ตอนที่ 246 ฤดูร้อนของโลลิ ฤดูร้อนของดินแดนโลลิที่หมียังไม่มีใครสำรวจ

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

246 ฤดูร้อนของมาเวเลีย ฤดูร้อนของดินแดนที่ยังไม่มีใครสำรวจ

 

  ต๊อก! ต๊อก!

 

แหล่งพลังงานกำลังทำงาน

ขณะที่พลังเวทมย์เริ่มกระจายไปตามโครงสร้างราวกับเลือดที่ไหลผ่านเส้นเลือด ม้าจักรกลสี่ล้อก็เริ่มหายใจราวกับมีชีวิต

 

อากาศแจ่มใส

แดดแรง และอุณหภูมิสูง

แค่ก้าวออกจากที่ร่มก็เหงื่อออกแล้ว

 

――เป็นวันที่สมบูรณ์แบบสำหรับการออกนอกบ้าน

 

“จ๊า ซาคุมะ ฝากดูแลที่เหลือตอนที่ฉันไม่อยู่ด้วยล่ะ”

 

“ครับ ขอให้ทั้งสองท่านเดินทางปลอดภัยครับ”

 

ฉันมองไปที่ริโนกิสซึ่งกำลังขึ้นขับม้าจักรกลสี่ล้อแบบเดียวกัน  พวกเราเริ่มจากวิ่งสำรวจเมืองหลวงมาเวเลียอย่างช้า ๆ

 

 

 

วันนี้ โรงเรียนทหารจักรกลเข้าสู่ช่วงปิดเทอมฤดูร้อน 

ฉันวางแผนที่จะเดินทางไปยังดินแดนที่ยังไม่ได้สำรวจที่เลยป้อมปราการด้านตะวันออกตามที่ปรารถนาไว้ และในที่วันที่ตั้งเป้าหมายไว้ก็มาถึง 

 

การได้ขับม้าจักรกลไปให้ไกลในสักวันหนึ่ง

 

นี่เป็นโปรเจ็กต์ที่ฉันตั้งตารอคอยมาตั้งแต่สร้างต้นแบบที่โรงเรียน ในที่สุดก็บรรลุผลสำเร็จ ……ม๊า ถึงจะน่าผิดหวังนิดหน่อยที่เป็นสี่ล้อแทนที่จะเป็นสองล้อ

 

หวังว่าคงจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวอีกครั้งโดยสองล้อ

การมีอะไรให้ตั้งตารอไม่ใช่เรื่องแย่นัก

 

แม้ว่าจะมีการขัดจังหวะโดยไม่คาดคิดจากมารผจญอย่างอธิบดีกรมการทหารมาเวเลีย สิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดรวมถึงม้าจักรกลก็ถูกส่งคืนให้กับโรงงานไฟรซ์

 

จริงๆ แล้ว ปัญหาจริงยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่……ม๊า เอาไว้จัดการปัญหาต่าง ๆ หลังจากนี้ก็แล้วกัน

เมื่อสามารถจัดการปัญหาทั้งหลายได้แล้ว มาเวเลียก็ควรที่จะมีแนวโน้มที่จะเปิดประเทศมากขึ้น――ความปรารถนาของฉันเป็นจริงได้อย่างราบรื่น ดีกว่าต้องไปกำจัดชนชั้นนำทั้งหมด

 

ทว่า ตอนนี้สำคัญกว่า

 

“――ไปกันเลยคะ คุณหนู”

 

ริโนกิสแสดงบัตรประจำตัวต่อคนเฝ้าประตูและได้รับอนุญาตให้ผ่าน

 

“จากนี้พุงทะยานกันเลย”

 

“ค่ะ”

 

เพราะในเมืองไม่สามารถไปเร็วได้มากนัก เพราะอาจจะชนคนได้

แต่จากนี้ไปจะแตกต่าง

 

พวกเราสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังกันลมสำหรับเรือเดี่ยวที่ถูกเก็บไว้ในที่เก็บของของม้าจักรกล จากนั้นก็สวมแว่นตา

 

ครืนนนนน!

