ตอนที่ 178

My Disciples Are All Villains

ซู่ฮ่องกงได้ลงไปจากภูเขาทันทีที่ได้รับคำสั่งมา แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะเดินทางไปยังวิหารทางเลือกแห่งสวรรค์แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่กล้าพอที่จะขัดคำสั่งของผู้เป็นอาจารย์ ซู่ฮ่องกงไม่มีทางเลือกอื่นนอกซะจากยอมทำตาม ยิ่งไปกว่านั้นนี่จะเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้ตัวเขาไถ่บาปในสิ่งที่ตัวเองก่อได้ ในขณะที่กำลังเดินทางไปซู่ฮ่องกงก็ได้ใช้ความคิดไปด้วยว่าจะเจรจากับวิหารทางเลือกแห่งสวรรค์ด้วยวิธีการใด

ในขณะที่ซู่ฮ่องกงกำลังใช้สมาธิไปกับการใช้ความคิด ในตอนนั้นเองฝานซงก็ได้ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่อยู่บนหน้า “ศะ…ศิษย์พี่แปด? “

“ใครกัน? “

“ข้าเอง ฝานซง” ฝานซงได้ปรากฏตัวต่อหน้าซู่ฮ่องกง

เมื่อเห็นฝานซง ซู่ฮ่องกงก็ได้พูดออกมาอย่างหงุดหงิด “หลีกไปซะ ข้ายังไม่ได้สะสางสิ่งที่เจ้าเคยทำไว้กับข้า”

“ศิษย์พี่แปด…ได้โปรดเถอะ ข้ารู้ดีว่าท่านจะไม่ทำอะไรข้าแน่เพราะท่านใจกว้างยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด เพียงแค่มองแค่ครั้งเดียวเท่านั้นข้าก็รู้ดีว่าท่านต่างจากคนอื่น ไม่มีทางเลยที่ท่านจะลงโทษข้าเพราะเพียงคำพูดไม่กี่คำเท่านั้น…” ฝานซงได้พูดออกมา

“หยุดพูดพล่ามได้แล้ว! ข้าไม่หลงกลคำเยินยอของเจ้าหรอก! ” ซู่ฮ่องกงได้ตอบกลับมา

“ศิษย์พี่แปด ท่านน่ะเข้าใจตัวข้าผิดไปแล้ว ถ้าหากการพูดความจริงเป็นการเยินยอ ข้าจะไปพูดโกหกท่านทุกครั้งที่เจอกันได้ยังไง? ” ฝานซงได้ตอบกลับมา

“เป็นอย่างงั้นหรอ? บอกข้ามาสิว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? “

ฝานซงได้พูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม “ศิษย์พี่สี่ได้เสนอชื่อของท่านต่อหน้าท่านปรมาจารย์ ในตอนนี้ศิษย์พี่แปดคงจะต้องไปที่วิหารทางเลือกแห่งสวรรค์เพื่อที่จะไปทำภารกิจในการไถ่บาปของตัวเอง ศิษย์พี่สี่ช่างเป็นคนที่อ่านสถานการณ์เก่งจริงๆ “

ซู่ฮ่องกงได้ถอนหายใจก่อนที่จะพูดออกมา “ศิษย์พี่สี่เป็นคนเดียวที่ดีกับข้า…”

“ถูกต้องที่สุด”

“ไสหัวไปได้แล้ว ข้าไม่คิดที่จะอภัยเจ้าหลังจากที่พูดดีออกมาเพียงไม่กี่คำหรอกนะ”

“ถูกต้องแล้ว…”

ซู่ฮ่องกงเดินไปด้านหน้าก่อนที่จะพูดกับฝานซงออกมา “ในตอนนี้ข้ากลับมาที่ศาลาปีศาจลอยฟ้าแล้ว ที่นี่ไม่มีที่สำหรับคนแบบเจ้าหรอก” หลังจากพูดอย่างหยิ่งผยองออกมาซู่ฮ่องกงก็ได้ถีบตัวเองลอยขึ้นไปบนอากาศ

พรึ๊บ!

