ลู่เฟิงที่อยู่หน้าขบวนกองทัพได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากทางด้านหลัง คนพวกนี้บ้าหรือป่าว คิดว่าเขาโง่ขนาดที่จะไม่ระวังตัวเองเลยหรือยังไง?

เป็นธรรมดาที่คนเหล่านี้กำลังมองหาความตาย

ทันใดนั้นเมิ่งเถียนก็ออกคำสั่งทันทีพลธนูหลายหมื่นคนได้ปล่อยยิงลูกศรออกมา

ฝนลูกศรได้เทลงไปที่กองทัพของอาณาจักรซีหยางที่พุ่งเข้ามาใกล้ ลู่เฟิง จากการคำนวณมีผู้เสียชีวิตประมาณ 5,000 คน

กองทัพทั้งหมดได้ตกอยู่ในความโกลาหล

ลู่เฟิง ได้มาถึงกองทัพหลักของเขา เขายืนอยู่บนรถม้าสูงและมองไปที่ข้างหน้าด้วยสายตาเศร้าสร้อย”ชูจิน ช่างเป็นสวะ โดยแท้ เสียดายชีวิตของทหารเหล่านี้ยิ่งนัก”

เมิ่งเถียน ยิ้มออกมา”ฝ่าบาท แม้ว่ากองทัพ 1.5 ล้านคนนี้จะไม่ใช่กองทัพที่มากประสบการณ์การต่อสู้ แต่พวกมันก็นับเป็นภัยคุกคามสำหรับเรา สิ่งที่เราได้เปรียบมากที่สุดก็คือการกระจัดกระจายตัวของพวกเขา”

“คนเหล่านี้ ถูกเรียกรวมตัวมา เป็นธรรมชาติที่พวกเขาอาจจะไม่เข้าใจรูปแบบกองทัพ ดังนั้นแนวการจัดตั้งของพวกเขาก็คือกองทัพหลักแบ่งออกเป็นกองทัพย่อยกองละ 100,000 นาย”

ลู่เฟิง ได้พยักหน้าและตอบกลับ”พยายามอย่าสู้ประจันหน้ากับพวกเขามากเกินไป ใช้ลูกศรของเราและเกาทันฑ์ที่เตรียมมาทั้งหมด จัดการคนเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด”

“ฝ่าบาท แต่ทว่า พวกเขาก็มีมันเช่นเดียวกัน สู้ให้ข้านำทหารม้าไปจัดการคนเหล่านี้ก่อนดีหรือไม่?”ลิโป้ ได้กล่าวท้วงอยู่ด้านหลังของ ลู่เฟิง

ลู่เฟิงได้สั่นศีรษะ”ทหารม้าเป็นอาวุธไพ่ตายของเรา หากมีอุบัติเหตุเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาก่อนจะทำให้กองทัพของเราเสียหายอย่างหนัก”

“เข้าใจแล้วขอรับ!”

แม้ว่า ลิโป้ ต้องการนำทัพของเขาออกไปประจัญหน้าศัตรู แต่เขายังคงต้องฟังคำสั่ง

ชูจิน ยังคงสั่งทหารของเขาให้โจมตีต่อไป แต่ทหารที่วิ่งเข้ามาก็ถูกพลธนูยิงเสียชีวิต

แน่นอนว่ามีผู้โชคดีที่รอดชีวิตจากฝนลูกศรได้แต่พวกเขาก็ต้องมาถูกเครื่องยิงเกาทันฑ์ที่มีมากกว่า 100 อัน สุ่มยิงจากพื้นที่ราบเรียบ

สถานการณ์๖อนนี้ ได้กินเวลาไปถึงครึ่งชั่วโมงเต็ม

ภายในครึ่งชั่วโมง ทหารในมือของ ชูจินจำนวนมาก ได้ถูกสังหารลง

ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หน้ากองทัพของลู่เฟิง ทุกครั้งที่พวกเขาพุ่งไปด้านหน้าจะถูกยิงกลับด้วยเครื่องยิงเกาทันฑ์

จากการคำนวณของพวกเขามีทหารสูญเสียไปมากกว่า 100,000 นายแล้ว

ลู่เฟิง ขมวดคิ้วแน่น ชูจิน ผู้นี้ โง่เง่าขนาดนี้เลยหรือไม่?รู้ว่าดึงดันบุกเข้ามาเองก็สู้ไม่ได้ยังจะส่งทหารมาตายแบบฟรี ๆ อีก

เป็นไปได้หรือไม่ว่าอีกฝ่ายไม่ได้วางแผนอะไรสำหรับการเดินทัพและต่อสู้?