 

เมื่อส่วนที่เหมือนหัวใจเต้นแรง ――ม้าโลหะก็ออกตัววิ่งเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

 

เป้าหมายของเราคือป้อมปราการทางทิศตะวันออก 

 

 

 

“――พรุ่งนี้และมะรืนนี้ ฉันจะออกไปค้างคืนข้างนอก”

 

ฉันประกาศเรื่องนี้ตอนอาหารเช้าเมื่อวานนี้

 

“จะไปที่ไหนเหรอคะ?”

 

คาลัวถามทันที น่ารัก กำลังกังวลเกี่ยวกับการกระทำของฉันช่วงนี้หรือเปล่าน่ะ ช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ปิดเทอมฤดูร้อน ฉันเองก็อยากพาพวกเด็ก ๆ ไปเที่ยวสักครั้งเหมือนกัน

 

น่าจะใกล้ถึงเวลาหยุดเพื่อพูดคุยเรื่องนี้แล้วสิ

 

พวกเด็ก ๆ ยังคงนั่งรวมตัวอยู่ที่โต๊ะอาหารเช้าในคฤหาสน์แห่งนี้ ――พวกเขาทั้งหมดดูมีเนื้อมีหนังมากกว่าตอนที่ฉันเห็นพวกเขาครั้งแรกที่คฤหาสน์ และผิวพรรณก็ดูดีขึ้นมาก

โดยเฉพาะมิโตะที่ต้องนอนทรมานจากอาการป่วย ผิวที่ดูซีดเซียว ผอม มาตอนนี้เธอดูแข็งแรงสุขภาพดีเหมือนกับเป็นคนละคนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เมื่อเทียบกับสมัยนั้นที่เธอดูเหมือนกำลังจะตาย

 

 

ฉันเองก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ……แต่ฉันอยู่กับพวกเด็ก ๆ มาได้กว่าปีแล้ว บางทีอาจจะถึงเวลาที่ต้องขีดเส้นแบ่งอย่างเหมาะสม และปฎิบัติต่อพวกเขาในฐานะ「เด็กที่ทำงานเป็นข้ารับใช้เต็มเวลา」มันอาจจะดีกว่าสำหรับเราทั้งคู่ถ้าปฏิบัติต่อกันเช่นนั้น

 

“ฝึกฝน ฉันจะแข็งแกร่งขึ้น”

 

“ฝึกฝน?”

 

ซิลเลนถามต่อ

 

“ฝึกฝน?”

 

 

อีสซึ่งมาพักที่นี่ตั้งแต่ปิดเทอมฤดูร้อนก็แสดงปฏิกิริยาเช่นกัน

 

 

“ฝึกฝน……”

 

แคลนอลล์ดูเหมือนไม่สนใจมากนัก นั่นเป็นเพราะเธอมีสิ่งอื่นที่อยากทำมากมาย แม้ว่าการฝึกฝนาจะช่วยให้แข็งแกร่งขึ้น แต่เธออาจจำเป็นต้องใช้เวลาว่างอันน้อยนิดที่มีในลักษณะที่วางแผนไว้ก่อน

 

“ขอโทษด้วย แต่นี่เป็นการฝึกของฉัน นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงจะไม่พาใครไปด้วยนอกจากริโนกิส”

 

ฉันได้คุยกับริโนกิสไว้ล่วงหน้าแล้ว

ช่วงนี้เธอก็ตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้ทำขนมของเธอมาก ดังนั้นหากว่ามีซิลเลนหรืออาคาชิอยู่ด้วย เธอก็จะไม่ค่อยมาอยู่กับฉันมากนัก แต่การออกไปนอกบ้านครั้งนี้ มีรวมถึงการค้างคืนด้วย  ทำให้ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพาริโนกิสไปด้วย

 

――นอกจากนี้ ในความคิดของพวกลูกศิษย์ ฉันควรจะเป็นลูกศิษย์ของริโนกิสอีกที ถึงความจริงจะตรงข้ามก็เถอะ

 

“งั้นเหรอ……จะไปทางตะวันสินะ?”

