บทที่ 220 เรื่องราวของกู้อิ๋น

ในนวนิยายต้นฉบับคนเขียนได้บรรยายถึงกู้อิ๋นไว้ว่า ในชาติก่อนหญิงสาวเป็นคนจิตใจสูงเทียมฟ้า แต่ชีวิตเบาบางยิ่งกว่ากระดาษ แม้ว่านางจะเกิดในครอบครัวชาวนาแต่กู้อิ๋นเป็นคนที่หน้าตาสะสวย ผิวพรรณดี และดวงตาที่สะสวยเปล่งประกาย จึงทำให้นางดูเหมือนชั้นชนสูง วันนี้ถังหลี่เชื่อแล้วว่าทุกอย่างคือความจริง กู้อิ๋นเป็นหญิงสาวที่งดงามมาก

แต่ภายใต้หน้ากากอ่อนโยนของนางนั้นมีจิตใจที่ร้ายกาจซุกซ่อนอยู่ เพียงเพราะต้องการแก้แค้น นางสามารถเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจ ไม่สนใจคุณค่าของชีวิต ใครก็ตามที่ขวางทางนางมักจบลงไม่สวยนัก

เส้นทางขึ้นสู่การเป็นฮองเฮาของนางชโลมไปด้วยหยาดเลือดมากมาย

ถังหลี่ไม่ทันตั้งตัวเลยว่าวันนี้นางจะได้มาพบกับนางเอกของนวนิยายเรื่องนี้ หญิงสาวสงบท่าทีลงอย่างรวดเร็ว ตามเนื้อเรื่องแล้วกู้อิ๋นคือนางเอกที่กลับชาติมาเกิดใหม่ ดังนั้นนางจะต้องมีรัศมีบางอย่างของนางเอก ถังหลี่จำต้องรอดูลาดเลาไปก่อน

กู้อิ๋นจะต้องไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของถังหลี่เด็ดขาด มิฉะนั้นแล้วทั้งถังหลี่และเด็ก ๆ จะตกอยู่ในอันตราย! ชีวิตก็เหมือนดั่งบทละครฉากหนึ่ง ดังนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับฝีมือการแสดงของนาง

ถังหลี่แสร้งมองไปที่กู้อิ๋นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“แม่นาง ท่านมาจากเมืองหลวงใช่หรือไม่? ที่นั่นมีชีวิตชีวามากกว่าหมู่บ้านลี่เจียหรือเปล่า?” กู้อิ๋นหันไปมองถังหลี่

ในแวบแรกที่นางเห็นถังหลี่ กู้อิ๋นรู้สึกแปลก ๆ นางเป็นแค่หญิงชาวบ้านธรรมดาไม่ใช่หรือ? แล้วเหตุใดจึงกล้าเอาเมืองหลวงมาเทียบกับหมู่บ้านลี่เจีย?

กู้อิ๋นเย้ยหยันนางในใจด้วยความสมเพช ถังหลี่ถามคำถามมากมายอย่างอยากรู้อยากเห็น กู้อิ๋นไม่ต้องการเสียเวลากับสาวบ้านนอกแบบนาง จึงได้แต่ตอบถังหลีอย่างหงุดหงิดแกมรำคาญ!

“ใช่ที่นั่นมีชีวิตชีวากว่ามาก” กู้อิ๋นไม่อยากคุยกับถังหลี่ต่อไปอีก นางหันหลังกลับเดินเข้าไปในโรงงานถุงหอมเพื่อประจบหมอซูต่อ

ถังหลี่เห็นดังนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ตอนนี้นางใช้เวทมนตร์พรางตาระดับต่ำเพื่อป้องกันไม่ให้กู้อิ๋นจำหน้านางได้

ถังหลี่มองตามหลังกู้อิ๋นไปอย่างครุ่นคิด ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงดังลั่นออกมาจากโรงงาน

“แม่นางกู้ ข้าบอกเจ้าชัดเจนแล้วว่าข้ามีความสุขดีที่ได้อยู่ที่นี่! ข้าจะไม่กลับซ่างจิงอีกต่อไป ถือเสียว่าข้าขอร้องเจ้า อย่ามาวุ่นวายกับชีวิตข้าอีกเลย!”

“แม่นางกู้ บิดามารดาเจ้าไม่สั่งสอนหรือว่าไม่ควรบังคับคนอื่น? โปรดเคารพการตัดสินใจของข้า อย่าได้มายุ่งกับข้าอีก!”

เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงของหมอซูโกรธมาก

กู้อิ๋นที่ถูกไล่ออกมามีใบหน้าที่บิดเบี้ยว

“เขาพูดเช่นนี้กับคุณหนูของข้าได้อย่างไร!”

