ตอนที่ 34 เอลฟ์คลั่ง

Game of the World Tree

เอลฟ์จำนวนมากในชุดผ้าลินินต่างถาโถมเข้ามาจากทุกสารทิศพร้อมเสียงตะโกนอันดังก้อง พวกเขาแกว่งไกวมีดและไม้เท้าที่ทำจากไม้เข้าปะทะกับฝูงอันเดด

กูลูตะลึงพรึงเพริดกับเสียงโห่ร้องแห่งความตื่นเต้น

มันเงยหน้าขึ้นมาและร้องด้วยความตกใจเมื่อเห็นร่างสูงที่ตนคุ้นเคย

“เอลฟ์?”

องค์พระบิดา! เหตุใดในป่าจึงมีเจ้าพวกหูยาวจำนวนมากขนาดนี้?!

ไม่ใช่ว่าพวกมันตายไปหมดแล้วเหรอ?

กูลูลอบรู้สึกอยากถอยหนีขึ้นมา

ความคิดดังกล่าวเกิดขึ้นมาจากคำกล่าวขานเกี่ยวกับพวกเอลฟ์ในพันปีที่แล้ว เอลฟ์โดยทั่วไปจะมีพลังอยู่ในระดับเหล็กหรือสูงกว่านั้น

ต่อหน้าเอลฟ์ยอดฝีมือระดับเหล็ก กูลูก็ไม่ต่างอะไรกับก็อบลินตัวน้อย แม้มันจะเป็นนักบวชผู้ครอบครองไสยเวทมรณะ แต่มันคงไม่สามารถต้านทานกำลังเอลฟ์นับร้อยตนได้

“หืม? … มีบางสิ่งไม่ถูกไม่ควร”

กูลูพลันนึกถึงบางสิ่ง

หากมีเอลฟ์ที่ทรงพลังหลงเหลืออยู่จำนวนมากจริง ๆ … เกรงว่าเหล่าก็อบลินคงถูกขับไล่ออกจากโบราณสถานไปนานแสนนานแล้ว

คิดได้ดังว่า มันจึงพิจารณาเหล่าเอลฟ์พวกนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งทำให้มันเบาใจไปได้อีกหลายขุม …

เอลฟ์ฝูงนี้ไม่ได้อยู่ในระดับ ยอดฝีมือ ด้วยซ้ำ!

ในวินาทีนั้น กูลูเข้าใจถึงสาเหตุที่ก็อบลินหายไปกว่า 200 ตน

ไอ้พวกนี้มันฆ่าก็อบลิน!

ทว่า นักบวชชรากลับสับสนขึ้นไปอีกระดับ

แล้วไอ้เอลฟ์เลเวลต่ำกว่า 11 พวกนี้มันโผล่มาจากไหนกัน?

มันพยายามขบคิดเท่าที่สมองก็อบลินของมันจะอำนวย …

แต่มันเค้นสมองไปเท่าไรก็ไม่ได้คำตอบ …

มันจึงหยุดหาสาเหตุ และเลือกที่จะทำตามความปรารถนาที่ฝังลึกในใจของตนแทน

“เอาเถอะ! องค์เทพแห่งเหมันต์และการล่า! ไม่ว่าพวกเอลฟ์จะมาจากแห่งหนใด พวกมันล้วนชะตาขาดเมื่อเจอข้า! จงกลายเป็นเครื่องสังเวยแด่พระบิดา เพื่อที่ข้าจะได้รับพรจากพระองค์!”

มันเชื่ออย่างสุดใจว่าตนจะต้องได้รับการตอบแทนจากอูลร์ หากตนสามารถสังหารเอลฟ์พวกนี้ได้

แม้เหล่าเอลฟ์จะเคยทรงอำนาจ ทว่าพวกมันต่างรักสงบ ทักษะในการต่อสู้ของเอลฟ์จึงด้อยกว่าคู่ต่อสู้ที่มีระดับใกล้เคียงกัน

ในมุมมองของกูลู กลุ่ม ผู้ฝึกตน เผ่าเอลฟ์ที่ยังไม่แตะเลเวล 11 พวกนี้ ล้วนอ่อนแอกว่ากลุ่มก็อบลินเลเวล 10!

มันตัวเดียวก็เกินพอหากจะต้องรับมือกับศัตรูที่อ่อนแอถึงเพียงนี้!

