บทที่ 213 งานแต่งงานของเว่ยฉิงและถังหลี่

หลังจากที่ถังหลี่พูดคุยกับเด็กหนุ่มทั้งสองจบ ต้าเป่าและสวี่เจวี๋ยก็ขอตัวไปหาน้องทั้งสองคน

“น้องรอง น้องเล็ก ข้าเตรียมของขวัญไว้ให้พวกเจ้าด้วยนะ” ต้าเป่ากล่าว เด็กหญิงดีใจมาก นางเขย่งปลายเท้าขึ้นอย่างตื่นเต้น พี่ใหญ่จะให้ของขวัญอะไรนางนะ?

ขนม?

ลูกกวาด?

ไม่ว่าจะเป็นอะไร ซานเป่าก็ชอบมันอยู่ดี!

ดวงตาของเด็กหญิงส่องประกาย ขนตาของนางกะพริบปริบ ๆ ต้าเป่าหยิบตำราเล่มหนึ่งออกมาและส่งมันให้แก่ซานเป่า

“นี่เป็นหนังสือรูปภาพที่ข้ากับสวี่เจวี๋ยช่วยกันทำตอนว่าง เหมาะสำหรับเด็กอายุขนาดเจ้า ที่จะฝึกอ่านนะ”

ซานเป่ารับมาอย่างงุนงง

เด็กหญิงมองด้วยดวงตากลมโต จากนั้นก็กระพริบตาอีกครั้ง นางสงสัยว่าตัวเองได้ยินผิดไปหรือไม่ ฝึกอ่านหรือ?

ตอนนี้ซานเป่ายังเด็กมาก จำเป็นจะต้องรู้หนังสือแล้วหรือ?

หนังสือภาพที่ได้ดูเป็นครั้งคราวนั้นซานเป่าดูเพียงภาพประกอบที่สวยงามเท่านั้น แค่เห็นตัวอักษรนางก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาแล้ว

“ซานเป่า เจ้าไม่ชอบหรือ?”

ต้าเป่าถามน้องสาว เด็กหนุ่มรู้สึกประหลาดใจมาก เดิมที่เขาคิดว่าซานเป่าจะมีความสุขมากเมื่อได้รับของขวัญชิ้นนี้จากเขา

“ทำไมจะไม่ชอบ ซานเป่าดีใจจนตะลึงต่างหาก!” สวี่เจวี๋ยพูด “ใช่ไหมซานเป่า”

ในความเป็นจริงแล้ว ตอนที่ต้าเป่าชวนเขาไปรวบรวมหนังสือภาพ สวี่เจวี๋ยเองนั้นอยากเตือนอีกฝ่ายว่าไม่ใช่เด็กทุกคนที่รักการอ่านหนังสือเช่นเขา แต่ทว่าเมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นของต้าเป่า สวี่เจวี๋ยก็ไม่กล้าที่จะขัดขวางความปรารถนาดีของเขา ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าซานเป่าไม่ใช่เด็กที่ชอบอ่านหนังสือเท่าไหร่

เป็นเพราะการจ้องมองของสวี่เจวี๋ย ซานเป่าจึงได้เผลอพยักหน้าตอบรับ ต้าเป่าเห็นเช่นนั้นจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“งั้นเรามาดูกันดีกว่า”

ซานเป่าย้ายไปที่ม้านั่งเล็ก ๆ ที่สวนเพื่ออ่านหนังสือภาพ หลังจากดูไปสักพักเด็กหญิงก็ง่วงนอนเหลือเกิน เมื่อพี่ชายคนรองของนางเข้ามาช่วย ซานเป่าจึงฉวยโอกาสตามอีกฝ่ายไปเล่นอย่างมีความสุข

ถังหลี่เดินเข้าไปในห้องนอน นางประหลาดใจ ที่เห็นเว่ยฉิงกำลังอ่านหนังสือ

โดยปกติแล้ว เขามักปวดหัวทุกครั้งเมื่อต้องอ่านหนังสือ

แต่

ครั้งนี้เขากลับอ่านได้อย่างเพลิดเพลิน

นี่พระอาทิตย์กำลังขึ้นทางทิศตะวันตกหรืออย่างไร?

ถังหลี่เดินเข้าไปใกล้ทันที นางอยากรู้ว่าเขากำลังอ่านหนังสืออะไรอยู่ เมื่อเว่ยฉิงเห็นถังหลี่ เขากระโดดลุกขึ้นพยายามจะซ่อนหนังสือไว้ข้างหลังทันที ถังหลี่ผิดสังเกต

“เอาออกมา”

เว่ยฉิงพยายามหาทางเอาตัวรอดทันที

“ฮูหยิน แค่หนังสือทั่วไปน่ะ”

ไม่ว่าอย่างไร จะให้ภรรยาเห็นหนังสือไม่ได้อย่างเด็ดขาด!

ห้ามเด็ดขาด!

“คืนนี้เจ้าห้ามขึ้นมานอนบนเตียง” ถังหลี่ขู่

เว่ยฉิงจึงรีบนำออกมายื่นใส่มือถังหลี่

หญิงสาวหยิบขึ้นมาดู และเมื่อเปิดดูด้านในใบหน้าของนางก็เป็นสีแดงก่ำ นี่…นี่..มันช่าง..