ขณะเดียวกัน บรรดาผู้นำตระกูลขุนนางได้มาคุกเข่าขอร้องจำนวนมาก”ฝ่าบาทได้โปรดสั่งให้พวกเราถอยทัพออกมาก่อนเถอะพะยะค่ะ ไม่งั้น คนของเราได้จบสิ้นกันหมดแน่”

“ฝ่าบาทได้โปรดถอนทัพเถอะพะยะค่ะ!”

เหล่าคนที่ถูกฆ่าเหล่านี้ ล้วนเป็นเลือดเนื้อที่ตระกูลขุนนางเหล่านี้ฟูมฟักเลี้ยงดูมา กว่าจะมีการฝึกฝนเท่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คนเหล่านี้กลับถูกสังหารด้วยธนูและเครื่องยิงเกาทันฑ์โดยตรง หัวใจของพวกเขารู้สึกปวดเจ็บรวดร้าว

ชูจิน มองไปที่ รัฐมนตรีรอบ ๆ ตัวเขา พวกเขาเป็นผู้นำตระกูลขุนนาง แน่นอนว่า ทหารส่วนตัวเหล่านี้ก็เป็นคนของเขา เขาไม่อาจปล่อยให้มันสูญเสียภายใต้พลธนูของ ลู่เฟิงได้

ชูจินได้โบกมือขึ้นและตะโกนเสียงดัง”กองทัพทั้งหมดถอยทัพ!”

เดิมเขาต้องการให้ทหารส่วนตัวเหล่านี้บุกเข้าไปรับลูกศรของลู่เฟิงจนอีกฝ่ายเหลืออาวุธไม่ถึงครึ่งจากนั้นเขาค่อยบุกโจมตีอย่างหนัก

อย่างไรก็ตามเขาลืมสิ่งหนึ่งไป

การบาดเจ็บล้มตายเหล่านี้ ทหารของเขายังจะมีจิตวิญญาณต่อสู้ที่จะบุกฝ่าไปหลงเหลืออยู่อีกงั้นเหรอ

หากเขาดื้อดึง และ ตระกูลขุนนางเหล่านี้ทำรัฐประหารขึ้นมามันจะกลายเป็นเรื่องลำบากสำหรับเขา

การสูญเสียเท่านี้นับว่าเพียงพอแล้ว

เขารีบสั่งให้กองทัพถอนตัวและคิดว่าจะกลับไปวางแผนใหม่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เมิ่งเถียน จะพลาดโอกาสดี ๆ เช่นนี้ไปได้อย่างไร

“กองทัพทั้งหมดฟัง!”

เมิ่งเถียน ได้ตะโกนเสียงดัง”บุกฆ่าศัตรู อาบเลือดของศัตรูด้วยคมดาบของพวกเจ้า!”

“ฆ่า!”

ทันใดนั้นกองทัพแนวหน้าก็ถือโล่ขึ้นมาและพุ่งเข้าไปทีละก้าว

ชูจิน เห็นเช่นนั้นก็สั่งให้พลธนูยิงสกัดทันที”ปล่อยลูกศรพลังปราณ!”

อย่างไรก็ตาม กองทัพที่พ่ายแพ้และกำลังถอนทัพเหล่านี้จะมีเวลาเตรียมลูกศรพลังปราณได้มากน้อยแค่ไหนกัน?

