ข้อเสนอของต้วนหรูเฟิง

ในความคิดของตี้จิ่ว

สระชำระมังกรที่จะเปิดในอีก 3 ปีหลังจากนี้นั้น

หากมันได้เข้าไปล่ะก็ มันต้องได้รับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และความสำเร็จในอนาคตของมันต้องก้าวล้ำเหนือตี้ชานไปไกล!

ทว่าหากมันพลาดโอกาสที่จะเข้าไปในสระชำระมังกรในอีก 3 ปีหลังจากนี้ล่ะก็ มันก็ต้องรอไปอีก 5,000 ปี นับว่าต้องพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตไป…ถึงแม้อายุขัยของมังกรจะยืนยาว หากแต่คำว่ารุ่นเยาว์ของเผ่าพันธุ์มังกรนั้น จำกัดอยู่ที่ 5,000 ปีเท่านั้น หลังจากเกิน 5,000 ปีไปแล้วก็ถือว่าเป็นมังกรผู้ใหญ่

เมื่ออายุเลย 5,000 ปี ศักยภาพอันใดก็แทบไม่มีเหลือ

โดยทั่วไปแล้วเมื่อมังกรมีอายุเลย 5,000 ปีไป ความก้าวหน้ายิ่งมายิ่งจำกัด ยากที่จะประสบความสำเร็จครั้งใหญ่อะไรได้อีก

และตอนนี้วาจาของต้วนหรูเฟิง ก็กำลังดับความหวังของมัน!

มันจะเต็มใจยอมรับได้อย่างไร!

อย่างไรก็ตามเมื่อต้องเผชิญหน้ากับต้วนหรูเฟิง ที่ร้ายกาจมันก็หวาดกลัวจนไม่กล้าจะกล่าวอะไรต่อ ทำได้แค่เร่งส่งเสียงไปหาตี้ชานอย่างร้อนใจ “ตาแก่ สระชำระมังกรถือเป็นรากฐานของเผ่าพันธุ์มังกรเรา! มันเปิดออกทุกๆ 5,000 ปีแบบนี้ ท่านต้องไม่ปล่อยโอกาสอันดีนี้ให้หลุดลอยและปล่อยให้ต้วนหรูเฟิงคว้าไปได้เด็ดขาด! หาก3 ปีหลังจากนี้ท่านปล่อยให้คนนอกได้เข้าไปในสระชำระมังกรล่ะก็ เผ่าพันธุ์มังกรของพวกเราคงได้อยู่อย่างซบเซาแบบนี้ไปอีก 5,000 ปี!!”

วาจาของตี้จิ่วนับว่าแทงเข้าจุดตายของตี้ชานเช่นกัน

ในฐานะมังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ตี้จิ่วย่อมรู้ดีกว่าใครว่าตี้ชานเสียใจแค่ไหนที่พลาดโอกาสเข้าสระชำระมังกร

และแน่นอนว่าตัวตี้ชานเอง ก็ย่อมทราบซึ้งถึงความเสียใจที่ไม่ได้เข้าสระชำระมังกร!

จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่มีวันไหนเลยที่ตี้ชานจะไม่เสียใจเรื่องพลาดโอกาสเข้าสระชำระมังกร เพราะเรื่องนั้นทำให้พลังฝีมือมันมีเพียงเท่านี้! ไม่อาจนำพาเผ่าพันธุ์มังกรให้หวนกลับมารุ่งโรจน์…ถึงทุกวันนี้เผ่าพันธุ์มังกรจะนับเป็นขุมพลังอันร้ายกาจบนดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า แต่ก็เทียบไม่ได้กับเผ่าพันธุ์มังกรในกาลก่อน ที่มีพลังอำนาจเบ็ดเสร็จดั่งผู้ครองใต้หล้า!

ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรคนก่อนๆเพราะได้เข้าสู่สระชำระมังกร พลังฝีมือจึงกลายเป็นเอกอุเหนือใครในแดนดิน สามารถนำพาเผ่าพันธุ์มังกรให้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดยากที่ใครจะเทียบได้

ในช่วงเวลานั้น มีน้อยขุมพลังนักที่หาญกล้าต่อกรกับเผ่าพันธุ์มังกร

ถึงแม้ว่ากำลังรบโดยรวมของสมาชิกในเผ่าพันธุ์มังกรที่เหลือจะไม่แตกต่างจากตอนนี้

ทว่าสาเหตุหลักที่เผ่าพันธุ์มังกรมีอำนาจสยบได้ทุกขุมพลัง ล้วนเป็นเพราะพลังฝีมือของผู้นำเพียงคนเดียว!

