นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา บทที่ 56 ยั่วยวน
เพิ่งเข้ามา ก็เห็นสวีชางหลินปูที่นอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว บนตัวก็สวมเพียงเสื้อคลุมนั่งรอนางอยู่บนเตียง
สายตาจ้องมองดูนาง ไม่รู้ว่ามองผิดไปหรือเปล่า นางมองเห็นแสงสีเขียวภายในดวงตาของเขา
โจวกุ้ยหลานไม่ใช่เด็ก รู้ว่าสายตาของผู้ชายแบบนี้หมายความว่ายังไง นางกลืนน้ำลายลงคอ แล้วถามขึ้นว่า “เสี่ยวเทียนละ?”
“นอนหลับอยู่ในห้องทางเหนือ” สวีชางหลินพูดพร้อมกับยืนขึ้นมา แล้วเดินมาหาโจวกุ้ยหลาน
ทั้งสองคนยิ่งอยู่ก็ยิ่งใกล้ชิดกัน โจวกุ้ยหลานอดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลัง เดิมก็ห่างกันไม่มาก ข้างหลังก็เป็นบานประตูแล้ว ส่วนสวีชางหลินขยับเข้ามาใกล้ จนสามารถได้ยินลมหายใจของทั้งสองคน
สวีชางหลินก้มหน้ามองดูเส้นผมโจวกุ้ยหลานที่ยังเปียกอยู่ ยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆบนตัวนาง
“น้องนาง…..”
เขาอดไม่ได้ที่จะร้องเรียกขึ้นมา ลมหายใจแรงขึ้นไม่น้อย
หัวใจดวงน้อยของโจวกุ้ยหลานก็เต้นรุนแรง ทั่วทั้งใบหน้าแดงเหมือนอย่างกับกุ้งถูกน้ำร้อนลวก
ในภพก่อนนางอายุยี่สิบห้าแล้วแต่ก็ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีประสบการณ์ทางด้านนี้ ตอนนี้รู้ทั้งรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังคงทำตัวไม่ถูก
ทำไงดี จะนอนกับสวีชางหลินแบบนี้แล้วหรือ? เป็นสามีภรรยากัน เรื่องแบบนี้ควรที่จะทำได้อยู่….
สวีชางหลินก็เป็นคนดี นางเองก็เตรียมตัวเตรียมใจที่จะใช้ชีวิตอยู่กับเขาไปตลอดอยู่แล้ว……
หัวสมองโจวกุ้ยหลานวุ่นวาย อากาศโดยรอบดูเหมือนจะร้อนขึ้นหลายองศา นางรู้สึกว่าลมหายใจออกของสวีชางหลินร้อนขึ้นหลยเท่า
นางเอื้อมมือ อยากที่จะกั้นระหว่างนางกับสวีชางหลินไว้ แต่เมื่อมือสัมผัสโดนหน้าอกสวีชางหลิน ความร้อนรุ่มนั้นทำให้นางตกใจจนจะชักมือกลับ กำลังจะเคลื่อนไหว สวีชางหลินคว้าจับข้อมือของนางไปทาบบนหน้าอกของเขา
“เจ้า……”
โจวกุ้ยหลานเพิ่งจะอ้าปากพูด มือก็ถูกสวีชางหลินกางออก ห้านิ้วกางออกแนบหน้าอกของเขาไว้ รู้สึกดีจนหัวใจแทบวาย
สวีชางหลินคว้าจับมือของนางไว้ พานางลูบเลื่อนลงไป ผ่านกล้ามเนื้อหน้าอก ผ่านหน้าท้อง ค่อยๆเลื่อนลง
กล้ามเนื้อหน้าอก ผ่านหน้าท้อง กล้ามเนื้อหน้าท้อง……
ไม่มีไขมันเลย มีแต่กล้ามเนื้อทั้งนั้น…..
ต่อให้มองไม่เห็น ตรงหน้าของนางก็ปรากฏภาพร่างกายที่สมบูรณ์แบบของเขา
โอ้พระเจ้า รูปร่างผู้ชายคนนี้ทำไมถึงดีขนาดนี้? นางรู้สึกแทบหายใจไม่ออกแล้ว
“น้องนาง ชอบไหม?”
เสียงต่ำของสวีชางหลินดังอยู่บนหัว แฝงไปด้วยความเย้ายวน
หัวใจโจวกุ้ยหลานแทบหยุดเต้น เข้าใจความหมายของเขา ใบหูของนางแดงไปหมด
ไม่ได้แล้ว นางถูกเขายั่วยวนจนไฟลุกท่วมตัว
มือเลื่อนมาถึงเอวของเขาแล้ว แตะถูกขอบกางเกงของเขาแล้ว
ในใจโจวกุ้ยหลานกระวนกระวายอย่างมาก คนโบราณคนนี้ยั่วยวนนางจนกลายเป็นแบบนี้ นี่คู่ควรกับการที่นางดูเอมวีลามกมาตั้งมากมาย?
คิดได้เช่นนี้ นางกัดฟัน ในใจตัดสินใจ ขย่งเท้าขึ้น มืออีกข้างหนึ่งวางบนไหล่ของเขา เงยหน้าขึ้น ริมฝีปากประทับบนกระเดือกของเขา กัดเบาๆหนึ่งทีอย่างรวดเร็ว ยืนนิ่ง เงยหน้ามองดูเขาด้วยดวงตาที่สวยหยาดเยิ้ม
“ชอบไหม?”
