ตอนที่ 220 ความเปลี่ยนแปลง

ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า

ตอนที่ 220 ความเปลี่ยนแปลง

“เจ้า!” เซ่าเติงอวิ๋นชี้หน้าอนุหร่วนพลางตลาดด้วยความโกรธ “เจ้านึกว่าข้าไม่กล้าหรือ? ลากตัวออกไป ตัดหัวพร้อมกัน!”

ลูกน้องที่พุ่งเข้ามาตามคำสั่งลำบากใจ แบบนี้ต้องจัดการอย่างไร? สร้างความลำบากใจให้พวกเขาอย่างมาก

จงหยางซวี่เอ่ยว่า “เซ่าซยง เรื่องนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นแผนของหนิวโหย่วเต้า สังหารปิดปากไปก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าสังหารปิดปากไปในยามนี้ หากเรื่องนี้แพร่ออกไป แบบนั้นจะอธิบายได้ลำบาก แก้ต่างอะไรไปก็ไม่มีใครเชื่อแล้ว อาศัยเพียงเรื่องนี้เรื่องเดียว หากหอหิมะเหมันต์สืบสาวราวเรื่องขึ้นมาก็จะยิ่งอธิบายได้ไม่กระจ่าง ตอนนี้มีเพียงวิธีเดียว…ขอเพียงท่านทำให้บุตรชายของท่านยอมกลับคำพูดได้ เรื่องนี้อาจจะยังพอกู้สถานการณ์ได้อยู่”

อันที่จริงเขาก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรเอาไว้เลย เรื่องราวลุกลามมาถึงขั้นนี้แล้ว คุณชายใหญ่เองก็ไม่ใช่คนที่จะยอมถูกรังแกง่ายๆ คุณชายสามที่อยู่ตรงหน้าคนนี้จะกล้าปล่อยให้คุณชายใหญ่รอดไปได้หรือ? หากทำให้คุณชายใหญ่ตาย เขากลับจะยังมีทางรอด ซ้ำยังสมปรารถนาด้วย เขาจะเลือกอย่างไรยังต้องพูดอีกหรือ?

และเขาก็ไม่เชื่อว่าคุณชายรองที่เป็นบุตรอีกคนหนึ่งของอนุหร่วนจะไม่ทราบเรื่อง คุณชายรองกลับชั่วร้ายยิ่งกว่า ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังไม่ออกหน้า จะให้คนหนึ่งกลับคำว่ายากแล้ว จะให้กลับคำทั้งสองคนยิ่งอย่าหวังเลย

ที่กล่าวไปเช่นนี้ก็เพื่อมอบคำอธิบายให้แก่เซ่าเติงอวิ๋นเท่านั้น ใช่ว่าข้าไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์เก่าก่อน แต่เป็นครอบครัวท่านไม่สมัครสมานกันเอง

เซ่าเติงอวิ๋นเสมือนคว้าฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายเอาไว้ได้ ชี้หน้าเซ่าฝูปอพลางเอ่ยด้วยความโกรธเกรี้ยว “ได้ยินหรือไม่? เรื่องนี้ล้วนเป็นแผนชั่วของหนิวโหย่วเต้าทั้งสิ้น ต้องการให้พวกเจ้าห้ำหั่นกันเอง ยังไม่รู้จักกลับตัวอีกหรือ?” เขาถึงขนาดเกิดความคิดอยากจะคุกเข่าลงไปขอร้องบุตรชายคนนี้

แต่ผู้ใดจะทราบว่าเซ่าฝูปอกลับส่ายหน้าแล้วเอ่ยตอบว่า “ท่านพ่อ เรื่องนี้ล้วนเป็นพี่ใหญ่ที่หาเรื่องใส่ตัวเอง ด้วยอำนาจของหอหิมะเหมันต์ จะปกปิดได้หรือขอรับ? ข้าเองก็หวังดีต่อตระกูลเซ่าเช่นกัน! มาถึงขั้นนี้แล้ว เหตุใดท่านถึงยังปกป้องพี่ใหญ่อีก อยากให้ตระกูลเซ่าตายกันทั้งตระกูลหรือขอรับ? บิดามารดายังอยู่ ลูกไม่อาจทำเรื่องอกตัญญูเช่นนี้ได้! ท่านพ่อเองก็ต้องคำนึงถึงทหารจำนวนมากที่ติดตามท่านมาเป็นเวลานานหลายปีเพื่อมณฑลเป่ยโจวเช่นกันนะขอรับ!”