สาวใช้ที่อยู่ข้างกายกู้อิ๋นกำลังจะเข้าไปด้านในด้วยความโกรธ แต่กู้อิ๋นรั้งตัวนางไว้

“จู้เยว่ เจ้าจะทำอะไร? เป็นความผิดข้าเองที่ไปรบกวนเขา”

กู้อิ๋นขอโทษขอโพยหมอซูอีกครั้งอย่างรู้สึกผิดก่อนจะจากไปพร้อมสาวใช้ เว่ยฉิงถุยเศษหญ้าที่เขาคาบไว้ทิ้งก่อนจะตามนางออกไป กู้อิ๋นที่โดนความโกรธครอบงำทำให้ไม่เห็นบุรุษร่างกำยำผู้นี้เลยแม้แต่น้อย

ที่โรงงานผลิตถุงหอม ทั้งถังหลี่และฮูหยินซูพากันมองหมอซู ปกติแล้วเขาจะเป็นคนใจดี ไม่ค่อยโกรธใคร หาได้ยากที่จะได้เห็นเขามีอารมณ์ที่ฉุนเฉียวหงุดหงิดเช่นนี้

“ดูท่าจะเป็นเรื่องใหญ่เสียแล้ว ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ปกติไท่หยวนมีนิสัยอ่อนโยน แต่กับแม่นางคนนี้เขาพร้อมที่จะอารมณ์เสียได้ตลอดเวลา” ฮูหยินซูกล่าวถึงสามีด้วยความไม่เข้าใจนัก

“ท่านพี่ใจเย็นก่อน เกิดอะไรขึ้นหรือ?” ฮูหยินซูเดินไปหาสามี ทำให้ซูไท่หยวนมีท่าทีสงบลง เขาคว้ามือของภรรยากุมไว้ก่อนที่จะถอนหายใจไม่กล่าวอะไรต่อ

ทันทีที่เขาเห็นกู้อิ๋น หมอซูได้แต่นึกถึงคำพูดของนาง ยิ่งหญิงสาวมายืนตรงหน้าก็รู้ว่านางไม่ใช่คนดีอะไร ต่อให้เขาปฏิเสธนางเท่าไหร่ กู้อิ๋นก็ยังเพียรมาที่โรงงานถุงหอมทุกวัน ทำให้หมอซูหงุดหงิดมาก วันนี้ขีดจำกัดความอดทนของเขาได้สิ้นสุดลง

หมอซูสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ สองครั้งเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเอง เขาพูดกับภรรยาสองสามคำก่อนจะปลีกตัวไปทำอย่างอื่น โดยมีภรรยาเดินตามด้วยความเป็นห่วง

ถังหลี่เฝ้ามองดูสถานการณ์อยู่ด้านนอกโดยไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นเว่ยฉิง แต่ไม่นานนักเขาก็เดินกลับมา หญิงสาวมองสามี เว่ยฉิงเป็นวายร้ายในเรื่องเส้นทางสู่ฮองเฮา สุดท้ายเขาจะต้องตายอย่างอนาถ ด้วยน้ำมือของกู้อิ๋น ถังหลี่มองไม่ออกเลยสักนิด ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน สตรีที่ชั่วร้ายอย่างกู้อิ๋นจะเป็นนางเอกของเรื่องนี้ไปได้อย่างไร!

ตอนนี้ทุกอย่างต่างออกไปแล้ว วายร้ายคนนี้เป็นสามีของถังหลี่ เป็นชายที่นางรัก นางจะไม่มีวันยอมให้สามีต้องมีตอนจบแบบในชาติก่อนอย่างแน่นอน!

ถังหลี่จะไม่ปล่อยให้กู้อิ๋นทำทุกอย่างสำเร็จ

เว่ยฉิงดึงภรรยาเข้ามาในมุมหนึ่งก่อนจะกระซิบกระซาบกับนาง

“ฮูหยิน แม่นางคนนั้นรับมือไม่ง่ายเลย” เขาพูด

“ทำไมล่ะ?” เมื่อถังหลี่ได้ยินก็รู้สึกสงสัย

ถังหลี่คือคนที่ทะลุมิติเข้ามาในนวนิยายเรื่องนี้ หญิงสาวรู้เนื้อเรื่องทั้งหมด แต่เว่ยฉิงนั้นไม่ใช่ ในเมื่อนางไม่ได้บอกอะไรอีกฝ่าย แล้วเหตุใดเว่ยฉิงจึงรู้ว่ากู้อิ๋นมีบางอย่างที่ผิดปกติ

“เมื่อครู่นี้สาวใช้ข้างกายของนางอยากจะทำร้ายหมอซู จากสายตาของข้าแล้วนางมีฝีมือไม่ธรรมดาเลยทีเดียว หลังจากที่พวกนางกลับไปข้าจึงแอบตาม พบว่านางมีกำลังคนอยู่ในมือจำนวนไม่น้อย จากสายตาของข้าประเมินแล้วว่าน่าจะมีมากกว่าสิบคนขึ้นไป!”