 

“ใช่แล้ว ฉันจะพบกับลิวิเซล กับอิลก์ก่อน แล้วจากนั้นก็จะค้างคืน แล้วก็กลับ ในระหว่างนี้โปรดดูแลตัวเอง”

 

“อ้า เราไม่ได้สนใจเรื่องนั้นหรอ แต่……”

 

“ฉันอยากไปด้วย”

 

ฉันยิ้มให้กับข้อเสนอของอีสที่คิดแล้วพูดทันที ก่อนจะตอบไปว่า

 

“ฉันกำลังวางแผนที่จะทำอะไร ๆ หลายอย่างที่ยากลำบากกว่าที่พวกเรากำลังฝึกอยู่ตอนนี้ แต่อยากจะลองทดสอบวันนี้ดูก่อนไหมเอ่ย? ถ้าคิดว่าเข้าร่วมไหวก็เชิญตามมาได้เลย”

 

“……หยุดดีกว่า”

 

เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด เพราะเธอส่งเสียงฮิฮิอยู่ทุกวัน แน่ใจว่าเธอต้องเข้าใจทั้งกายและใจแล้วว่าไม่สามารถฝึกที่มากกว่านี้ต่อไปได้

 

เป้าหมายของการออกนอกบ้านครั้งนี้ก็เหมือนกับการฝึกฝนจริง ๆ

 

――ท้ายที่สุดแล้ว เป้าหมายคือการค้นพบกับแมลงที่แข็งแกร่งที่สุด และมันจะเป็นการต่อสู้ที่อันตรายถึงชีวิต

 

นอกจากนี้ จะยังเป็นการมอบประสบการณ์ในการต่อสู้ให้กับริโนกิสอีกด้วย ช่วงหลัง ๆ มานี้ ได้แต่ฝึกซ้อมกันเบา ๆ เท่านั้นเอง

 

 

 

พวกเราพุ่งทะยานด้วยความเร็วเต็มที่ไปยังป้อมปราการด้านตะวันออก ซึ่งเหล่าลูกศิษย์เคยเดินทางมาฝึกฝนด้วยกันแล้วหลายครั้ง

ตอนที่มาถึงก็ยังเป็นช่วงเช้าที่ห่างไกลจากเวลาเที่ยงวัน

 

นี่เป็นเวลาที่คาดว่าจะมาถึงเช่นกัน เนื่องจากฉันรีบออกมาตั้งแต่เช้าตรู่ตอนที่พวกเด็ก ๆ ยังกำลังหลับอยู่ ฉันอยากสนุกสนานในพื้นที่ที่ยังไม่มีใครสำรวจ……ไม่สิ หมายถึงฝึกฝนต่างหาก

 

“――เนีย! ริโนกิสซัง!”

 

ดูเหมือนว่าการขับม้าจักรกลจะทำให้พวกเราถูกพบอย่างรวดเร็ว รองผู้บัญชากการอิลก์จึงรีบเข้ามาทักทาย

 

“สวัสดีค่ะ พวกแมลงเป็นยังไงบ้างคะ?”

 

ฉันเจอเขาบ่อยครั้ง จึงไม่ต้องทักทายอย่างเป็นทางการอีก ยังไงก็ตามในใจของเขาดูเหมือนริโนกิสจะอยู่เหนือกว่าฉันโดยสิ้นเชิง

 

“มันก็ยังสงบดีครับ แต่พวกเราก็ไม่อาจประมาทได้ เพราะพึ่งเข้าสู่ฤดูร้อนเท่านั้น ทว่าดูเหมือนว่าจำนวนของแมลงจะลดลงไปมากตั้งแต่แรกแล้วครับ”

 

งั้นเหรองั้นเหรอ

ม๊า ก็ช่วยไม่ได้ เพราะถึงแม้จะมีมากมายก็ตาม แต่ไม่ว่าจะขยี้แมลงที่อ่อนแอไปมากแค่ไหนมันก็ไม่สนุกเลย แบบนี้ก็ถือว่าดีแล้ว

 

“ลิวิเซลกำลังออกไปสำรวจเหรอ?”

 

“อ้า คิดว่าน่าจะกลับมาพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ล่ะนะ”

 

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสื่อสารกันทุกวันเพื่อยืนยันความปลอดภัย และติดตามตำแหน่งผ่านสัญญาณควันเป็นระยะ ตอนนี้เหมือนว่าพวกเขากำลังวนเวียนอยู่ทางด้านเหนือของดินแดนที่ยังไม่ได้สำรวจ 

 

“แล้ว……วันนี้มาทำอะไรกัน? ซิลซามะกับแคนซามะไม่มาด้วยกันเหรอครับ?”