ในฐานะผู้นำมังกรยุคนี้ ตี้ชานไร้พลังอำนาจมากพอที่จะนำพาเผ่าพันธุ์มังกรให้รุ่งเรืองได้แบบนั้น

หาไม่แล้วมันคงไม่ถูกต้วนหรูเฟิงบีบคั้น กระทั่งเป็นฝ่ายยอมลงหาทางสงบศึกแบบวันนี้!

หากตี้ชานถูกแทนที่ด้วยผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรคนก่อน ต้วนหรูเฟิงคงไม่อาจบุกมาวางอำนาจถึงขั้นนี้ได้ เพราะพลังฝีมือของผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรคนที่แล้วสยบได้แทบทุกคนในแดนดิน!

เรียกว่าผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรคนก่อนนั้น มีพลังฝีมือติดอยู่ใน 3 อันดับแรกของรายนามยอดเซียน!

ได้ยินเสียงของตี้จิ่ว ตี้ชานเองก็รู้สึกหงุดหงิดใจเป็นที่สุด

หากไม่ใช่เพราะเจ้าก่อเรื่อง เผ่าพันธุ์มังกรเราจะตกอยู่ในสภาพเหมือนสุนัขจนตรอกเช่นนี้หรือ?

หากเจ้าไม่สร้างปัญหาให้ลูกชายต้วนหรูเฟิง จะถูกบิดามันตามมารังควาญเช่นนี้รึไร?

อย่างไรก็ตามแม้จะไม่พอใจการกระทำของตี้จิ่วมากมายเพียงใด แต่ตี้ชานเองก็ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขของต้วนหรูเฟิง!

ถึงแม้ตี้ชานจะพลาดโอกาสในการเข้าสู่สระชำระมังกร แต่ในอีก 3 ปีหลังจากนี้มันวางแผนให้ตี้จิ่วได้เข้าไป หากตี้จิ่วได้รับการชำระจากสระชำระมังกรล่ะก็ย่อมประสบความสำเร็จ และเป็นผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรที่ยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้าได้แน่!

ถึงตอนนั้นตราบใดที่ตี้จิ่วมีเวลาได้เติบโตล่ะก็ ไม่ว่าจะตำหนักเมฆาคราม หรือตลาดมืดหยินชาน เผ่าพันธุ์มังกรก็ไม่จำเป็นต้องกริ่งเกรงอีกต่อไป!

ในฐานะผู้นำเผ่าพันธุ์มังกร ตี้ชานนับว่าปฏิบัติหน้าที่ได้ดีและมันเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความสามารถ ยังเป็นคนที่เห็นแก่ส่วนรวมนัก

หากมันเป็นคนเห็นแก่ตัว…มันคงเลือกที่จะเข้าสระชำระมังกรเอง ไม่ให้ตี้จิ่วเข้าไปแบบนี้

ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้พัฒนาก้าวหน้ามากมายอะไร แต่ยุงตัวเล็กก็ยังมีเนื้อ อย่างน้อยๆพลังฝีมือมันก็ต้องสูงขึ้นกว่าตอนนี้และมีพลังมากพอจะสยบต้วนหรูเฟิงและคนอื่นๆ

แต่เพราะมันเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนรวมของเผ่าพันธุ์มังกร จึงเลือกละทิ้งความต้องการส่วนตัว และให้โอกาสอันมีค่าแก่ตี้จิ่ว

ครั้งที่ล่วงรู้ว่าลูกชายของตี้จิ่วอย่างตี้ยงอันเป็นมังกรมารถูกลอบช่วยเอาไว้ มันก็ไม่เอาไปเปิดเผยกับใคร

ก่อนหน้าที่ตี้จิ่วร้องขอความช่วยเหลือให้มันส่งคนไปหาต้วนหลิงเทียน มันก็ไม่ได้ปฏิเสธ

ไม่ใช่ว่ามันกลัวตี้จิ่ว แต่มันกลัวว่าตี้จิ่วจะมีโทสะจนออกจากเผ่าพันธุ์มังกรไป เช่นนั้นแล้วเผ่าพันธุ์มังกรคงไร้ผู้สืบทอด มันเองก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบ!