ซู่ฮ่องกงพยายามที่จะลอยขึ้นไปบนฟ้า แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่สามารถทำได้ ตัวเขาได้ล้มหน้าคะมำก่อนที่จะไถลตามพื้นของหุบเขาไป

ซู่ฮ่องกงได้กลิ้งลงจากภูเขาไปเรื่อยๆ เสียงร้องของเขาได้ดังก้องไปทั่วทั้งหุบเขาทอง

ฝานซงใช้มือปิดตาของตัวเองเอาไว้ ‘เวรแล้ว ข้าลืมไปซะสนิท ข้าควรจะปลดผนึกพลังวรยุทธของศิษย์พี่แปดซะก่อนนิ’

หกชั่วโมงต่อมา

ที่ศาลาปีศาจลอยฟ้า

“ท่านปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้า ทูตพิเศษจากสำนักหยุน หลี่หยุนเต๋ามาขอเข้าพบ”

“ให้เขาเข้ามาได้”

หลี่หยุนเต๋าได้เดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่อย่างช้าๆ เขาคนนี้ได้ถูกพามาโดยผู้ฝึกยุทธหญิงที่มาจากวังจันทรา

เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้มาเยือนศาลาปีศาจลอยฟ้าจะรู้สึกประหม่าและอยากรู้อยากเห็นในเวลาเดียวกัน หลี่หยุนเต๋ารู้สึกกังวลมาโดยตลอด ที่หุบเขาแห่งนี้มันเต็มไปด้วยจอมวายร้าย และเพราะแบบนั้นเองตัวเขาจึงรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ท่าทีที่เดินเข้าห้องโถงของตัวเขาจึงเป็นท่าทีที่ลุกลี้ลุกลนและดูแข็งกระด้าง

หลี่หยุนเต๋าไม่กล้าที่จะสบสายตาลู่โจวตรงๆ ตัวเขาได้แต่โค้งคำนับให้อย่างนอบน้อม “หลี่หยุนเต๋าแห่งสำนักหยุนขอคารวะท่านผู้อาวุโสจี”

“นั่งซะสิ” ลู่โจวได้โบกแขนขึ้น

หลี่หยุนเต๋าโค้งคำนับให้ “ขอบคุณสำหรับความกรุณาท่านผู้อาวุโสจี” ตัวเขาได้นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทีที่แข็งกระด้างก่อนที่จะมองไปยังมหาวายร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปฐพี เมื่อได้เห็นรูปลักษณ์ของลู่โจวตัวเขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก หัวใจของหลี่หยุนเต๋าเต้นรั่วไม่เป็นจังหวะ ทุกคนต่างก็บอกกันเอาไว้ว่าจีเทียนเด๋าคงจะมีอายุขัยไม่เกิน 10 ปี แต่ถึงแบบนั้นเขากำกลับดูแข็งแรง ผมของปรมาจารย์คนนี้ยังเป็นสีดำเข้ม ไม่มีวี่แววว่าปรมาจารย์คนนี้จะสิ้นอายุขัยในเร็วๆ นี้เลย

เมื่อหลี่หยุนเต๋าหันไปมองฮั๊ววู่เด๋า สีหน้าและแววตาของเขาก็มีแต่ความผิดหวัง ฮั๊ววู่เด๋าในตอนนี้ยืนอยู่ที่มุมห้องโถง ผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งของสำนักหยุนบัดนี้ได้เข้าร่วมกับสำนักฝ่ายอธรรม เรื่องนี้มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและสะเทือนใจจริงๆ!

“ท่านผู้อาวุโสจี จากคำสั่งที่ข้าได้รับมาจากท่านเจ้าสำนักหยุน ข้ามาในวันนี้ก็เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนดอกแมกโนเลียสีดำกับท่าน” หลังจากพูดจบหลี่หยุนเต๋าก็ได้หยิบเอากล่องสีน้ำตาลขึ้นมา ก่อนที่จะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้หมิงซี่หยินก็ได้หยิบกล่องใบนั้นก่อนที่จะส่งมอบให้กับลู่โจวด้วยความเคารพ

ลู่โจวได้โบกแขนตัวเองเบาๆ ในตอนนั้นเองกล่องใบนั้นก็ได้ถูกเปิดออก…

“ติ้ง! ได้รับดอกแมกโนเลียสีดำ x1: ดอกแมกโนเลียสีดำสมบัติล้ำค่าที่จะทำให้ผู้ฝึกยุทธรักษาเยียวยาหรือเบิกทะลวงจุดตันเถียนได้”

ลู่โจวรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่ได้แต้มบุญ แต่ถึงแบบนั้นเขาก็ได้พยักหน้าออกมาอย่างถึงพอใจก่อนที่จะพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา “ข้าน่ะเป็นคนที่รักษาคำพูดเสมอ…ไปพาตัวฝานเชียวมาซะ”

