนดีกันได้”

ซีน่าขอบคุณตัวโนโซมุที่ไม่ได้พยายามจนถึงที่สุด

และอันริที่อยู่เคียงข้างผม เฝ้ามองด้วยสีหน้าเหมือนเช่นเคย

“ฉันอยากจะช่วยนาย”

“ไม่เป็นไรหรอกน้า~。โนโซมุคุง”

และความอบอุ่นที่พวกเธอมอบให้กับผม

คำพูดของพวกเธอและความอบอุ่นเหล่านั้นทำให้โนโซมุรู้สึกตัวถึงความรู้สึกผิดของตัวเอง และทำให้ตัวเขากล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง

「เซย์!」

ดาบคมแกะสลักเส้นภายในอากาศ ระบำดาบที่ดูมีชีวิตชีวาแตกต่างจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง

มีทุกๆคนอยู่เคียงข้างผม

ความปิติเหล่านั้นทำให้โนโซมุก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแน่วแน่ กล้ามเนื้อและร่างกายผสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ

ดาบที่ฟันลงไปฟาดฟันสิ่งกีดขวางทั้งหมด ตอนนี้ดวงตาของเขาแม้จะมีความกังวล แต่ก็พร้อมสำหรับการที่จะเดินไปข้างหน้าแล้ว

「……ฮ่าห์」

โนโซมุฟันดาบต่อไปโดยไม่หยุดนิ่ง อย่างไรก็ตามดาบที่ฟาดฟันนั่นสั่นเล็กน้อย

ท้ายที่สุดแล้วความเหนื่อยล้าที่สะสมในร่างกายก็เริ่มมาถึงขีดสุด

“กำลังทำอะไรอยู่! ข้าจำไม่เห็นได้เลยว่าเคยสอนดาบเจ้าไปแบบนั้น!!”

ทันใดนั้นเสียงของชิโนะก็ดังก้องขึ้นมาในหัวของเขา

เสียงโกรธของเธอที่ไม่เคยหยุดเลยยามที่ฝึกที่นี่ แน่นอน เธอไม่ยอมให้อยู่เฉยๆ โนโซมุจ้องมองไปที่แผ่นจารึกฝังศพนั่น

「……รับทราบครับอาจารย์ ผมจะทำมันให้ถูกต้องเพราะฉะนั้นได้โปรดเลิกลงโทษทางวินัยทีเถอะครับ……」

แม้จะรู้ว่าเธอจากไปแล้ว แต่โนโซมุก็พูดคุยกับแผ่นจารึกฝังศพของเธอ

“ถ้างั้นก็รีบแสดงให้เห็นซะ! ครั้งต่อไปจะไม่เตือนด้วยปากแล้วนะ!!”

ด้วยเหตุผลบางอย่างโนโซมุเหมือนกับเห็นภาพของอาจารย์ที่หยิบดาบขึ้นมาด้วยท่าทางยินดี

「……อาจารย์ครับ อย่าคิดจะฆ่าลูกศิษย์ตัวเองเชียวนะ……」

ใบหน้าของโนโซมุสั่นไหว เตือนให้เขานึกถึงภาพจำที่เคยเห็นในอดีต

อย่างไรก็ตาม ผมเองก็ยังจำภาพการลงโทษที่ไร้เหตุผลได้มาโดยตลอด ก่อนที่จะรู้ตัวก็มีความเศร้าโศกปกคลุมตัวโนโซมุ

◇◆◇

โนโซมุกวัดแกว่งดาบอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ยังรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าที่สะสมอยู่

มันทำให้นึกถึงสถานที่แห่งนี้ตอนที่ชิโนะสารภาพเรื่องราวของตัวเองว่าโดนพี่สาวทรยศ

ชิโฯะฟันโนโซมุด้วยแฟนท่อม และมีใบหน้าที่กำลังจะร้องไห้แม้จะถูกพายุอันรุนแรงโหมกระหน่ำ

เธอเสียใจมากที่ไม่สามารถถ่ายทอดสิ่งที่เธอคิดออกมาได้ และเสียใจกับตัวโนโซมุที่จะละทิ้งชีวิตตัวเอง

「ใช้เวลานานมากเลยนะ……กว่าผมจะรู้ตัว……」

ชิโนะตระหนักถึงได้ถึงอายุขัยของตัวเอง เธอพยายามถ่ายทอดทุกสิ่งให้โนโซมุด้วยเวลาที่เหลืออยู่น้อยนิด

เธอตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับโนโซมุ แต่เบื้องหลังของเธอก็คือการยอมรับอดีตที่ตัวเธอหนีตลอดมา ไม่งั้นใบหน้าคงไม่เต็มไปด้วยความเศร้าเช่นนั้น

มนุษย์ทุกคนต่างกังวลที่จะเปิดเผยอดีตของตัวเองและความลับที่พวกเขาต้องการจะปิดบัง

เธอยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อถ่ายทอดความคิดเหล่านั้นให้ศิษย์ของตน

「ผมคงไม่สังเกตเห็นถ้าอันริไม่ได้ถามผม……」

โนโซมุจำได้ว่าทำไมเขาถึงยอมรับตัวตนของชิโนะได้ เพราะ เธอถามโนโซมุเกี่ยวกับชิโนะเพื่อจะตรวจสอบเรื่องราวต่างๆ

ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งนั้น ครั้งนี้ผมจะพูดด้วยตัวเอง

หลังจากทั้งหมดที่มีความวิตก ยังมีความกลัว

ถึงอย่างนั้นความอบอุ่นและคำพูดของทั้งสองคนยังคงอยู่คอยสนับสนุนตัวผมที่เป็นอยู่

「จะหนีไปก็ไม่ได้ตลอดหรอก……」

ความกังวลที่เธอมีขณะนั้นเธอถ่ายทอดทุกสิ่งทุกอย่างให้โนโซมุได้ฟัง

แต่เธอก็ก้าวไปข้างหน้า

เพื่อถ่ายทอดคำพูดสุดท้ายแก่โนโซมุ และเหนือสิ่งอื่นใด ต้องการให้ยอมรับตัวตนอันแท้จริงของตัวเธอเอง

「ถ้ายังงั้นผมเองก็ต้องก้าวหน้าต่อไป……」

มันถึงเวลาแล้วที่ต้องบอกความจริง ผมคงจะปิดบังต่อไปตลอดไม่ได้ การต่อสู้กับมังกรแห่งความตายมันสร้างความลำบากให้กับพรรคพวกมากขนาดนั้น

「ไอริสรู้ว่าผมมีพลังเหล่านั้นแต่ไม่รู้ว่าพลังเหล่านั้นคืออะไร……」

ไอริสและคนอื่นๆรู้ว่าเขามีพลัง แต่ไม่รู้ว่าเป็นพลังของดราก้อนสเลเยอร์

พวกเขาจะให้คำตอบแบบไหนหากรู้ถึงพลังที่แท้จริงของผม……。

「บางทีอาจจะถูกปฏิเสธ….แต่กังวลไปก็ไม่ได้อะไร….ยังไงผมก็จะก้าวหน้าต่อไปครับอาจารย์……」

ชิโนะบอกว่าอย่าละเลยความเป็นจริง เขาเดิมพันกับชีวิตที่หลบหนีมาตลอดและพยายามจะบอกความจริงทั้งหมดที่เก็บซ่อนเอาไว้

「แค่คุยอย่างเดียว..มันไม่พอหรอก……」

แค่บอกว่าเป็นดราก้อนสเลเยอร์มันยังไม่พอ ไม่รู้หรอกว่าพวกเขาจะเข้าใจถึงแก่นแท้ของคำพูเหล่านั้นมากแค่ไหน ที่มาคือความกลัวที่อยู่ในส่วนลึกของพลังนั่น

「……ต้องถามว่าตอนนี้ผมจะปลดปล่อยมันได้ไหม?」

ความคิดเมื่อวานแล่นเข้ามาในหัว

ต่อหน้าเพื่อนที่ตกอยู่ในอันตราย เขาพยายามปลดปล่อยพลัง แต่ว่าโซ่มันไม่พังทลาย

「แต่ว่าครั้งนี้….มันไม่เหมือนกับครั้งก่อน จะต้องทำให้ได้……」

โนโซมุตั้งสมาธิอีกครั้ง พุ่มไม้รอบๆต่างสั่นสะเทือน

「……มาแล้วเหรอ」

ไม่จำเป็นต้องหันหลังกลับเขารู้ได้ว่าพวกเขามาแล้ว ไม่เจอกันวันเดียวแต่เหมือนห่างหายกันไปนาน

โนโซมุหันหลังกลับช้าๆก็พบกับเพื่อนที่สถาบัน….ไม่สิเหล่าคนที่จะกลายเป็นเพื่อนแท้ของผม