สวีชางหลินนิ่งอึ้งไปเลยทีเดียว
เขาอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว อุ้มโจวกุ้ยหลานขึ้นมา
“ต๊อก ต๊อก ต๊อก”
เสียงอะไร?
โจวกุ้ยหลานกระจ่างชัดขึ้นมา
“แม่….”
เจ้าก้อนน้อยร้องเสียงสะอื้นดังอยู่ด้านนอกประตู ทำลายความสวยงามภายในห้องที่เพิ่มยิ่งขึ้น
ทั้งสองคนอึ้ง โจวกุ้ยหลานรีบผลักสวีชางหลิน สวีชางหลินเคลื่อนไหวต่อไปอย่างไม่สนใจลูกที่อยู่ด้านนอก
มาถึงขนาดนี้แล้ว เขาจะกั้นกลับไปได้ยังไง?
“แม่…..”
เจ้าก้อนน้อยที่อยู่ด้านนอกยกมือขึ้น กำหมัดเล็กๆ แล้วทุบประตูต่อไป น้ำตาแทบจะไหลตกลงมาแล้ว
เมื่อกี้เขาหลับตารออยู่ตลอด รอแม่กลับเข้ามาในห้อง เขาลุกขึ้นมานั่งรออย่างดีใจ แต่แม่ไม่เข้ามา เขาได้ยินเสียงในห้องของพ่อกับ กลับไม่ให้เขาเข้าไป
พอแม่ไม่เอาเขาแล้วหรือ?
คิดถึงคำพูดที่พ่อพูดกับเขาก่อนหน้านี้ เขาก็ยิ่งหวาดกลัว
สวีชางหลินแทบอยากที่จะยกลูกคนนี้ให้กับคนอื่น แอบกัดฟัน ร่างกายยังถูกโจวกุ้ยหลานพลัก แล้วได้ยินภรรยาพูดกับเขาว่า “เสี่ยวเทียนร้องไห้แล้ว เจ้ารีบปล่อยเร็ว”
ตามด้วยแรงของภรรยา เขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว หลีกให้มีช่องว่างนิดหน่อย แล้วก็เห็นภรรยารีบหันไปเปิดประตู อุ้มเจ้าก้อนน้อยมากอด แล้วเดินไปที่ห้องตรงข้าม
“ไม่เป็นไร เสี่ยวเทียนไม่ต้องกลัว แม่อยู่นี่ แม่นอนเป็นเพื่อนเจ้า”
เจ้าก้อนน้อยกอดคอเสื้อโจวกุ้ยหลานไว้แน่น น้ำเสียงเต็มไปด้วยเสียงสะอื้น พร้อมพูดขึ้นว่า “นอนกับพ่อ”
โจวกุ้ยหลานหยุดฝีเท้าอย่างจนใจ
ผู้ชายคนนั้นอันตรายอย่างมาก ตอนนี้แยกกันนอนจะดีกว่า ไม่อย่างงั้นเขาจะยิ่งทรมาน…..
“พ่อ…..”
เจ้าก้อนน้อยหันหน้าไป มองผ่านโจวกุ้ยหลาน มองดูสวีชางหลินที่หน้าบึ้งยืนอยู่กับที่ในห้องทางทิศใต้
นี่คืออาการขาดความปลอดภัย…..
โจวกุ้ยหลานหยุดฝีเท้า สุดท้ายไม่มีทางเลือก ยังคงเดินกลับไปในห้องทางทิศใต้ เดินผ่านสวีชางหลิน เอาเจ้าก้อนน้อยวางลงบนเตียง แล้วนางก็นอนอยู่ด้านใน
ได้นอนข้างกายแม่อีกครั้ง เจ้าก้อนน้อยพยายามบีบน้ำตากลับไป มือทั้งคู่จับมือแม่ของตนเองไว้ หัวซบข้างกายแม่ หลับตาอยู่อย่างสงบ
สวีชางหลินที่อยู่ภายในห้อง รู้สึกเหมือนตัวเองจะระเบิด เบิกตาโตมองดูภรรยาของตนเองที่เดิมควรนอนแนบกายตนเอง ตอนนี้กำลังอุ้มลูกชายของตนเองอยู่
“มานอนพักเถอะ” โจวกุ้ยหลานเงยหน้า พูดกับผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงกลางห้อง
สวีชางหลินเม้นริมฝีปาก กำปั้นคลายแล้วก็เกร็ง สุดท้ายจำต้องพูดเพียงว่า “ข้าไปอาบน้ำ” แล้วก็เดินออกจากห้องไป
เห็นเงาหลังที่ย่ำแย่ของเขา โจวกุ้ยหลานรู้สึกสงสาร แล้วก็อยากร้องไห้
น่าสงสารจริง……
แต่วันเวลาอีกยาวไกล ต่อไปค่อยๆว่ากัน ไม่รีบ…..
มือของตนที่ว่างลูบริมฝีปากของตน ตอนนี้เหมือนยังหลงเหลือความอบอุ่นของเขา เขาหุ่นดีมาก ดีกว่านายแบบที่เห็นในภพก่อนเสียอีก….