บทที่ 208 เจ้ากลับมาแล้ว 3 (2)

นักเวทย์ผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้และถอยไปข้างหลังโดยอัตโนมัติ

มีบางอย่างกําลังโผล่ขึ้นมาจากใต้มหาสมุทรซึ่งปกคลุมไปด้วยธารน้ําแข็ง

เปรี้ยะ!! เปรี้ยะ!! เปรี้ยะ!!

เริ่มมีรอยร้าวปรากฏขึ้นตามธารน้ําแข็งเหนือผิวน้ํา

ทหารหันไปเขย่าร่างของนักเวทย์ในขณะที่ปากก็ตะโกนต่อไป

“วาฬ. มันคือเผ่าวาฬ! ท่านนักเวทย์!”

จังหวะเดียวกับที่เขาตะโกนออกไป

บั้งงงงงงงงง!

เสียงกระแทกที่ดังกว่าครั้งไหนๆดังขึ้นมาทันที หลังจากที่เสียงนั้นสงบลงแผ่นน้ําแข็งขนาดใหญ่ก็แตกออกจากกันโดยสมบูรณ์ วาฬตัวใหญ่โผล่ขึ้นมาจากธารน้ําแข็งที่ถูกทําลายลง มันเป็นวาฬหลังค่อมตัวใหญ่ที่มีรอยแผลเป็นรูปตัว X: อยู่บนหลังร่างขนาดใหญ่กําลังลอยตัวอยู่เหนือผิว

ทหารและนักเวทย์สบตาเข้ากับวาฬหลังค่อมทันที ร่างกายของพวกเขาเริ่มแข็งค้างเมื่อเห็นแววตากระหายเลือดจากวาฬตัวนี้ หางขนาดใหญ่สะบัดขึ้นเหนืออากาศอย่างรวดเร็ว

ปั้งงงงงง!

จากนั้นมันก็กระแทกลงเบื้องล่างเพื่อกําจัดธารน้ําแข็งที่เหลือ

มันเป็นสัญญาณเริ่มต้น ฝูงวาฬจํานวนมากเริ่มเข้าโอบล้อมป้อมตรวจการทั้งหมดอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกมันก็เริ่มทําลายธารน้ําแข็งบริเวณโดยรอบทันที

พลังที่สามารถทําลายสิ่งที่เกิดจากธรรมชาติได้อย่างง่าย พลังที่บ้าระห่ําและโหดร้ายเช่นนี้กําลังปกคลุมไปทั่วบริเวณ

“นี่มันอะไรกัน ?”

“ท่านนักเวทย์! เราต้องรีบส่งข่าวไปยังส่วนกลางโดยด่วน! เราต้องแจ้งให้คนอื่นทราบว่าเผ่าวาฬกําลังบุกโจมตีพวกเรา!”

ทหารตะโกนขึ้นอย่างลนลานก่อนที่สติจะค่อยๆกลับเข้าร่างของนักเวทย์

การบุกโจมตีของเผ่าวาฬ

นักเวทย์กําลังกลัวสิ่งมีชีวิตที่ถูกลืมเลือนเหล่านี้ พวกเขากําลังสร้างความโกลาหลให้กับมหาสมุทร

เผ่าวาฬเป็นที่รู้จักกันในนามของผู้ปกครองแห่งท้องสมุทร นั่นทําให้นักเวทย์อดรู้สึกหวาดกลัว ไม่ได้ มือสั่นเทาของเขารีบหยิบอุปกรณ์เวทย์สื่อสารขึ้นมา ก่อนที่เสียงกระแทกจะดังขึ้นมาอีกครั้ง

ปั้งงงงงง!!

ทหารก็รีบรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้เขาฟังเช่นกัน

“ป้อมตรวจการทางทิศตะวันออกถูกทําลายแล้ว!”

นักเวทย์ที่กําลังเปิดใช้งานอุปกรณ์เวทย์สื่อสารพยักหน้ารับอย่างร้อนใจ ป้อมตรวจการทางทิศตะวันออกซึ่งถูกทําลายลงปรากฏต่อสายตาของเขาในจังหวะนั้น ในเวลาเดียวกันเขาก็มองเห็นไอน้ําขนาดใหญ่เข้าล้อมรอบร่างวาฬหลังค่อมที่มีรอยแผลเป็นรูปตัว X อยู่บนหลัง

เมื่อไอน้ําหายไป

เพี้ยะ!!!

มีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับแสน้ําขนาดใหญ่ในมือ แส้ที่ทําจากน้ําฟาดไปยังธารน้ําแข็งก่อนที่น้ําแข็งจะเริ่มแตกออกจากกันอย่างรวดเร็ว เธอฟาดแส้ไปรอบๆโดยปล่อยจุดที่เธอยืนอยู่ให้เหลือเอาไว้ เธอกําลังสร้างเส้นทางเดินมายังป้อมตรวจการส่วนกลางที่นักเวทย์และทหารนายนี้ประจําการอยู่

แม้ว่ามันจะอยู่ไกลแต่นักเวทย์มั่นใจว่าเธอกําลังมุ่งหน้ามาทางนี้

วาฬหลังค่อมตัวนี้กําลังจ้องมาที่เขา ความกลัวจู่โจมไปทั่วร่างของเขาทันที

ครืดดดดดด!!!

เสียงเชื่อมต่อสัญญาณของอุปกรณ์เวทย์สื่อสารดังขึ้น นักเวทย์หันศีรษะไปมองอย่างรวดเร็ว

[“นี่ไม่ใช่เวลาที่พวกเจ้าต้องไปลาดตระเวนหรอกรึ?”]

เขาได้ยินเสียงของนักเวทย์ซึ่งประจําการอยู่ศูนย์ข้อมูลกลางดังขึ้นจากปลายสาย เขารีบตะโกนออกมาทันที

“เผ่าวาฬ! เผ่าวาฬ! บุกโจมตีเราแล้ว!!”

[“เจ้าพูดอะไรนะ?”]

ประโยคที่ไม่คาดคิดทําให้นักเวทย์อีกฝั่งหนึ่งคิดว่าตัวเองหูฝาดไป

“เผ่าวาฬมาแล้ว! เผ่าวาฬบุกเข้ามาแล้ว!”

เขากลัว! เขาคิดว่าตัวเองกําลังจะตาย ความคิดดังกล่าวทําให้เขาตะโกนออกมาดังลั่น น้ําเสียงที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังเปลี่ยนบรรยากาศในศูนย์ข้อมูลกลางให้กลายเป็นความวุ่นวายทันที

เสียงตะโกนอย่างร้อนใจดังสวนขึ้น

[“เจ้าว่าอะไรนะ?”]

มันเป็นเสียงของดยุคร็อค “เซคก้า” ผู้เป็นบิดาของโคลเปย์ เซคก้า

เขาเป็นคนที่ชาวอาณาจักรพารันรู้จักในฐานะอัศวินผู้พิทักษ์ ร่างของเขาปรากฏตัวขึ้นอีกฝังของหน้าจอเวทย์

เมื่อเห็นว่าเป็นดยุคร็อก นักเวทย์ก็รีบเอ่ยรายงานอย่างรวดเร็ว

“เผ่าวาฬบุกเข้ามาแล้วขอรับ! พวกเขากําลังทําลายธารน้ําแข็งทั่วทั้งมหาสมุทรเลยขอรับ!”

นักเวทย์หันหน้าจอไปทางมหาสมุทรด้านนอกทันที ภาพป้อมปราการที่ถูกทําลายและความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรปรากฏผ่านหน้าจอทันที

[ “ เผ่าวาฬบุกเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่? สถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”]

น้ําเสียงร้อนรนของดยุกร็อคดังเข้ามาในหูของนักเวทย์ แต่ความจริงที่ว่าท่าทางของดยุคยังคงสงบอยู่นั้นทําให้นักเวทย์เริ่มสงบสติอารมณ์ของตัวเองก่อนจะตอบกลับไป

“การโจมตีเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 5 นาทีที่แล้วขอรับ! ป้อมตรวจการทางทิศตะวันออกถูกทําลายในขณะที่ป้อมอื่นๆก็ถูกโจมตีเช่นกัน ส่วนป้อมส่วนกลางของเรากําลัง ”

นักเวทย์หยุดพูดทั้งๆที่ยังรายงานไม่จบ

“ ห้ะ?”