เขาคิดจะกัดให้ตายไม่ยอมปล่อย!

จงหยางซวี่ลอบถอนหายใจ ไม่ผิดไปจากที่คาดไว้เลย มีโอกาสเล่นงานคุณชายใหญ่ให้ตายทั้งที ไหนเลยจะยอมปล่อยให้หลุดมือไปได้!

เซ่าเติงอวิ๋นกลับเสมือนถูกสายฟ้าฟาด ปากเอ่ยพึมพำ “เดรัจฉาน…เดรัจฉาน…เดรัจฉาน…”

“เซ่าซยง เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ข้าเองก็ไร้ความสามารถเช่นกัน ได้แต่ต้องขออภัยแล้ว!” จงหยางซวี่เอ่ยขออภัย หันไปมองผู้ติดตามของตน แต่ขณะที่กำลังจะออกคำสั่ง พลันรู้สึกถึงแรงรั้งที่แขน

เมื่อหันกลับไปมอง เขาเห็นเซ่าเติงอวิ๋นจับแขนเขาเอาไว้ ส่ายหน้าอย่างช้าๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ในดวงตาเต็มไปด้วยแววตาวิงวอน “มารดาของเขา เฉลียวฉลาดเพียบพร้อม ท่านเองก็นับถือนางเป็นน้องสาว มารดาเขาด่วนจากโลกนี่ไป จงซยงเห็นแก่หน้ามารดาเขา…”

“ปฏิบัติตามคำสั่งของสำนัก!” จงหยางซวี่สบตากับเซ่าเติงอวิ๋น เอ่ยเนิบๆ พลางโบกมือให้ผู้ติดตามที่อยู่ด้านหลังเล็กน้อย ไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดจบ

เขาไม่อาจนำชะตาของสำนักเขามหายานมาเดิมพันกับตระกูลเซ่าได้ อีกทั้งเขาเองก็ไม่มีอำนาจที่จะเดิมพันด้วย ในเมื่อเป็นตัวต้นเรื่อง กล้าก่อเรื่องก็ต้องกล้ารับผิดชอบ

“ขอรับ!” ผู้ติดตามประสานมือรับคำสั่ง สาวเท้าก้าวจากไป

เซ่าเติงอวิ๋นพลันสิ้นเรี่ยวแรง ซวนเซถอยหลังไป ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงกลาง ไร้กำลังจะขัดขวาง!

สองแม่ลูกคู่นั้นยังคงร่ำไห้กอดกันอยู่

เซ่าฝูปอกำลังร้องไห้ ทว่าภายในใจกลับดีใจอย่างบ้าคลั่ง คำพูดและการกระทำของจงหยางซวี่ เขาได้ยินและได้เห็นแจ่มแจ้งแล้ว ในที่สุดพี่ใหญ่สารเลวที่ข่มเหงพวกเขาสามแม่ลูกมานานหลายปีผู้นั้นก็ถูกกรรมตามสนองแล้ว!

จงหยางซวี่เหลือบมองสองแม่ลูกคราหนึ่ง ค่อยๆ หันหลังกลับไป ยามที่เดินไปถึงประตู พลันได้ยินเสียงร้องอย่างตื่นตระหนกของเซ่าฝูปอแว่วมาจากด้านหลัง “ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ ท่านเป็นอะไรไป?”