แม้มันจะต้องกระทำเรื่องราวที่ขัดต่อมโนธรรมในใจเพื่อช่วยตี้จิ่ว มันก็ยอม

ตี้ชานนั้นเป็นคนที่เห็นแก่เผ่าพันธุ์มังกรอย่างแท้จริง

ตลอดชีวิตมันก็อุทิศให้แก่เผ่าพันธุ์มังกร

ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะเห็นด้วยกับต้วนหรูเฟิง

สูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง ตี้ชานก็ตัดสินใจกล่าวคำขาดกับต้วนหรูเฟิง “จ้าวตำหนักต้วน ในเมื่อท่านรู้เรื่องของสระชำระมังกรดี ท่านควรรู้ว่าสระชำระมังกรมีค่าต่อเผ่าพันธุ์มังกรเราเพียงใด…ท่านสมควรรู้ว่าเผ่าพันธุ์มังกรของพวกเราไม่มีวันยอมให้คนนอกเข้าไป”

“ข้าบอกไปแล้วไง ว่าเจ้าจะลืมเรื่องเข้าสระชำระมังกรไปก็ได้…แต่เจ้าต้องส่งตี้จิ่วมาให้ข้า!”

วาจาต้วนหรูเฟิงยังคงเย็นเยียบ และไม่คิดเปลี่ยนใจ

แถมตั้งแต่ต้นจนจบคล้ายไม่ได้แปลกใจอะไรที่ตี้ชานปฏิเสธ

“จ้าวตำหนักต้วน ท่านอย่าทำให้ข้าลำบากใจเลย…”

ตี้ชานกล่าวออกเสียงเข้ม

“ทำให้เจ้าลำบากใจ?”

ต้วนหรูเฟิงยกยิ้มแสยะกล่าวเย้ยออกมาทันที “ตี้ชาน นี่เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า…ข้าต้วนหรูเฟิงมาหาเรื่องเผ่าพันธุ์มังกรโดยไร้เหตุผลหรือไร? หากเผ่าพันธุ์มังกรของเจ้าไม่มาล้ำเส้นข้าก่อน ต่อให้เจ้าเชิญ ข้าก็ไม่มีวันเข้ามาเหยียบหลุมอาจมนี่!”

หลุมอาจม!!

หากวาจาเปรียบเทียบถิ่นที่อยู่ของเผ่าพันธุ์มังกรเป็นหลุมอาจมนี่แพร่ออกไป เกรงว่าทั้งดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าคงได้สะเทือนกันบ้าง…

ทันทีที่ต้วนหรูเฟิงกล่าวเปรียบเทียบแบบนี้ออกมา เฉวี่ยฉานและอาวุโสทั้งหลายต่างหน้าแดงก่ำไปด้วยโทสะ แต่ไม่มีผู้ใดกล้าหืออือส่งเสียงอะไร!

พวกมันรู้ดีว่าจ้าวตำหนักเมฆาครามกำลังมีน้ำโห

ตอนนี้หากใครกล้าหืออือออกไป ไม่ใช่รนหาที่ตายรึไง?

พวกมันไม่ใช่ตัวโง่งม!

“จ้าวตำหนักต้วน ข้ายอมรับว่าครั้งนี้เป็นเผ่าพันธุ์มังกรของพวกเราผิดต่อท่าน…ทว่านอกเหนือจากสองเงื่อนไขนี้ มิว่าอันใดข้าล้วนยินยอมท่านทุกอย่าง”

ตี้ชานกล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ

ในใจยังเต็มไปด้วยความปวดปร่าขื่นขมนัก

หากมันเป็นคนที่ได้เข้าไปในสระชำระมังกรเมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว ไหนเลยจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้?

หากมันได้เข้าไปยังสระชำระมังกรเมื่อ 5,000 ปีที่แล้วล่ะก็ คิดบดขยี้ต้วนหรูเฟิงคงเป็นอะไรที่ง่ายดายนัก!

“ข้าจะไม่พูดซ้ำเป็นครั้งที่สาม…”

ต้วนหรูเฟิงกล่าวออกเสียงเรียบ พาลให้ตี้จิ่ว ตี้ชาน และอาวุโสคนอื่นๆของเผ่าพันธุ์มังกรหน้าเสียทันใด

พวกมันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าต้วนหรูเฟิงจะอำมหิตแบบนี้!

