ตอนที่ 164 ต้องฟังที่ฮูหยินบอก
อวี้ชิงลั่วหมุนกายกลับมา รับถ้วยยาที่สาวใช้คนนั้นยื่นมาให้
สาวใช้คนนั้นแสดงท่าทางเคารพนอบน้อม มุมปากปรากฏรอยยิ้มอย่างอ่อนโยนขณะยื่นถ้วยให้อย่างระมัดระวัง
ตอนที่มือของทั้งคู่สัมผัสกัน จู่ ๆ มือของสาวใช้คนนั้นก็เอียงเล็กน้อย มือทั้งสองข้างยื่นออกมา ถ้วยใบนั้นจึงหกมาทางฝั่งอวี้ชิงลั่ว ยาสีดำเข้มที่อยู่ในถ้วยจึงทำท่าจะเทราดใส่เสื้อผ้าของนาง
มุมปากของหลี่หรานหร่านกระตุกยิ้มเบา ๆ ใบหน้าที่ดูอ่อนแอดูเหมือนจะมีสีแดงระเรื่อขึ้นอย่างช้า ๆ
เพียงแต่ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ นิ้วมือของอวี้ชิงลั่วกลับกดไปที่ด้านล่างของถ้วยเบา ๆ ถ้วยที่เอียงอยู่จึงพลิกไปอีกด้านหนึ่งในทันที มันหล่นและแตกกระจายอยู่ข้างเท้าของสาวใช้ผู้นั้น
“กรี๊ด…” เสียงกรีดร้องดังขึ้น สาวใช้คนนั้นถอยหลังไปสามก้าวตามสัญชาตญาณ เบิกตาโตด้วยความตกตะลึง มองดูยาที่เลอะอยู่บนรองเท้าปัก กระโปรงและพื้นด้วยเนื้อตัวสั่นเทา
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว มองดูยาที่กระเซ็นมาโดนนางส่วนหนึ่ง จึงลุกขึ้นยืนและพูดอย่างโกรธเคือง “เป็นอะไร? แม้แต่ถือถ้วยยายังถือไว้ไม่ได้? หากวันนี้ยาถ้วยนี้เป็นยาใช้ช่วยชีวิตเจ้านายของเจ้า เจ้าจะชดใช้ได้รึ?”
ฮูหยินใหญ่ชะงัก เพียงไม่นานก็ถูกเสียงของอวี้ชิงลั่วดึงสติกลับมา นางก้าวเท้ามาด้านหน้าและเหยียบลงบนเท้าของสาวใช้ผู้นั้น “ทำให้มันดี ๆ หน่อย เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ยังทำได้ไม่ดี เก็บเจ้าไว้จะไปมีประโยชน์อะไร?”
“นั่นสิ เรื่องนี้หากอยู่ในวัง…ในเรือนของข้า สาวใช้ผู้นี้คงได้ถูกลากตัวออกไปทิ้งแล้ว” อวิ้ชิงลั่วแค่นเสียงเย็น ลุกขึ้นยืนเล็กน้อย พลังที่อยู่บนตัวของนางช่างน่าทึ่ง น้ำเสียงเย็นชานั้นกลับทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกได้ถึงความสูงส่ง
ฮูหยินใหญ่หูผึ่ง ครั้นได้ยินอวี้ชิงลั่วพูดว่า ‘วัง’ สิ่งนี้ก็ยิ่งทำให้นางมั่นใจได้ว่าแม่นางชิงผู้นี้ต้องเป็นคนในราชวงศ์เป็นแน่ ยิ่งทำให้นางชักสีหน้าใส่สาวใช้ผู้ทำตัวโง่เขลาสร้างความอับอายให้ตระกูลอวี๋
“ยังไม่เก็บกวาดของที่พื้นให้สะอาดอีก? มัวยืนเหม่ออะไรอยู่ หรือต้องให้ข้าสอนเจ้าว่าต้องทำอย่างไร?”