“ครับ”

ไม่นอนหลังจากที่โจวจี้เฟิงรับคำสั่งไป เขาก็ได้พาตัวฝานเชียวมาที่ห้องโถงแห่งนี้

หลังจากที่ถูกผนึกพลังวรยุทธเอาไว้ ฝานเชียวก็ถูกคุมขังมาโดยตลอด เขาไม่ได้เห็นแสงวันหรือท้องฟ้าสีครามมานานแล้ว และเพราะแบบนั้นสภาพของเขาในตอนนี้จึงดูคล้ายกับคนบ้า ผมของเขากระเซิงไม่เป็นระเบียบ ร่างกายของฝานเชียวผอมแห้งกว่าเดิมมาก

หลี่หยุนเต๋าได้จ้องมองไปที่เขาก่อนที่จะพูดขึ้น “ขอบคุณมากที่รักษาคำพูดท่านผู้อาวุโส”

“ส่งแขกของพวกเราออกไปซะ”

“…” หลี่หยุนเต๋าผงะไปเล็กน้อย ตัวเขาได้เดินทางมาไกลแสนไกลเพื่อที่จะมายังหุบเขาทอง ในตอนนี้เขายังไม่ได้นั่งพักผ่อนจนหายเหนื่อยซะด้วยซ้ำไป ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ลุกขึ้นก่อนที่จะพูดอะไรออกมาซะก่อน “ท่านผู้อาวุโสจี ข้ามีบางอย่างที่อยากจะพูด”

“ว่ามา” ลู่โจวเองไม่คาดคิดมาก่อน

“ดาบปีศาจ อดีตศิษย์ศาลาปีศาจลอยฟ้าได้เอาชนะท่านลั่วได้เมื่อหลายวันก่อนที่แท่นบูชาแห่งดาบ…ท่านลั่วต้องการที่จะส่งสารนี้ให้กับท่านผู้อาวุโส…ถ้าหากมีโอกาสอีกเขาก็อยากที่จะประมือกับดาบปีศาจอีกสักครั้ง” หลี่หยุนเต๋าที่พูดเสร็จได้โค้งคำนับให้

“ยู่ฉางตงไปที่แท่นบูชาแห่งดาบมาอย่างงั้นหรอ? “

“ท่านไม่รู้เรื่องนี้หรอท่านผู้อาวุโสจี? ” หยี่หยุนเต๋ารู้สึกตกใจมาก

ลู่โจวครุ่นคิดถึงความหมายของคำพูดพวกนี้ ‘ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมสำนักหยุนเปลี่ยนใจอย่างกะทันหัน ยู่ฉางตงกำลังกดดันพวกเขาอยู่นี่เอง! ‘

เมื่อจำสิ่งที่ยู่ฉางตงได้ทำเอาไว้ในอดีต ลู่โจวก็ได้พึมพำออกมา “เจ้าศิษย์ทรยศ”

หลี่หยุนเต๋าได้พูดออกมาอย่างเร่งรีบ “เพลงดาบของดาบปีศาจนั้นยอดเยี่ยมมาก ดาบปีศาจใช้สุดยอดเพลงดาบ ดาบตัดวิญญาณสามส่วนหวนกลับจัดการนักบุญแห่งดาบด้วยเพลงดาบเดียว…”

หมิงซี่หยินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้พูดขัดขึ้น “ไสหัวไปได้แล้ว”

“เอ่อ…”

‘เจ้านี่กล้ายกย่องคนทรยศต่ออาจารย์ได้ยังไงกัน เจ้านี่มันไร้สมองไปแล้วใช่ไหม? ‘

หมิงซี่หยินได้พูดตะโกนออกมา “ไสหัวไปได้แล้ว! พาเจ้าฝานเชียวไปด้วยซะ! “

“ข้าจะไปเดี๋ยวนี้…” หลี่หยุนเต๋าได้พาคว้าแขนของฝานเชียวเอาไว้ก่อนที่จะออกจากห้องโถงใหญ่ไป ในเวลาเดียวกันนั้นเองเขาก็ได้แต่โกรธแท่นบูชาแห่งดาบ ความสุภาพของตัวเขาไม่ได้มีความหมายอะไรเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าวายร้ายพวกนี้ ไม่ว่าจะทำตัวยังไงคนพวกนี้ก็ยังคงดุร้ายอยู่ดี

