ตอนที่ 126

Great Doctor Ling Ran

ณ เวลาหนึ่งทุ่ม

ผู้อำนวยการฮวงลุกขึ้นยืนพร้อมกับแตะไปที่อกของเขาในขณะที่เขาพากลุ่มแพทย์ประจำแผนก,แพทย์ประจำบ้าน, และแพทย์ฝึกงานเข้าไปที่ห้องพักฟื้น

เนื่องจากมีงานเลี้ยงในช่วงค่ำของวันนี้แต่ผู้อำนวยฮวงขอตัวกลับก่อนมันทำให้เขาพลาดที่จะได้ร้องเพลงที่เขาชอบ เช่น “เพลงสรวงสวรรค์” และ “เพลงวันสุดท้าย” มันทำให้เขารู้สึกเสียดายแต่อย่างไรก็ดีเขาออกจากงานเลี้ยงและเดินทางมาที่โรงพยาบาลแทนเพื่อทำการตรวจรอบวอร์ดชดเชยจากการไม่ได้ร้องเพลงของเขา

“ขอโทษที่นะครับจริงๆเราทำการตรวจรอบวอร์ดเสร็จตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว แต่ตอนนี้ผมเข้ามาตรวจเช๊คเพิ่มเติมเพียงเท่านั้นทุกคนไม่ต้องกังวล”

ผู้อำนวยการฮวงขอโทษเมื่อเขาเข้าไปข้างในห้องพักฟื้น ผมสีทองบนหัวของเขาแกว่งไปมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวของเขาทำให้ผู้ป่วยประทับใจ

“เอาจริงแล้วคุณเป็นถึงผู้อำนวยการแผนกคุณยังต้องเดินตรวจรอบวอร์ดอยู่อีกหรอ”

“ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ไม่มีผู้ป่วยคนใดไม่มีความสุขเมื่อหมอทำรอบวอร์ถูกต้องไหม”

“ ก่อนหน้านี้มีหมอรูปหล่อคนหนึ่งที่ชอบตรวจรอบวอร์ดในตอนกลางคืนด้วย แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันไม่เห็นเขามาไม่มาตรวจวอร์ดเลยในช่วงนี้”

ตอนนี้ผู้ป่วยรู้สึกว่าภายในห้องดูอึดอัดเพราะว่าเต็มไปด้วยผู้ติดตามของผู้อำนวยการฮวง แต่อย่างไรก็ผู้อำนวยการฮวงก็ถูกมองว่าเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ป่วย พวกเขาจึงอดทนรอให้ผู้อำนวยการฮวงตรวจวอร์ดให้เสร็จได้

หมอเรย์เอามือปิดปากและไอสองครั้ง

หมอประจำแผนกก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ผู้ป่วยของเตียงที่หนึ่งคือ ลี่แพนอายุหกสิบหกปีมีอาการกระดูกหักแตกหักในส่วนปลายของกระดูกหน้าแข้งขวาการดามกระดูกภายนอกเสร็จสิ้น เมื่อผู้ป่ว เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลผู้ป่วยมีความดันไซโทรลิก หนึ่งร้อยหกสิบและความดันไดโทลิกหนึ่งร้อยเขามีความดันโลหิตสูง และคลื่นไฟฟ้าแสดงให้เห็นว่าเอสทีทีของเขาผิดเต้นจังหวะ … ”

“เราสามารถทำการจัดกระดูกด้วยมือได้ไหม” ผู้อำนวยการฮวงรู้สึกหงุดหงิดจากรายงานที่ซับซ้อนก่อนที่แพทย์ประแผนกจะจบประโยคของเขาผู้อำนวยการฮวงก็ตรงไปยังจุดนั้น

หมอประจำแผนกพลิกบันทึกเวชภัณฑ์และตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “อืม …ทางผู้ป่วยเองก็ขอให้มีการจัดกระดูกเช่นกัน และเราก็ลองทำการจัดกระดูกไปในตอนเช้าแล้วแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น.. ”

“อืม … ” ผู้อำนวยการฮวงพยักหน้าเล็กน้อยเดิมทีนี่เป็นงานของแผนกศัลยกรรมกระดูก แต่เนื่องจากผู้ป่วยตกอยู่ในมือของแผนกฉุกเฉินจึงเป็นหน้าที่ของแผนกฉุกเฉินที่จะต้องจัดการ

ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียงในขณะที่เขาฟังการสนทนาระหว่างสองคนเขาที่พูดกันอย่างรวดเร็ว “ผู้อำนวยการฮวง การจัดกระดูกของพวกคุณนี้มันแย่มากๆฉันเจ็บมากซึ่งลูกน้องคุณทำให้ฉันเจ็บถึงสองครั้งแต่มันก็ไม่ได้มีอะไรกัขึ้น”

ผู้อำนวยการฮวง กล่าวว่า “มีหลายสาเหตุที่ทำให้การจัดกระดูกไม่ได้ผลสำหรับเคสของคุณ … ”

ผู้อำนวยการฮวงดูรายงานทางการแพทย์และพูดว่า “เคสของคุณจากการตรวจดูแล้วโดยการจัดกระดูกในครั้งแรก ของคุณเราพบว่าการจัดกระดูกยังไม่เขาที่ ดังนั้นเราจึงดำเนินการจัดกระดูกแบบหลายชิ้นสำหรับคุณนี่คือความรับผิดชอบของเรา สำหรับคุณแล้วมันก็ดีสำหรับการรักษาให้กับมาเป็นปกติ ”

“ทำไมเรายังต้องจัดกระดูกอยู่อีก” ผู้ป่วยรู้สึกอึกอัดภายในใจแต่ทำได้แค่บ่น

แพทย์ประจำแผนกก็บ่นว่า “คุณเป็นคนขอให้เราทำไม่ใช่หรือยังไง”

ผู้อำนวยการฮวงหายใจออกและหันหลังกลับด้วยอาการหงุดหงิด “นี่คืออะไรนายต้องกาให้รผู้ป่วยเพื่อสอนวิธีรักษาโรค? นายตั้งหากที่เป็นคนที่ต้องตัดสินใจไม่ใช่ผู้ป่วย”

“อืม … มันไม่ใช่เขาผมเป็นเจ้าของไข้ … ” หมอประจำบ้านก็ถอยกลับ

“ใครเป็นใคร” ผู้อำนวยการฮวงเต็มไปด้วยความโกรธ

แพทย์ประจำบ้านก็ก้มศีรษะลงและไม่พูดอะไรสักคำ

ผู้อำนวยการฮวงจะไม่ดุด่าหมอต่อหน้าผู้ป่วยจริงๆเขาหันกลับมาและยิ้มให้ผู้ป่วย “หมอมือใหม่ไม่รู้วิธีที่จะจัดการให้ผู้ป่วยให้รับการรักษาอื่น แต่เนื่องจากคุณร้องขอ หากกระดูกซ่อนอยู่ภายในเนื้อพวกเขาจะมองไม่เห็นอย่างชัดเจนเช่นกันหากการกระดูกไม่สำเร็จการจัดกระดูกแบบเรียงชิ้นจะเข้ามาแทนที่วิธีการเดิม นี่เป็นวิธีการทางการแพทย์ทั่วไปผมขอดูที่แขนของคุณหน้อย ”

ผู้ป่วยยืดแขนอีกครั้ง

“ปกติแล้วคนทั่วไปเมื่อายุมากขึ้นภูมิคุ้มกันยิ่งลดลงมันทำให้คุณจะต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้น และตอนนี้คุณก็เบาหวานอยู่ด้วยคุณก็ควรจะดูแลตัวเองแบบยกกำลังสอง… ” เมื่อพวกเขา ผู้อำนวยการฮวงดูแลผู้ป่วยอย่างไร มันทำให้เขาได้รับคำชมจากผู้ป่วยรายอื่นทุกคนอุทานว่าไม่น่าแปลกใจว่าทำไม ผู้อำนวยการฮวงจึงได้เป็นผู้อำนวยการแผนกเพราะฝีมือของเขานี้เอง

แพทย์ประจำบ้านหลายคนได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสพวกเขาต้องตรวจคนไข้เกือบยี่สิบคนทุกวันพวกเขาจะพิถีพิถันและจริงจังได้อย่างไรในฐานะผู้อำนวยการฝ่าย

ผู้อำนวยการฮวงเขาเป็นคนมีสปิริตสูงเขาใช้เวลาสามสิบนาทีเพื่อตรวจผู้ป่วยสี่รายในห้องหนึ่งซึ่งทำให้ทุกคนประทับใจ