ไม่ต้องพูดถึงฝีมือของนักวาดในสมัยโบราณเลย ภาพวาดที่อยู่ในหนังสือเล่มนี้เหมือนจริงราวกับว่านางกำลังดูภาพยนต์สักเรื่อง!

ส่วนเว่ยฉิงทำตัวราวกับหมูตายที่ไม่กลัวน้ำร้อน

“ฮูหยิน ลองเปิดดูที่หน้าหกสิ” เว่ยฉิงกล่าว

หญิงสาวสูดลมหายใจเขาลึก ๆ นางต้องการรู้ว่ามีกลอุบายอะไรซ่อนอยู่ ถังหลี่เปิดไปหน้าหกอย่างรวดเร็ว ภาพที่เห็นทำให้นางตะลึงงัน

“เฉาจีบอกว่ามันดีมาก” เว่ยฉิงพูดเขิน ๆ แต่อดไม่ได้ที่จะคาดหวัง

“พวกเจ้าคุยเรื่องนี้กันหรือ!” ถังหลี่ตกใจ

“ใช่แล้ว” ชายหนุ่มพยักหน้ารับ ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปหาภรรยา

“ฮูหยิน เป็นอย่างไร…เรามาลองทำกันดูไหม?”

ครั้งแรกถังหลี่อยากปฏิเสธทันที แต่ทว่านางก็ไม่สามารถใจแข็งกับชายที่ดูโหดเหี้ยมแต่ทำตัวราวกับเด็กทารกได้ หญิงสาวจึงเผลอตอบตกลงไป

แต่ผลที่ได้ก็คือการที่นางไม่ได้นอนเลยตลอดทั้งคืน!

…….

วันต่อมา

เว่ยฉิงยังคงออดอ้อนภรรยาไม่หยุด

“ฮูหยิน เรามาแต่งงานกันดีไหม?”

ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาตอนที่อยู่ในเมืองฉินโจว ทั้งคู่พากันวุ่นวายเรื่องของงานแต่งเถ้าแก่เนี้ยฮวา เว่ยฉิงจึงคิดได้ว่าเขาและภรรยาควรจัดงานแต่งงานเช่นกัน ถึงแม้มันจะดูสายเกินไปสักหน่อยก็ตาม แต่ทว่าเขาก็อยากจัดงานแต่งอยู่ดี!

สิ่งที่ภรรยาผู้อื่นได้รับ ภรรยาของเขาก็ย่อมได้เช่นเดียวกัน อาจจะได้มากกว่าด้วยซ้ำ

เขาจะไม่ทำให้ภรรยาผิดหวัง

ถังหลี่เองก็เห็นด้วยเช่นกัน

“เอาสิ มาแต่งงานกันเถอะ”

แม้ว่าคนทั้งคู่จะอยู่กันด้วยความรักแล้ว หากพิธีกรรมหรือประเพณีก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเว้นเช่นกัน

“ฮูหยิน ข้าจะจัดการทุกอย่างเอง เจ้าวางใจได้เลย”

เว่ยฉิงทำตามที่ตนเองพูดอย่างแน่วแน่ เขาส่งเอ้อร์เป่าไปประกบภรรยาเพื่อจับตาดูไม่ให้นางต้องหยิบจับงานอะไร ถังหลี่จึงได้แต่มองสามีวิ่งวุ่นไปมาเท่านั้น

เว่ยฉิงไปหาฤกษ์งามยามดี ตกแต่งสถานที่ ส่งเทียบเชิญคนมางานเลี้ยงแต่งงาน หาชุดเจ้าสาวที่งดงาม ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายหยาบเช่นเขาจะจัดการทุกอย่างให้มีระเบียบเรียบร้อยเช่นนี้ได้

ถังหลี่มีหน้าที่แค่พูดคุยกับเอ้อร์เป่า และอ่านหนังสือภาพให้ซานเป่าฟังเท่านั้น

หลังจากที่พี่ชายคนโตของเด็กหญิงกลับสำนักศึกษาไป ซานเป่าตั้งใจซ่อนหนังสือภาพไว้เพราะไม่อยากอ่าน ทว่ามารดาของนางอยากจะสอนอ่านหนังสือ เด็กหญิงจึงจำใจต้องหยิบมันออกมาอีกครั้ง

…..

