จบกลุ่ม 32 โลกอิลิยาแล้วครับ
SGS บทที่ 343 – เผชิญหน้า Floor Master ชั้น5ล่ะ!
ชื่อ : วู่หยาน
ความสามารถ : แวมไพร์สายเลือดแท้ Eternal Arms Mastership Electro Master LV.5
อุปกรณ์ : เกทออฟบาบิโลน(D)
ซัมมอน : มิซากะ มิโคโตะ , คัตซึระ ฮินางิคุ , อิคารอส , แอสเทรีย , ฟราน สคาร์เลท , โชคุโฮ มิซากิ , คินุฮาตะ ไซไอ , ทาคิสึโบะ ริโกะ , เฟรนด้า และ น้องสาวมิซากะ(20,000)
แต้มอุปกรณ์ : 501,000>1,000
แต้มไอเท็ม : 600,000
แต้มอบิลิตี้ : 181,000
แต้มอัญเชิญ : 350,000
เลเวล : 68
…………………….
ยืนยันค่าสถานะของตัวเองเสร็จ วู่หยานก็ปิดหน้าจอระบบแล้ว แล้วยกมือลูบนิ้วข้างที่เคยสวมแหวนมิติพร้อมกับขบคิดในใจ
ในตอนนี้เขาได้เกทออฟบาบิโลนมาแล้ว ที่เหลือก็แค่หาอาวุธมาให้เยอะๆเพื่อเพิ่มระดับเกทออฟบาบิโลน
การจะทำให้เกทออฟบาบิโลนแสดงพลังที่แท้จริงได้มันจำเป็นต้องมีอาวุธนับร้อยพันข้างใน ไม่งั้นมันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากที่เก็บของ……..อีกอย่างการจะอัพระดับมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายด้วย
‚Night of Meteor นิเอโทโนะ โนะ ชานะ และยุทธภัณฑ์ดินอีกหลายอันที่ใส่ไปก็ยังไม่เพียงพอให้เกทออฟบาบิโลนเลื่อนระดับเลย บ่งบอกว่ามันไม่ต่างจากหลุมไร้ก้นบึ้งที่จะทำให้เขากลายเป็นคนจนอีกนานแสนนาน
แต่…..ถ้าแต่เอาปริมาณไม่ใช่คุณภาพล่ะก็ วู่หยานก็มีทางหามาถมได้!
แน่นอนว่านี่มันจำเป็นต้องได้อบิลิตี้นึงมาด้วย ถ้าเขาได้ความสามารถนี้มาล่ะก็ย่อมทำให้เกทออฟบาบิโลนทำงานได้ทันทีแน่! บางที…อาจจะทำให้มันเลื่อนระดับด้วยเลยก็ได้!
เพียงแต่….ตอนนี้แต้มอบิลิตี้เขามันยังมีไม่พอ……..
หยิบบัตรประจำตัวนักเรียนออกมาแล้วมองดูตัวเลข 0 วู่หยานก็ยิ้มขมขื่น
มีทางเดียวคือไต่ระดับหอคอย!
วู่หยานโยนบัตรไปด้านหลังแทบจะทันทีที่โยนมิติด้านหลังก็เกิดระลอกคลื่นขึ้นรับบัตรจมหายเข้าไป
เดินออกจากห้องลงไปด้านล่าง วู่หยานก็เจอ ฮินางิคุ มิโคโตะ และอิคารอส ไม่รู้ว่าทำไมแต่สามสาวนี่ไม่ชอบที่จะหมกตัวอยู่ในห้องตัวเองแถมไม่ชอบออกมาไปเดินเล่นข้างนอกอีกต่างหาก เมื่อมีเวลาว่างพวกเธอก็มักจะมานั่งที่ห้องโถงแล้วนั่งคุยเรื่องอะไรต่อมิอะไรกัน
แน่นอนว่าฝ่ายพูดย่อมมีเพียงแค่ ฮินางิคุ กับ มิโคโตะ ส่วนอิคารอสก็ทำตัวเป็นผู้ฟังมีคุณภาพ เมื่อสองสาวหันมาถามเธอก็อ้าปากตอบ……
สำหรับฟรานจัง รายนี้แอคทีฟสุดแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะเธอไม่เคยมีอิสระแบบนี้ตอนที่อยู่เก็นโซเคียว บวกกับได้คู่หูเป็นลิลิน ทำให้ตอนนี้โลลิน้อยทั้งสองคึกคักสุดๆจนพากันไปวิ่งเล่นถึงไหนแล้วก็ไม่รู้……….