จงหยางซวี่หันกลับไปมอง มองเห็นอนุหร่วนงอตัวล้มลงไปกับพื้นด้วยร่างกายที่สั่นเทา สีหน้าเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน

แม่ลูกคู่นี้จะเล่นเล่ห์อันใดอีก? จงหยางซวี่บ่นพึมพำอยู่ในใจ แต่หลังจากนั้นม่านตาพลันหดตัว เขามองเห็นโลหิตสีดำไหลซึมออกมาจากจมูกของอนุหร่วน

จงหยางซวี่ตกใจเป็นอย่างมาก ทะยานกายกลับไป ย่อกายลงบนพื้นอย่างรวดเร็วพร้อมจับชีพจรให้อนุหร่วน

ทหารที่อยู่ในห้องโถงก็ล้อมวงเข้ามาด้วยความตกใจเช่นกัน

ภายในระยะเวลาสั้นๆ เท่านี้ ใบหน้าอรุหร่วนกลายเป็นสีดำคล้ำ เห็นได้ชัดว่าถูกพิษเข้าแล้ว จงหยางซวี่ขยับนิ้วจี้ไปตามร่างอนุหร่วนอย่างรวดเร็ว สกัดจุดกันพิษแพร่กระจาย จากนั้นหยิบขวดกระเบื้องเคลือบขนาดเล็กใบหนึ่งออกมาจากร่าง เทยาแก้พิษเม็ดหนึ่งออกมายัดใส่ปากอนุหร่วน

แต่อนุหร่วนที่มีโลหิตสีดำไหลออกมาจากในจมูกกลับกระอักโลหิตสีดำออกมาคำหนึ่งดัง ‘พรูด’ ร่างกายชักกระตุกขึ้นมาอย่างรุนแรง สองตาค่อยๆ เหลือกขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ทว่ากลับพยายามดึงแขนเสื้อของบุตรชายเอาไว้อย่างสุดกำลัง คล้ายจะตระหนักได้ถึงบางสิ่ง พยายามเอ่ยกระท่อนกระแท่นออกมาอย่างสุดชีวิต “อย่า…ไป…ยุ่งกับเขา…พวกเจ้า…ไม่ใช่…คู่…คู่ต่อสู้…เขา…”

ยาถอนพิษเม็ดนั้นเข้าสู่ร่างของอนุหร่วนช้าไปเสียแล้ว ร่างที่ชักเกร็งของอนุหร่วนพลันอ่อนยวบ ไร้ลมหายใจอย่างสิ้นเชิง

จงหยางซวี่สูดหายใจด้วยความตกใจ พิษร้ายแรง! ออกฤทธิ์ช้า แต่เมื่อออกฤทธิ์ก็สายเกินแก้แล้ว!

“ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรไปขอรับ?” เซ่าฝูปอเขย่าตัวอนุหร่วนร้องเรียกด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า จากนั้นเข้าไปดึงจงหยางซวี่ เอ่ยอ้อนวอน “ฝ่าซือ ช่วยท่านแม่ข้าด้วยขอรับ ขอท่านได้โปรดช่วยท่านแม่ของข้าด้วย ช่วยนางทีเถิดขอรับ!” ครั้งนี้เขาร้องไห้ออกมาจริงๆ

จงหยางซวี่ส่ายหน้า เขาก็หมดความสามารถแล้วเช่นกัน

ยามนี้เซ่าเติงอวิ๋นที่แววตาเลื่อนลอยคล้ายจะถูกเสียงตะโกนเรียกสติกลับมา ค่อยๆ เพ่งสายตามอง เมื่อเห็นสถานการณ์ชัดเจนแล้ว ก็พุ่งเข้ามาทันที แหวกกลุ่มทหารเข้าไป พยุงอนุหร่วนเอาไว้แล้วตะโกนเรียก “เสี่ยวหวน เสี่ยวหวน…”

เซ่าฝูปอนึกถึงคำพูดก่อนสิ้นใจของมารดา พลันเงยหน้าตะโกนกร้าว “ไอ้สารเลว! ข้าขอสาบานว่าข้ากับเจ้า…อึก!” ทันใดนั้นเขาก็ยกมือกุมท้องเช่นกัน ส่งเสียงครางออกมาด้วยความเจ็บปวด

เซ่าเติงอวิ๋นและจงหยางซวี่ยังไม่ทันสังเกตเห็นอาการผิดปกติของเขา กลับเป็นบ่าวรับใช้ที่สังเกตเห็นก่อน ร้องตะโกนด้วยความตกใจ “คุณชายสาม! คุณชายสามขอรับ!”

