ตอนที่ 223 มุ่งสู่ดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้ 1

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 223 มุ่งสู่ดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้ 1

นักเรียนจำนวนสิบกว่าคนท่ามกลางนักเรียนชั้นปีที่สองถูกทำโทษหลายครั้งจากการกลั่นแกล้งอาจารย์ อีกทั้งยังถูกลงโทษด้วยการซ้ำชั้น

ชายหนุ่มผมเหลืองสิบกว่าคนทำหน้าบูดบึ้ง เมื่อคิดว่าพวกเขาจะต้องตกไปอยู่ในกำมือของนักเรียนชั้นปีที่หนึ่ง ขาและมือของพวกเขาก็เริ่มสั่นเทา

ย้อนกลับไปตอนนั้น พวกเขารังแกนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งหลายครั้ง!

ไกอาดึงแว่นตาลงเมื่อพบเข้ากับสวี่หลิงอวิ๋น

“ท่านหัวหน้า” ไกอารายงานสถานการณ์ด้วยน้ำเสียงทุ้ม “นักเรียนปีสองถูกอาจารย์เฮอร์จับได้ และตอนนี้อาจารย์เฮอร์เชื่อว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของนักเรียนปีสอง”

“ไม่เลว อีกไม่ช้าคงจะมีแพะรับบาปใช่ไหม? เยี่ยมไปเลย ช่วยพวกเราไปได้อีกหนึ่งครั้ง” สวี่หลิงอวิ๋นหยิบกระปุกน้ำตาลทรายขาวออกมาจากปุ่มมิติกักเก็บ “เอาไปสิ ได้ยินมาว่าแม่ของนายกำลังคลอดลูก ถือว่าน้ำตาลทรายขาวนี้เป็นของขวัญให้น้องของนายล่วงหน้าแล้วกันนะ!”

“ขอบคุณครับท่านหัวหน้า!”

ไกอารู้สึกมีความสุขและรับกระปุกน้ำตาลมาอย่างระมัดระวัง

หัวหน้าของพวกเขาเป็นคนใจกว้าง หากองค์หญิงสามรู้ว่ามีเรื่องอะไรเล็กน้อยเกิดขึ้นในครอบครัวของพวกเขา ทุกอย่างจะเรียบร้อยทันทีแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เอ่ยปาก

เด็กชายในแผนกของพวกเขามาจากครอบครัวฐานะยากจน พ่อของเขาป่วยหนัก หากต้องการรักษาจะต้องใช้ห้องพยาบาลที่ทันสมัยที่สุด

ทว่าห้องพยาบาลชั้นนำดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายที่แสนแพง

ในวันที่เขามาบอกหัวหน้า หัวหน้าก็จัดการให้ใครบางคนพาพ่อของเด็กชายคนนั้นไปโรงพยาบาลหลวง และเริ่มทำการรักษาพ่อของเด็กชาย

แม้เธอจะดูไม่ไยดี แต่อันที่จริงเธอกลับเป็นกังวล

“หือ? มีคนส่งข้อความมาเหรอ?” สวี่หลิงอวิ๋นเปิดดูคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์และพบว่ามันเป็นข้อความจากหัวหน้าพ่อบ้าน “ให้ฉันไปดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้กับโอคาซีเหรอ?”

โอ้! เจ๋งไปเลย! ไม่ได้เจอแฟนหนุ่มมานานแค่ไหนแล้วนะ!

ภาพโปสเตอร์ขนาดใหญ่ที่เผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องยังคงแขวนอยู่ที่ข้างเตียง! หึหึ! คราวนี้ล่ะจะต้องสัมผัสมันด้วยมือของเธอเองให้ได้!

สวี่หลิงอวิ๋นสูดน้ำลายขณะแอบครุ่นคิด

นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งมองดูการจากไปองค์หญิงสามอย่างเศร้าสร้อย ราวกับว่าเธอจะไม่กลับมา หัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่ที่เห็นแฟนดีกว่าเพื่อนไม่เคยเอ่ยถามผู้ติดตามที่น่าสงสารว่าพวกเขาอยากจะไปด้วยหรือไม่!

พวกเขายังอยากจะรู้จักกับเอเลี่ยนตั๊กแตน เอเลี่ยนปลาหมึก เอเลี่ยนต๋าหลู่ และเอเลี่ยนชนิดอื่น ๆ อีก!