เมื่อเขาออกจากประตู ผู้อำนวยการฮวงก็ถอนหายใจเขาไม่ได้สั่งอะไรและเขาเข้าไปที่ห้องถัดไปและเดินตรงไปที่ห้องพักฟื้นของผู้ป่วยที่ถูกรักษาด้วยเทคนิคเอ็มถัง

“ พวกคุณทุกคนมาดูว่ามือนี้มันถูกเย็บอย่างไร” ผู้อำนวยการฮวงยืนอยู่ที่ห้องพักฟื้นของกลุ่มผู้ป่วยที่รักษาด้วยเทคนิคเอ็มถัง เสียงของเขาดังขึ้นทันทีสามครั้ง

โดยทั่วไปไม่มีความผิดพลาดในการผ่าตัดที่หลิงรันได้ทำไป แต่ก็ยังมีผลลัพธ์ที่ไม่ดี แต่พวกเขาอาจจะเกิดจากปัจจัยแวดล้อมภายนอกข้อผิดพลาดของการผ่าตัดเกือบนั้นแทบจะไม่พบเลย

แพทย์ประจำบ้านและแพทย์ฝึกหัดอยากรู้อยากเห็นมาดูและล้อมรอบพวกเขา

แพทย์ประจำบ้านบางคนถามหมอฝึกหัดอย่างเงียบ ๆ ว่า “หลิงรันเป็นเพื่อนรวมชั้นของนายใช่ไหท”

“ใช่แล้ว” ผู้ฝึกงานที่ถูกถามตอบอย่างเศร้าโศก

การผ่าตัดที่โดดเด่นของหลิงรันนั้นทำให้กลุ่มของเขาเครียดมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทุกวันนี้แพทย์ทั้งหมดจากทุกแผนกจะเอาหลิงรันมาเป็นตัวอย่างเมื่อพวกเขาพบแพทย์ฝึกหัด

“ อะไรคือความยากในการเย็บเอ็นกล้ามเนื้อยืดหยุ่น?” ผู้อำนวยการฮวงก็เริ่มถามคำถามเขาเรียกหาแพทย์ประจำบ้าน

แพทย์ประจำบ้านที่ถูกถามผงะเขาถามด้วยคำถาม

“ ดูหมอฝึกหัดที่อายุน้อยกว่าคุณเริ่มปฏิบัติการสำคัญแล้วและคุณจำจุดสำคัญของการเย็บเอ็นกล้ามเนื้อไม่ได้เหรอ?” ผู้อำนวยการฮวงใช้วิธีการสอนแบบดั้งเดิมในการเปรียบเทียบการแสดงของนักเรียนเพื่อสอน แพทย์ที่อยู่ภายใต้เขาและเขาหันมองดูกลุ่มแพทย์เหล่านั้นพยักหน้าด้วยความผิดหวัง

แพทย์ประจำบ้านถูกเรียกโดยการจ้องมองของเขาคำตอบมันเกิดขึ้นทันทีในหัวของเขาและเขากล่าวว่า “ภาวะแทรกซ้อนที่เป็นไปได้คือแอดเฮอร์ชันหลังผ่าตัด … ”

“ช้าเกินไป!” ผู้อำนวยการฮวง ขัดจังหวะเขาทันที

ใบหน้าของแพทย์ประจำบ้านเปลี่ยนไปเป็นสี

“จริงๆในการผ่าตัดนายจะต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วไม่ใช่มั่วแต่อำอึ้ง” ผู้อำนวยการฮวงส่ายหัว “ใครสามารถอธิบายข้อดีและข้อเสียของการเย็บประเภทต่าง ๆ ได้ ทุกคนต้องหาคำอธิบายที่ดีมาอย่างล่ะหนึ่งเทคนิค ”

“ผมครับ” หมอฝึกหัดคนหนึ่ง ในทันใดนั้นคำตอบก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขา เขายกมือขึ้นอย่างรวดเร็วและพูดในสิ่งที่เขารู้ “บรูเนอร์เป็นวิธีการเย็บเอ็นที่เร็วที่สุด …

“เย็บข้ามสองครั้ง …

“วิธีเย็บรูปที่แปด …

“เทคนิคการเย็บเคอร์เซอร์เป็นวิธีการผ่าตัดหลักของแผนกศัลยกรรมมือของเรา …

“นอกจากนี้ยังมีการเย็บแบบซู… ”

ผู้อำนวยการฮวงเลือกคนถามทีละคนเพื่อตอบคำถามของเขาและ แพทย์ใหม่และแพทย์ฝึกหัดตอบทีละคนแพทย์รวมถึงประจำบ้านไม่ได้งดเว้น

สมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยในวอร์ดมองไปที่กลุ่มแพทย์มือใหม่เหล่านั้นและถ่ายรูปอย่างเงียบ ๆ จากนั้นพวกเขาเขียนคำว่า ‘โศกนาฏกรรม’ บนใบหน้าของพวกเขาและส่งภาพถ่ายไปยังเพื่อนๆของเขา

ผู้อำนวยการฮวงไม่สนใจว่าคนอื่นคิดอย่างไร

เขาใช้คำถามเพื่อกดดันหมอมือใหม่เหล่านั้นในขณะที่กำลังวินิจฉัยสภาพของผู้ป่วย

โรงพยาบาลส่วนใหญ่ใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมสำหรับแพทย์ประจำบ้านและแพทย์ประจำบ้านยกเว้นแพทย์ที่เก่งที่สุดสามคนซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่จะต้องถูกทารุณกรรมเป็นเวลาเกือบสิบปีก่อนที่พวกเขาจะได้รับความมั่นคงในโรงพยาบาล

ฐานรากที่มั่นคงไม่ได้หมายความว่าแพทย์จะไม่ถูกเลือกให้ตอบคำถามอีกต่อไป แต่อย่างน้อยตอนนี้พวกเขาสามารถเลือกคนอื่นเพื่อตอบคำถามของพวกเขาและพวกเขาสามารถปรับอารมณ์ตามสถาณการณ์ที่เกิดได้

“คุณรู้ไหมว่ามันยากแค่ไหนในการผ่าตัดด้วยเทคนิคเอ็มถัง?” ผู้อำนวยการฮอวงถามคำถามหลักของวันนี้และเขาก็ทำเช่นนั้นด้วยน้ำเสียงราวกับว่าเขากำลังเปรียบเทียบกับลูกที่โง่เขลาของเขากับลูกของเพื่อนบ้าน

กลุ่มแพทย์มือใหม่มองหน้ากันพวกเขาไม่เต็มใจที่จะตอบคำถามนี้

“เทคนิคเอ็มถังนั้นซับซ้อนกว่าวิธีการเย็บแผลที่พวกนายเพิ่งตอบขึ้นมา … ” ผู้อำนวยการฮวงมองไปที่กลุ่มแพทย์มือใหม่ในขณะที่เขาตอบคำถามด้วยน้ำเสียงที่ซาบซึ้ง

ผู้ป่วยในวอร์ดฟังอย่างกระตือรือร้น

ทุกคนหวังว่าจะได้รับบริการทางการแพทย์ที่ดีที่สุดดังนั้นเหตุใดจึงมีแพทย์ระดับภูมิภาคที่มีชื่อเสียงมากมายได้รับการสรรเสริญจากผู้ป่วย ในบางครั้งก็มีวัตถุประสงค์และบางครั้งการสรรเสริญเหล่านั้นก็เพื่อปลอบใจพวกเขาเหมือนกัน

ผู้อำนวยการฮวงชื่นชอบหลิงรันและเทคนิคเอ็มถังของเขาใครจะไม่ชอบแพทย์ที่สามารถทำศัลยกรรมได้แปดถึงสิบครั้งต่อวันมันป็นเหมือนขุมทรัพย์ในโรงพยาบาลทั้งหมด

แม้แต่โรงพยาบาลเอกชนเช่นจักษุแพทย์เอไออาร์ก็ให้ความสำคัญและเอาใจใส่แพทย์ที่สามารถปฏิบัติงานได้สิบครั้งต่อวัน

นอกจากนี้เทคนิค เอ็มถังของหลิงรันนั้นซับซ้อนมากและเขาเกือบผูกขาดเทคนิคนั้นในโรงพยาบาลแห่งนี้เลย

“ผู้ที่รู้วิธีการประเมินการทำงานของมือกรุณาก้าวออกมาและวินิจฉัยผู้ป่วยซึ่งมันจะช่วยให้ทุกคนเห็นว่าการประเมินฟการทำงานของมือ สมบูรณ์ถึงร้อยละเก้าสิบเจ็ด โดยใช้เทคนิคเอ็มถัง” ในขณะที่ผู้อำนวยการฮวงเริ่มรู้สึกตื่นเต้นในขณะที่พูดถึง “เด็กอัจฉริยะข้างบ้าน” เขาพบว่าเขามีความปรารถนาอย่างมากที่จะได้เป็นเด็กอีกครั้ง