ทั้งสองหันมาทันที มองเห็นเซ่าฝูปอสีหน้าบิดเบี้ยว มีโลหิตสีดำทะลักออกมาจากปากจมูกไม่หยุด นอนชักอยู่ในอ้อมแขนของข้ารับใช้

“เจ้าสาม!” เซ่าเติงอวิ๋นร้องโหยหวน

จงหยางซวี่เข้าช่วยเหลือทันที ทว่าสถานการณ์ก็ไม่ได้ต่างจากอนุหร่วนเลย ออกฤทธิ์ช้า แต่เมื่อออกฤทธิ์แล้วก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้!

จงหยางซวี่ที่รู้สึกตื่นตระหนกหยิบยาถอนพิษเม็ดหนึ่งกินเข้าไปเองก่อน จากนั้นดึงตัวเซ่าเติงอวิ๋นเข้ามา รีบยัดยาถอนพิษเม็ดหนึ่งเข้าปากเขาเช่นกัน

หากเกิดเรื่องขึ้นกับเซ่าเติงอวิ๋นอีกล่ะก็ มณฑลเป่ยโจวได้วุ่นวายใหญ่โตแน่ ทหารตั้งแต่ระดับสูงจนถึงระดับล่างมากมายเหล่านั้นต่างเชื่อฟังเซ่าเติงอวิ๋น สำนักเขามหายานไหนเลยจะควบคุมคนมากมายขนาดนั้นได้ในคราวเดียว เมื่อถึงเวลานั้นสำนักเขามหายานคงอธิบายได้ไม่กระจ่างว่าเซ่าเติงอวิ๋นตายอย่างไร หากไม่ระวังจนเกิดการก่อกบฏขึ้นมา แคว้นหานกับแคว้นเยี่ยนต้องฉวยโอกาสเข้าโจมตีแน่!

ในเวลานี้เอง มีคนวิ่งเข้ามาจากด้านนอกพลางร้องตะโกนว่า “นายท่าน แย่แล้วขอรับ เกิดเรื่องกับคุณชายสอง เกิดเรื่องกับคุณชายสองแล้วขอรับ…” เสียงตะโกนพลันหยุดลง คนที่วิ่งเข้ามามองเห็นสภาพภายในห้องโถง ตกตะลึงไปทันที

กลุ่มคนในห้องโถงก็มองเขาอยู่เช่นกัน

……

ณ จวนท่องคลื่น บนเก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่ในลานเรือน เซ่าผิงปอที่มีคราบเลือดเปื้อนมุมปากนั่งนิ่งๆ อยู่ใต้แสงอาทิตย์ยามอัสดง

รอบด้าน มีศิษย์สำนักเขามหายานเดินกลับไปกลับมาคอยเฝ้าเขาไว้ หวงโต้วและหลินหูยืนขนาบซ้ายขวา เข้าควบคุมเซ่าผิงปอตามคำสั่ง

เซ่าผิงปอหลับตาพักผ่อนอยู่ใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น ท่าทางคล้ายไม่ตระหนกตกใจ สีหน้าสงบราบเรียบ มีเพียงคราบเลือดตรงมุมปากที่ค่อนข้างสะดุดตา

หวงโต้วและหลินหูถอนหายใจแผ่วเบาเป็นครั้งคราว อยู่ร่วมกันมาหลายปี ไม่คิดเลยว่ามีวันนี้ได้

ทั้งสองเคยเตือนเขาแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับหอหิมะเหมันต์ ทว่าคนผู้นี้ใจกล้าเป็นยิ่งนัก ไม่เพียงแต่จะไม่ยอมฟังเท่านั้น แต่ยังก่อเรื่องจนเป็นเช่นนี้อีก ไยต้องหาเรื่องใส่ตัวด้วย!

