มุมมองของออสติน :
“งั้นติดต่อฉันในตอนที่เธอพร้อมนะ โอเคไหม?”
“จ่ะ”
โซเนียผงกหัวอย่างเขินอาย เธอท่าทางดีกว่าที่ผมคิดไว้มาก ผมคาดหวังว่าโซเนียจะดูต้องการทำลายล้างทุกอย่าง แต่เธอกลับสงบและผ่อนคลายมากกว่าที่ผมคิดไว้ ดูเหมือนการเตรียมตัวส่วนใหญ่ของผมจะไร้ประโยชน์ไปเลย ส่วนแต้มความชอบของเธองั้นเหรอ? ผมจะแสร้งทำเหมือนไม่เห็นพวกมันแล้วกัน เรื่องนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ดูจะปกติหรอก
“ไปพักผ่อนและอย่าคิดอะไรที่ไม่จำเป็นหล่ะ”
ผมพูดคำสุดท้ายที่เน้นย้ำในขณะที่มองตาของโซเนียอย่างจริงจัง ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจคำพูดของผมก่อนที่เธอจะยิ้มและพยักหน้ากลับมา
“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”
“ฉันรู้ แต่ก็ยังกังวลอยู่ดี”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่เธอพยักหน้าอย่างเขินอายพร้อมกับลดศีรษะของตัวเองลงขณะมองมาที่ผมอย่างเขินอาย
“เอ่อ….เรื่องที่คุณพู-”
“เดี๋ยวก่อน ฉันไม่ต้องการให้เธอตอบมันตอนนี้ ตอนนี้เธอเจ็บปวดและสูญเสียอยู่ คำตอบใดๆ ที่มาจากเธอจะไม่แน่นอน สำหรับผู้หญิงอย่างเธอ ฉันไม่รังเกียจที่จะรอหรอกนะ”
คำพูดของผมจบลงด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนขณะจับมือเธอ คำพูดของผมมีผลตามที่ตั้งใจไว้เมื่อรอยยิ้มสดใสปรากฏขึ้นบนใบหน้าของโซเนียและในชั่วพริบตา จูบเล็กๆ ก็สัมผัสกับใบหน้าของผมก่อนที่โซเนียจะเริ่มวิ่งออกจากห้องไป มีเพียงคำพูดของเธอที่อ้อยอิ่งอยู่ในห้อง
“คุณจะไม่ต้องรอนานหรอก…”
เมื่อเห็นโซเนียที่วิ่งหนีไป ผมก็หัวเราะเบาๆ ในใจของผม ผมดีใจที่เธอดูเหมือนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก เธอยังคงรักษาความใจดีของตัวเองไว้
‘ผู้หญิงอะไรน่ารักขนาดนี้นะ’
ผมหัวเราะเบาๆ กับปฏิกิริยาของเธอก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง ตอนนี้ส่วนที่เหลืออยู่ในมือของคลาร่าขณะที่เธอวิ่งไปดูว่าเพื่อนของเธอเป็นอย่างไร ผมได้ให้คำแนะนำกับเธอไปแล้วว่าควรทำอย่างไร และผมแน่ใจว่าคลาร่าจะทำได้ดี ตอนนี้ปัญหาที่ผมต้องจัดการคือการตื่นขึ้นของสายเลือดโซเนีย โดยผมคาดว่าประมาณ 2 สัปดาห์ สายเลือดของเธอจะตื่นขึ้นมา
และผมจะอยู่ข้างๆ เธอในช่วงเวลานั้นเมื่อสายเลือดแวมไพร์ของเธอตื่นขึ้น ในตอนนั้นเธอจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง การเปลี่ยนแปลงภายนอกจะเกิดขึ้นมากมาย บวกกับเธอต้องการการดูดเลือดครั้งแรก ผมต้องแน่ใจว่าตัวเองจะได้อยู่เคียงข้างเธอ ผมไม่สามารถปล่อยให้เลโอนาร์โดรับตำแหน่งนี้ได้
ผมเริ่มเดินไปรอบๆ ด้วยอาการถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า