ฮ่าฮ่า พวกเอลฟ์จะเริ่มหนีเมื่อมันบาดเจ็บ เผลอ ๆ อาจจะเผ่นตั้งแต่มันเห็นผีดิบ …

กูลูคิดในเชิงหยามเหยียดพลางแกว่งไม้เท้า

กระแสพลังสีม่วงเข้มถูกปลดปล่อยออกมาจากไม้เท้ากระดูก วินาทีนั้นพลันบังเกิดร่างกระดูกอีกโหลหนึ่ง …

“ฆ่ามัน! อย่าปล่อยให้รอดแม้แต่ตัวเดียว!”

กูลูบัญชา

เมื่อได้ยินคำสั่งของนักบวช เหล่าอันเดดพร้อมใจกันแยกเขี้ยวยิงฟันก่อนจะถาโถมเข้าใส่เหล่าเอลฟ์พร้อมมีดกระดูกในมือ …

“โฮ่ เวทอันเดดจริงด้วย!”

ผู้เล่นที่เพิ่งมาถึงต่างพากันชะงักและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

นักบวชก็อบลินรู้สึกภาคภูมิใจขึ้นไปอีกขั้น เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของเหล่าผู้เล่นที่เบิกกว้างด้วยความตกใจ

หึหึหึ …

กลัวใช่ไหม?

รูปร่างหน้าตาของเหล่าโครงกระดูกดูสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง แถมเหล่าโหงพรายที่มันเสกออกมาล้วนมีมนตร์วิเศษแฝงอยู่ คือลมหายใจมรณะที่สามารถกัดกร่อนไปถึงดวงวิญญาณของผู้อ่อนแอ!

ไม่มีสิ่งมีชีวิตตนใดที่ไม่หวาดกลัวกองทัพของมัน!

นี่คือพลังแห่งความตาย พลังของผู้เชี่ยวชาญไสยเวทมรณะ!

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่พลุ่งพล่านในไม้เท้า กูลูยิ่งดูคลุ้มคลั่งขึ้นทุกขณะ …

จงหวาดหวั่น!

จงหนี!

จงสำราญไปกับการถูกล่าโดยผีดิบ!

ทว่าเหล่าเอลฟ์กลับพูดบางสิ่งที่ทำให้มันสับสนเล็กน้อย

“บ้าจริง … เหมือนจริงเว่อร์ … เกือบทำตูกลัวแล้ว …”

“คาดหวังได้กับเกมที่บอกว่าสมจริงร้อยเปอร์ สเปเชียลเอฟเฟคเวทอันเดดคืออย่างเจ๋ง!”

“โครงกระดูกเท่มากอ่ะ!”

พวกเอลฟ์ล้วนตื่นเต้นกับเหตุการณ์ตรงหน้า ไม่มีเอลฟ์ตนใดแสดงความหวาดกลัวออกมาแม้แต่น้อย

พวกมัน … ไม่กลัวเรอะ?

วิญญาณของมันไม่โดนกัดกร่อนเรอะ?

กูลูตื่นตะลึง

ทว่ามันกลับรู้สึกดูถูกเหยียดหยามเอลฟ์เหล่านี้อีกครั้ง

หึหึหึ …

พวกมันไม่รู้พิษสงของไสยเวทแห่งความตาย ไม่รู้ตัวว่ากำลังโดนกัดกร่อน

ช่างเป็นพวกผู้ฝึกตนที่อ่อนต่อโลกยิ่งนัก

พวกมันช่างไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลังนี้

พวกมันจะได้สัมผัสกองทัพแห่งโหงพรายที่แท้จริง!

แล้วพวกมันจะได้รู้ว่าอะไรที่สยดสยองยิ่งกว่าความตาย!

เมื่อคิดได้ดังกล่าว กูลูเหวี่ยงไม้เท้าอีกครั้งพร้อมเร่งพลังขึ้นสู่ระดับสูงสุด …

ในวินาทีนั้น พลันปรากฏโครงกระดูกอีกโหลหนึ่ง

โหงพรายในผืนป่ามีจำนวนมหาศาล พวกมันปล่อยคลื่นวิญญาณที่เข้มข้นอย่างยิ่งยวด จนอุณหภูมิรอบข้างดิ่งลงอย่างรวดเร็ว

นักบวชก็อบลินรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งเมื่อได้สัมผัสพลังไสยเวทแห่งความตาย

มันต้องการจะแสดงความต่างชั้นให้เหล่าผู้ฝึกตนได้เห็น!