ในเวลานี้เอง มีคนเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เอ่ยเสียงขรึม “ศิษย์พี่ทั้งสอง อาจารย์ลุงถ่ายทอดคำสั่ง บอกให้ปฏิบัติตามคำสั่งของทางสำนักขอรับ!”

หวงโต้วและหลินหูสบตากัน หลินหูถอนใจพลางเอ่ยว่า “คุณชายใหญ่ คำสั่งอาจารย์ยากขัดขืน ขออภัยด้วย!”

หวงโต้วก็ถอนหายใจเช่นกัน “คุณชายใหญ่ วันหน้าหากมีโอกาส พวกเราไม่มีทางปล่อยหนิวโหย่วเต้าคนนั้นแน่ พวกเราจะชำระแค้นให้ท่านแน่นอนขอรับ!”

เซ่าผิงปอเอ่ยอย่างเฉยชา “ข้าเข้าใจ! ไม่จำเป็นต้องชำระแค้นนี้ให้ แค้นนี้ข้าจะนำติดตัวไปด้วย แต่ก่อนไป ข้าอยากอาบน้ำสักหน่อย อยากจากไปอย่างมีเกียรติสักหน่อย คำขอนี้คงไม่นับว่าเกินไปกระมัง?”

ทั้งสองสบตากัน พยักหน้าให้กัน ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าเขาจะเล่นลูกไม้อันใดได้

ทั้งสองผายมือพลางเอ่ยพร้อมกัน “คุณชายใหญ่ เชิญ!”

จากนั้นยื่นมือเข้าไปประคองเขาพร้อมกัน เซ่าผิงปอลืมตาแล้วยกมือปราม “ข้าไม่ล้มหรอก เดินเองได้!”

ทั้งสองทำได้เพียงยอมเขา มองเขาพยุงตัวลุกขึ้นมา จากนั้นเดิมตามหลังเขาเพื่อ ‘คุ้มกัน’ ไปส่งที่ห้องอาบน้ำ

เมื่อมาถึงห้องอาบน้ำ ทั้งสองก็นับว่ายอมลดเกียรติลง ช่วยถอดชุดให้เขาด้วยตัวเอง แล้วก็นับว่าสิ้นสุดไมตรีที่อยู่ร่วมกันมาเป็นเวลาหลายปี

หลังจากเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว ทั้งสองก็แหวกม่านที่กางกั้นห้องอาบน้ำไว้ เซ่าผิงปอเดินเข้าไป เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พวกท่านคงไม่คิดจะมองข้าอาบน้ำกระมัง? กลัวข้าหนีหรือ? หรือกลัวข้าจะฆ่าตัวตาย?”

ทั้งสองสบตากัน ถึงหนีก็ไม่รอด แล้วก็ไม่กลัวเขาจะปลิดชีพตัวเองด้วย หากต้องการปลิดชีพตัวเองจริง นั่นกลับจะเป็นการช่วยพวกเขาประหยัดแรง ขอเพียงผลลัพธ์ในท้ายที่สุดออกมาเหมือนกันก็พอ

ทั้งสองปล่อยม่านลง ถอยหลังไปหลายก้าว มองเงาคนที่อยู่หลังม่านลงไปแช่ในน้ำ ได้ยินเสียงอาบน้ำ

หลังจากรออยู่ครู่หนึ่ง เซ่าซานเสิ่งก็ยกเสื้อผ้าชุดหนึ่งเข้ามา พยักหน้าให้คนทั้งสอง จากนั้นเข้าไปด้านใน

ยามที่วางเสื้อผ้าไว้ข้างบ่อแช่ตัว เซ่าซานเสิ่งเหลือบมองเซ่าผิงปอแล้วพยักหน้าให้ สื่อว่าจัดการเรื่องที่สั่งเรียบร้อยแล้ว

เซ่าผิงปอหลับตาลงพร้อมเงยหน้าขึ้น พรูลมหายใจออกมา เขากำลังกังวลอยู่ว่าทางจวนผู้ว่าการมณฑลจะเกิดเหตุเหนือความคาดหมายจนทำให้ลงมือไม่สำเร็จ

