บทที่ 96 บอกคุณแล้วยังไง

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

ณัฐณิชามองธราเทพอย่างคับแค้น

ในเมื่อเขารู้ก่อนแล้ว บอกตนก่อนอย่างน้อยเธอก็จะได้มีการเตรียมตัวบ้างไม่ใช่หรือไง

จะได้ไม่ต้องตื่นตกใจขนาดนี้!

“บอกคุณแล้วได้อะไร” ธราเทพไม่สนใจ เขานั่งข้างหลังกำลังจัดการไฟล์ในคอมพิวเตอร์ แม้แต่ศีรษะก็ไม่เงยขึ้นมาเลย

ไม่ให้เกียรติคนอื่นเกินไปแล้ว!

ใจณัฐณิชาเต็มไปด้วยความโกรธจัด พูดตะกุกตะกักอยู่เป็นนานสองนาน สุดท้ายก็หายใจหอบก่อนจะโพล่งออกมาได้หนึ่งประโยค “ธราเทพ ฉันรู้สึกว่าคุณไม่ให้เกียรติฉันเลยสักนิด”

“หืม? ต้องยังไงถึงจะนับว่าให้เกียรติคุณล่ะ” เมื่อครู่ธราเทพกำลังจัดการกับเรื่องของบริษัทข้ามชาติ ตอนนี้เสร็จสิ้นแล้ว ทำการปิดสมุดบันทึกอย่างชำนาญท่วงท่าสง่างาม เช่นนี้ถึงได้เลื่อนสายตาไปหาณัฐณิชา และก็เห็นว่าใบหน้าเธอดูราวกับดอกท้อ ใบหน้าเล็กแดงเรื่อ ดวงตาเปียกชื้นจ้องมองตัวเองเหมือนกับกวางน้อย

เหมือนอยากจะร้องเรียนตน

แน่นอนว่า เขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิดตรงไหน

“คุณ……อย่างน้อยที่สุดคุณก็รู้ว่าคุณปู่จะมอบหมายสิทธิ์การดูแลตระกูลให้กับฉัน คุณคุยกับฉันระหว่างทางไปบ้านเก่าก็ได้ไม่ใช่เหรอ หรือแม้แต่ถามความเห็นของฉันหน่อยไงใช่ไหม” ณัฐณิชายกเหตุผลมาพูด ถึงเธอจะไม่ใช่ภรรยาที่แท้จริงของธราเทพ และไม่ใช่คนที่เขารัก แต่สิ่งที่เป็นมารยาทพื้นฐานแบบนี้ อย่างไรก็ต้องมี!

“อ้อ งั้นตอนนี้ผมจะถามคุณ คุณอยากได้สิทธิ์ดูแลตระกูลไหม”

“ไม่อยาก……”

“ถ้าอย่างนั้นคุณอยากไปทำงานที่บริษัทของผมไหม”

“อยาก……”

ณัฐณิชาอยู่ภายใต้สายตาของธราเทพ ตอบคำถามเหล่านี้เงียบๆ ธราเทพมุมปากขยับเล็กน้อยจนสังเกตไม่เห็น เสียงทุ้มลึกแสนน่าฟัง “ถ้าอย่างนั้นคุณยังจะวุ่นวายอะไร”

“ฉันไม่ได้วุ่นวายเพราะเรื่องนี้นะ!” ณัฐณิชาตาปะหลับปะเหลือก ผู้ชายคนนี้เป็น CEO ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จจริงเหรอ แน่ใจนะว่าไม่ใช่ผู้ชายตรงๆ ทื่อๆ เข้าใจอะไรยากน่ะ

อย่างน้อยก็ต้องพยายามรับฟังความคิดเห็นของผู้หญิงหน่อยสิ

แต่การแสดงออกของธราเทพที่บอกว่าคุณกำลังสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผลและผมไม่อยากสนใจคุณทำให้ณัฐณิชาโกรธมาก

ช่างเถอะๆ เถียงกับคนโง่ไปก็ป่วยการ

เธอเพียงเอนหลังพิงพนักเงียบๆ ไม่สนใจธราเทพอีกต่อไป ค่อยๆ เพลิดเพลินบนเบาะหนังของรถยนต์ราคาแพงคันนี้ แต่ทางฝ่ายธราเทพกลับไม่คิดอย่างนั้น เขาจ้องใบหน้าด้านข้างของณัฐณิชาครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดริมฝีปากบางออกพูดว่า “ที่จริง ถ้าคุณอยากได้สิทธิ์การดูแลตระกูลก็ทำได้นะ”

“ฉันไม่อยาก!”

ณัฐณิชาตวัดลืมตาขึ้นทันที ใบหน้าเล็กจ้องธราเทพอย่างไม่พอใจ ทำไมทุกครั้งที่ตนกับเขาขัดแย้งกันจะต้องเป็นตนที่ตกเป็นเบี้ยล่างตลอด

ณัฐณิชากัดริมฝีปาก ในที่สุดก็พ่ายแพ้ “ทำไมคุณยอมให้ฉันไปทำงานที่บริษัทล่ะ”

ก่อนหน้านี้เธอก็เคยพูดหลายครั้ง แต่ทุกครั้งล้วนถูกธราเทพปฏิเสธ ในหัวของธราเทพ เหมือนกับว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วควรอยู่บ้านเลี้ยงลูกช่วยสามี ดังนั้นครั้งล่าสุดเขาจึงให้บัตรเครดิตกับตน

แล้วทำไมครั้งนี้อยู่ดีๆ ก็ยอมตกลงง่ายๆ

ธราเทพเหลือบมองณัฐณิชาอย่างเย็นชา “ถ้าคุณไม่อยากไป จะปฏิเสธก็ได้”

“คุณนี่! ยังจะพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่อีก!” ณัฐณิชาโมโหจนอมลมพองแก้ม ไม่ได้ตระหนักถึงประกายซับซ้อนที่แวบเข้ามาในดวงตาธราเทพเลยแม้แต่น้อย

เขายังจำสิ่งที่เธอทำตรงหน้าร้านอาหารญี่ปุ่นเมื่อครั้งที่แล้วได้ การปล่อยเธอออกไปข้างนอกแล้วคบหากับผู้ชายคนอื่น ไม่สู้ปล่อยเอาไว้ให้อยู่ในสายตาตัวเองจะปลอดภัยกว่า ดังนั้น……ธราเทพจึงทำได้เพียงเลือกจะปล่อยเธอไว้ในบริษัทของตัวเอง