แพทย์หลายคนสมัครใจก่อนที่จะยืนขึ้นและใช้มือประเมินดูอาการของผู้ป่วย

ขณะที่พวกเขาทำการประเมินการทำงานของมือ โดยมีผู้อำนวยการฮวงยืนอยู่เข้างๆพูดถึงความยากและจุดสำคัญของดัชนีชี้ต่าง ๆ ของเทคนิคเอ็มถังหากมีใครให้ไมโครโฟนกับเขาในเวลานี้ผู้อำนวยการฮวงคงจะร้องได้ ออกมา “สวรรค์” ทันทีเพราะตอนนี้เขาคงอารมณ์ดีมากๆ

กลุ่มแพทย์มือใหม่ฟังจนพวกเขารู้สึกวิงเวียน แต่พวกเขายังคงต้องฟังต่อไป

หลังจากจบการประเมินการทำงานของมือเสร็จทั้งสี่คนในห้องได้รับการวินิจฉัยว่าอยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยมกลุ่มแพทย์ปรบมือแสดงความร่วมมือที่ดี

“น่าอัศจรรย์ใช่มั้ย” ผู้อำนวยการฮวงหัวเราะ

“น่าทึ่ง” หมอมือใหม่ตอบอย่างพร้อมเพรียงด้วยความจริงใจ

ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นเรื่องแปลกที่ผิดปกติที่จะสามารถใช้เทคนิคเอ็มถังได้ความสามารถในการใช้เทคนิคเอ็มถังในขณะที่ให้ผู้ป่วยทุกคนทำคะแนนด้วยสีในการประเมินการทำงานของมือ

ในเวลาเดียวกันหลิงรันเปิดหีบสมบัติสิบสองกล่องจากการได้รับคำชม

แสงจากหีบสมบัติขั้นพื้นฐานส่องผ่านตะแกรง แต่มีเพียงหลิงรันเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้

หลิงรันพลิกปีกไก่เหลือบมองไปที่เซรั่มพลังงานยี่สิบเอ็ดขวดแล้วดูหนังสือทักษะตรงกลาง

[หนังสือทักษะเดียว. สาขาทักษะที่ได้รับ: การจัดการกระดูกสันหลังส่วนคอ (ระดับกลาง)]

[คำแนะนำ: การจัดการ กระดูกสันหลังส่วคอ เป็นวิธีการที่ไม่ใช้การผ่าตัดเพื่อรักษากระดูกปากมดลูกเพียงเท่านั้นมันถูกใช้กันได้ในหลาย ๆ จุดของออวัยวะการจัดทำเอ็นกล้ามเนื้อจัดฟันทำได้โดยการกด การถู การดึง การนวด เคาะและสะบัดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อเมื่อรวมกับเทคนิค แซนติทัล เพนไอโวนิคคอนแทครีแลกซ์ ผลการรักษาทางคลินิกจะมีประสิทธิภาพมากกว่าร้อนละเก้าสิบห้า]

ตาของหลิงรันกวาดตาไปรอบ ๆ เขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเขาหยิบปีกไก่สด ๆ สองสามชิ้นเนื้อซี่โครงและหมูสับ

หลิงรันวางพวกมันลงบนโต๊ะก่อนที่ใช้การจัดการกระดูกสันหลังส่วนคอที่เขาเพิ่งเรียนรู้ปรุงอาหารที่อยู่ตรงหน้า

เขาปรุงอาหารด้วยวิธีเดียวกับการรักษาโดยการกและพักมันไว้สักครู่หนึ่งก่อนจะคว้าวัตถุดิบขึ้นมาจากนั้นก็ผลักพวกมันก่อนที่จะทำการเคาะ เขาจะใช้แขนของเขาเป็นครั้งคราวเป็นแกนเพื่อใช้ข้อศอกของเขาในการนวดเนื้อ

พยาบาลสาวและแพทย์หญิงร่วมถึงหมอชายรอบตัวเขามองเขาด้วยความหลงใหล

“หมอหลิงจริงจังมากเมื่อเขาย่างบาร์บีคิว”

“ฉันรู้สึกว่าเนื้อบาบีคิวชุดนี้จะได้รสชาติที่ดียิ่งขึ้น”

“หมอหลิงหล่อมากเลย”

“ฉันอยากเป็นเนื้อชิ้นนั้นจริง ๆ … “