เขาเห็นความผิดปกติด้านนอกหน้าต่าง

“เกิดอะไรขึ้นกับวาฬตนนั้น? ทําไมวาฬที่มุ่งหน้ามาหาเราถึงเป็นอีกตนล่ะ?

เขาไม่เห็นวาฬหลังค่อมตนนั้น

[“เกิดอะไรขึ้น? ทําไมเจ้าไม่พูดต่อ”]

“เอ่อ..เอ่อ…”

นักเวทย์ไม่สามารถพูดต่อได้เมื่อตระหนักได้ถึงบางอย่าง

ทหาร!

ทหารที่อยู่ข้างๆเขาเงียบหายไป

“ทําไมเขาถึงเงียบไปล่ะ?”

ตุ๊บ!

เขาเห็นร่างทหารลงไปนอนกองกับพื้น ดูเหมือนเขาจะหมดสติไปเฉยๆโดยไม่มีแม้แต่บาดแผลใดๆ สายตาของนักเวทย์ขยับไปยังจุดใกล้กับร่างของทหารนายนั้นทันที ร่างมนุษย์ของวาฬหลังค่อมที่กําลังมุ่งหน้ามายังป้อมส่วนกลางเมื่อครู่นี้เป็นผู้หญิงผมสีฟ้าแต่ร่างมนุษย์ของวาฬหลังค่อมที่เขาเห็นในตอนนี้มีผมสีฟ้าเช่นกันแต่คราวนี้กลับเป็นผู้ชาย!

นักเวทย์ไม่สามารถทําอะไรได้เลยแม้ว่าจะเห็นมือของชายผมฟ้าขยับไปที่ด้านหลังของตนก็ตาม

ตุ๊บ!!

นักเวทย์หมดสติไปอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือของพาสตัน

เคร้ง!

อุปกรณ์เวทย์สื่อสารก็ร่วงไปกองกับพื้นเช่นกัน

[ “เกิดอะไรขึ้น?! ทําไมเจ้าไม่รายงานให้ข้าฟังต่อ?!”]

เสียงของดยุคร็อกลอดผ่านอุปกรณ์เวทย์สื่อสารออกมา หลังจากนั้นก็มีคนหยิบอุปกรณ์เวทย์สื่อสารที่กองอยู่บนพื้นขึ้น

คาร์ลคือคนที่หยิบอุปกรณ์เวทย์สื่อสารขึ้นมาก่อนจะส่งต่อมันไปให้คนอื่นทันที

“คุยซะ”

โคลเปย์รับอุปกรณ์เวทย์สื่อสารจากคาร์ลมาถือเอาไว้ ในขณะที่อยุคร็อกก็ตะโกนสวนเข้ามา เมื่อเห็นหน้าจอเริ่มมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง

[ “นักเวทย์! เจ้าไม่สามารถฉายภาพให้ข้าดูได้งั้นรึ?! จํานวนวาสที่บุกเข้ามามีเท่าไหร่กัน?”]

ดูเหมือนน้ําเสียงที่ดยุคร็อคใช้ตะโกนเข้ามาจะเต็มไปด้วยความร้อนใจเพราะสัมผัสได้ถึงสถานการณ์ฉุกเฉินแต่ทางฝั่งของคาร์ลนั้นกลับดูสงบยิ่งนัก

“ท่านจําคําสั่งข้าได้หรือไม่?”

แววตาของโคลเปย์สั่นเล็กน้อยเมื่อได้ยินคาร์ลเอ่ยถามขึ้น คําสั่งของคาร์ลคือการให้อาณาจักรพารันเป็นสายลับให้กับพวกเขา

คาร์ลกดน้ําหนักมือไปที่ไหล่ของโคลเปย์ในขณะที่มืออีกข้างชี้ไปยังอุปกรณ์เวทย์สื่อสาร เขากําลังบอกให้โคลเปย์ทําตามคําสั่ง

“เขาต้องทําหากเขายังไม่อยากตาย”

คาร์ลลอบสังเกตโคลเปย์เงียบๆ เขามั่นใจว่าคนแบบโคลเปย์ย่อมเลือกชีวิตตัวเองก่อนสิ่งใด มือของโคลเปย์สันเล็กน้อยเมื่อค่อยๆหันอุปกรณ์เวทย์สื่อสารมายังใบหน้าของตน

[“เกิดอะไรขึ้น? เอ๊ะ!?”]