หลี่หยุนเต๋าได้จากไปพร้อมกับฝานเชียว

ลู่โจวได้มองดอกแมกโนเลียที่อยู่ในกล่องก่อนที่จะพูดขึ้น “ดอกแมกโนเลียสีดำแม้ว่าจะเล็กสักแค่ไหนแต่มันก็ยังเป็นสมบัติล้ำค่าถึงเพียงนี้” แม้แค่มองผ่านๆ ก็เห็นได้ทันทีว่าแมกโนเลียสีดำนี้เป็นสมุนไพรที่แสนพิเศษ

“ท่านอาจารย์ ดอกแมกโนเลียสีดำสามารถเบิกทะลวงจุดตันเถียนของศิษย์ได้จริงๆ อย่างงั้นหรอ? ” หยวนเอ๋อได้ถามออกมาในระหว่างที่มองดอกแมกโนเลียสีดำอย่างสงสัย

หมิงซี่หิยนได้พูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ดอกแมกโนเลียสีดำเป็นเหมือนกับสมบัติล้ำค่า…แม้ว่าเจ้าจะใกล้ตายมากแค่ไหนแต่ถ้าหากกินดอกแมกโนเลียไปเจ้าก็จะกลับมามีชีวิตใหม่ได้ นี่ไม่ต้องพูดถึงการเบิกจุดตันเถียนของเจ้าเลยศิษย์น้องเล็ก”

เมื่อหยวนเอ๋อได้ยินแบบนั้นเธอก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เธอได้คุกเข่าลงก่อนที่จะพูดขึ้น “ขอบคุณมากค่ะท่านอาจารย์! “

ค่าความจงรักภักดี +2%

ลู่โจวมองไปที่ตัวเลขที่เพิ่มขึ้น ในตอนนี้ค่าความจงรักภักดีของหยวนเอ๋อมากกว่า 85% ไปแล้ว เธอเป็นสาวกที่ภักดีกับลู่โจวมากที่สุด

ลู่โจวลูบเคราของตัวเองก่อนที่จะพูดออกมา “การรักษาเจ้าจะต้องไม่ใช่เรื่องที่เสียเปล่าแน่”

“ศิษย์จะไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวัง”

ในตอนนั้นเองฝานซงก็รีบวิ่งเข้ามาในห้องโถงใหญ่ “ท่านปรมาจารย์ มีจดหมายมาจากวิหารทางเลือกแห่งสวรรค์”

“เอามาให้ข้า”

ฝานซงรีบส่งจดหมายที่ได้มาให้กับลู่โจวด้วยความเคารพ

ลู่โจวรีบเปิดจดหมายออกก่อนที่จะอ่านเนื้อหาด้านในอย่างรวดเร็ว

“ช่างกล้าหาญซะจริง! “

ทันทีที่อ่านจดหมายจบ ลู่โจวก็ได้ขยำมันก่อนที่จะโยนลงบนโต๊ะ จดหมายที่ยับยู่ยี่ได้ร่วงหล่นลงสู่พื้น

หมิงซี่หยินรีบหยิบจดหมายขึ้นมาก่อนที่จะคลี่อ่านในทันที

เมื่อหมิงซี่หยินอ่านจดหมาย ตัวเขาก็ได้พูดออกมาอย่างขุ่นเคืองใจ “วิหารทางเลือกแห่งสวรรค์การที่จะตั้งเงื่อนไขเอาไว้สูงส่งถึงเพียงนี้เลยอย่างงั้นหรอ! พวกเขาต้องการอาวุธระดับสรวงสวรรค์ถึง 3 ชิ้นรวมไปถึงเสื้อคลุมวิถีเซนที่ศิษย์น้องแปดมีอีกด้วย! “

“ไหนเจ้าบอกว่าเขามีสายสัมพันธ์อันดีกับวิหารทางเลือกแห่งสวรรค์ไง? ” ฮั๊ววู่เด๋าได้ถามมาอย่างงุนงง ตัวเขาเองก้ไม่เข้าใจเช่นกัน

“บางทีเจ้าสมองหมูนั่นคงจะปิดบังความจริงเอาไว้” หมิงซี่หยินได้เกาหัวก่อนที่จะมองไปยังลู่โจว “ท่านอาจารย์…ศิษย์น้องแปดถูกจับตัวเอาไว้แล้วแน่ วิหารทางเลือกแห่งสวรรค์อยากที่จะมีเรื่องกับพวกเราศาลาปีศาจลอยฟ้าแล้ว”