ตอนที่ 103

Hell mode

บทที่ 103 เควส

พอเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน บารอนก็กลับมาหลังจากห่างไปหนึ่งเดือน

ถึงจะดูค่อนข้างเหนื่อย แต่ตอนรับประทานอาหารเย็น ได้บอกกับทุกคนว่า “เรื่องของไวเคานต์เสร็จสิ้นแล้ว” ราวกับอยากจะให้อเลนได้ยิน

พอวันรุ่งขึ้น ได้บอกให้อเลนมาหาที่ห้องประชุม

เพราะโดนเรียกเลยไปที่ห้องประชุม บารอนและพ่อบ้านก็รออยู่แล้ว และข้างหน้าบารอนมีถุงสามถุงวางอยู่

เขาบอกให้นั่งลงเลยนั่งลงข้างหน้าบารอน

(อะไรกันนะ อย่ากังวลไปสิ)

บารอนทำสีหน้าปั้นยาก

“อเลนเอ๋ย ได้ฟังจากคาบเรียนอาจารย์สอนเวทมนตร์แล้วสินะ?”

“ครับ”1

ฟังทุกอย่างเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จอมมารแล้ว ได้เรียนรู้เรื่องของราชอาณาจักรตั้งแต่จอมมารถือกำเนิดและรับรู้ปัญหาที่ตระกูลแกรนเวลได้โอบอุ้มเอาไว้

ถ้าเซซิลอายุ 15 ปี จะต้องไปรับราชการทหารที่มีคนตายครึ่งหนึ่งเป็นเวลา 3 ปี มิไฮก็เสียชีวิตจากผลลัพธ์นั้น

“ที่จริงได้ขอร้องพระราชาเกี่ยวกับหน้าที่ของเซซิล แต่โดนบอกมาว่ายังไงเซซิลก็ต้องไป”

บารอนพูดอย่างนั้นออกมาด้วยท่าทีหดหู่ ดูเหมือนจะไปเมืองหลวงเพื่อขอร้องกับพระราชาว่าขอให้ยกเว้นหน้าที่ของเซซิลได้หรือไม่

โดนบอกมาว่านักเวทถือเป็นกำลังรบที่ล้ำค่ามากทำให้ไม่สามารถยกเว้นได้ แถมราชวงศ์ยังบอกอีกว่ามีแค่เรื่องนี้เท่านั้นที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้

(เอาเถอะ ผู้ที่เชี่ยวชาญเวทมนตร์เป็นกำลังรบที่ทรงพลังกว่าผู้เชี่ยวชาญดาบไง ยิ่งเป็นนักเวทด้วย)

“เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยมีเรื่องขอร้องอเลนหนึ่งอย่าง”

“ครับ”2

(นี่เหรอเรื่องขอร้องของบารอนที่หัวหน้ากลุ่มอัศวินเคยบอกไว้ที่หมู่บ้านออร์ค พอจะเดาได้อยู่หรอกหลังจากได้ฟังหน้าที่ของตระกูลแกรนเวล)

“อยากจะให้ไปโรงเรียนพร้อมกับเซซิล และช่วยปกป้องที่สนามรบที”

“ครับ”

“ต้องขอโทษด้วยนะที่พูดอะไรเกินกำลังอย่างนั้น ส่วนนี่เป็นรางวัลที่ปราบมาด้ากัลชู, รางวัลที่ช่วยเซซิลในครั้งนี้ แล้วก็รางวัลที่จะให้คุ้มครองเซซิลเป็นเวลา 3 ปี”

รางวัลที่ปราบมาด้ากัลชู, รางวัลที่ช่วยเซซิล แล้วการคุ้มครองเซซิล แต่ละรางวัลมูลค่า 200 เหรียญทอง รวมทั้งสิ้น 600 เหรียญทอง

บารอนมองอเลนด้วยสีหน้าที่ดูเป็นกังวล เด็กชายตรงหน้าไม่ได้มีความสนใจเรื่องเงิน เพราะถ้าต้องการจริงคงไม่ยอมปล่อยมือจากสิทธิ์การขุดเหมืองเป็นแน่

แล้วจากการขายวัตถุดิบอย่างเกราะของราชินีมดเกราะ ทำให้มีเหรียญทองอยู่มากกว่า 500 เหรียญ ดังนั้นเลยไม่ขัดสนเรื่องเงิน