ให้บุตรชายของมันเข้าสระชำระมังกรหลังจากนี้อีก 3 ปี!

หรือให้ตี้จิ่วตาย!

“ท่านจ้าวตำหนักต้วน…”

ตี้ชานหน้าดำคร่ำเครียด คิ้วยังขดยู่เป็นปม มันเริ่มครุ่นคิดถึงเรื่องสู้ตายเพื่อขับไล่ต้วนหรูเฟิงออกไปจากเผ่าพันธุ์มังกรขึ้นมาแล้ว

“ข้ายังพูดไม่พบ”

ต้วนหรูเฟิงขัดจังหวะตี้ชาน ค่อยกล่าวเพิ่มเติม “ถึงแม้ว่าข้าไม่คิดจะพูดซ้ำเป็นครั้งที่ 3 แต่ข้ามีข้อเสนอเรื่องเข้าสระชำระมังกรของลูกข้าให้พวกเจ้าเลือก…และข้อเสนอนี้ก็นับว่าเป็นธรรมกับเผ่าพันธุ์มังกรของเจ้าด้วย หากเจ้ารับข้อเสนอนี้..ข้าก็ยินดีปล่อยวางเรื่องตี้จิ่ว”

ตี้ชานและมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บทั้งหมดหรี่ตามองต้วนหรูเฟิง ต่างอยากฟังข้อเสนอที่ว่าของต้วนหรูเฟิงขึ้นมาทันที!

“ท่านจ้าวตำหนักต้วนโปรดว่ามา…”

ตี้ชานมองต้วนหลิงเทียนด้วยแววตาจริงจัง ใคร่ฟัง ‘ข้อเสนออันเป็นธรรม’ สักครา

“เท่าที่ข้ารู้ถึงแม้สระชำระมังกรของพวกเจ้าจะเปิดในอีก 3 ปีหลังจากนี้…แต่เวลาเปิดที่แน่นอนยังอยู่ในการตัดสินใจของผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรใช่หรือไม่…หากข้าเข้าใจไม่ผิดพวกเจ้าสามารถชะลอเวลาเปิดให้กลายเป็น 6 ปีหลังจากนี้ได้?”

ต้วนหรูเฟิงมองตี้ชานพร้อมยิงคำถามออกมา

“นับว่าจ้าวตำหนักต้วนรู้เรื่องราวของสระชำระมังกรพวกเรามากมายนัก”

ตี้ชานเผยยิ้มขื่นขมออกมา ในใจลอบสาปแข่งต้วนหรูเฟิงไม่น้อย หากอีกฝ่ายไม่บังเกิดความละโมบคิดไม่ซื่อกับสระชำระมังกรมานาน ไหนเลยจะรู้เรื่องสระชำระมังกรดีขนาดนี้ได้? “เป็นเรื่องจริงที่ข้าสามารถตัดสินใจเลือกเวลาเปิดสระชำระมังกรได้…แต่ข้าสามารถหน่วงเวลาไปได้มากสุดอีกแค่ 3 ปี หากมิมีผู้ใดเข้าไปใช้สระชำระมังกรในอีก 6 ปีหลังจากนี้…สระชำระมังกรจะปิดไปอีกเป็นเวลา 5,000 ปี”

“ดูเหมือนที่ข้ารู้มาก็ไม่ผิด”

ต้วนหรูเฟิงพยักหน้า ค่อยหันมองไปยังตี้จิ่วพร้อมกล่าว “ข้อเสนอของข้าคือ ให้พวกเจ้าชะลอการเปิดสระมังกรเพิ่มไปอีก 2 ปี นั่นคือข้าจะให้พวกเจ้าเปิดมันในอีก 5 ปีหลังจากนี้…ถึงตอนนั้นข้าจะให้ตี้จิ่วมันประลองกับลูกชายข้าต้วนหลิงเทียน ผู้ใดชนะก็ได้สิทธิ์ในการเข้าใช้สระชำระมังกรไปเสีย! ผู้นำตี้ชานใช่พอใจกับข้อเสนอนี้ของข้าหรือไม่ หากยังไม่พอใจอีก ก็รบกันเถอะ!”

กล่าวถึงท้ายประโยคต้วนหรูเฟิงก็หันไปมองตี้ชาน ทั้งเริ่มเร่งเร้าพลังออกมาจนบรรยากาศสะท้านอีกครั้ง คล้ายพร้อมลงมือล้างผลาญมังกรทุกตัวให้รู้แล้วรู้รอดไป

“อีก 5 ปีหลังจากนี้หรือ?”

