บทที่ 176 แท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์

มนุษย์กบตนหนึ่งกําลังดําลงไปในทะเลสาบที่มืดและลึก

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นทะเลสาบที่กว้างใหญ่และลึกจนน่ากลัวแต่กลับแทบไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลยนอกจากปลาตัวเล็ก ๆ บางตัวที่ว่ายไปมา

ปลาอาจถูกกินโดยเดรคหนองน้ําไปแล้ว

มนุษย์กบคิดถึงสัตว์ประหลาดตัวขนาดมหึมาความกระหายของของมันต้องน่ากลัวมากแน่

แม้ว่ามนุษย์กบจะไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้กับเดรคหนองน้ําแต่มันก็ส่งเสียงเชียร์เจ้านายที่อยู่ใกล้ ๆ แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสําหรับการเอาไปคุยโม้เมื่อพบคล็อกกาโตว์ที่หมู่บ้าน

จากนั้นมนุษย์กบก็ได้รับความไว้วางใจจากเจ้านายให้ลงไปสํารวจกันทะเลสาบเพื่อทําเควสสืบหาเบาะแสนั่นทําให้มนุษย์กบรู้สึกตื่นเต้นมากหากไม่ใช่เพราะน้ําในทะเลสาบเย็นเฉียบสามารถทําให้มันสงบได้มันคงรุ่มร้อนไปทั้งตัว

ความจริงผู้เล่นมีอุปกรณ์ดําน้ําสําหรับใช้สํารวจท่าเรือเกรย์ฟอร์ดแต่พวกเขาไม่คิดว่าจะต้องใช้สิ่งนั้นในบึงเซร่าทําให้ไม่มีใครนําอุปกรณ์ที่หนักและกินพื้นที่เหล่านั้นมาด้วย

โชคดีที่หลังจากกิจกรรมเกาะมนุษย์เงือกจบลงก็มีผู้เล่นทําสัญญากับมนุษย์กบมากขึ้น พวกเขาจึงสามารถส่งมนุษย์กบไปช่วยสืบหาเบาะแสที่ก้นทะเลสาบได้

มนุษย์กบหนุ่มยังคงดําต่อไป เมื่อมันดําลงไปลึกขึ้นเรื่อยๆแรงดันน้ําก็ค่อย ๆ สูงขึ้น ทําให้มันรู้สึกเหมือนกําลังจะหมดลมหายใจ

“คัก!”

ในขณะที่มันกําลังจะถูกบดขยี้ด้วยแรงดันน้ํามหาศาลแสงสีขาวราวหิมะอันนวลตาก็ปรากฏขึ้น

จากนั้นแท่นบูชาขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าเขาตรงกลางของแท่นบูชามีอัญมณีหนึ่งเม็ดที่ส่องแสงเป็นประกายสีขาวแต่ด้วยบางอย่างมันเลยดูมืดมนมาก

หลังจากนั้นทั้งทะเลสาบก็เหมือนจะส่องแสง

ด้านล่างของแท่นบูชามีซากศพที่บิดเบี้ยวของสิ่งมีชีวิตต่างๆ กองอยู่รอบ ๆ แต่พอจะมองออกอยู่บ้างว่ามันเป็นซากศพของเดรคหนองน้ําศพเหล่านั้นมีขนาดใหญ่กว่าเดรคหนองน้ําที่ผู้เล่นทิ้งระเบิดหัวไปก่อนหน้านี้แถมศพยังถูกโซ่ขึ้นสนิมขนาดใหญ่ที่หนากว่าร่างของมนุษย์กบรัดไว้

“คล็อก?”