ดยุคร็อกหยุดชะงักทันที

เขามองเห็นเส้นผมสีขาว นั่นทําให้เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อมองเห็นสีผมที่เหมือนกับของตนเอง

[ “โคลเปย์!”]

ร่างบุตรชายของเขาปรากฏผ่านหน้าจอเข้ามา มีรายงานว่าบุตรชายของเขาหายตัวไปอย่างลึกลับหลังจากเสร็จสิ้นการต่อสู้ในอาณาจักรโรมัน ดยุคร็อกไม่สามารถหาคําตอบได้ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น? อย่างไรก็ตามในฐานะที่มาจากตระกูลที่เปี่ยมไปด้วยไหวพริบทําให้เขายกมือส่งสัญญาณให้นักเวทย์ทราบทันที

การป้องกันภัยระดับหนึ่ง!

กลุ่มคนที่อยู่ในห้องเงียบเสียงลงเพื่อดําเนินการตามสัญญาณที่ดยุคร็อกสั่งการมา แน่นอนว่าดยุคไม่ได้หันมองลูกน้องของตนเพราะสายตาของเขากําลังมองไปที่บุตรชายอยู่

ช่วงจังหวะนั้นเอง

“สวัสดีท่านดยุค”

ดยุคร็อกเห็นคนอื่นผ่านหน้าจอ

[“จ เจ้า!”]

ใบหน้าที่อยุคร็อกเห็นอยู่นี้เป็นใบหน้าที่เขาคุ้นเคย คนผู้นี้เป็นคนที่ทําให้แผนการโค่นอาณาจักรโรมันของพวกเขาล้มเหลว

ชายผมแดง!

คาร์ล เฮนิตัส!

คาร์ลกําลังส่งยิ้มสดใสในขณะที่มือของเขาก็วางลงบนไหล่ของโคลเปย์ด้วยท่าทางเป็นกันเอง สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาดยุคร็อกนั้นมันยากที่จะเข้าใจได้โดยง่าย

เผ่าวาฬปรากฏตัวขึ้นในชายแดนตอนเหนือ บุตรชายของเขาและคาร์ล เฮนิตัสก็อยู่ที่นั่นด้วย มันเกิดอะไรขึ้น?

ทันใดนั้นดวงตาของดยุคก็เริ่มสั่นคลอน

“ท่านพ่อ”

โคลเปย์กําลังส่งรอยยิ้มสดใสไปให้ดยุคร็อก

คาร์ลสังเกตการณ์อยู่ข้างๆ โคลเปย์จะทําตามคําสั่งของเขาเพื่อความอยู่รอดอย่างแน่นอน เป็นเพราะอาณาจักรโรมันแข็งแกร่งกว่าพันธมิตรไร้พ่าย มันก็ไม่แปลกที่โคลเปย์จะเลือกยืนอยู่ข้างเขาเพื่อปกป้องครอบครัวของตนเอง

คาร์ลมั่นใจในสิ่งที่เขาคิดก่อนจะลอบสังเกตโคลเปย์ต่อไป

“พระเจ้า”

“หืม?”

คาร์ลชะงักเล็กน้อย

ส่วนโคลเปย์นั้นกําลังคุยกับพ่อของตนอย่างอารมณ์ดี

“ท่านผู้นี้คือพระเจ้าเขาเป็นคนที่น่านับถือยิ่งนัก”

อะไรกันเนี่ย?

คาร์ลมองโคลเปย์ด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

สีหน้าของโคลเปย์ในตอนนี้ราวกับคนที่วิ่งตามความฝันของตัวเองจนสําเร็จ

“ท่านพ่อ..ข้าได้พาตํานานมาที่นี่แล้ว”

“ นี่เขาเสียสติไปแล้วใช่มั้ย?”

คาร์ลสูญเสียคําพูดไปโดยทันที