หลังจากพยายามถ่วงเวลาไว้ ในที่สุดก็บรรลุผลลัพธ์ตามที่ตนต้องการ

หลังจากลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แววตากลับมาแจ่มใส เอ่ยเสียงขรึมว่า “ก็อย่างที่พูดไป หากทางฝั่งสามแม่ลูกแอบวางแผนอะไรเอาไว้ล่วงหน้า ไม่มีทางที่ข้าจะไม่ระแคะระคายแม้แต่น้อย กล่าวได้เพียงว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหัน ต้องมีคนยุยงบงการอยู่เบื้องหลังแน่นอน ระยะนี้พวกเขาพบปะผู้ใดที่มีความผิดปกติบ้างหรือไม่?”

เซ่าซานเสิ่งตะลึงไปเล็กน้อย แต่เมื่อได้เห็นสีหน้าของเซ่าผิงปอ เขากลับมีความรู้สึกมั่นใจขึ้นมา ตอบไปว่า “ก่อนหน้านี้ถูกเรื่องนี้ทำให้ร้อนใจ พอคุณชายใหญ่ว่ามาเช่นนี้ ข้ากลับนึกขึ้นมาได้แล้วขอรับ ในวันนี้ อู่เทียนหนานบุตรชายปลัดอำเภอผิงชวนมาขอเข้าพบสองพี่น้องที่จวนผู้ว่าการมณฑล เรื่องนี้ค่อนข้างแปลกครับ ว่ากันตามหลักแล้ว อู่เทียนหนานผู้นั้นไม่มีคุณสมบัติพอจะได้เหยียบเข้าจวนผู้ว่าการมณฑลเลยขอรับ”

ความเคลื่อนไหวของทางจวนผู้ว่าการมณฑลไม่มีทางปกปิดสายตาของทางนี้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการพบปะกันระหว่างอู่เทียนหนานและสองพี่น้องเลย

เซ่าผิงปอเอ่ยเสียงเรียบ “เป็นเจ้าที่เลินเล่อไป รีบไปสืบเดี๋ยวนี้!”

“ขอรับ!” เซ่าซานเสิ่งรับคำสั่งแล้วออกไป เดินผ่านหน้าคนทั้งสองที่ยืนอยู่นอกม่านออกไป

หวงโต้วและหลินหูสบตากันอีกครั้ง เรื่องแบบนี้ถ้าสืบให้ชัดเจนได้ย่อมเป็นเรื่องดี พวกเขาเองก็ไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไปขัดขวาง เพียงแต่นึกสงสัยว่าคุณชายใหญ่ท่านนี้อยู่ในสภาพนี้แล้ว ยังจำเป็นต้องกังวลกับเรื่องนี้อีกหรือ?

เซ่าผิงปออาบน้ำชำระร่างกายอยู่ด้านในอย่างใจเย็น

ผ่านไปครู่หนึ่ง เซ่าซานเสิ่งกลับมา เข้าไปรายงานในห้องอาบน้ำ “คุณชายใหญ่ สั่งการลงไปแล้วขอรับ”

“เปลี่ยนชุดเถอะ!” เซ่าผิงปอลุกออกจากน้ำ

เซ่าซานเสิ่งรีบเข้าไปปรนนิบัติดูแล

เมื่อด้านในจัดการเรียบร้อยแล้ว เซ่าผิงปอที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็แหวกม่านเดินออกมา คราบเลือดบนร่างไม่หลงเหลือแล้ว กลับสู่สภาพคุณชายใหญ่ผู้งามสง่าอีกครั้ง

หวงโต้วและหลินหูยังไม่ทันได้แสดงท่าทีอะไร เซ่าผิงปอก็เอ่ยขึ้นมาก่อน “ลืมแจ้งทั้งสองท่านไป ทางฝั่งจวนผู้ว่าการมณฑล อนุหร่วน เซ่าอู๋ปอ เซ่าฝูปอ สามแม่ลูกล้วนถูกลอบสังหารสิ้นใจไปแล้ว!”

…………………………………………..