บทที่ 212 ไม่ไว้หน้า

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

บทที่ 212 ไม่ไว้หน้า

บทที่ 212 ไม่ไว้หน้า

“แค่เคยเจอ”

เธอนึกถึงเสียงเมื่อเช้านี้ ซูโย่วอี๋แต่งหน้าแล้วรีบออกไป ขณะที่เหมยเหมยเก็บกวาดความยุ่งเหยิงในห้องของเธอ

เธอเดินออกไปไม่ถึงสองก้าว ก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ จริง ๆ แล้วทุกคนที่อาศัยอยู่บนชั้นนี้ล้วนเป็นทีมงานที่กองถ่าย ซูโย่วอี๋น่าจะรู้จักพวกเขาทั้งหมด แต่เธอแน่ใจว่าเธอไม่เคยเห็นชายตรงหน้า

แต่ชายคนนั้นกลับเรียกชื่อของเธออย่างมั่นใจว่า “ซูโย่วอี๋?”

“คุณนั่นแหละ ผมเคยเห็นละครของคุณในทีวี”

ความกระตือรือร้นและความก้าวร้าวในดวงตาของชายผู้นั้นรุนแรงเกินไปจนซูโย่วอี๋ถอยหลังไปสองก้าว เธอพยักหน้าให้เขาเล็กน้อยและต้องการเดินไปด้านข้าง

หากแต่ชายคนนั้นหยุดเธออย่างหยาบคาย “ขอโทษนะคุณซู ผมลืมแนะนำตัวเอง ผมชื่อซวี่เฟิง เป็นแฟนของอวิ๋นเหมี่ยว”

ซูโย่วอี๋ไม่ได้พูดอะไร

“คุณซู อย่ากังวลไปเลย ผมไม่ใช่คนเลว และผมก็ดูไม่เหมือนคนเลวด้วยใช่ไหม”

พูดเองเออเอง

ซูโย่วอี๋ไม่ได้เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย

ในใจก็คิดแต่ว่าอีกฝ่ายดูเป็นคนไม่ดี

ซวี่เฟิงยกถุงในมือขึ้น “ผมเพิ่งซื้ออาหารเช้ามา คุณอยากกินด้วยกันไหมครับ”

“ไม่ล่ะค่ะ แฟนฉันรออยู่ข้างล่าง”

หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็เดินจากไปทันที เมื่อเธอเข้าไปในลิฟต์ เธอหันกลับมาและเห็นซวี่เฟิงยังคงอยู่ที่เดิม ดูเหมือนเขาจะมองมาที่เธอตลอดเวลา

เมื่อเห็นท่าทางของเธอ เขาก็ยิ้มแสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษ

ซูโย่วอี๋รีบปิดลิฟต์และลงไปทันที

เมื่อได้ยินเรื่องที่ซูโย่วอี๋เจอกับซวี่เฟิงหน้าห้องในตอนเช้า เหมยเหมยก็รู้สึกแปลก ๆ เช่นกัน “คุณซู แฟนของคุณอวิ๋นเข้ามาทำดีกับคุณเกินไป คุณต้องระวังด้วยนะ”

“อืม”

แม้ว่าเหมยเหมยจะไม่เตือนเธอ แต่ซูโย่วอี๋ก็ไม่ได้ประทับใจชายคนนี้เท่าไหร่อยู่แล้ว

ดวงตาของเขาเหมือนจะจับจ้องไปทั่วร่างกายของเธอจนเธอขนลุก ถึงเขาจะดูเป็นสุภาพบุรุษ แต่จริง ๆ แล้วมันต้องมีอะไรแอบแฝง

ซวี่เฟิงเองก็ได้เจอซูโย่วอี๋เป็นครั้งแรก เขาใช้เงินมากมายเพื่อมอบของขวัญให้กับสาว ๆ ในกองถ่าย ซึ่งเป้าหมายสูงสุดของเขาก็คือซูโย่วอี๋

หลังจากรู้ว่าแฟนของเธอคือลู่เฉินเมื่อคืนที่ผ่านมา ซวี่เฟิงก็คิดที่จะยอมแพ้ไปแล้วจริง ๆ

แต่เมื่อเขาเห็นซูโย่วอี๋เมื่อเช้านี้ เขาก็เปลี่ยนใจ

ผู้หญิงสวยแบบนี้จะหาที่ไหนได้อีก ตั้งแต่ได้พบเธอและไม่ได้ทำความรู้จักกับเธอเท่าไหร่ ใจของซวี่เฟิงก็เหมือนโดยแมวข่วน

หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย ซวี่เฟิงตัดสินใจลุยต่อ

แม้ว่าตอนนี้เขาจะทำอะไรลู่เฉินไม่ได้ แต่ก็มีวิธีมากมายที่จะจัดการกับผู้หญิง ทั้งรูปลามกอนาจาร ภาพเคลื่อนไหวตอนอยู่บนเตียง… วิธีใดวิธีหนึ่งเหล่านี้คือฝันร้ายของเหล่าดาราหญิง

ตราบเท่าที่เขาสามารถพาซูโย่วอี๋ขึ้นเตียงได้ เธอจะกล้าพูดว่าเธอถูกย่ำยีเหรอ?