(อืม ถึงจะตอบว่า “ครับ” ไปแล้ว แต่พูดให้ขัดเจนอีกครั้งน่าจะดีกว่า แต่จะว่าไปสถานการณ์อย่างนี้มันเดจาวูยังไงไม่รู้สิ)

สถานการณ์มันเหมือนกับตอนเริ่มเกมที่อเลนเคยเล่นตอนยังเป็นเคนอิจิเลย ที่บอกให้ไปช่วยเจ้าหญิงที่ถูกมังกรลักพาตัว นอกจากนี้ก็มีอยากให้ไปช่วยมิโกะที่ต้องเป็นเครื่องเซ่นสังเวยเจ้าแห่งทะเลสาบ

หัวหน้าหมู่บ้าน นายกเทศมนตรี เจ้าเมือง หรือพระราชาเองก็มาขอร้องกับเคนอิจิ ซึ่งจะทำตามที่ขอทั้งหมด นั่นก็เพราะว่าถ้าตอบ “ไม่” เนื้อเรื่องมันจะดำเนินต่อไปไม่ได้

มีบ้างที่ตอบ “ไม่” ในคำขอร้องที่มันดูไม่สมเหตุสมผลไปเรื่อยๆ และมันก็วนลูบไม่จบสิ้น

ตอนนี้เบื้องหน้าอเลน คือเจ้าเมืองที่สิ้นหวังจากการที่พ่อ, พี่และลูกชายโดนกองทัพจอมมารฆ่า

และความปรารถนาคืออยากให้ช่วยปกป้องลูกสาวจากกองทัพจอมมาร

(นี่คือเควสไม่ผิดแน่ๆ หมายความว่าเนื้อเรื่องคืบหน้าแล้วสินะ งั้นเหรอเควสที่เกิดวันรุ่งขึ้นหลังจากมาถึงเมือง ต้องใช้เวลา 4 ปีที่ต่างโลกเลยเหรอ)

“นายท่าน เรื่องปกป้องท่านเซซิล อเลนคนนี้จะรับไว้เองครับ”

“โอ้วว!!! ยอมรับงั้นเหรอ!!!!”

พออเลนตอบรับอย่างชัดเจนอีกครั้ง ทำให้บารอนยืนขึ้นด้วยความยินดี

“แล้วรางวัลขอรับไว้แค่ถุงเดียวพอครับ และอยากจะขอเปลี่ยนที่เหลือครับ”

บอกไปว่าขอรับรางวัล 200 เหรียญทองแค่ถุงเดียวจาก 3 ถุง

“เปลี่ยนที่ว่าเนี่ย?”

(จริงๆเลย มือใหม่เรื่องเควสเหรอ รางวัลเควสมันต้องให้กันทีหลังสิ ถึงอย่างนั้น 600 เหรียญทองเนี่ย น่าจะไม่มีเงินแท้ๆ หรือว่าเอาคฤหาสน์ไปจำนอง?)

อเลนรู้ว่าทำไมตระกูลบารอนถึงไม่มีเงิน เดิมทีไม่ใช่แค่ตระกูลบารอน ขุนนางคนอื่นๆหรือราชวงศ์ยาจกกันเหือบหมด ช่วงหลายสิบปีมานี้มีเรื่องของกองทัพจอมมาร ทำให้อยู่ในสภาพที่ฟุ่มเฟือยไม่ได้

อเลนคิดว่าในสภาพที่ยังไม่ได้กำไรจากมิธริล 600 เหรียญทองน่าจะเป็นสภาพที่ยากลำบากอยู่ กว่าจะได้กำไรคงต้องอีกหลายปี

“400 เหรียญทองไม่จำเป็นครับ กลับกันอยากจะให้ยกเว้นภาษีรายบุคคลของครอบครับผมด้วยครับ”

“ยกเว้นหรือ? แค่นั้นจะดีหรือ?”

