ตอนที่ 69-3 เหตุใดมิใช่ร่ม

เมื่อหลีเว่ยหยางได้ยินเสียงนั้น จึงดึงเสื้อคลุมให้กระชับขึ้นแล้วลุกขึ้นยืนในทันที

นางเดินจากเตียงไปยังหน้าต่าง จากนั้นจึงกวาดสายตาไปด้านนอก และเมื่อเห็นเงาดําจึงสะดังด้วยความตกใจ

เมื่อตั้งสติได้นางจึงเปิดหน้าต่างให้กว้างออก และถามออกไปว่า

“หมินเพื่อใช่หรือไม่?”

ในความมืดร่างของบุคคลนั้นแข็งที่อทันทีหลังจากได้ยินเสียงของหญิงสาว จากนั้นมินานเขาจึงเดินมุ่งหน้ามาหานาง

เมื่อมองผ่านแสงเทียนที่ริบหรี่บริเวณทางเดิน หลี่เว่ยหยางเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของ

หมินเพื่อเงยขึ้นช้า ๆ พร้อมกับดวงตาสีแดงก่ําที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก

หลเว่ยหยางจ้องมองไปที่เขาและเอ่ยถามว่า

“เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่กลางดึก?”

หลี่หมินเพื่อก้มหน้าลงโดยมิได้กล่าวอันใดออกมา

หลี่เว่ยหยางถอนหายใจ ขณะที่กวักมือเรียกเขาให้เข้ามา

แต่หลี่หมินเตือยังคงนิ่งอยู่ในจุดเดียวโดยมิมีปฏิกิริยาอื่นใดตอบสนอง

หลีเว่ยหยางกระพริบตาและกล่าวว่า:

“เจ้าต้องการให้ข้าเรียกคนมาช่วยลากเจ้าเข้ามาหรือ?

หรือเจ้าต้องการให้ผู้อื่นรู้ว่า เจ้ามาพบข้าที่นี่กลางดึก?”

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และแม้ว่าพวกเขาจะยังเด็ก แต่ก็คงจะมีดีนักหากสิ่งนี้ชั่วไหลออกไป

เห็นได้ชัดว่า หลี่หมินเต๋อเข้าใจถึงเรื่องนี้ดี เขาจึงรีบปืนเข้ามาทางหน้าต่างอย่างว่าง่าย

หลี่เว่ยหยางเห็นน้ําที่เปียกแฉะอยู่บริเวณพื้นตรงหน้า ซึ่งเกิดจากเสื้อผ้าที่เปียกโชกข องหลีหมินเต๋อจึงรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที

สิ่งที่นางมิรู้ก็คือ ความสนใจของหลี่หมิ่นเต่อที่พุ่งมายังเสื้อผ้าบอบบางที่นางกําลังสวมใส่อยู่

เขารู้สึกได้ว่า หูของตนเองร้อนผ่าวและใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดงก่ํา จึงรีบก้มศีรษะลง 5

ในมุมมองของหลี่เว่ยหยาง เพื่อนผู้นี้เป็นแค่เด็ก มิมีอันใดที่ต้องคิดมาก แน่นอนว่านางมิได้ใส่ใจเรื่องนี้

หลี่เว่ยหยางช่วยเขาบิดเสื้อผ้าและกล่าวว่า

“เหตุใดเจ้าจึงมิใช้ร่ม?

เจ้าคิดว่าร่างกายของตนเองทํามาจากเหล็กไหลหรืออย่างไร?

หรือเจ้าต้องการให้พี่สามต้องทุกข์ใจเพราะเจ้า?”

“ข้านอนหลับ!” หลี่หมินเพื่อขมวดคิ้ว

หลเว่ยหยางมสามารถเพิกเฉยต่อความแข็งกระด้างในท่าทีของเด็กชาย จึงจ้องมองเขาสักพัก

หลี่หมิ่นเต่อมทราบว่าจะเผชิญกับการจ้องมองของนางอย่างไร ดังนั้นเขาจึงหลบสายตาไปโดยมิรู้ตัว ขณะที่เขารู้สึกว่าอึดอัดภายในใจเป็นอย่างมาก ก็ได้ยินนางกล่าวว่า:

“ข้าจะพาเจ้ากลับเอง!”

หลี่หมินเตอรู้สึกประหลาดใจ ขณะที่ความเศร้าโศกฉายในดวงตาของเขาทันที

หลี่เว่ยหยางมองน้องชายด้วยความประหลาดใจ จากนั้นจึงคิดว่า นางอาจคิดมากเกินไปหมินเพื่อเป็นเพียงเด็ก เขาจะแสดงออกเช่นนี้ได้อย่างไร?

