ตอนที่ 84: ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว

ชายหน้าบากขับตามรถตู้คันนั้นไป ด้วยความที่เขาไม่ได้เป็นคนของเมืองช่างเฉิง เพราะเหตุนั้น เขาจึงไม่รู้เลยว่ารถตู้ตรงหน้ากําลังเดินทางไปยังกองบัญชาการตํารวจ เขาพลันคิดแค่ว่าคนที่อยู่ในรถตู้คือพรรคพวกของตนเท่านั้น เขาจึงเพียงแค่ขับตามไปโดยไม่คิดอะไร

“ยกเลิกแผนการ! ไปเจอกันที่จุดนัดพบ!” ชายหน้าบากพูดใส่วิทยุสื่อสารระหว่างที่กําลังขับตามรถตู้ไป

แต่ทว่า ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะมีเสียงของคนแปลกหน้าตอบกลับมา ทั้งนี้ เสียงนั้นไม่ใช่ของใครอื่นเลยนอกจากเสี่ยวเฉิง

“ว่าไง… แกจะตามรถตู้คันนั้นไปที่ไหนงั้นเหรอ?”

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ชายหน้าบากก็พลันเบิกตากว้าง ท้ายที่สุด เขาก็รู้แล้วว่ามีบางอย่างแปลกไป ทันทีที่ตระหนักได้เช่นนั้น เขาก็พลันเหยียบเบรกและวางแผนจะหันรถกลับทันที แต่ทว่า ชายหน้าบากก็พลันรู้สึกราวกับถูกใครบางคนชนเข้าจากด้านหลัง และภายในไม่กี่วินาที รถตํารวจหลายคันก็โผล่มาพร้อมกับล้อมรถเบนซ์ของชายหน้าบากเอาไว้

“พวกเราคือเจ้าหน้าที่ตํารวจ! ลงมาจากรถเดี๋ยวนี้!”

รถตํารวจพุ่งเข้ามาแทบจะทุกทิศทาง และทันทีที่มองผ่านกระจกหน้า ชายหน้าบากจึงกระแทกพวงมาลัยรถด้วยความโกรธ ทว่า เขายิ่งรู้สึกโกรธมากกว่าเดิมทันทีที่เห็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบสามคนลงมาจากรถตู้คันนั้น ราวกับตนถูกอีกฝ่ายปั่นหัวมาโดยตลอด!

“พรรคพวกที่เหลือของฉันไม่ปล่อยพวกแกไว้แน่!” ชายหน้าบากพลันยอมจํานน แต่เขาก็บ่นพึมพํากับเสี่ยวเฉิงผ่านวิทยุสื่อสารไม่หยุด

“พรรคพวกที่เหลือ?” เสี่ยวเฉิงเงียบไปชั่วครู่

“ใช่! พรรคพวกของฉันยังมีอีกเพียบ!” ชายหน้าบากกล่าว

“เหรอ? งั้นให้ฉันนับให้ไหมล่ะ?” เสี่ยวเฉิงเงียบไปชั่วครู่และกล่าวคําพูดออกมา “ถ้ารวมแกแล้ว ทั้งทีมก็มีกันอยู่เจ็ดคนถูกไหม?”

ดวงตาของชายหน้าบากพลันเบิกกว้างก่อนที่จะเริ่มสบถออกมา เขาถูกเจ้าหน้าที่ตํารวจลากตัวลงมาจากรถและใส่กุญแจมือเอาไว้

นอกจากรถตํารวจคันอื่นแล้ว หรานจิงและเพื่อนร่วมทีมก็พลันโผล่มาพร้อมกับสมาชิกกลุ่มนักฆ่าที่ถูกจับกุมได้ในตอนนั้นเอง ทันทีที่ชายหน้าบากเห็นว่าพรรคพวกทุกคนของตนเอง ถูกจับกุมเขาก็พลันรู้สึกตกใจไม่น้อย

ระหว่างที่เหล่านักฆ่าถูกจับไปขังรวม ดอลฟินก็พลันกล่าวคําพูดขึ้นอย่างขมขื่น มีคนเปิดโปงพวกเรา!

