ตอนที่ 411 ส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัว ตอนที่ 412 สามีที่ไม่เอาไหน

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

ตอนที่ 411 ส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัว

เผยเหล่าเอ้อร์ดุจเสือหิวกระหายก็ไม่ปาน ถึงขั้นอยากจะกระโจนเข้าไปฉีกคนตระกูลซ่งเป็นชิ้นๆ แล้วกัดกิน

“ผู้เฒ่าตระกูลพวกเจ้าช่างใจเหี้ยมจริงๆ! ตอนแรกทำเป็นพูดว่ารักและทะนุถนอมซ่งเสี่ยนอย่างนู้นอย่างนี้ บัดนี้กลับแบกเขามาเป็นลูกเขยที่ส่งให้ถึงที่บ้านฝ่ายหญิงเสียได้!” เผยเหล่าเอ้อร์ขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน

ซ่งจินซานรู้สึกไม่สบอารมณ์ในใจเช่นกัน

นึกคิดในใจอยู่ว่า นี่ไม่ใช่เพราะตระกูลเผยพวกเจ้าก่อปัญหาทั้งนั้นหรอกหรือ!

แม้ว่าเมื่อก่อนซ่งเสี่ยนมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยเฝ้ามองและควบคุมดูแล หลายปีก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ก่อเรื่องราวที่ใหญ่โตเกินไป ต่อมาแต่งงานเกี่ยวดองกับตระกูลเผย ซ่งเสี่ยนก็เปลี่ยนไป ไม่รักครอบครัวก็ว่าแย่แล้ว แต่นี่ยังเอ่ยปากต้องการเงินถึงสามร้อยตำลึงเงินอีกด้วย!

“ตระกูลดอง ครอบครัวพวกข้ารู้ว่าลูกชายครอบครัวท่านอาการไม่ดีแล้ว นี่จึงได้ตัดใจพาหลานชายตระกูลตนเองมามอบให้เพื่อจะได้เลี้ยงดูท่านยามบั้นปลายชีวิต” ซ่งจินซานยืนกรานคำเดิม “ในเมื่อส่งเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้าก็ขอกลับไปบอกกล่าวท่านพ่อข้าเสียหน่อยก่อนแล้วกัน คนทางบ้านกำลงรอคอยอยู่!”

ซ่งจินซานพูดจบก็กล่าวกับซ่งอิ๋นซาน จากนั้นกลับหลังหันแล้วเดินจากไป

เผยเหล่าเอ้อร์ยังจะทำอย่างไรได้อีก แม้แต่ความกล้าที่จะด่าทออย่างรุนแรงก็ยังไม่มี ด้วยเกรงกลัวว่าจะถูกคนอื่นลอบฟังอยู่หัวมุมกำแพง

หลังคนตระกูลซ่งเดินไป เผยเหล่าเอ้อร์ก็เดินเดือดดาลเข้าไปในเรือน

ขณะนี้ ซ่งเสี่ยนยังตะลึงงันไปหมด เผยซื่ออยู่ข้างๆ หยาดน้ำตานองหน้า “ต้าหลาง ไฉนท่านปู่เขาจึงทำเรื่องประเภทนี้ได้เล่า เมื่อถึงเวลาตอนที่เรากลับไปแล้วจะทำอย่างไรกัน ถึงตอนนั้นเพื่อนบ้านญาติมิตรจะไม่พูดนินทาไปเรื่อยเอาได้หรือ”

“ยังคิดจะกลับไปอีกหรือ!” ครั้นเผยเหล่าเอ้อร์เดินเข้ามาก็กล่าวด้วยความโกรธจัด “เหตุใดพวกเจ้าทั้งสองคนจึงโง่เง่าเพียงนี้ ตาแก่ตระกูลซ่งผู้นั้นไม่เห็นพวกเจ้าในสายตาแล้วแต่กลับมองไม่ออกเลยหรือ! ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า ถึงขั้นแบกมาส่งถึงที่แล้ว!”

ซ่งเสี่ยนเงยหน้ามองเผยเหล่าเอ้อร์ “พ่อตา…ข้า ข้าควรทำอย่างไร”

เขาตระหนกจนลนลานทำอะไรไม่ถูกแล้วจริงๆ

มาถึงตอนนี้ เขาย่อมไม่รู้สึกแล้วว่าปู่และบิดามารดาของตนจงใจข่มขู่เขาให้กลัว

เขา เขากลายเป็นเขยที่แต่งเข้าตระกูลฝ่ายหญิงไปแล้วจริงๆ!