ทันใดนั้นนางคว้ามือของเขา แต่เขาหลบด้วยความตกใจ

“ข้าขอพักสักครู่ได้หรือไม่?”

เขาเอ่ยถามพร้อมกับอ้าปากค้าง และมองมายังนางอย่างประหม่า

หลี่เว่ยหยางมิตอบสนองแต่อย่างใด จึงทําให้ใบหน้าของหลี่หมินเพื่อซีดลงเล็กน้อย ราวกับว่าเขารู้ตัวว่าตนเองจะต้องรีบกลับออกไปในทันที

หลี่เว่ยหยางมีอาการชะงัก เมื่อดวงตาสีดําของนางสบกับแววตาที่แข็งขึ้นของหลี่หมินเพื่อ

ในตอนแรกเขาคิดว่านางจะปฏิเสธเขา แต่หลี่เว่ยหยางกลับเอื้อมมือไปลูบหัวของ เขาด้วยความเอ็นดู

ผมสีดําของเด็กน้อยให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลและน่าสัมผัส

ทันใดนั้นหลี่หมินเพื่อได้จับมือของนางยกขึ้น ขณะที่ดวงตามีสีเข้มขึ้นเพื่อจ้องมองนางและกล่าวด้วยน้ําเสียงที่อ่อนโยน ด้วยคําอ้อนวอนที่จริงใจในดวงตาของเขา

“ข้าสัญญาว่า หลังจากฝนหยุดข้าจะกลับไป?”

ฝามือของเขาร้อนแรง และการเต้นของหัวใจดูเหมือนจะมีบางอย่างที่ผิดปกติ

ในขณะนั้นมีความคิดมากมายแล่นผ่านเข้ามาที่จิตใจของหลี่เว่ยหยาง ในที่สุดนา งก็กลั้นมันไว้ขณะที่ยิ้มและกล่าวว่า

“ตกลง…อยู่ที่นี่จนกว่าฝนจะหยุดตก”

ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาทันที และรอยยิ้มของเขาน่าเอ็นดูมาก

“ หมั่นเต๋อ หลังจากที่ข้าออกมาแล้ว ท่านแม่ของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

หลี่เว่ยหยางสั่งให้เขาถอดเสื้อผ้าที่เปียกออก ในขณะที่นางใช้ผ้าห่มพันรอบตัวเขา

ทันใดนั้นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นความเศร้าโศกขณะที่นิ้วมือมีอาการสั่นเล็กน้อย

“ข้ามิทราบว่า ท่านแม่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเท่าใด นางทุ่มเททุกอย่างเพื่อปกป้องข้า แต่ข้ามสามารถช่วยนางได้”

ผมนุ่มสลวยหล่นมาปกคลุมดวงตาของเขา ทําให้หลีเว่ยหยางมิสามารถมองเห็นอารมณ์ในดวงตาของเขาได้ในตอนนี้

อาการป่วยของฮูหยินสามทรุดลงอย่างต่อเนื่อง และเมียาขนานใดสามารถรักษาให้อาการดีขึ้นได้เลย

นางกินยาหายากทุกชนิดแล้ว แต่สุดท้ายทั้งหมดก็เหมือนความว่างเปล่า และมิมีสัญญาณบ่งบอกว่าอาการของนางจะดีขึ้นแม้แต่น้อย

คืนนี้สภาพจิตใจของฮูหยินสามย่ําแย่มาก ราวกับว่าจิตวิญญาณของนางมิได้อยู่กับร่างแล้ว

หลี่หมินเพื่อพยายามกล่าวกับนางหลายครั้ง แต่ว่านางมิสามารถตอบสนองได้อีกต่อไป

เขาเป็นทุกข์ใจและมิสามารถรับมันได้ จึงแอบหนีออกไป

หลเว่ยหยางเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นได้วางมือของนางไว้บนศีรษะของเขาอย่างลังเลใจแล้วลูบไล้เขาอย่างอ่อนโยน

ร่างเล็กของเขาสั่นเล็กน้อย และเห็นได้ชัดว่า เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะระงับความเศร้าโศกของตนเองเอาไว้

หลเว่ยหยางกังวลใจเกี่ยวกับอนาคตของเขาเป็นอย่างมาก

บ้านตระกูลหลี่แห่งนี้ หากดูผิวเผินแล้วเป็นเหมือนช่อดอกไม้และผ้าห่มที่สามารถให้ความอบอุ่นต่อผู้คนที่อยู่ภายในบ้านแต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นสถานที่ซึ่งหนาวเหน็บและโหดร้าย

นางรู้ด้วยว่าหากมีอันใดเกิดขึ้นกับฮูหยินสาม ก็จะมีมีผู้ใดให้ความคุ้มครองหมิ่นเต่ออีกต่อไป