ด้วยเหตุผลบางอย่างมนุษย์กบที่ปกติจะขี้ขลาดดูเหมือนจะไม่กลัวซากศพเหล่านั้นบนพื้นเลย

มันลืมภารกิจของมันไปโดยสิ้นเชิงและถูกดึงดูดเข้าไปใกล้อัญมณีเม็ดนั้น

นั่นคือตอนที่ใบหน้าของมันเปลี่ยนจากความมึนเมาเป็นมีสติด้วยอํานาจของสัญญาที่แข็งแกร่ง มันจึงรู้ทันที่ว่าภารกิจของมันเสร็จสมบูรณ์แล้วและมันสามารถกลับขึ้นไปได้

ตอนนั้นเองมนุษย์กบตัวเขียวก็ตกใจเมื่อมันเห็นซากศพที่กองอยู่รอบแท่นบูชา และรีบว่ายน้ําหนีขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

มันไม่รู้ว่าหลังจากที่มันจากไปได้มีลูกบอลเรืองแสงปรากฏขึ้นใกล้แท่นบูชาและยืดหนวดออกไปขดรอบอัญมณีสีขาวและดึงมันออกไป

อย่างที่คิด อัญมณีสีขาวนี้เป็นชิ้นส่วนความเป็นพระเจ้าจริง ๆ แต่มันไม่ได้เป็นของมอสแลนด์สปิริต

มันเป็นของอเมซอนผู้พิทักษ์ป่าฝนเทพที่หายตัวไปอย่างกะทันหันเมื่อ 700 ปีก่อน

น่าเสียดายที่ชิ้นส่วนนี้เสียหายมากจนซีเว่ยไม่สามารถอ่านความทรงจําได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอเมซอนก่อนที่เขาจะหายตัวไปแต่เมื่อพิจารณาจากวิธีการวางบนแท่นบูชาแล้ว ซีเว่ยกลัวว่าเหตุผลเบื้องหลังคงไม่ง่าย

และที่น่าสนใจก็คือ หลังจากที่ชิ้นส่วนได้ตกลงมายังดินแดนมรรตัยและมีความเสถียรแล้ว มันก็ได้เรียกคืนความสามารถในการบันทึกแบบเดียวกับที่เทพมีและนั่นทําให้เขาสามารถเรียกดูบันทึกได้

ฉากแรก ชิ้นส่วนนี้ได้ถูกวางไว้บนแท่นบูชาและมีเดรคหนองน้ําหลายตัวถูกมัดด้วยโซ่เหล็กทําหน้าที่เป็นสัตว์ผู้พิทักษ์ปกป้องแท่นบูชาไม่ให้มันถูกค้นพบหรือถูกทําลายโดยผู้อื่น

แต่เมื่อเวลาผ่านไป เดรคหนองน้ําเหล่านั้นก็ค่อยๆ ถูกกัดกร่อนโดยความเป็นพระเจ้า และในที่สุดก็ตายลงที่ก้นทะเลสาบ

แม้ว่าพวกมันจะมีลูกหลาน แต่ลูกหลานของพวกมันก็จะถูกโซ่เหล็กมัดไว้ทันทีเมื่อฟักออกจากไข่ด้วยศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์บางอย่างอยู่ที่นอกแท่นบูชาและทําหน้าที่แทนบรรพบุรุษในฐานะผู้พิทักษ์รุ่นต่อไป

เดิมที่เดรคหนองน้ํามีชีวิตยืนยาว แต่ด้วยอิทธิพลของความเป็นพระเจ้าทําให้เดรคหนองน้ําทุกรุ่นยกเว้นรุ่นแรกไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้เกิน 50 ปี

แต่หลังจากถูกกัดกร่อนด้วยความเป็นพระเจ้าที่ถูกส่งต่อมารุ่นต่อรุ่นเดรคหนองน้ําในปัจจุบันจึงได้รับความเป็นพระเจ้าที่แข็งแกร่งด้วยเหตุนี้มันจึงมีภูมิต้านทานด้านเวทมนต์กฎหรือแม้แต่ศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆและสามารถแยกตัวออกจากโซ่เหล็กที่พันธนาการมันมานานหลายศตวรรษ

ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้รับอิสรภาพโดยสมบูรณ์ด้วยความเป็นพระเจ้าที่เพิ่มขึ้นทําให้วิญญาณของมันถูกปน เปื้อนโดยชิ้นส่วนของเทพดังนั้นไม่เพียงแต่มันจะออกจากทะเลสาบไม่ได้ มันยังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเทพ เจ้า และเริ่มรวบรวมพลังศรัทธาของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ และสร้างศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถสร้างสิ่งมีชีวิตบิดเบี้ยวที่ รองรับพลังของมันได้…

เป็นที่น่าสังเกตว่าชิ้นส่วนของพระเจ้าไม่ได้มีความตระหนักในตนเองการที่มันควบคุมเดรคหนองน้ําเป็นเพียงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากสัญชาตญาณเท่านั้น

และมนุษย์เงือกหนองน้ําที่ได้รับการคุ้มครองโดยเทพเจ้าเช่นนี้ก็เหมือนกับพวกลัทธิที่บูชาเทพเจ้าชั่วร้ายอิทธิพลของพวกมันขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วและกวาดล้างสิ่งมีชีวิตอื่นๆเกือบทั้งหมดในบึงเซร่าและแพร่กระจายออกไปนอกพื้นที่อย่างไม่สามารถควบคุมได้

ผลที่ตามมาก็คือมันได้ดึงดูดผู้เล่นมาที่นี่จากนั้นผู้เล่นก็ระเบิดมนุษย์เงือกไปพร้อมกับเทพของพวกมัน…

แม้ว่าจะยังมีมนุษย์เงือกหนองน้ําจํานวนมากซ่อนตัวอยู่ในบึงเซร่าแต่ผู้เล่นก็หมดความสนใจไปแล้วเพราะการต่อสู้ในบึงเซร่านั้นค่อนข้างลําบากปัจจัยอื่น ๆ นอกเหนือจากการต่อสู้เพียงอย่างเดียวก็อาจทําให้พวกเขาเละไม่ต่างจากตกลงไปในบ่อโคลน

นอกจากนี้อาหารจานหลักอย่างเดรคหนองน้ําก็ตายไปแล้วทำไมพวกเขาต้องหันไปกินอาหารเรียกน้ําย่อย อีก?

“ชิ้นส่วนของพระเจ้าหลุดเข้าไปในแดนมรรตัยเมื่อ 700 ปีก่อนและตอนนี้ก็มีอีกชิ้นหนึ่งที่พึ่งตกลงมา…นี่มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญจริง ๆเหรอ” ซีเว่ยอดไม่ได้ที่จะคิดเรื่องนี้หลังจากดูสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในชิ้นส่วน

ไม่ว่าเขาจะมองยังไง แท่นบูชาก็ดูไม่เหมือนว่าเป็นผลงานของมนุษย์เพราะมันมีมนต์สะกดที่ทําให้เดรคหนองน้ํารุ่นต่อรุ่นต้องถูกผูกอยู่ที่นี่มามากกว่า 700 ปี

“เป็นไปได้ไหมว่ามีเรื่องสําคัญเกิดขึ้นเมื่อ 700 ปีก่อน”ซีเว่ยพยายามตรวจสอบ แต่กลับไม่พบบันทึกใด ๆ ที่เกี่ยวข้องจากความทรงจําของเจ้าแห่งน้ําและไม่รู้ว่าเป็นเพราะมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือถูกลืมกันแน่ “คราวหน้าฉันจะลองถามอัสลานดู…”

ซีเว่ยเกาหัว เขาพบว่าตัวเองกําลังทําเรื่องไร้สาระมากไม่ว่าจะเป็นเหตุฆาตกรรมเทพเจ้าต่อเนื่องในตอนนี้หรือเกมหมากรุกเมื่อ 700 ปีก่อนมันก็ไม่มีอะไรที่เขาสามารถเข้าไปยุ่งได้ในตอนนี้

ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องคิดก็คือทํายังไงเขาถึงจะแข็งแกร่งขึ้น

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่เจ็บปวดกับพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องจ่ายออกไป

“ผู้เล่นเอ๋ย ระบบเวอร์ชั่นใหม่ของพวกนายกําลังจะมาแล้ว!”