บทที่ 84 ปณิตาปรากฏตัวกะทันหัน

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

ธราเทพเดินเข้ามา เหมือนเขาจะไม่รับรู้ถึงบรรยากาศบนโต๊ะอาหารที่เปลี่ยนไป เพียงแต่เขาก็ไม่ได้ทานอาหารต่อ

ณัฐณิชาหวังว่าเขาจะพูดอะไรบ้าง แต่เปล่าเลย

หัวใจแทบขาดอากาศชั่วขณะ!

“ทำไมไม่ทาน” ในที่สุดธราเทพก็พบแล้วว่าบรรยากาศผิดปกติ จึงเอ่ยถาม

ณัฐณิชาไม่อยากกระอักกระอ่วนต่อหน้าธราเทพ จึงแค่กลบเกลื่อน “ฉันอิ่มแล้ว พวกเราไปเถอะ” เธออยากกลับเร็วๆ เพื่อถามธราเทพว่ามันคืออะไรกันแน่ เพราะมันไม่ดีที่จะถามต่อหน้านภสรณ์

“อืม”

แต่ไหนแต่ไรมาธราเทพไม่เคยจุกจิกเรื่องอาหารการกิน เพียงแต่เคยชินฝีมือแม่บุญสิตาเท่านั้น ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่าเขาทานแค่อาหารฝีมือแม่บุญสิตา ซึ่งเขาก็ไม่เคยปฏิเสธ

สำหรับเขา อาหารก็เป็นแค่สิ่งที่มีไว้เติมให้ท้องเต็ม

สามคนเพิ่งจะลุกขึ้น ทันใดนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งไม่รู้มาจากไหน ตรงเข้ามาทางณัฐณิชา!

“อ๊ะ!”

แทบในทันที ณัฐณิชาเสียหลัก และกำลังจะถูกจับตัว

ตลก!

เธออาศัยอยู่ในสลัมแออัดขนาดนั้น ถ้าไม่มีทักษะจะสามารถออกมาจากสังคมเสือสิงห์กระทิงแรดนั่นได้เหรอ

นึกว่าช้าไปแต่กลับรวดเร็วกว่าที่คิด เกือบสามวินาทีที่ณัฐณิชารู้สึกว่ามีวัตถุหนึ่งพุ่งเข้าหาตัวเอง ทันทีหลังจากนั้นเธอเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วคว้าจับแขนคนคนนั้น กระทั่งคนคนนั้นส่งเสียงร้องโอดโอย “โอ๊ยๆๆๆ เจ็บ……คุณปล่อยฉันนะ!”

“เป็นคุณเองเหรอ”

ทำไมถึงเป็นปณิตาได้ล่ะ

ณัฐณิชามองผู้หญิงที่จับแขนไว้ตรงหน้าอย่างค่อนข้างประหลาดใจ บนใบหน้าไม่มีสีเลือด ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิง แม้แต่เสื้อผ้าบนตัวก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผ่านการซักมาหลายวันแล้ว

สายตาชั่วร้ายอันตรายจับจ้องมองณัฐณิชาไม่วางตา ทำให้เธอนึกแปลกใจ

ปณิตา……ถูกไล่ออกไปแล้วไม่ใช่เหรอ

“ณัฐณิชา นังสารเลว ถ้าไม่ใช่เพราะคุณฉันคงไม่ถูกฐิติกานต์ใช้ประโยชน์หลอกใช้ และก็คงไม่ถูกไล่ออก……แบบนี้ ฉันไม่มีอะไรเหลือแล้ว งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี ฉันถึงขนาดถูกพ่อตัวเองขายให้ตาลุงอายุห้าสิบ ให้ตายยังไงฉันก็จะไม่ปล่อยคุณ! ……ฮือๆๆ……”

แขนของปณิตาถูกณัฐณิชาบิด และกำลังแหกปากด่าทอ

คิ้วของณัฐณิชาขมวดแน่น

แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่ใช่พวกผู้หญิงที่แอบทำตัวสำส่อน

ปณิตาคนนี้หาเรื่องตนตั้งแต่ครั้งแรกที่ตนเข้ามาในบริษัท ผลสุดท้ายจบลงแบบนี้ก็เพราะทำตัวเอง เพียงแต่……มันเกินไปไหมที่ถูกพ่อแท้ๆ ของตัวเองขายให้ตาลุงแก่ๆ

“หุบปาก” ธราเทพมองฉากนี้อย่างเย็นชา และค่อนข้างรังเกียจ โชคดีว่าที่นี่คือพื้นที่ปิด จึงมีน้อยคนที่เห็น

ธราเทพเรียกผู้จัดการร้านมา และออกคำสั่งเสียงเย็น “เอาเธอออกไปเดี๋ยวนี้”

“ครับ!”

“รอเดี๋ยว!”

เพิ่งสิ้นเสียงธราเทพ ผู้จัดการร้านรีบเช็ดเหงื่อบนหน้าผากด้วยความกังวลทันที รีบกวักมือเรียกสองคนมาพาปณิตาออกไป แต่ทันใดนั้นณัฐณิชากลับห้ามพวกเขา

คิดจะไปทั้งอย่างนี้เหรอ

ไม่มีทาง!

คิดว่าเธอณัฐณิชาคนนี้โง่นักหรือไง

เมื่อครู่เห็นได้ชัดว่านภสรณ์ติดต่อปณิตาไป ดังนั้นเธอจึงรีบเข้ามา ไม่อย่างนั้นสถานที่หรูหราแบบนี้ ปณิตาจะเข้ามาได้งั้นเหรอ

ไม่สงสัยเลยว่าทำไมอาหารมื้อนี้ถึงได้สงบนัก ที่แท้ก็รอสิ่งนี้นี่เอง……

ณัฐณิชาเม้มริมฝีปาก เดินเข้าไปใกล้ปณิตา เธอตัวสั่นราวกับตะแกรงที่กำลังล่อนแกรบ สายตาไม่กล้ามองณัฐณิชา ณัฐณิชาเพียงแค่ยกศีรษะของเธอขึ้นมาง่ายๆ แล้วก็เกิดเสียงดังเคร้ง มีดคมพลันตกลงมาจากมือของเธอ