ถึงเฟยเฟยจะบอกว่าได้แอบส่งคนคอยคุ้มครองฟรานลับๆอยู่ แต่วู่หยานก็ยังไม่วางใจอยู่ดีที่ปล่อยให้ฟรานวิ่งเล่นไปทั่วโรงเรียนแบบนี้
ทางฮินางิคุ มิโคโตะ และ อิคารอส เองก็ได้สังเกตเห็นวู่หยานเดินลงมาแล้วเช่นกัน แทบจะทันทีทีเขาโผล่ออกมาสายตาของสามสาวก็ได้หันขวับมาที่ตัวเขาหมด เห็นแบบนี้วู่หยานก็ยิ้ม
ฮินางิคุยืนขึ้น “ลงมาแล้ว? นายจัดการธุระเสร็จแล้วเหรอ?”
พวกฮินางิคุก็พอจะรู้ว่าวู่หยานทำอะไรอยู่ แต่พวกเธอก็เลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่ง นี่ทำให้วู่หยานจนปัญญา เพราะเขาเองก็แอบคิดอยากจะมอบอุปกรณ์ดีๆให้พวกเธอใช้
น่าเสียดาย นอกจาก ชิโระซากุระ ฮินางิคุก็ไม่ได้สนใจอาวุธอื่นเลย ส่วนมิโคโตะก็บอกว่าตัวเองมีแค่พลังจิตอย่างเดียวก็เกินพอแล้ว! นี่ทำให้วู่หยานหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้
วู่หยานไม่พยักหน้าหรือส่ายหัส เขายักไหล่ให้แทน
“ก็นะ จะว่าแบบนั้นก็ได้……”
วู่หยานยิ้มกว้างรับเครื่องดื่มที่อิคารอสส่งมาให้ จากนั้นคิดครู่นึงแล้วพูดว่า
“ฮินางิคุ มิโคโตะ อิคารอส พวกเธอผ่านหอคอยทั้งสี่ชั้นแล้วใช่มั้ย? แล้ว….ได้ใช้แต้มที่ได้มาหมดรึยัง?”
ได้ยินสามสาวก็ส่าวหน้า มิโคโตะถามขึ้นด้วยความสงสัย “อะไร? นายอยากได้งั้นเหรอ?”
พูดเสร็จก็ยืนบัตรตัวเองให้วู่หยาน ทางฮินางิคุกับอิคารอสก็รีบดึงบัตรออกมาเหมือนกัน เห็นแบบนี้วู่หยานก็รีบโบกมือ
“ไม่ต้องให้ฉันๆ พวกเธอแค่ช่วยไปที่ย่านการค้าแล้วซื้อของบางอย่างให้ฉันก็พอ!”
ฮินางิคุกับมิโคโตะหันมามองหน้ากันแล้วเก็บบัตรกลับไป ของๆพวกเธอก็คือของวู่หยาน ของๆวู่หยานก็คือของพวกเธอ ด้วยความสัมพันธ์ที่มีต่อกันทำให้พวกเธอไม่จำเป็นต้องเกรงใจอะไร
“นายอยากได้อะไรล่ะ?”
เห็นสองสาวตอบรับง่ายๆ วู่หยานก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ดูเหมือนสาเหตุที่พวกเธอไม่ได้ออกเดินเล่นข้างนอกจะไม่ใช่เพราะกลายเป็นโอตาคุไป แต่เป็นแพราะยังไม่คุ้นเคยกับเส้นทางในโรงเรียนเลยทำให้ไม่รู้จะไปไหนล่ะมั้ง?
“พวกเธอช่วยซื้อแร่พิเศษให้ฉันหน่อย!”
“แร่พิเศษ?” สองสาวอึ้งนิดๆ พวกเธอไม่เข้าใจว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่ถึงยังงั้นทั้งสองก็ไม่คิดจะถามเพราะไม่ช้าก็เร็วหยานก็จะบอกเอง
“พิเศษที่ว่ามันหมายถึงแบบไหนล่ะ?” มิโคโตะขมวดคิ้ว เล่นบอกแค่พิเศษแค่นี้ใครมันจะไปหาเจอ?
ขบคิดแปปนึง วู่หยานก็ตอบว่า……
“ไม่จำเป็นต้องแพงและหายากมาก ขอแค่มันทนทานและไม่แพงมากนัก จุดสำคัญคือพวกเธอต้องซื้อมาให้ได้เยอะๆ!”