“ไอ้พวกเวรนั่น!” ชายหน้าบากพลันสบถ เขาไม่ได้พูดถึงเสี่ยวเฉิง แต่เป็นพวกคนจากแก๊งสี่จตุรเทพต่างหาก

หลังจากที่นําตัวอีกฝ่ายไปขัง หรานจิงก็ให้คนในทีมของเธอตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของนักฆ่าเหล่านั้น ไม่นานนัก คนของเธอก็เดินกลับมาพร้อมกับรายงานประวัติ “หัวหน้าครับ… นักฆ่าพวกนี้ถือเป็นมากฝีมือเลยล่ะครับ! พวกมันอาจไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากมายนักในประวัตินักฆ่าระดับนานาชาติ แต่สําหรับประเทศนี้ พวกมันได้ทําภารกิจเลวร้ายแล้วก็ฆ่าคนไปมากกว่าหนึ่งโหลอีกครับ เป้าหมายของพวกมันส่วนมากจะเป็นพวกมหาเศรษฐีแล้วก็กลุ่มผู้มีอิทธิพล นักฆ่าพวกนี้มีความเป็นมืออาชีพมาก อีกทั้งยังไม่เคยได้รับโทษมาหลายปีแล้วด้วย แต่วันนี้พวกมันกลับพลาดท่าให้หัวหน้าโดยไม่คาดคิด… สุดยอดไปเลยนะครับ”

ทันทีที่ได้ยินประวัติของกลุ่มนักฆ่าที่เพิ่งจับได้ หรานจิงก็พลันสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่แปลกไปทั้งลูกน้องและเพื่อนร่วมทีมของเธอต่างก็กล่าวคําชมและแสดงความยินดี “กรมตํารวจจากเมืองอื่นใช้เวลาตั้งหลายปียังจับนักฆ่ากลุ่มนี้ไม่ได้เลย แถมไอ้สารเลวพวกนี้เป็นอาชญากรระดับ A+ ด้วย แต่น่าตกใจมากเลยนะครับที่วันนี้พวกมันพลาดท่าให้กับหัวหน้า! ยินดีด้วยนะครับหัวหน้าหรานจิง!”

นี่ถือเป็นความสําเร็จครั้งยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ หรานจิงเองก็ยังคงตกตะลึงอยู่ เรื่องราวทั้งหมดไม่ใช่ความฝันใช่ไหม? องค์กรนักฆ่าระดับ A+ พลาดท่าให้กับเสี่ยวเฉิงอย่างง่ายดายขนาดนี้เลยงั้นหรือ? หากดูจากการที่เสี่ยวเฉิงไล่ต้อนนักฆ่าเหล่านี้ให้จนมุม หรานจิงก็พลันรู้สึกราวกับว่าอีกฝ่ายไม่ใช่นักฆ่าระดับ A+ เลยแม้แต่น้อย

นอกจากนี้ ผู้อํานวยการกองสอบสวนคดีอาญาเองก็พลันเดินทางมาเยี่ยมเธอหลังทราบข่าวด้วย หลังจากเปรียบเทียบข้อมูลของอาชญากรในห้องสอบสวนแล้ว ผู้อํานวยการก็พลันเดินเข้ามาตบไหล่หรานจิงอย่างตื่นเต้นพร้อมกับเผยยิ้มและกล่าวคําพูด “คุณทําได้ดีมาก ไม่เคยทําให้ผมต้องผิดหวังเลยจริง ๆ นะ ดูเหมือนว่าการย้ายคุณมาประจําอยู่ที่เมืองซางเฉิงคงจะเป็นที่ถูกต้องแล้วแหละ”

“แต่ผู้อํานวยการคะ คือว่า…” อันที่จริง หรานจิงอยากจะบอกเขาว่าทั้งหมดไม่ใช้ฝีมือของตัวเองเลย แต่เป็นเพราะเสี่ยวเฉิงต่างหาก ทว่า เธอก็พลันถูกขัดจังหวะขึ้นกลางคัน

ผู้อํานวยการเผยยิ้มและกล่าวคําพูด “ตั้งใจทําแบบนี้ต่อไปล่ะ เดี๋ยวอีกไม่กี่วันผมจะเอารางวัลมาให้”

“แต่ว่า…” หรานจิงพลันพูดอะไรไม่ออก