ในทางกลับกัน เมิ่งเถียน ได้สั่งให้คนของเขาค่อย ๆ รุกทีละคืบ และ ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง แม้ศัตรูจะมีเวลาตอบโต้ แต่ก็ไม่อาจขัดขวางกอทัพได้

ด้วยจำนวนคนที่มากกว่า ย่อมบัญชากการกองทัพได้ยากเป็นธรรมดาอยู่แล้ว และยิ่งเกิดความโกลาหลด้วย การจะสั่งการกองทัพก็คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก

“ฝ่าบาทพวกเราควรปล่อยแนวหน้าพวกนั้นให้อยู่ต้านศึก และ สั่งให้ทัพกลางและทัพหลังของเราถอยกลับอย่างรวดเร็วไม่งั้นพวกเราคงเสียหายหนักมากกว่านี้แน่!”ทันใดนั้น รัฐมนตรีคนนึงก็ได้พูดแนะนำชูจิน

แม้ว่า ชูจิน จะเดินทัพและต่อสู้ไม่เก่ง แต่เขาก็เข้าใจสามัญสำนึกโดยธรรมชาติ

เขาได้มองไปที่ทหารด้านล่างและตะโกนขึ้น”กองทัพแนวหน้าทั้งหมดจัดค่ายตั้งรับศัตรูอยู่ที่นี่!”

“!!!”

บรรดา ผู้นำตระกูลขุนนางที่อยู่แนวหน้าพร้อมกับทหารส่วนตัวของตนเอง ขาของแต่ละคนแทบจะทรุดลงกับพื้น

ตอนนี้ ชูจิน ได้สั่งให้พวกเขาต้านศึกแนวหน้านี่ไม่เท่ากับการส่งพวกเขาไปตายหรือไม่?

แต่พวกเขาจะทำอะไรได้ ? ผู้นำตระกูลขุนนางบางคนได้มอบความภักดีกับชูจินไปแล้ว

จะดีจะร้ายยังไงก็ก็สุดแล้วแต่จะเป็นความพอใจของชูจินในตอนนี้

แน่นอนว่า มีผู้นำตระกูล ขุนนางบางคนไม่พอใจ หากเขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีแผนการรบเช่นนี้ เขาก็คงไม่ตัดสินใจมอบทหารส่วนตัวให้กับ ชูจิน

แม้ว่า จะสูญเสียทหารส่วนตัวให้กับ ลู่เฟิง แต่ก็ยังดีกว่าถูกฆ่า แต่ตอนนี้มันกลับหลังไม่ได้แล้ว

“ตั้งกองทัพส่งปราณกดดันออกไป!”

ชูจิน ได้ตะโกนอย่างร้อนรน

ทหารด้านล่างได้ขยับรูปขบวนกองทัพอย่างรวดเร็ว

ในเวลานี้กองทัพของอาณาจักรหนานหยานได้มาถึงไม่ไกลจากด้านหน้า

แม่ทัพด้านหน้าได้สั่งการทันที”พลธนูยิงได้!”

แต่ทว่า คนของ เมิ่งเถียน กลับลงมือได้อย่างรวดเร็วกว่า เพียงแค่สัญญาณมือกลับสั่งการให้พลธนูของเขายิงส่วนกลับไปทันที

กองทัพของอาณาจักรซีหยางมีหรือจะต้านทานได้ทันหลายคนได้ถูกยิงจนเสียชีวิตไป

“เข้าชาร์จ ฆ่าพวกมัน!”

เมื่อถึงระยะการชาร์จที่เหมาะสม แม่ทัพคนนี้ ที่มีความโกรธแค้นกับจักรพรรดิลู่เฟิงแห่งอาณาจักรหนานหยานได้นำคนของเขาพุ่งเข้าชาร์จศัตรูและสองกองกำลังก็ได้ปะทะกัน

กองทัพของแต่ละฝ่ายต่างรุกไล่ซึ่งกันและกัน

เสียงกรีดเลือดเนื้อโลหิตแขนขาและศีรษะต่างก็ถูกสับจนขาดสะบั้น

สำหรับกองทัพของชูจิน เวลานี้ แม้อีกฝ่ายจะมียอดฝีมือขั้นปรมาจารย์ปรากฏก็คงไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมถูกสะกดพลังปราณและถูกฆ่าตายในที่สุด

ลู่เฟิง และ เมิ่งเถียน เฝ้ามองจากรถม้าของกองทัพที่อยู่ด้านหลัง เขาได้กล่าวพูดออกมา”ประสิทธิภาพการรบของหทารส่วนตัวเหล่านี้ค่อนข้างเลวร้ายอย่างแท้จริง!”