ตอนที่ 85: การแย่งชิงตัวเสี่ยวเฉิง

เดิมที เซินเหยาค่อนข้างรู้สึกมีความสุข อีกทั้ง เธอยังคาดหวังเอาไว้มากด้วยว่าคืนนี้ตัวเองจะได้ใช้เวลาร่วมกับเสี่ยวเฉิง แต่พอรู้ว่าเสี่ยวเฉิงนั้นแอบชอบคนอื่นอยู่ เธอก็ค่อนข้างอารมณ์เสีย

ถึงกระนั้น มันก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่เสี่ยวเฉิงไม่ค่อยสนใจหรานจิงและเธอมากนัก นั่นเป็นเพราะเขามีคนในใจอยู่แล้ว

ทันทีที่คิดถึงเรื่องนี้ เซินเหยาซึ่งยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำก็เผยยิ้มอย่างขมขื่นออกมาก่อนหน้านี้ เธอคิดว่าบางที่เสี่ยวเฉิงอาจจะเป็นผู้ชายที่ดีก็ได้ แต่ถึงอย่างไร ข้างนอกก็อาจจะยังคงมีผู้ชายคนอื่นอีกมากที่ดีกว่าเสี่ยวเฉิงอยู่ กล่าวอีกนัยหนึ่ง เสี่ยวเฉิงเองก็สามารถเป็นแฟนที่ดีให้เธอได้ แต่ก็ใช่ว่าผู้ชายที่ดีจะมีแค่ตัวเลือกเดียวเท่านั้น ทันทีที่ได้ยินว่าเสี่ยวเฉิงมีคนที่ชอบอยู่แล้ว เซินเหยาก็พลันรู้สึกเศร้าไม่น้อย

“ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันไม่ชอบหมอนั่นขนาดนั้นอยู่แล้ว ถ้าคนมันจะใช่ เดี๋ยวสุดท้ายมันก็จะวนกลับมาหากันเองแหละ” เซินเหยาพลันปลอบใจตัวเองอยู่หน้ากระจก

– วันถัดไป –

รถบรรทุกทางทหารสองคันพลันขับตรงมายังกองทัพภาคที่ห้า ป้ายทะเบียนระบุเอาไว้ว่ารถทั้งสองคันนี้มาจากเมืองช่างเฉิง และชายที่อยู่ในรถก็ค่อนข้างมียศถาบรรดาศักดิ์ หลังจากแสดงเอกสารแล้ว ทหารที่เฝ้าประตูก็พลันกล่าวทักทายและปล่อยให้พวกเขาเข้ามาทันที

รถบรรทุกทั้งสองพลันขับรถตรงไปยังฐานทัพและหยุดอยู่หน้าห้องทํางานของหัวหน้า ผู้ฝึกสอนของกองทัพภาคที่ห้า

ทันทีที่เห็นว่ามีรถบรรทุกสองคันมาจอดอยู่ตรงหน้า หัวหน้าผู้ฝึกสอนของกองทัพภาคที่ห้าก็พลันรู้สึกแปลกใจไม่น้อย แต่ทว่า พอเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เขาก็พลันขมวดคิ้วและกล่าวคําพูดขึ้นมาทันที ” ดูสิว่าใครมา… สมอะไรหอบหัวหน้าผู้ทรงเกียรติจากกองทัพภาคที่แปดมาล่ะเนี่ย? พวกเขากล้ามาเหยียบฐานทัพอันต่ำต้อยของพวกเราได้ยังไงกัน?”

ทันใดนั้น หัวหน้าผู้ฝึกสอนของกองทัพภาคที่แปดก็พลันกล่าวคําพูดขึ้น ”เข้าไปข้างในก่อนเถอะ ฉันมีเรื่องอยากจะคุยด้วยหน่อย”

“หยุดอยู่ตรงนั้นก่อนเลย! ปกติแล้วพวกนายมักจะชอบดูถูกแล้วก็กดขี่พวกเราไม่ใช่หรือยังไงกัน? เรื่องนั้นฉันยังไม่ได้เอาคืนเลยนะ ยังไงก็เถอะ ถ้านายมีเรื่องที่อยากจะพูด ก็พูดมาตรงนี้แหละ ฉันไม่ยอมเสียน้ำชาให้คนอย่างนายหรอกนะ” หัวหน้าผู้ฝึกสอนของกองทัพภาคที่ห้าพลันกล่าว

“ไม่เอาน่า” หัวหน้าภาคที่แปดกล่าวพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องทํางาน

ไม่นานนัก หัวหน้าภาคที่ห้าก็เดินตามเข้าไปพร้อมกับบิดประตู จากนั้น เขาก็พลันนั่งลงและถามขึ้น ” มีอะไรก็พูดมา”

หัวหน้าภาคที่แปดพลันวางแฟ้มข้อมูลของเสี่ยวเฉิงลงบนโต๊ะทํางาน “ฉันจะมาขอตัวชายคนนี้ไปอยู่ในกองทัพ

หัวหน้าภาคที่ห้าพลันมองไปยังแฟ้มข้อมูลและเงยหน้าขึ้นมาทันที “ฉันเคยบอกไปแล้วไม่ใช่หรือยังไงกัน? นายทหารคนนี้ไม่ใช่ของซื้อของขาย!”