ณ จักรวาลอันกว้างใหญ่ เอเลี่ยนขนาดมหึมาที่แสนขี้เซากำลังนอนหลับใหลอยู่บนดาวเคราะห์ใกล้เคียง

บริเวณรอบข้างมีฝูงเอเลี่ยนกระดองเหล็กคอยปกป้องมันอยู่ ทั้งตัวถูกปกคลุมไปด้วยกระดองเหล็กที่เคลือบสีดำ เพียงแค่ใช้กรงเล็บขีดข่วนพื้นเบา ๆ รอยร้าวขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น

เอเลี่ยนกระดองเหล็กแต่ละตัวมีความสูงเพียงสิบห้าเมตร ดูตัวเบาและไร้น้ำหนักขณะเดิน

หากมีมนุษย์อยู่ที่นี่ พวกเขาจะพบว่าเอเลี่ยนกระดองเหล็กแต่ละตัวอยู่ในระดับ 9 ดาว!

เอเลี่ยนที่อยู่ด้านในถูกเอเลี่ยนกระดองเหล็กเหล่านี้ปกป้องอีกที และโดยธรรมชาติแล้ว ราชาของเหล่าเอเลี่ยนกระดองเหล็กจะอยู่ในระดับสิบดาว!

กลูกลู!

ดูเหมือนว่าราชาจะสัมผัสได้ถึงบางอย่าง ร่างใหญ่ของมันปีนป่ายและลุกขึ้นยืน

เพียงการสั่นสะเทือน เอเลี่ยนขนาดมหึมาก็กลายร่างเป็นเอเลี่ยนตัวเล็กที่มีความสูงน้อยกว่าหนึ่งเมตร ทว่ารูปร่างของมันยังคงเหมือนเดิม และเดินออกจากถ้ำไป

มันมองดูดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกล

บนขอบเขตดาราจักรแห่งนั้นมีมนุษยชาติอาศัยอยู่ เดิมทีเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว พวกมันเป็นเพียงเอเลี่ยนระดับ 9 ดาวธรรมดา ไม่สามารถเป็นตัวแทนเผ่าพันธุ์เอเลี่ยนกระดองเหล็กไปล่าอาณาเขตของมนุษยชาติได้

ทว่าตอนนี้มันกลายเป็นราชาระดับ 10 ดาวแล้ว และด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้! มันจึงมีความมั่นใจมากขึ้น!

พวกมันมีความแข็งแกร่งมากกว่าระดับ 6 ดาวตั้งแต่เกิด ถึงเวลาที่จะให้มนุษย์ทั้งหลายสัมผัสกับความแข็งแกร่งของเอเลี่ยนกระดองเหล็กแล้ว!

เอเลี่ยนกระดองเหล็กที่เป็นผู้คุ้มกันกระโดดออกมาจากถ้ำทีละตัว

พวกมันเข้าใจความหมายของราชา และกระโดดโลดเต้นบนพื้นเพื่อส่งเสียงให้กำลังใจ!

ดูเหมือนความตื่นเต้นดังกล่าวจะรู้สึกได้ถึงทั่วทั้งดาวเคราะห์ เอเลี่ยนกระดองเหล็กจำนวนนับไม่ถ้วนคืบคลานออกมาจากพื้นดิน โบกสะบัดก้ามเหล็กของพวกมันอย่างมีความสุขที่จะได้เข้าไปทำลายดาวเคราะห์ของมวลมนุษย์

ดาวเคราะห์แห่งนี้สูญเสียความมีชีวิตชีวา ไม่มีแร่ธาตุ ไม่มีสิ่งมีชีวิตและพืชชนิดอื่นหลงเหลืออยู่

เป็นดาวเคราะห์มรณะอย่างแท้จริง!

ดาวเคราะห์ที่โคจรอยู่บริเวณใกล้เคียงก็ถูกพวกมันกลืนกินไปจนหมด เช่นเดียวกับดินแดนเอเลี่ยนในที่อื่น ๆ

มีเพียงดาวเคราะห์ของมวลมนุษย์ที่แตกต่างออกไป! มีพืชพันธุ์เขียวชอุ่มและปศุสัตว์ที่น่าอร่อยให้ลิ้มลอง นอกจากนี้ยังมีแร่โลหะมากมายที่ช่วยเสริมสร้างกระดองเหล็กของพวกมัน ซึ่งจะทำให้แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพในการต่อสู้มากยิ่งขึ้น

ราชาเอเลี่ยนกระดองเหล็กมองดูกลุ่มพวกหิวโหยและผอมบางที่อยู่ด้านข้างมัน และพองแก้มกลม

ก่อนจะส่งเสียงร้องคำราม ทันใดนั้นทางเชื่อมมิติป่าก็ปรากฏขึ้น!