เกรงว่าเธอต้องขอให้เขาช่วยปกปิดล่ะสิไม่ว่า

ด้วยวิธีนี้ ซวี่เฟิงสามารถเล่นกับผู้หญิงของลู่เฉินยังไงก็ได้ โดยที่ลู่เฉินไม่รู้

แค่คิดก็น่าตื่นเต้นแล้ว

ไม่ว่าสถานะและอำนาจของนายจะสูงส่งแค่ไหน แต่ลู่เฉิน ผู้หญิงของนายก็มีแต่ฉันเท่านั้นที่เล่นได้

อาจเป็นเพราะเขามัวแต่หมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเองมากเกินไป อวิ๋นเหมี่ยวจึงดึงที่มุมเสื้อผ้าของซวี่เฟิง “คุณยังมีสร้อยที่เป็นรูปดาวอยู่ไหม”

ตอนนี้ซวี่เฟิงจะสนใจเรื่องนี้ได้อย่างไร เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้หูของอวิ๋นเหมี่ยว “เธอมาแล้ว ไปเรียกเธอมา”

อวิ๋นเหมี่ยวมองตามทิศทางที่ซวี่เฟิงจ้องมองเพียงเพื่อจะพบว่า ซูโย่วอี๋นั่งอยู่ในพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวแล้ว

ดังนั้นเธอจึงเอ่ยกับตัวประกอบหญิงบางคนที่ยังไม่ได้รับของขวัญ “อา ฉันเกือบลืมของขวัญสำหรับโย่วอี๋เลย ตอนนี้ฉันคงไปเรียกเธอไม่ได้ รบกวนพวกคุณช่วยเรียกเธอหน่อยได้ไหมคะ”

ทีมงานและแม้แต่นักแสดงกลุ่มที่ได้รับของขวัญแล้วก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

จนหลายคนพูดทันทีว่า “ฉันจะไปเรียกให้!”

มีทีมงานสามถึงห้าคนเดินไปหาซูโย่วอี๋เป็นกลุ่ม ๆ

ตอนนี้ซูโย่วอี๋รู้สึกเพียงว่ามีเงาอยู่รอบ ๆ ตัวเธอ และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นคนที่ไม่คุ้นเคย

“มีธุระอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ”

คนแรกชี้ไปที่อวิ๋นเหมี่ยว “คุณซู แฟนของเหมียวเหมี่ยวซื้อสร้อยคอทองคำให้สาว ๆ ทุกคนในกองเพื่อเป็นของขวัญสำหรับการพบกันครั้งแรก เหมียวเหมี่ยวยุ่งเกินไปก็เลยวานฉันมาเรียกคุณน่ะค่ะ”

ซูโย่วอี๋ขมวดคิ้ว “สร้อยคอทองคำ?”

มอบสร้อยคอทองคำให้กับคนที่ไม่รู้จัก?

ซูโย่วอี๋ไม่เข้าใจการกระทำของเขาเท่าไหร่

พวกคนที่อยู่ข้างหน้าเธออวดว่าสร้อยคอนั้นสวยงามเพียงใด และหยิบของขวัญของตัวเองออกมาทีละชิ้น ๆ

ซูโย่วอี๋เห็นโลโก้โจวลิ่วฝู*[1] ที่พิมพ์อยู่บนกล่องอย่างรวดเร็ว

“ฉันเพิ่งไปที่ร้านเพื่อดูราคามา สร้อยนี้ราคาเกือบ 2,000 หยวนแหนะ”

“ว้าว แฟนของเหมียวเหมี่ยวรวยจัง แถมยังมีน้ำใจขนาดนี้ แล้วเขาจะใจดีกับเหมียวเหมี่ยวขนาดไหนนะ”

“น่าอิจฉาจังเลย”

“ถ้าฉันสามารถหาแฟนเป็นทายาทรุ่นที่สองแบบนี้ได้ก็คงดี”

ซูโย่วอี๋ฟังการสนทนาของพวกเธอในความเงียบ เธอไม่สามารถเข้าใจถึงความสุขและความตื่นเต้นของพวกเธอได้

“คุณซู เร็วเข้า ไม่อย่างนั้นคุณจะอดเลือกแบบที่คุณชอบนะ”

“ขอบใจค่ะ แต่ฉันไม่ชอบใส่สร้อยคอ ไม่เอาดีกว่า”

หลายคนสบตากัน และคนข้างหลังก็ขยิบตาให้คนข้างหน้า “งั้นเราจะไม่รบกวนคุณแล้ว”