ได้ยินแบบนี้ ฮินางิคุกับมิโคโตะก็มองค้อนใส่วู่หยาน นายต้องการมากขนาดนั้นแล้วบอกว่าไม่จำเป็นต้องใช้แต้มเยอะ? ต่อให้ใช้จนหมดตัวก็ยังไม่แปลกเลยด้วยซ้ำ เจ้าบ้า……..
วู่หยานหัวเราะแหะๆอย่างกระอักกระอ่วน เขารู้ว่าคำพูดตัวเองมันสวนทางกันเองมาก แต่เขาก็อยากได้แบบที่ว่าจริงๆ ดังนั้นวู่หยานจึงได้แต่ยิ้มรับสายตาจิกกัดของสองสาว
ฮินางิคุกอดอกแล้วพูดว่า “นายให้พวกเราออกไปวิ่งเต้นขางนอก แล้วนายละจะทำอะไรไม่ทราบ?”
วู่หยานยิ้มแล้วลุกขึ้นยืนด้วยด้วยความฮึกเหิม “ฉันก็ไปหอคอยทดสอบไงล่ะ!”
……………..
จากที่ได้ยินจากเฟยเฟย ทำให้วู่หยานรู้ว่า Floor Master ชั้น5นั่นเป็นแรงค์7ขั้นสูงสุดโดยห่างเพียงแค่ก้าวเดียวก็จะเป็นแรงค์8! เทียบกับFloor Masterชั้น4แล้วไม่รู้ว่าเหนือกว่าตั้งเท่าไหร่!
ถ้าให้เทียบด้วยฟังค์ชั่นของระบบก็ต้องบอกว่า ชั้น4เป็นเลเวล61 ส่วนชั้น5เป็นเลเวล69 มันห่างกันเกือบจะเท่าตัวเลย!
เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ระดับนี้ วู่หยานไม่คิดว่าตัวเองจะชนะได้แบบสบายๆ แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็เชื่อมั่นว่าสุดท้ายยังไงเขาก็จะชนะ!
วู่หยานขึ้นมาชั้น5 จากนั้นมองซ้ายขวาเขาก็เจอวงเวทย์เคลื่อนย้ายแล้วเดินเข้าไปภายใต้สายตาและการชี้มือชี้ไม่ที่ตัวเขาของพวกนักเรียนพิเศษ
พริบตาต่อมาวู่หยานก็พบว่าตัวเองได้ย้ายมาอยู่อีกทีแล้ว ที่ทำเขาประหลาดใจก็คือครั้งนี้มันไม่ใช่สนามประลองที่ครองทั้งชั้นแต่เป็นพื้นหิน!
วิแรกวู่หยานคิดว่าตัวเองถูกส่งออกมานอกหอคอยรึเปล่า แต่เงาร่างที่ยืนห่างออกไปได้บอกว่าเขามาไม่ผิดที่
เป็นผู้ชายสูงใหญ่ร่างกานเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ แทบจะไม่ต่างจากลักซ์เลย แต่ลักซ์ดูเป็นกระต่ายนน้อยไปเลยเมื่อเอามาเทียบกับออร่าที่ชายคนนี้ปล่อยออกมา
“ในที่สุด เจ้าก็มา……” Floor Masterยิ้มกว้าง
“ไอ้ข้าก็คิดว่าเจ้าจะไม่ขึ้นไปชั้น6แล้วซะอีก……”
ได้ยินวู่หยานก็เบิกตากว้าง แล้วพูดด้วยความสงสัย “คุณรู้จักฉัน?”
“รู้จักสิ ต้องรู้จักแน่อยู่แล้ว ในโรงเรียนชื่อเสียงของเจ้าแทบจะแพร่กระจายไปทั่วแล้ว!!”
Floor Masterหัวเราะก๊าก “ข้าคือ Floor Master ชั้น5 ผู้ท้าชิงเอ๋ย เจ้าพร้อมที่จะสู้หรือยัง?”
วู่หยานฉีกยิ้ม “ของมันแน่อยู่แล้ว!”
Floor Masterก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วเหวี่ยงหมัดไปก้อนหินลูกใหญ่ด้านข้าง!
เสียงระเบิดดังลั่น จากนั้นก้อนหินที่สูงใหญ่กว่าเจ้าตัวถึง5เท่าก็แตกละเอียด……
“…..เริ่มได้!”