“ครับ ถ้าหากยังพอไหวอยากจะให้ยกเว้นครอบครัวของคุเรนะด้วยครับ อยากจะให้ทำอย่างนั้นแทนรางวัล 400 เหรียญทองครับ”

(เอาละ เท่านี้ก็ไม่ต้องส่งเงินส่วนนี้มาแล้วด้วย ถ้าไม่ต้องจ่ายภาษีแล้วละก็ คงใช้ชีวิตได้สบายกันอยู่ อยากจะให้เลี้ยงมัชชูกับมูระให้เติบโตอย่างแข็งแรง)

“เข้าใจแล้ว จะยกเว้นภาษีรายบุคลลของครอบครัวอเลนและคุเรนะ”

“นายท่าน ต้องขอขอบคุณมากเลยนะครับที่ ชุบเลี้ยงผมในฐานะคนรับใช้ฝึกหัดมาตลอด 4 ปี”

พอพูดอย่างนั้น อเลนก็วางตราประจำตระกูลแกรนเวลไว้บนโต๊ะ

“……”

อเลนคิดไว้แล้วว่าบารอนจะขอร้องอย่างนี้ เลยตัดสินใจว่าตอนนั้นตัวเองจะทำอะไรต่อไป

บารอนนิ่งเงียบรอฟังคำพูดของอเลนจนถึงท้ายที่สุด

“ผมอเลน ขอกลับไปเป็นประชาชนครับ แล้วจะขอต่อสู้กับกองทัพจอมมารพร้อมกับท่านเซซิลในฐานะประชาชนครับ”

“งั้นเหรอ กะแล้วเชียว”

(กะแล้วเชียว?)

พอบอกอย่างนั้น พ่อบ้านที่ยืนอยู่ด้านหลังบารอนก็เดินไปหาอเลนเพื่อเก็บตราประจำตระกูลแกรนเวล

แล้วพ่อบ้านก็วางของอย่างอื่นไว้บนโต๊ะแทน

“นี่คือ?”

มันคือดาบสั้นทำจากเงินที่แกะสลักลวดลายไว้อย่างงดงาม

“สิ่งนี้คือหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเป็นแขกของตระกูลไวเคานต์แกรนเวลที่ราชวงศ์ทำให้น่ะ”

“ไวเคานต์? แขก?”

“อเลนเอ๋ย เพราะเธอทำให้ตั้งแต่ปีหน้าตระกูลแกรนเวลจะได้เป็นตระกูลไวเคานต์แล้ว”

ยังไม่ได้ประกาศให้ใครทราบ คงตั้งใจจะบอกทุกคนตอนรับประทานอาหารเย็น แต่ที่มาบอกอเลนก่อน อาจจะรู้สึกขอบคุณในการทำงานของเขาก็ได้

การที่ยอมมอบกรมสิทธิ์ขุดเมือง 1 แห่งให้กับราชวงศ์และขุนนาง ทำให้พระราชาดีใจอย่างมาก จากจิตใจที่อยากให้ทุกคนมั่งคั่งไปด้วยกันช่างสมเป็นแบบอย่างของขุนนาง และจากการที่ต้องการแก้ไขเรื่องอยุติธรรมกับการอุทิศตนเพื่อราชอาณาจักรทำให้ได้รับเกียรติเป็นไวเคานต์

บารอนหัวเราะแห้งๆพร้อมกับพูดเหตุผลเสริมท้ายว่า “ถึงจะเหมือนใช้เงินซื้อตำแหน่งไวเคานต์มาก็ตามที”

“ได้เป็นไวเคานต์แล้วหรือครับ ยินดีด้วยนะครับ แล้วแขกที่ว่านี่หมายความว่าอย่างไรหรือครับ?”

“สิ่งนั้นเป็นเหมือนแขกรับเชิญจากตระกูลไวเคานต์แกรนเวลไง เป็นหลักฐานที่บอกว่าตระกูลแกรนเวลจะเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น”

“ถ้าไปมีปัญหากับขุนนางอื่นแล้วจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง และพูดเสริมท้ายว่าเอาไว้บอกด้วยว่าไปยุ่งกับแขกของใคร

เอาเถอะ จะถือว่าสิ่งที่อเลนเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน หรือก็คือดาบที่เป็นหลักฐานว่าอเลนมีตระกูลแกรนเวลหนุนหลัง ดาบนี้มีความหมายของสัญญาเช่นนี้