 

“ใช่แล้ว ฉันมาที่นี่เพื่อฝึกฝนนิดหน่อยน่ะ”

 

“เอ๊ะ?”

 

“การฝีกของฉันน่ะ นาน ๆ ครั้งฉันก็คิดจะนวดให้ริโนกิสบ้าง”

 

“……เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวก่อนเดี๋ยวก่อนเดี๋ยวก่อน! เนียจะไปฝีกกับริโนกิสซังอย่างงั้นเหรอ!?”

 

ฉันไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงประหลาดใจนัก แต่เขาก็ยืนยันความคิด

 

“ที่ไหน!? ผมอยากเห็น!”

 

อะ เซอร์ไพรส์ขนาดนั้นเลยเหรอ

ลองคิดดูสิแล้ว เขาไม่เคยเห็นฉันฝึกซ้อมอย่างจริงจังมาก่อน ――จากมุมมองของอิลก์คงเป็นภาพที่หาได้ยากที่จะได้เห็นริโนกิสเข้าร่วมในการฝึก

 

“อาー ไม่ได้ไม่ได้ ภาพมันรุนแรงเกินไป เพราะฉันจะทำให้ริโนกิสต้องแปดเปื้อน ฉีกกระชาก กระตุ้นจนแขนถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ”

 

“ฉีกเป็นชิ้น ๆ……!? ระ เรื่องรุนแรงแบบนั้น……!??”

 

ฉันสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของริโนกิสราวกับจะบอกว่าไม่ต้องการ แต่เมื่อมีอะไรหลุดออกจากปากของฉันไปแล้ว ก็ดึงมันกลับคืนมาไม่ได้ล่ะน๊า

 

――หลังจากสั่งสอนจนอิลก์กลัวจริง ๆ

 

“ไม่ได้! ไม่ได้เด็ดขาด! พลเรือนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป……โอ๊ーย……!”

 

โดยไม่สนใจการหยุดของเขา พวกพุ่งทะยานข้ามป้อม และมุ่งหน้าไปทางตะวันออก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เน๊ ริโนกิส”

 

“ค่ะ?”

 

“ค้างคาวเนี่ยกินได้ใช่ไหม?”

 

“บางชนิดก็กินได้ค่ะ แต่ดิฉันไม่รู้ว่าชนิดนี้กินได้หรือเปล่า……คิดว่าทางที่ดีที่สุดคือ อย่าจนกว่าจะรู้แน่ชัดค่ะ”

 

“ใช่สินะ น่าเสียดายนิดหน่อย”

 

ช่วยไม่ได้ล่ะน๊า ควรจะทิ้งไปทั้ง ๆ อย่างงี้ดีไหม

 

“――ไม่สิ ถึงอย่างงั้นก็น่าสนุกจังเน๊ ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นมานานแล้ว”

 

“――ดิฉันไม่รังเกียจหรอกนะคะ แต่……”

 

ในดินแดนที่ยังไม่ไดสำรวจซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของทวีปมาเวเลีย ซึ่งเป็นดินแดนที่ไม่มีมนุษย์มาเยี่ยมเยียนมานานกว่าหลายร้อยปี

 

ทันทีที่ฉันเข้าไปในป่า ก็ถูกโจมตีโดยฝูงค้างคาวยักษ์ที่สามารถโจมตีได้แม้กระทั้งผู้ใหญ่ได้ ดังนั้นแทนที่จะได้อุ่นเครื่อง ฉันจึงฆ่าพวกมันทั้งหมด ตอนนี้มันกระจัดกระจายและทำให้พื้นเปื้อนราวกับตัวมันเกิดระเบิด

 

ค้างคาวไม่ใช่แมลง

พูดอีกอย่างคือ――มีความเป็นไปได้ที่จะมีสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์อื่นที่ไม่ใช่แมลงอาศัยอยู่ที่นั่นด้วย

 

หากฉันยังมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกต่อไปทั้งแบบนี้ ในที่สุดก็อาจจะได้พบกับแมลง……ไม่สิ ฉันอาจได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนที่ยังไม่ได้สำรวจนี้

 

――มันน่าตื่นเต้นจริง ๆ ใช่ไหมล่ะ

 

 

 

 

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

 

คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ 

{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}

 

ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ

ขอบคุณงับ