หัวหน้าภาคที่แปดพลันเผยเสียงหัวเราะออกมาทันทีเมื่อรู้ว่าถึงเวลาที่ต้องเจรจา เขาพลันกล่าว “อย่างนายจะไปช่วยอะไรเด็กคนนี้ได้? ทุกปีที่ผ่านมา กองทัพภาคที่ห้าเองก็ไม่เคยเฉิดฉายเลยไม่ว่าเรื่องใด แล้วเมื่อไหร่วันนั้นจะมาถึงกันล่ะ? นายลองคิดกลับกันดูนะ ถ้านายยอมยกเสี่ยวเฉิงให้เข้าร่วมกับกองทัพภาคที่แปด ฉันรับประกันได้เลยว่าปีนี้ทีมของเสี่ยวเฉิงจะต้องถูกจัดอันดับให้อยู่ในสามอันดับแรกอย่างแน่นอน! แล้วถ้าเขาได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม เขาก็จะมีโอกาสในการโชว์ความสามารถและประสิทธิภาพของตัวเองมากขึ้นด้วยนะ อีกทั้ง อนาคตของเขาก็จะดีกว่าที่เคยเป็นอยู่ด้วย นายไม่คิดงั้นหรือยังไงกัน?”

“ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย” ทว่า ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องทํางานก็พลันพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มกว้าง “แต่ยังไงพวกนายทั้งคู่ก็ยังคงต้องพาเด็กคนนี้ไปเข้าแข่งขันฝึกซ้อมทางทหารก่อนอยู่ดีนะ แล้วตอนนี้เราก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าการแข่งจะถูกจัดขึ้นที่ไหน ยังไงก็เถอะ ฉันว่าฉันสามารถมอบอนาคตที่ดีกว่าให้เขาได้”

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น หัวหน้าจากทั้งสองภาคก็หันไปมองยังประตู ตรงหน้าของพวกเขาก็คือผู้อํานวยการกองบัญชาการตํารวจแห่งเมืองช่างเฉิง

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? ทําไมพวกนายทั้งสองคนถึงมาที่กองทัพภาคที่ห้าเพื่อแย่งชิงนายทหารแค่คนเดียวด้วยเนี่ย?” หัวหน้ากองทัพภาคที่ห้าพลันสับสน

“ว่าไงสหายเก่า… ถ้าดูจากข้อมูลและความสามารถของเสี่ยวเฉิงในตอนนี้แล้ว ฉันคิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่เสียเปล่าไปหน่อยนะถ้าจะปล่อยให้คนอย่างเขาต้องอยู่แต่ในกองทัพน่ะ พวกนายไม่คิดหรือยังไงกันว่าทั้งบุคลิกภาพและพละกําลังของเขาเหมาะกับการต่อสู้กับอาชญากรมากกว่า? ฉันว่าเด็กคนนี้น่าจะสนุกกับการจับผู้ร้ายมากกว่านะ” ผู้อํานวยการพลันเผยยิ้มและกล่าวคําพูดออกมา

ทันใดนั้น หัวหน้าภาคที่ห้าก็พลันกล่าวคําพูดออกมา “ฉันไม่ได้กลัวเรื่องที่เขาจะต้องรับมือกับพวกอาชญากรสักหน่อย ฉันแค่ไม่อยากให้ลักษณะท่าทางที่ซื่อตรงและอารมณ์เดือดร้อนของเด็กคนนี้ต้องมาปนเพราะเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองในกรมตํารวจต่างหาก อย่าลืมสิ ฉันส่งหมอนั้นไปพักร้อนชั่วคราวเท่านั้นนะ ฉันยังเหลือตําแหน่งว่างให้เขาที่นี่อยู่”

ทันใดนั้น ผู้อํานวยการก็พลันกล่าว “ก็นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมาที่นี่ในวันนี้ยังไงล่ะ ฉันหวังว่านายจะสามารถโอนย้ายตําแหน่งให้เสี่ยวเฉิงมาเข้าร่วมกับกองกําลังตํารวจของเราได้ อันที่จริง ฉันในตอนนี้เองก็ยังให้สัญญาอะไรมากไม่ได้หรอกนะ แต่เขาน่าจะได้อยู่ในตําแหน่งแผนกสอบสวนคดีอาญาแน่ นี่แหละคือสิ่งที่ฉันกําลังเสนอนายอยู่ในตอนนี้”

ความจริงแล้ว หัวหน้ากองทัพภาคที่ห้าเองก็ต้องการให้เสี่ยวเฉิงได้รับสิ่งที่ดีที่สุด และแน่นอน เขาอยากให้เสี่ยวเฉิงมีความสุข ในเวลานี้ หัวหน้ากองทัพภาคที่ห้าก็พลันมองไปยังหัวหน้ากองทัพภาคแปดที่กําลังขมวดคิ้วพร้อมกับถามขึ้น “ได้ข้อเสนอมาหนึ่งแล้ว ไหนข้อเสนอของนายล่ะ? นายคงจะไม่ได้มาขอตัวเสี่ยวเฉิงไปแบบปากเปล่าหรอกใช่ไหม?”