“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ ขอโทษเจ้าค่ะฮูหยิน ขอโทษเจ้าค่ะแม่นางชิง ข้าน้อยจะเก็บกวาดเดี๋ยวนี้” สาวใช้คนนั้นคิดไม่ถึงว่าไม่เพียงแต่จะไม่เป็นไปตามแผนที่นางและหลี่หรานหร่านวางไว้ แต่กลับดำเนินไปในทิศทางตรงกันข้าม บนตัวของแม่นางชิงผู้นี้ไม่เพียงแต่จะไม่เปื้อนยา แต่ยังตำหนิสั่งสอนนางอย่างหนักด้วย
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจออกมาอย่างเนิบช้า หันมามองฮูหยินใหญ่ “ฮูหยิน เมื่อครู่ข้าเสียมารยาทจริง ๆ ท่านอย่าได้ถือสาที่ข้าพูดมากเกินไป ข้าเป็นหมอ ด้วยเหตุนี้จึงให้ความสำคัญกับยาและคนไข้ ไม่กล้าแม้แต่จะผ่อนปรนแม้แต่น้อย พอได้เห็นคนทำถ้วยยาหก จึงเกิดโทสะขึ้นในใจ ทำให้ลืมตัว”
“แม่นางชิงพูดอะไรเช่นนี้ สาวใช้ในจวนพวกเราทำตัวไม่ได้เรื่องเอง ทำให้ท่านเกือบถูกน้ำร้อนลวกจนได้รับบาดเจ็บไปด้วย” เดิมทีฮูหยินใหญ่คิดว่าแค่นี้ก็เสียหน้าแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังอยู่ต่อหน้าแม่นางชิงที่อาจจะเป็นองค์หญิงผู้สูงศักดิ์อีก นางจึงถลึงตาใส่สาวใช้ที่กำลังเก็บเศษถ้วยบนพื้น กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เรื่องเล็ก ๆ ยังทำได้ไม่ดี หลังจากนี้จะดูแลคุณหนูได้อย่างไร? ร่างกายของคุณหนูก็ไม่แข็งแรง มีสาวใช้ซุ่มซ่ามแบบเจ้าอยู่ข้าง ๆ มีแต่จะทำให้นางหงุดหงิด ฟางซานเจ้าไปเลือกสาวใช้มาสักคน แล้วก็ฝึกฝนนางให้ดี”
ครั้นกล่าวจบ หางตาของฮูหยินใหญ่จึงเหลือบมองอวี้ชิงลั่วเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าสายตาของนางอ่อนโยนลง ราวกับว่าพึงพอใจกับวิธีการแก้ปัญหาเช่นนี้ ภายในใจจึงรู้สึกดีใจไปด้วย
หลี่หรานหร่านเงยหน้าขึ้นทันใด เดิมทีนางอยากให้สาวใช้ของตนเองรีบออกไปหลังจากเก็บเศษถ้วยเสร็จ ใครจะไปคิดว่านางจะถูกฮูหยินคัดออก จึงรีบลุกขึ้นมาทำท่าจะนั่งด้วยความรีบร้อน
“แม่นางชิง สาวใช้ในเรือนของข้าไม่รู้ความ โปรดท่านให้อภัยด้วย นาง…”
“คุณหนูอวี๋ ร่างกายของท่านยังไม่แข็งแรง เอนตัวนอนอย่างระมัดระวังเถิด” อวี้ชิงลั่วไม่เปิดโอกาสให้นางได้พูด รีบโน้มตัวประคองให้นางเอนตัวนอน ออกแรงบนฝ่ามือเล็กน้อย ทว่าใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูอวี๋ ความหมายของท่านคืออะไรข้าย่อมเข้าใจ ข้าไม่โทษนางหรอก แต่ฮูหยินใหญ่พูดถูก ตอนนี้ร่างกายของท่านยังอ่อนแอ มิอาจปล่อยให้เกิดเรื่องถ้วยชาตกแตกเช่นนี้ได้อีก มิเช่นนั้นคงทำให้อาการเจ็บปวดยืดเยื้อออกไป แบบนั้นจะทรมานมากเพียงใด?”
“…” หลี่หรานหร่านอ้าปากค้าง ถูกคำพูดของอีกฝ่ายพูดใส่จนพูดไม่ออก “แต่แม่นางชิง ข้าชินกับสาวใช้คนนั้นแล้ว นาง…”
“หรานหร่าน” ฮูหยินใหญ่สีหน้าเคร่งขรึม เมื่อเห็นนางยังคิดจะสร้างปัญหาให้มากขึ้น จึงกล่าวตำหนิเบา ๆ “ตอนนี้เจ้าเป็นคนป่วย คนป่วยก็ต้องเชื่อฟังคำพูดของหมอ”
“เจ้าค่ะ” หลี่หรานหร่านขบฟันแน่น ทำได้เพียงแค่ขานตอบอย่างเชื่อฟัง
อวี้ชิงลั่วแย้มยิ้ม “คุณหนูอวี๋ อย่าขยับตัว ข้าจะตรวจชีพจรให้ท่านเอง”
“หา?” หลี่หรานหร่านชะงัก ทั้งยังแอบต่อต้าน เมื่อครู่นางต้องการให้สาวใช้ราดยาใส่ตัวของอวี้ชิงลั่ว เพื่อนำตัวนางเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องเปลี่ยนชุดระหว่างนั้นก็จะได้พูดโน้มน้าวใจเพื่อเก็บเรื่องโรคที่ตนเองป่วยเป็นความลับ ถึงอย่างไรนางก็มิอาจเปิดเผยเรื่องภาวะตั้งครรภ์ยากได้ มิเช่นนั้นนางจะมีจุดยืนอยู่ในตระกูลอวี๋แห่งนี้ได้อย่างไร?