บนโลกนี้นอกจากคนที่ยากจนเกินกว่าจะดำเนินชีวิตต่อไปได้ จึงจะมีความเป็นไปได้ว่าฝ่ายชายแต่งงานเข้าสู่ตระกูลฝ่ายหญิง ตัวเขา จะร้ายจะดีก็เป็นบุตรชายคนโตของครอบครัวบุตรคนโต นึกไม่ถึงว่าจะถูกแบกออกมาเช่นนี้

ผู้เฒ่าก็ไม่สนใจเช่นกันหรือว่าจะถูกผู้คนนินทาว่าร้ายลับหลังเอาได้ จึงไม่ต้องการเขาแล้ว

เหตุใดจึงเป็นความจริงไปได้เล่า? นี่ต้องเป็นฝันร้ายแน่!

“ทำอย่างไร? ข้าเองก็ยังอยากรู้อยู่เลยว่าจะทำอย่างไร!” เผยเหล่าเอ้อร์ชักสีหน้าเย็นชา

“ท่านพ่อ พวกเรากลับไปขอร้องทางด้านตระกูลซ่งได้หรือไม่! กลับไปกันเดี๋ยวนี้เลย!” เผยซื่อรีบกล่าวขึ้นมาทันควัน

“ขอร้อง?” เผยเหล่าเอ้อร์พรูลมหายใจโกรธเกรี้ยว “เจ้ามีสมองนี้เอาไว้เฉยๆ หรือไร ไม่เห็นหรือว่าเขามาอย่างไร หากส่งคนมาเป็นการส่วนตัวอย่างเงียบๆ ก็ยังพอไปพูดคุยกับตาแก่นั่นได้ แต่บัดนี้เล่นเป่าเครื่องแตรเสียงดังมาตลอดทาง เรื่องนี้มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว!”

ถึงขั้นส่งหนังสืออย่างเป็นทางการชี้แจงเกี่ยวกับสถานะของลูกเขยมาให้กันแล้ว อีกเดี๋ยวยังต้องไปที่ว่าการอำเภอเพื่อลงทะเบียนเข้าสู่ครัวเรือนให้ และนับจากนี้ไปก็จะไม่ต่างกับลูกสะใภ้ที่เข้ามาสู่วงศ์ตระกูล!

แม้ว่าบุตรสาวเป็นคนของเขาเอง แต่เขาไม่เคยคิดเลยจริงๆ ว่าจะให้บุตรสาวมาหาเงินส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัว!

ยิ่งไปกว่านั้น บุตรสาวและบุตรชายอายุห่างกันตั้งมากเพียงนี้ ภายภาคหน้าแย่งทรัพย์สมบัติในบ้านจากบุตรชายไปจะทำอย่างไรเล่า!

เผยซื่อทั้งร่างโซเซเล็กน้อย “เช่นนั้น…เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องการเด็กในท้องข้าแล้วเช่นกันหรือ”

ที่นางอุ้มท้องอยู่เป็นถึงหลานของตระกูลซ่งเชียวนะ

ไฉนจึงเป็นเช่นนี้ไปได้เล่า!

เผยซื่อไม่อยากรับสามีเข้าตระกูลเช่นกัน เมื่อนานมาแล้วก่อนหน้านี้ ยามที่น้องชายนางยังไม่กำเนิด บิดามารดาได้บอกกับนางไว้แล้วว่า หลังจากนี้นางจะมีน้องชายคนหนึ่งอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลาน้องชายก็จะเป็นที่พึ่งพิงอันยิ่งใหญ่ของนาง ให้นางดีต่อน้องชายเข้าไว้ นางก็คิดเช่นนี้มาโดยตลอด ดังนั้นยามที่แต่งงาน หลังเลือกอยู่นานก็ไปถูกตาต้องใจซ่งเสี่ยนเข้า!