ตอนนี้มีเรื่องต้องทำมากมาย อีเว้นท์สำคัญของโอลิเวียกำลังจะเริ่มในไม่ช้า ก่อนหน้านั้น ผมมีบางอย่างที่ต้องทำกับเธอ แถมยังมีเรื่องอื่นๆ ที่ต้องจัดการด้วย
นอร่าเหมือนจะพุ่งเข้ามาหาผมตลอดเวลา เมื่อรู้ว่าตัวเองได้รับพรจากเกรซ เธอจึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะจับมือผมหรือพูดง่ายคือเธอพยายามทำให้ผมตกหลุมรักเธอ
แล้วก็มีสการ์เล็ตที่ดูเหมือนจะโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป ผมไม่รู้ว่า ‘เดท’ เหล่านี้จะดำเนินต่อไปได้อีกนานแค่ไหน สักวันหนึ่งผมจะต้องให้คำตอบกับเธอให้ได้ และเมื่อเธอได้คำตอบ ข่าวจะดังไปทั่วโลกในวันรุ่งขึ้น แถมยังมีสาวๆ ที่เหลืออยู่อีก
‘เห้อออ..…ค่อยเป็นค่อยไป…..ค่อยเป็นค่อยไป’
ผมพูดปลอบใจตัวเอง
ในไม่ช้าผมก็มาถึงสนามฝึกและได้พบกับสาวน้อยน่ารักที่คุ้นเคย มีดสั้นของเธอเคลื่อนไหวร่ายรำอย่างสวยงาม ในขณะที่ดวงตาของเธอมุ่งมันและดูอันตราย ผมอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ขณะเฝ้าดูการฝึกฝนของเธอ
พอเธอฝึกเสร็จแล้วผมก็เดินเข้าไป
“เมื่อกี้งดงามมากเลยซานะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม แมวสาวก็ตกใจก่อนที่จะหันมาทางผม เมื่อเห็นผมหางและหูของเธอก็ชูขึ้นด้วยความดีใจขณะที่เธอตอบกลับมา
“ออ-ออสติน! ฉันไม่เห็นคุณเลยค่ะ”
“ไม่ต้องกังวล ฉันซ่อนตัวตนอยู่หน่ะ ฉันจะไปรบกวนการเต้นรำที่สวยงามเช่นนี้ไม่ได้”
“ขอ-ขอบคุณค่ะ”
ซานะตอบด้วยรอยยิ้มเขินอาย ในขณะที่แก้มแดงระเรื่อ เมื่อเห็นแบบนั้นความซาดิสม์ในตัวผมก็ตื่นขึ้น ผมเดินเข้าไปหาเธอแล้วรวบตัวเธอขึ้น
“คย๊าาา!”
ซานะรู้สึกประหลาดใจที่ตัวเองไม่สามารถตอบสนองได้ทันและเมื่อรู้สึกตัว เธอก็มาอยู่บนตักของผมขณะที่ผมกอดเธอไว้แน่นแล้ว
“ออ-ออสตินคะ?”
เมื่อมองไปที่ใบหน้าแดงซ่านของซานะ ผมก็แสยะยิ้มออกมา เธอมักจะดูท่าทางจริงจังเสมอ มีเพียงผมและรินะเท่านั้นที่ทำให้เธอเปิดเผยด้านที่แท้จริงออกมาได้ เนื่องจากประวัติของเธอ เธอจึงไม่ค่อยมีเพื่อนและเข้าสังคมได้แย่มาก สิ่งเดียวที่อยู่ในใจของเธอคือการฝึกฝนและผม
“อะไรงั้นเหรอ?”
ผมถามแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าอะไร
“น-นี่คะ-คือ?”
เธอถามด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ หูและหางของเธอส่ายอย่างมีความสุขแสดงความรู้สึกที่แท้จริง
ผมยิ้มขณะจับเอวเธอไว้แน่น แม้ว่าผมจะจับเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืนเลย
“ก็ซานะผู้น่ารักของฉันดูจะห่างเหินมากขึ้น ฉันยังจำได้อยู่เลยว่าเธอมักจะมาหาฉันและนอนข้างๆ ฉันในตอนที่เราเดินทางด้วยกัน แถมเธอยังเลิกเรียกฉันว่าพี่ชายอีกด้วย เป็นไปได้ไหมว่าเธอไม่ต้องการฉันอีกต่อไปแล้ว?”