เว่ยฉิงเห็นว่าภรรยาของเขาค่อนข้างจะสนใจสตรีผู้นี้ ชายหนุ่มจึงจงใจแอบตามนางไป จึงได้พบกับเรื่องน่าเหลือเชื่อ

ผู้คุ้มกันมากมายเช่นนั้น นางต้องไม่ใช่คุณหนูจากตระกูลร่ำรวยธรรมดาเป็นแน่!

ถังหลี่มองไปที่ชายหนุ่มอย่างตื่นตะลึง เหตุใดสามีของนางถึงมีไหวพริบเช่นนี้! ทำให้นางรู้ว่ามียอดฝีมือมากมายอยู่รอบตัวของกู้อิ๋น

“สามี หากเจ้ากับสาวใช้คนนั้นสู้กัน ใครจะแข็งแกร่งกว่ากันหรือ?” ถังหลี่ถาม

แม้ว่าเว่ยฉิงอยากจะคุยโม้โอ้อวดเพียงใด เพื่อหวังรอยยิ้มที่เอ็นดูจากนาง แต่ทว่า… เขาไม่สามารถโกหกภรรยาของตนได้

“ข้าเหนือกว่านางแค่เล็กน้อยเท่านั้น”

ความแข็งแกร่งของนางเทียบเท่ากับเว่ยฉิงเลยหรือ! อีกทั้งผู้คุ้มกันนับสิบรอบตัวนางอีก พวกนั้นจะแข็งแกร่งเพียงใด นี่คือรัศมีของนางเอกใช่หรือไม่…

ส่วนตัวถังหลี่เองในตอนนี้ยังอ่อนแอเกินไป…

โชคดีที่นางใช้มนต์พรางตาเล็กน้อยทำให้กู้อิ๋นไม่สามารถจำถังหลี่ได้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วครอบครัวสกุลเว่ยจะต้องตกอยู่ในอันตรายแน่นอน…

กู้อิ๋นเป็นคนที่กลับชาติมาเกิดอีกรอบ ดังนั้นนางต้องรู้เรื่องความเป็นไปในชีวิตแรกของนางเท่านั้น หญิงสาวครุ่นคิดถึงเนื้อหาในช่วงนั้นเงียบ ๆ ในนิยายนั้นในชาติก่อนของกู้อิ๋น ตัวละครของเว่ยฉิงยังไม่ปรากฏตัวขึ้น ทำให้หญิงสาวไม่รู้จักเว่ยฉิงมาก่อน

ดังนั้นตอนนี้ตัวตนของถังหลี่กับเว่ยฉิงจึงเป็นเพียงแค่ตัวประกอบกับวายร้ายตัวใหญ่เท่านั้นพวกเขาจำต้องวางแผนรับมือกับเรื่องนี้ในระยะยาว

กู้อิ๋นอดกลั้นต่อโทสะของนางกลับไปยังบ้านที่ค้างแรม ตอนนี้เจ้าของบ้านออกไปทำงานทำให้ทั้งบ้านมีเพียงนางและสาวใช้เท่านั้น

“คุณหนู หมอคนนั้นทำเกินไปแล้วเจ้าค่ะ!” จู้เยว่พูดขึ้น แววตาของนางฉายรังสีนักฆ่าออกมา สาวใช้ของกู้อิ๋นคนนี้แตกต่างจากเหล่าผู้คุ้มกันด้านนอกอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นต่อหน้าจู้เยว่ กู้อิ๋นจึงไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอ่อนโยน

ใบหน้ากู้อิ๋นเริ่มไม่สู้ดี เป็นเพราะนางอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้มาหลายวันแล้ว ไม่ว่าจะพยายามเกลี้ยกล่อมสักเพียงใด หมอซูก็ไม่สนใจนางเลย กู้อิ๋นรู้ว่านางไม่สามารถทำให้ซูไท่หยวนมาเป็นเบี้ยหมากในมือของตนเองได้

ไม้อ่อนไม่ได้ก็ต้องใช้ไม้แข็ง!

ตราบใดที่นางสามารถเรียนรู้ทักษะทางการแพทย์จากหมอซูได้ล่ะก็ กู้อิ๋นจะกลายเป็นหมอเทวดาทันที!

ส่วนวิธีที่จะทำให้เขายอมมาสั่งสอนนางนั้นง่ายมาก เพราะบุรุษผู้นี้ยังคงมีจุดอ่อนที่สามารถกำจัดออกไปได้อย่างง่ายดาย

จุดอ่อนที่ว่านั่นก็คือภรรยาของเขานั่นเอง

รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของกู้อิ๋น

“จู้เยว่ เจ้าช่วยอะไรข้าหน่อยสิ..” กู้อิ๋นโน้มหน้าเข้าไปใกล้หูของสาวใช้และกระซิบบางอย่าง