ซ่งเสี่ยนเป็นหลานชายคนโตของครอบครัวบุตรคนโตในตระกูล ตระกูลซ่งแม้ว่าไม่มีเงินมากมาย แต่พ่อสามีนางเป็นคนงานอาวุโสในโรงย้อมสี เดือนหนึ่งๆ ได้เงินจำนวนไม่น้อย ภายภาคหน้าก็จะตกเป็นของนางทั้งหมด บัดนี้สิ่งเหล่านั้นหายไปหมดแล้ว ในทางกลับกัน นางยังต้องยกโขยงครอบครัวตนเองกลับมากินอยู่ที่บ้านมารดาอีกด้วย

ตอนที่ 412 สามีที่ไม่เอาไหน

เผยซื่อรู้สถานการณ์ครอบครัวตนเองชัดเจนอย่างยิ่ง คนอื่นคิดว่าตระกูลเผยค่อนข้างรุ่งโรจน์ จะร้ายจะดีก็ยังมีร้านขนมหนึ่งแห่ง ในความเป็นจริง ครอบครัวบุตรคนรองพวกเขาห่างไกลจากคำว่ารุ่งโรจน์จริงๆ ทั้งครอบครัวพึ่งพาการค้ำจุนจากผู้เป็นย่า รายรับโดยแท้จริง เทียบไม่ได้กับบ้านใหญ่ตระกูลเผยเลยสักนิด

นางรับสามีเข้ามาอยู่ด้วยอีก เช่นนั้นก็พึ่งพาตระกูลสามีไม่ได้แล้ว และกลายเป็นว่ายังจำเป็นต้องจับตาดูร้านค้าเล็กๆ แห่งนี้ไว้อีก ต้องแบ่งกับลูกพี่ลูกน้องชายที่อายุมากกว่านางในตระกูล แล้วยังต้องคอยเสียสละให้น้องชายอีก จากนี้จะดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างไรเล่า

เผยซื่อหน้าซีดเผือด

นึกถึงชีวิตเกือบๆ สองปีมานี้ที่แต่งเข้าตระกูลซ่ง

ตระกูลซ่งทั้งเบื้องบนเบื้องล่างรู้ว่านางเป็นหญิงสาวในตัวอำเภอ ก็ไม่เคยตั้งกฎเกณฑ์ให้นางทำงานเช่นคนในชนบท งานไร่งานสวนก็ไม่เคยต้องทำ ถึงขั้นว่านางเคยไปในชนบทแห่งนั้นไม่กี่ครั้งเองด้วยซ้ำไป!

ยามที่สามีไปทำงานใช้แรงงานหนัก แม้แต่แม่สามีก็ยังไม่ยุ่งวุ่นวายกับนาง อีกทั้งทุกเดือนก็จะให้เงินค้ำจุนมาด้วยอย่างน้อยหนึ่งตำลึงเงิน…

ตอนนี้ไม่มีแล้ว ไม่มีอะไรทั้งนั้น

“ต้าหลาง ลูกของเราจะทำอย่างไรเล่า” เผยซื่อร้องไห้ด้วยความเสียใจหนักยิ่งขึ้น

ตัวซ่งเสี่ยนเองก็คิดอะไรไม่ออกทั้งนั้น แล้วยังจะมัวสนใจว่าเผยซื่อคิดอย่างไรได้เสียที่ไหนกัน

เผยเหล่าเอ้อร์มองดูลูกสาวและลูกเขยของตนก็หงุดหงิดใจอย่างยิ่ง

หันหน้าไปมองเห็นในห้องยังมีขนมจำนวนหนึ่งวางอยู่ ยิ่งเดือดดาลในใจไปกันใหญ่

“มาถึงขั้นนี้แล้วยังจะทำอย่างไรได้อีก! ในเมื่อแต่งเข้าสู่ตระกูลเผยเราแล้ว จากนี้ก็อยู่ทำตัวดีๆ อยู่ที่ตระกูลเผยน่ะสิ! ตระกูลซ่งทำเรื่องประเภทนี้ออกมา จากนี้ไม่อนุญาตให้พวกเจ้ากลับไปเจอหน้าตาแก่ตระกูลซ่งผู้นั้นอีกเด็ดขาด ก็ทำให้เขาไม่ได้พบเจอหน้าหลานเหลนไปชั่วชีวิตเลย!” เผยเหล่าเอ้อร์ขบฟันด้วยความโมโห

เมื่อเอ่ยพูดจบแล้ว ก็กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ถอดชุดอัปมงคลนี่ทิ้งไปเสีย! แล้วก็ไปทำกับข้าว!”

ซ่งเสี่ยนตะลึงงันไปทั้งตัว

หลังอึ้งไปชั่วครู่ มองเผยเหล่าเอ้อร์แล้วก็เอ่ยปาก “พ่อตา?”