อเลนในตอนนี้อาจจะยังไม่รู้ แต่บารอนที่โดนอเลนยุทำมากไปหน่อยไปที่พระราชวัง เนื่องจากเหล่าขุนนางไม่ค่อยมีเงิน ทำให้เหล่าขุนนางร่วมมือกัน และแก้ไขความวุ่นวายครั้งนี้ได้ในพริบตา

(รางวัลคือดาบสั้น งั้นเหรอแสดงว่าจบอีเว้นท์แล้วสินะ)

มองดูดาบสั้นพร้อมกับนึกถึงช่วงเวลา 4 ปีนี้

แล้วก็รู้ถึงเหตุผลที่ตัวเองมาอยู่ตรงนี้

(ถึงจะคิดถึงเหตุผลที่ต้องมาเกิดใหม่ไว้อยู่ แต่การมาเกิดใหม่มีเหตุผลอยู่สินะ)

อเลนคิดมาโดยตลอดว่าทำไมไม่ได้ย้ายแต่ต้องมาเกิดใหม่ ที่ต้องมาเกิดใหม่เพราะย้ายไม่ได้อย่างนั้นหรือ สิ่งนั้นมีเหตุผลที่ใหญ่หลวงรออยู่

ถ้าย้ายมา ต่อให้ล่าหมูป่าสำเร็จ ก็ไม่ได้เป็นคนรับใช้ฝึกหัดของตระกูลเจ้าเมือง ไม่ได้ไปโรงเรียน และอาจจะตายโดยไม่สามารถรับมือกับกองทัพจอมมารที่เป็นข้อมูลลับก็ได้

(แล้วเฮลโหมดมีความหมายของมันอยู่ด้วย ยังไงก็ต้องเป็นเฮลโหมด ใช่แล้ว คำตอบอยู่ตรงที่ว่ามาต่างโลกนี้ได้ยังไง)

ตอนที่ได้ยินเรื่องเกี่ยวกับจอมมาร ก็รู้ถึงความหมายของเฮลโหมด

อเลนตอนที่เป็นเคนอิจิ ได้ค้นหาว่า “เกมไม่สมดุล ฟาร์มซ้ำๆ” แล้วก็พบเว็บไซต์ที่มายังโลกนี้ บางทีถ้าหาเกมเล่นง่ายๆคงไม่มีทางพบเว็บนี้

เทพแห่งผู้สร้างคงตั้งใจจะหาคนที่ต้องการจะเลือกเฮลโหมด

(อยากให้เลือกเฮลโหมด และช่วยโลกที่สมดุลพังทลายนี้งั้นเหรอ)

กองทัพจอมมารที่ต่อให้นอร์มอลโหมดร่วมมือกันก็ไม่สามารถต่อกรได้

สมดุลของเกมนี้ได้พังทลายไปแล้ว

โลกที่มุ่งหน้าสู่การล่มสลาย

ผู้กล้าที่ปรากฏตัวมาจะปราบจอมมารได้หรือไม่

หลังจากผู้กล้าเกิดมาแล้ว 10 ก็เลือกผู้ที่ต้องการเลือกเฮลโหมด

สำนึกอันแรงกล้าที่ตัวเองต้องการ

“จะรับเควสนี้เอง เชื่อมือได้เลยครับ แล้วจะปราบจอมมารพร้อมกับท่านเซซิลให้ดูครับ”

อเลนกำดาบสั้นและยืนขึ้นพร้อมกับประกาศออกมา

(เอาละ ถ้าพูดถึงการปราบจอมมาร ก่อนอื่นต้องหาพรรคพวกสินะ งานที่ต้องทำเพียบเลย!)

บารอนอึ้งกับคำพูดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจของอเลน ก่อนจะบอกออกมาว่า “ไม่ได้บอกให้ทำถึงขนาดนั้นสักหน่อย”

ด้วยเหตุนี้ อเลนเลยหลุดพ้นจากหน้าที่คนรับใช้ฝึกหัดของตระกูลบารอนแกรนเวล และกลายเป็นแขกของตระกูลไวเคานต์แกรนเวล

แล้วฉากของเนื้อเรื่องก็ย้ายไปที่เมืองแห่งการศึกษา

—-จบบทที่ 2 ภาคคนรับใช้ฝึกหัดแห่งตระกูลแกรนเวล—-