“เฮ้ย! มันเสกอันเดดเพิ่มอีกแล้ว!”

“รีบประเมินพลังมันเร็ว!”

“บอสเวล 11 ส่วนกระดูกเวล 10!”

“พวกกระดูกมันปกป้องบอสไว้ ลองตีมอนให้หมดก่อน! กวาดมันให้หมด!”

“สายกายภาพลุยโลด นักเวทเน้นซัพพอร์ทจากแนวหลัง!”

“ทีมนึงต่อกระดูกสองตัว! ส่วนทีมเลเวล 10 ให้หาโอกาสตีบอส! หาจุดอ่อนมัน จำรูปแบบการโจมตีมัน! อย่าให้มันเสกเพิ่ม!”

“ถ้าใครพลาดตาย ช่วยวิ่งตรงดิ่งจากจุดเกิดมาเลย!”

เหล่าเอลฟ์ต่างพูดในสิ่งที่กูลูไม่เข้าใจ และเริ่มมีท่าทีแปลก ๆ

สิ่งเหล่านี้สร้างความประหลาดใจให้มันเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีเอลฟ์ตนใดเลือกที่จะหลบหนี ในทางกลับกันพวกมันกลับดูยิ่งตื่นเต้นเป็นเท่าทวี

เหล่าเอลฟ์ต่างพากันแกว่งไกวมีดพร้อมพุ่งเข้าปะทะกองทัพของกูลู!

สองฝ่ายโถมกำลังโรมรันฆ่าฟันกัน ของเหลวสีเข้มสาดกระจ่ายไปทุกหนทุกแห่ง

อันเดดเลเวล 10 มีพลังที่น่าสะพรึงกลัว แม้ผู้เล่นจะผ่านการฝึกฝนมาจำนวนหนึ่ง ทว่าพวกเขากลับไม่ใช่คู่มือของมัน เพียงพริบตาเดียวผู้เล่นกลุ่มแรกล้วนบาดเจ็บสาหัสและทยอยล้มลงเนื่องจากการโจมตีอันโหดเหี้ยมของเหล่าอันเดด

กูลูมองอย่างเหยียดหยามเมื่อเห็นเอลฟ์บาดเจ็บล้มตายกันในเวลาอันสั้น

หึหึหึ ไอ้พวกโง่ที่คิดจะสู้กับผีดิบด้วยร่างกาย

มันคาดว่าจะเห็นเหล่าเอลฟ์ตื่นตระหนกและเริ่มถอยหนี

จำนวนประชากรของเอลฟ์เรียกได้ว่าอยู่ในสภาวะวิกฤติ กูลูคิดว่าพวกมันคงไม่สามารถนิ่งเฉยและปล่อยให้เกิดการสังหารหมู่ได้!

มันเชื่อว่าถ้าเอลฟ์บางตนได้ตายลง เอลฟ์ที่เหลือก็จะเริ่มหาทางหลบหนี

ทว่า … บางสิ่งที่เกินจินตนาการของมันพลันบังเกิด

พวกเอลฟ์ที่บาดเจ็บจนนอนกองกับพื้นในช่วงก่อนหน้านี้ต่างพยายามยืนขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าพวกมันยิ่งดูตื่นเต้น พวกมันเมินแผลฉกรรจ์และโลหิตที่ไหลท่วมทั่วร่าง

โดยเฉพาะเอลฟ์ตัวผู้ พวกมันจะดูบ้าเลือดเป็นพิเศษ

เหล่าเอลฟ์พากันเหวี่ยงอาวุธราวกับไม่ได้กำลังบาดเจ็บ พวกมันโห่ร้องและฟาดฟันเหล่าโครงกระดูกอย่างต่อเนื่อง

กูลูไม่มีระบบของเกมที่จะช่วยบรรเทาภาพอันหวาดเสียวตรงหน้า

มันเห็นเอลฟ์ขาขาดที่ไม่ยอมล่าถอย ในทางกลับกัน เอลฟ์พวกนั้นกลับกระโจนตัวหรือคลานลากร่างกายบนพื้นเพื่อกระหน่ำแทงซ้ำ ๆ ด้วยมีดไม้ในมือ

มันเห็นเอลฟ์บางตนที่แขนกระจุยจากเวทมนตร์ของพวกเดียวกัน ทว่าเอลฟ์ตนนั้นกลับทำเพียงหันหลังไปสบถ “ไอ้บ้า ยิงแม่น ๆ ดิโว้ย!” แล้วหันกลับมาพุ่งเข้าตะลุมบอนอีกครั้ง …

มันเห็นผีดิบกระซวกเข้าที่ช่องท้องของเอลฟ์ตนหนึ่ง บาดแผลเปิดกว้างจนทำให้อวัยวะภายในไหลออกมากองนอกร่างกาย ทว่าเอลฟ์ตนนั้นกลับหัวเราะอย่างห้าวหาญพลางสู้กับเหล่าอันเดดราวกับไม่รู้ว่าตนได้รับบาดเจ็บ …

พวกเอลฟ์ฟาดฟันด้วยมีดไม้อย่างบ้าคลั่ง โดยไม่สนใจแรงกายที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากอาการบาดเจ็บของตน

เอลฟ์ที่ควรจะเจ็บเจียนตายกลับรื่นเริงและเปี่ยมสุข พวกมันบางตนอาจจะกล่าวประโยคที่เกินคาดอย่าง “บ้าจริง ตูกำลังจะตาย!” ก่อนจะตาเหลือกแล้วสิ้นลมไปทั้ง ๆ แบบนั้น

ในทางเดียวกัน พวกมันไม่สนใจการบาดเจ็บล้มตายของพวกพ้องเลยแม้แต่น้อย ไม่มีตนใดโศกเศร้า ราวกับพวกมันทั้งหมดมองทุกสรรพชีวิตเป็นศัตรู

นอกจากนี้ เอลฟ์บางตนยังหยิบฉวยอาวุธของสหายรบที่ตายไปแล้วด้วยความละโมภ …

กูลูตื่นตะลึงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

อ … ไอ้พวกเอลฟ์กลุ่มนี้มันเป็นบ้าอะไรกัน?

พวกมันไม่เจ็บ?

พวกมันไม่มีความรู้สึก?

พวกมัน … ไม่กลัวตาย?

ไม่ … พวกมันไม่กลัวที่จะต้องตายเลยสักนิด …

กูลูเห็นเอลฟ์บางตนโห่ร้องลั่น ก่อนจะกระโจนใส่มีดกระดูกของผีดิบโดยตรง เอลฟ์ตนนั้นถูกใบมีดเสียบทะลุหัวใจ ทว่ามันกลับกอดโครงกระดูกไว้แน่นพร้อมกระอักเลือดคำโต มันยังไม่วายตะโกนสนทนากับพวกพ้องด้วยความตื่นเต้น

“ตูจับมันไว้แล้ว ใช้โอกาสนี้ฆ่ามันเร็วเข้า!”

กูลูสะพรึงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ร่างของมันสั่นเทาพลางพึมพำ

“บ้าไปแล้ว …”

“พวกมันบ้าไปแล้ว …”

“เอลฟ์พวกนี้มันบ้าไปแล้ว!!”

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _

T/N: โก- โก– โกววว—–!

ระดับพลังของเรื่องนี้นะคะ อ้างอิงตอนแรก ๆ ได้เลยค่ะ

  1. ผู้ฝึกตน (ก่อนเลเวล 11)

  2. ยอดฝีมือ (หลังเลเวล 11)

– เหล็ก

– เงิน

– ทอง

  1. เลเจนด์

  2. กึ่งเทพ

  3. ในตำนาน / เทพ (ทั้งเทพที่เกิดจากพลังศรัทธา – เทพดั้งเดิม หรือที่เรียกว่าเทพโบราณ)

ตอนต่อไปประมาณจันทร์ที่ 13.02.2023 เวลา 16:30 น. หรืออาจจะไวกว่านั้นนิดหน่อยค่ะ

ถ้าถูกใจโปรเจ็คนี้ ขอความอนุเคราะห์ในการซัพพอร์ทที่ผู้แต่งโดยตรง ตามลิงก์หน้าแรกนะคะ

Support the project: https://book.qidian.com/info/1016509432

_ .. _ .. _ .. _ .. _ .. _