คำพูดนี้กำลังกล่าวว่าเขาเป็นตัวซวยหรือ และให้เขาไปทำกับข้าว หรือว่าให้….เผยซื่อไปทำกับข้าวกันแน่

“เรียกอะไรนักหนา ข้าเรียกใช้เจ้าไม่ได้ใช่หรือไม่” เผยเหล่าเอ้อร์อดทนไม่ได้อีกแล้ว เขาถ่มน้ำลาย จากนั้นก็สะบัดแขนแล้วเดินออกไป

ซ่งเสี่ยนเผยสีหน้าแววตาโกรธเคืองออกมาเล็กน้อย

“เขาเป็นคนยุยงข้าให้ทำเรื่องนี้ในตอนแรก บัดนี้ข้าถูกผู้เฒ่าซ่งเอาคืนแล้ว พ่อเจ้าก็มาดูถูกดูแคลนข้าแล้วน่ะหรือ พ่อเจ้านี่เปลี่ยนหน้าไวเกินไปแล้วกระมัง!” ซ่งเสี่ยนกล่าวด้วยความหงุดหงิด

เดิมทีเขาก็ทั้งตระหนกตกใจทั้งบันดาลโทสะ พ่อตาไม่กล่าวปลอบใจเขาเลยสักนิด แล้วยังเหยียบย่ำเขาอย่างนี้อีก

เผยซื่อเผยสีหน้าทุกข์ระทม “ต้าหลาง หลังจากนี้เราไม่เหลืออะไรแล้ว…”

“หลังจากนี้ข้าจะเอาอะไรมาเลี้ยงลูก หากต้องทำงานให้ที่ร้านขนมจะต้องได้เงินค่าแรงไม่เท่าไรเช่นกันแน่ เจ้าก็ถูกโรงย้อมสีไล่ออกแล้ว บัดนี้ต่อให้ไปหางานทำ เดือนหนึ่งเกรงว่าก็คงได้เงินไม่มากถึงหนึ่งตำลึงเงิน แล้วจะใช้ชีวิตกันอย่างไรเล่า!” เผยซื่อรู้สึกเพียงท้องฟ้าจะถล่มทลายลงมาแล้ว

จู่ๆ ก็ค้นพบว่า ชายที่ตนเองแต่งงานด้วย แท้จริงแล้วไม่เอาไหนเลย

นอกจากมีสถานะของหลานชายคนโตจากครอบครัวบุตรคนโตอยู่เหนือศีรษะ ก็ไม่มีอะไรดีเลย บัดนี้แม้แต่สถานะที่ว่านั่นก็ไม่มีแล้ว!

ซ่งเสี่ยนหน้าแดงก่ำ “ข้ามีมือมีเท้า และยังเคยเล่าเรียนหนังสือมาก่อน งานอะไรบ้างที่จะทำไม่ได้! อีกอย่างปู่ข้าก็แค่โกรธชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น ต่อให้ ต่อให้ตอนนี้ไล่ข้าออกจากตระกูล ข้าก็ไม่เชื่อหรอกว่าหลังจากนี้จะไม่ดูดำดูดีข้า แล้วยังมีท่านพ่อข้าอีก ข้าเป็นถึงลูกชายแท้ๆ ของเขา ไว้ ไว้พวกเขาหายโกรธแล้ว ข้าก็จะไปโรงย้อมสีหาพ่อข้าให้ช่วยเหลือ ข้าไม่ให้เจ้าและลูกอดยากตายหรอกน่า!”

เมื่อก่อนบิดาเขาก็ยินดีให้เงินเขา ตอนนี้ก็ต้องยินยอมให้เช่นกันเป็นแน่!

หลังซ่งเสี่ยนรับประกันเสียดิบดีเช่นนี้ เผยซื่อก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก

แต่หลังจัดการทางด้านเผยซื่อได้แล้ว ในบ้านยังมีหญิงชราอีกคน

เมื่อหญิงชราตระกูลเผยผู้นั้นได้ยินข่าวคราวนี้ ก็เกือบเป็นลมล้มพับไป มองซ่งเสี่ยนเหมือนมองดูคู่อริอยู่ก็ไม่ปาน

ซ่งเสี่ยนไม่มีงานไม่มีเงินและทรัพย์สิน คนที่อายุมากเพียงนี้แล้วกลายเป็นเขยแต่งเข้าตระกูลฝ่ายหญิง รวมกับลูกในท้องของเผยซื่อ เช่นนั้นก็เท่ากับในครอบครัวจะต้องเลี้ยงเพิ่มอีกสามปากท้อง ชีวิตหลังจากนี้จะต้องยากลำบากขึ้นอีกไม่น้อยเป็นแน่…

แต่กลายเป็นว่าบรรดาลูกๆ ของครอบครัวบุตรคนโตตระกูลเผยกลับโล่งใจยิ่ง