พวกเธอเดินออกไป

“ฉันว่านะ ซูโย่วอี๋กับเหมียวเหมี่ยวไม่ลงรอยกันแน่ ๆ ถึงแม้เหมียวเหมี่ยวจะเป็นดารา แต่เธอก็ไม่มีมาด แต่กับซูโย่วอี๋เธอดูเข้าถึงยากยังไงไม่รู้”

“ถูกต้อง คนเราน่ะจะมองกันที่ภายนอกอย่างเดียวไม่ได้ แต่ละคนเป็นยังไงเราไม่มีทางรู้ได้เลย ดูซูโย่วอี๋สิ เธอเป็นแฟนของประธานลู่ เธอมาถ่ายทำที่นี่ตั้งนานแล้ว เขามาเยี่ยมเธอบ้างหรือยังก็ไม่รู้”

“เธอพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก ฉันได้ยินจากทีมงานคนอื่นว่าประธานลู่จ้างคนทำอาหารให้เธอด้วย”

คนที่ดูแคลนซูโย่วอี๋สำลักอย่างรุนแรง “แต่มันก็ไม่ดีเท่าแฟนของเหมียวเหมี่ยว มีผู้หญิงประมาณสี่สิบหรือห้าสิบคนที่นี่เลยนะ แปลว่าเขาใช้เงินตั้งแสนหยวนซื้อของขวัญ”

นักแสดงเหล่านี้มีรายได้เพียงวันละสองถึงสามร้อยหยวน ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการหาเงินหนึ่งแสน?

เหมยเหมยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ซูโย่วอี๋ถอนหายใจออกมา “คุณซู พวกเขาน่าจะพูดบางอย่างเกี่ยวกับคุณลับหลังนะคะ”

ซูโย่วอี๋ไม่สนใจเลย “ไม่เป็นไรหรอก มันไม่ส่งผลกระทบอะไรกับชีวิตฉัน พวกเขาอยากพูดอะไรก็พูดไป”

เธอไม่อยากจะเอาใจไปคิดเรื่องพวกนี้

ในที่สุดสวีโหมวก็มาถึง ทีมงานและนักแสดงกลุ่มไม่กล้าอู้อีกต่อไป พวกเขาแยกย้ายกันไปและเริ่มเตรียมการถ่ายทำตามคำสั่งของสวีโหมว

เธอคิดว่าเรื่องการให้ของขวัญจะจบลงที่นี่ แต่อวิ๋นเหมี่ยวก็พาแฟนหนุ่มใจกว้างของเธอมายืนตรงหน้าซูโย่วอี๋

ตอนนี้ใบหน้าของอวิ๋นเหมี่ยวมีเลือดฝาดและน้ำเสียงของเธอค่อนข้างเขินอายเล็กน้อย “โย่วอี๋ นี่คือแฟนของฉัน ซวี่เฟิงค่ะ วันนี้เขาเอาของขวัญมาให้คุณด้วย”

ซูโย่วอี๋ยืนขึ้น ดวงตาของเธอมองสลับไปมาระหว่างทั้งสองคน

ซวี่เฟิงทำให้เธอรู้สึกว่าเขาเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ แล้วในเมื่ออวิ๋นเหมี่ยวเห็นแบบนี้… เธอยังชอบเขาอยู่อีกเหรอ?

“ฉันรับน้ำใจไว้ละกันค่ะ แต่ของขวัญไม่ต้องหรอก”

ซวี่เฟิงเกลี้ยกล่อมว่า “เงินสำหรับซื้อของขวัญนั้นไม่ได้สำคัญกับผมหรอก คุณไม่ต้องคิดมาก อีกอย่าง ผมตั้งใจซื้อมาให้ ถ้าคุณไม่ยอมรับแบบนี้ถือว่าคุณไม่ไว้หน้าผม”

? ? ?

ซูโย่วอี๋ “…”

เขาเป็นใคร แล้วทำไมเธอต้องไว้หน้าเขา

ซูโย่วอี๋สบถในใจ

ผู้ชายคนนี้มั่นใจเกินไปหรือเปล่า

“เหมียวเหมี่ยว เอากระเป๋าให้โย่วอี๋”

ซูโย่วอี๋อยากจะพูดออกไปจริง ๆ ว่าเราไม่สนิทกันนะ เข้าใจไหม?

อวิ๋นเหมี่ยวกำลังถือกระเป๋าถือขนาดกลางของชาแนลซึ่งราคาคงจะสูงอยู่

มันแตกต่างจากของขวัญอื่น ๆ

เธอเดินผ่านซูโย่วอี๋และส่งกระเป๋าให้เหมยเหมยโดยตรง “ช่วยรับไปแทนโย่วอี๋ด้วยค่ะ”

ซูโย่วอี๋พยักหน้าให้เหมยเหมยด้วยท่าทีที่ไม่อยากยอมรับแต่ก็ต้องรับไว้

เหมยเหมยเลยรับมันไว้

[1] โจวลิ่วฝู แบรนด์ร้านขายทองที่มีชื่อเสียงในจีน