ทันทีที่ไป๋มู่หยางได้รับข่าวเรื่องงานแต่งงานของถังหลี่ ชายหนุ่มยังคงอยู่ในเหมืองถลุงเหล็ก ณ เมืองฉินโจว ตอนนี้โรงหลอมสร้างเกือบจะเสร็จแล้ว ภายในอีกไม่กี่เดือนก็จะสามารถใช้งานได้ เมื่อเห็นเทียบเชิญงานแต่งงานของน้องสาว เขาเริ่มวางแผนในหัวของเขาทันที อย่างแรกคือต้องหาเวลาว่าง หาของขวัญแต่งงาน และต้องบอกเรื่องนี้กับฮั่วจีว์ มิฉะนั้นหากไป๋มู่หยางกลับไปที่เมืองหลวงแล้วไม่บอกเรื่องสำคัญเช่นนี้ให้ฮั่วจีว์รู้ บุรุษผู้นั้นจะต้องไม่ปล่อยเขาไปแน่

ไป๋มู่หยางจึงส่งจดหมายฉบับหนึ่งไปหาฮั่วจีว์ที่เมืองหลวง

ในตอนที่ฮั่วจีว์ได้รับจดหมายจากสหาย พ่วงด้วยตำแหน่งพี่ใหญ่ เขาเพิ่งผ่านการถูกลงโทษมา เรื่องที่บุพการีของเขาป่วยล้วนเป็นเรื่องโกหก ทันทีที่เขาเหยียบถึงจวน บิดาของเขาก็ทุบตีชายหนุ่มหลังจากนั้นก็ขังเขาไว้!

นับเป็นโชคดีของฮั่วจีว์ ที่สัญญาหมั้นหมายของครอบครัวเขาและตระกูลกู้ถูกยกเลิกไป ชายหนุ่มจึงรอดจากการแต่งงานกับกู้อิ๋น

ในตอนที่ฮั่วจีว์หนีออกจากบ้าน คุณหนูกู้ตกเป็นเป้าสายตาต่อผู้คน คนในราชสำนักต่างตราหน้าว่าฮั่วจีว์คือชายหนุ่มแสนโง่เขลาที่ปฏิเสธภรรยาซึ่งเพรียบพร้อมเช่นนาง

ทว่าฮั่วจีว์ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองโง่เขลาเลยแม้แต่นิดเดียว อย่างน้อยภรรยาของชายหนุ่มก็ต้องเป็นอย่างถังหลี่น้องสาวของเขา! คุณหนูกู้เทียบชั้นกับนางไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ชีวิตของฮั่วจีว์วุ่นวายมาก ไม่นานเขาก็ถูกตัดหาง คนที่สกุลของชายหนุ่มผลัดกันระบายความโกรธใส่เขา โชคดีที่ปั้นท้ายของฮั่วจีว์มีเนื้อไม่เยอะ ชายหนุ่มจึงไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดมาก แม้จะถูกทุบตีมากเพียงใดก็ทนมือทนเท้าเพียงไม่กี่วันก็ฟื้นตัวได้

ฮั่วจีว์มองดูเทียบเชิญในมือและคิดไตร่ตรอง

ตัวของเขานั้นเป็นพี่เขยของเว่ยฉิง นับว่าเป็นครอบครัวเดิมของเจ้าสาว ในเมื่อน้องสาวของเขาจะจัดงานแต่งงานแบบนี้ ฮั่วจีว์จะไม่ไปได้อย่างไร? ยิ่งไปว่านั้นเมื่อถึงเวลาที่เว่ยฉิงต้องทำความเคารพเขา แค่คิดก็สนุกแล้ว!

เขาตัดสินใจแล้ว! จะต้องไปยังเมืองเหยาสุ่ยให้ได้!

ฮั่วจีร์เดินโขยกเขยกไปที่โต๊ะทำงานก่อนจะเริ่มเขียนจดหมายถึงไป๋มู่หยางพี่ชายที่แสนดีของเขา ขอให้อีกฝ่ายหาทางพาเขาออกจากเมืองหลวง! หลังจากที่ไป๋มู่หยางได้รับจดหมาย ก็เริ่มใช้สายสัมพันธ์ที่มีจัดหาลู่ทางให้แก่น้องชาย

ฮั่วจีว์นั้นเป็นคนที่ชอบความยิ่งใหญ่ ดังนั้นเขาจึงนำไข่มุกราตรีที่บิดาของเขาได้รับมา มาเป็นของขวัญแต่งงานให้แก่ถังหลี่

ทันทีที่เขามุดออกมาจากทางหมาลอด ฮั่วจีว์ก็ถูกบิดาจับได้และทุบตีชายหนุ่มอีกครั้ง นายท่านฮั่วและฮูหยินฮั่วโกรธมากที่มีบุตรชายไร้ค่าและอกตัญญูเช่นเขา!

บุตรชายของพวกเขาคนนี้ไม่ใช่เด็กแล้ว ชายหนุ่มทำตัวเสเพล เอาแต่ดื่มสังสรรค์สำมะเลเทเมาไปวัน ๆ ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าไม่ได้จะไปทำเรื่องไม่ดี! แต่น้องสาวของข้ากำลังจะแต่งงาน ข้าต้องไปแสดงความยินดีสิ!”

นายท่านฮั่วโกรธมากจนหน้าสั่น

“ข้าไม่ยักรู้ว่าเคยมีบุตรสาว ฮูหยิน เจ้าแอบให้กำเนิดลูกสาวลับหลังข้าหรือ?” ชายชรามองไปที่ภรรยาอย่างจับผิด นายรีบส่ายหน้าทันที

“ไม่มีเจ้าค่ะ”

เมื่อได้ยินแบบนั้น ฮั่วจีว์ก็โดนตีอีกครั้ง