หลี่หรานหร่านซื้อตัวหมอเจียงแล้ว นางไม่เชื่อว่าตนเองจะซื้อตัวหมอปีศาจผู้นี้ไม่ได้ หากสตรีผู้นี้ยืนอยู่ข้างตนเอง ถึงเวลานั้นนางก็สามารถใช้เหตุผลว่ารักษาร่างกายให้หายได้แล้ว หลังจากรักษาจนหายดีก็แสร้งทำเป็นตั้งครรภ์ เมื่อตั้งครรภ์ครบสิบเดือนค่อยให้คนไปอุ้มเด็กกลับมา นั่นต่างหากคือวิธีการที่ดีต่อทั้งสองฝ่าย
ทว่าผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่เป็นไปตามแผนการของนาง สิ่งนี้ทำให้หลี่หรานหร่านเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจ นางหันหน้ามองไปยังสาวใช้ข้างกายที่ยืนร้อนใจอยู่ข้างเตียงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ขดตัวกลับเข้าไปในเตียงพร้อมกับยิ้มเจื่อน “แม่นางชิง เมื่อครู่ทำให้ท่านตกใจแล้ว อันที่จริงข้าเองก็แอบรู้สึกเสียใจอยู่เหมือนกัน ให้ข้าสั่งให้คนไปจัดเตรียมสถานที่ให้ท่านพักผ่อนสักคืนดีหรือไม่ วันพรุ่งหลังจากมีชีวิตชีวาขึ้นแล้ว ค่อยตรวจอาการข้าก็ยังไม่สาย”
อวี้ชิงลั่วไหนเลยจะไม่รู้ถึงสิ่งที่นางคิดอยู่ในใจ เมื่อเห็นท่าทางกระวนกระวายของอีกฝ่ายเช่นนี้ ภายในใจของนางก็ยิ่งเกิดความสงสัย
หลังเลิกแขนเสื้อที่อยู่บนข้อมือขึ้นเล็กน้อย อวี้ชิงลั่วก็ยิ้มอย่างใจกว้าง “ไม่เป็นไร ตกใจแค่เล็กน้อยไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร คุณชายอวี๋ร้อนใจเกี่ยวกับโรคของคุณหนูอวี๋มาก ข้าเองก็ทำใจไม่ได้ที่ต้องเห็นเขาออกไปวิ่งเต้นจนเหนื่อย ดังนั้นให้ข้าดูอาการให้คุณหนูก่อนเถอะ”
ทำใจไม่ได้? หลี่หรานหร่านถึงกับใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ สัญชาตญาณของสตรีทำให้นางความระแวดระวังจนถึงจุดสูงสุดในทันที
ตอนที่กำลังชะงัก ข้อมือของนางก็มาอยู่ในมือของอวี้ชิงลั่วแล้ว นิ้วมือของนางจับลงบนชีพจรของหลี่หรานหร่าน
หลี่หรานหร่านถึงกับหน้าเปลี่ยนสี เกิดอาการใจเต้นแรงราวกับกลอง ในสมองไม่มีความคิดใด ๆ แล้ว เอาแต่จ้องมองอวี้ชิงลั่วด้วยความตื่นตระหนก จากนั้นก็เริ่มตรึกตรองว่าจะปิดปากของอวี้ชิงลั่วอย่างไร หรือหลังจากที่นางพูดออกมา นางจะคิดหาวิธีเพื่อพูดอ้อมค้อมออกไปอย่างไร อย่างน้อย ๆ ก็มิอาจปล่อยให้ฮูหยินใหญ่ได้ยิน
การแสดงออกของอวี้ชิงลั่วเป็นไปอย่างเชื่องช้าสบาย ๆ นางเงยหน้าขึ้นมา เมื่อเห็นสีหน้าหลี่หรานหร่าน ภายในใจก็รู้สึกสะใจอย่างมาก
ฮูหยินใหญ่กลับรู้สึกประหม่า ภายในใจเริ่มเกิดความขัดแย้ง พูดตามจริง นางและหลี่หรานหร่านรู้จักกันมานานขนาดนั้น นางยังคงพอใจกับอนุภรรยาผู้นี้ซึ่งกตัญญูและจะทำให้ลูกชายของนางพึงพอใจ ทว่าตอนนี้นางถูกใจแม่นางชิงเข้าแล้ว เพราะรู้สึกได้ว่าสถานะของนางสูงส่งเกินกว่าจะมีใครทัดเทียม ย่อมต้องทำให้ลูกชายของนางเกิดความรุ่งโรจน์อย่างไม่เคยมีมาก่อนได้ ดังนั้นต่อให้หลี่หรานหร่านป่วยหนักรักษาไม่หายก็ดีเหมือนกัน
บรรยากาศภายในห้องเริ่มเกิดความตึงเครียดทันใด ทุกคนจ้องมองอวี้ชิงลั่วด้วยความตึงเครียดท่ามกลางกลิ่นยาที่ฟุ้งกระจาย
ผ่านไปครู่หนึ่ง อวี้ชิงลั่วจึงดึงมือกลับมา…
………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
อะไรที่ปลอมมันดูออกนะคะ ยิ่งแก้ตัวยิ่งโป๊ะนะนังหรานหร่าน
ไหหม่า(海馬)