เผ่าพันธุ์จำนวนนับไม่ถ้วนเรียงแถวเข้าสู่แรงดึงดูดของทางเชื่อมมิติป่า และหายตัวไปต่อหน้ามัน

หนึ่งในเอเลี่ยนกระดองเหล็กระดับ 9 ดาวก็หายตัวไปเช่นกัน

นี่คือกลยุทธ์จุดแข็งของเอเลี่ยน

เมื่อไหร่ก็ตามที่อาหารขาดแคลน ราชาเอเลี่ยนทั้งหลายจะเริ่มเปล่งพลังเสียงเพื่อสร้างทางเชื่อมมิติป่าและพาเผ่าพันธุ์จำนวนนับไม่ถ้วนของพวกมันไปพักผ่อนหย่อนใจข้างนอก

บางทีพวกมันอาจจะมีชีวิตรอด แต่บางทีพวกมันอาจจะถูกมนุษยชาติกำจัดก็ได้ ใครจะรู้?

เอเลี่ยนสืบพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว แล้วการบริโภคจะเป็นอย่างไร?

ราชาเอเลี่ยนกระดองเหล็กคลานกลับเข้าไปในถ้ำของมัน

ภายในปีหน้า มันจะแสวงหาความรุ่งโรจน์และครอบครองดาวเคราะห์ของมนุษยชาติให้ได้ จะทำให้กองทัพของมันเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ยอดเยี่ยมที่สุดในกลุ่มเอเลี่ยน!

เมื่อสวี่หลิวอวิ๋นมาถึงดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้และทันทีที่ลงจากยานอวกาศ เธอก็พบเข้ากับชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ในชุดเครื่องแบบทหารสีเงิน เขารีบลุกขึ้นอย่างว่องไวขณะหันมามองเธอ

ผมสีเงินพลิ้วไสวตกลงมาจากทางด้านหลังอย่างนุ่มนวล สายตาที่ไม่แยแสกลับอ่อนยวบลงเมื่อเห็นเธอก้าวเข้ามา

เขาอ้าแขนออกทั้งสองข้าง สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มร่าและรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขน!

ทั้งสองกอดกันแน่นและจูบกันอย่างดื่มดูด

สวี่หลิงอวิ๋นเงยหน้าขึ้นหลังจากผ่านไปนาน “ท่านทำให้เสด็จพ่อปล่อยฉันมาที่นี่ได้ยังไงคะ?”

เธอไม่อยากจะเอ่ยถามมากนัก เพราะโดยปกติแล้วพ่อของเธอไม่ค่อยอยากให้เธอออกมาจากดาวเคราะห์ดวงหลัก

“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ”

โอคาซีไม่ได้ตอบอะไรมากนัก เพียงแต่สัมผัสผมที่หนานุ่มของเธอ “คิดถึงผมไหมครับ?”

“อะไรกัน! ใครคิดถึงท่าน!” สวี่หลิงอวิ๋นทำหน้าบึ้ง “ท่านต่างหากล่ะ คิดถึงฉันบ้างไหมคะ?”

“คิดถึงสิครับ!” โอคาซีจ้องมองเธอด้วยแววตาลึกซึ้ง และไม่ต้องการจะปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด

ครั้งล่าสุดชายหนุ่มพบเธอบนดาวเคราะห์หทัยกล้วยไม้ เขายังไม่ได้ใส่ใจจะพูดคุยกับเธอมากนัก แต่กลับถูกเรียกไปสงครามเสียก่อน

ในที่สุด คราวนี้ก็ได้จ้องมองเธอเต็มตาสักที!

สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกเขินเล็กน้อยเมื่อมองดูเขา มือของเธอที่วางอยู่บนหน้าอกของเขา สามารถสัมผัสได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้นเล็กน้อย

“หัวใจของท่านเต้นเร็วจังค่ะ!” สวี่หลิงอวิ๋นสอดมือเข้าไปในเสื้อของเขาด้วยเจตนาแอบแฝง ก่อนจะกระซิบข้างหูว่า “คืนนี้ฉันแวะไปที่ห้องของท่านได้ไหมคะ?!”

โอคาซีจับมือของเธอ ดวงตาของเขาเฉียบแหลม ราวกับกำลังยืนยันอะไรบางอย่าง

หลังจากผ่านไปนาน เขาจึงกล่าวออกมาอย่างยากลำบาก “ท่านยังเด็ก…”

“อุ๊บ! ฮ่า ๆๆ!” เขาทำให้สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกขบขัน! และใช้ปลายนิ้วสะกิดหน้าของเขา “ท่านกำลังคิดอะไรคะ! ท่านคิดว่าฉันจะทำตามใจยังงั้นเหรอ?!”