ตี้ชานที่ได้ฟังคำของต้วนหรูเฟิงก็ไม่ได้รีบตอบรับอะไร เพียงหันไปมองตี้จิ่วแทน

เพราะในบรรดาคนของเผ่าพันธุ์มังกร มีเพียงตี้จิ่วเท่านั้นที่เคยพบเจอต้วนหลิงเทียนบุตรชายของต้วนหรูเฟิงมาก่อน นั่นหมายความว่าตี้จิ่วรู้เรื่องของต้วนหลิงเทียนมากกว่าใคร…

อย่างไรก็ตามพอตี้ชานหันไปมองตี้จิ่ว มันก็พบว่าสองตาตี้จิ่วลุกวาวส่องแสงจ้า คล้ายเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจถึงขีดสุด ราวกับมันเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ของต้วนหรูเฟิง!

“ตี้จิ่ว เจ้ามั่นใจหรือไม่?”

ตี้ชานส่งเสียงผ่านปราณกล่าวถามตี้จิ่ว เพื่อยืนยัน

“ตาแก่ผู้นำ! รีบตกลงรับข้อเสนอมันเร็วๆ! รีบรับข้อเสนอมันเร็วเข้า!!”

ตี้จิ่วเร่งส่งเสียงตอบกลับอย่างตื่นเต้น ยังคล้ายรีบร้อนไม่น้อย “ข้าเคยเจอต้วนหลิงเทียนมาแล้ว ในน้ำเต้ามันขายยาอันใดข้ารู้หมด! แม้ศักยภาพพรสวรรค์มันจักสูง…ทว่าอย่าว่าแต่ 5 ปีเลย ต่อให้อีก 20 ปี มันก็ไม่มีวันเอาชนะข้าได้! ข้าล่ะไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าต้วนหรูเฟิงบัดซบนี่มันจะกล้ายื่นข้อเสนอโง่งมเช่นนี้ออกมา!!”

กล่าวถึงท้ายประโยคน้ำเสียงที่ส่งไปของตี้จิ่วยังเผยความสะใจ เต็มไปด้วยความดูถูกไม่น้อย

“เจ้าแน่ใจหรือ”

หากแต่ตี้ชานยังคงไม่มั่นใจ “ในเมื่อต้วนหรูเฟิงกล้ายื่นข้อเสนอเช่นนี้มา ย่อมเป็นเพราะมันมีความมั่นใจอย่างยิ่ง…เจ้าควรไตร่ตรองให้ดี หากถึงวันนั้นเจ้าพ่ายแพ้ขึ้นมาไม่เพียงแต่เจ้าจะเสียโอกาสในการเข้าสระชำระมังกร เจ้าจักกลายเป็น ‘คนบาป’ ของเผ่าพันธุ์มังกร…เพราะเผ่ามังกรของพวกเราจำต้องซบเซาไปเช่นนี้อีก 5,000 ปี ไม่ใช่มีแค่เจ้าที่เสียประโยชน์เพียงผู้เดียว!!”

คนบาปแห่งเผ่าพันธุ์มังกร!

ต้องกล่าวเลยว่าวาจาแรงครั้งนี้ของตี้ชาน สะท้านใจตี้จิ่วไม่น้อย

หากแต่ในใจของตี้จิ่ว ยังคงเต็มไปด้วยภาพต้วนหลิงเทียนในวันนั้น ที่มันจะลิขิตเป็นตายอีกฝ่ายเมื่อใดก็ได้ขึ้นมา จึงกล่าวตอบตี้ชานไปด้วยความมั่นใจ “ตาแก่ผู้นำ! รีบตอบรับมันไป ข้ามั่นใจนัก! ให้ต้วนหลิงเทียนมันมีพรสวรรค์สูงส่งเพียงใด มันก็มิได้ท้าทายสวรรค์มากพอจะทัดเทียมข้าได้ในเวลาแค่ 5 ปี! แถมผู้ใดจะไปรู้ว่ามันจะมีปัญญารอดชีวิตถึงวันนั้นหรือไม่ ต่อให้มันดวงดีรอดมาได้ ข้าก็มั่นใจนักว่าสามารถบดขยี้มันได้ง่ายดาย!!”