“ไม่ใช่นะคะ!”
คำพูดของผมดูเหมือนจะแทงใจดำเธอขณะที่เธอตอบโต้อย่างหนัก เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอแล้วผมก็ยิ้ม ซึ่งเธอก็จับได้และทำให้เธอรู้ว่าผมแค่แกล้งเธอเล่นเท่านั้น
ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับซานะเป็นเหมือนครอบครัวมากกว่า ตอนที่ทั้งเธอและรินะหนีออกจากสถานที่นั่น ซานะอายุน้อยกว่ามาก ดังนั้นรินะจึงได้รับความเคารพมากกว่า
ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ในที่สุดเธอก็เปิดใจกับผมหลังจากความพยายามอย่างไม่ลดละ เธอพัฒนาความรักในครอบครัวที่มีต่อผมมากขึ้น ซึ่งผมก็ค่อยๆ นำทางมันไปสู่ความรักที่แท้จริง แต่สิ่งสำคัญคือรากฐานของความสัมพันธ์ของเราเริ่มต้นจากการที่เธอเรียกผมว่าพี่ชาย
ผมยังคงรักษารอยยิ้มขณะพูดต่อ
“ถ้ายังเป็นห่วงฉันอยู่ ทำไมเธอถึงไม่เรียกฉันว่าพี่ชายอีกหล่ะ?”
“นะ-นั่นเป็นพะ-เพราะ…”
คำพูดของเธอเริ่มเบาบางลง ในที่สุดพวกมันก็เงียบลงและกลายเป็นเสียงพึมพำ แต่ด้วยพลังของผม ผมจึงสามารถจับใจความคำพูดของเธอได้อย่างง่ายดาย
‘พะ-เพราะพี่น้องแต่งงานกันไม่ได้’
นี่คือสิ่งที่เธอพยายามจะพูด และผมก็แสดงอย่างหนัก
“เธอพูดว่าอะไรนะ?”
“ไม่มีอะไรค่ะ!”
ท้ายที่สุดซานะก็ไม่สามารถบอกความรู้สึกที่แท้จริงของเธอได้ หลังจากจัดการกับผู้หญิงที่มีอำนาจและตรงไปตรงมาเหล่านั้น มันก็สนุกดีที่ได้จัดการกับผู้หญิงขี้อายอย่างเธอ มันทำให้จิตวิญญาณของผมผ่อนคลายขึ้น
“อืม…แต่ฉันอยากให้เธอเรียกฉันว่าแบบนั้นหน่อยนะซานะ อย่าลืมว่าเธอสำคัญมากสำหรับฉัน”
ผมพูดอย่างจริงจังทำให้เธอสะดุ้ง เธอมีความลังเลอยู่นิดหน่อย แต่สุดท้ายเธอก็พูดออกมา
“พี่ชายคะ”
หูของเธอตกลงขณะที่หางของเธอสั่นไปทางซ้ายและขวา ใบหน้าของเธอแดงอย่างน่ารัก และดวงตาของเธอเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ เธออยู่ในจุดสูงสุดของความน่ารัก
“อ๋าาาาา…..ตั๊ลร๊ากกก!”
พูดแล้วผมก็ถูแก้มกับเธอ ทำให้เธอหน้าแดงหนักขึ้น สุดท้ายผมก็จูบแก้มนุ่มๆ ของเธอ
“นี่แหละคือที่เธอควรเป็น!”
ผมพูดด้วยรอยยิ้ม แต่ดูเหมือนว่าจิตใจของซานะจะลัดวงจรไปแล้วหลังจากจูบเล็กๆ น้อยๆ นั่น ขณะที่ดวงตาของเธอกลอกไปมา หางของเธอก็สั่นอย่างรวดเร็วและเธอดูตกอยู่ในภวังค์ไปซะแล้ว
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต