ตอนที่ 158

God of Fishing

Chapter 158: การกลับมาของสถาบันอันธพาล

ผู้ดําเนินรายการตอบกลับก่อนและตะโกนขึ้นฟ้า “พ่อแม่พี่น้อง อย่างที่คุณเห็นผู้เล่นคนนี้หานเฟยเขากลายเป็นทั้งผู้เก็บเกี่ยววิญญาณและนักรบวิญญาณ! แกร่งเกินไปแล้ว! เขาใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งนาที่ในการจัดการนักล่าจากทีมสามดาบ…”

..เหล่าผู้ชมรู้สึกทึ่ง

“โห! เขาเป็นทั้งผู้รวบรวมวิญญาณและนักรบวิญญาณเลยหรอ? เด็กคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดเหรอ? เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?”

“ฉันแย่แน่ๆ! ฉันเดิมพันไข่มุกคุณภาพระดับกลาง 100 เม็ดไว้กับทีมสามดาบ”

“ว้าว…เด็กอ้วนนั่นเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดายเลย!”

ผู้ชมยังคุยกันไม่ทันจบทันใดนั้นที่สนามประลองมีเงามืดหลายเงาทะลุผ่านนักเกราะของฝ่ายตรงข้าม มันเป็นเงาของเซียเสี่ยวจานที่ฝูงผ่านไปยังผู้ควบคุมของฝ่ายตรงข้าม และฝ่ายตรงข้ามก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว และพันตัวเองด้วยสาหร่ายชิ้นใหญ่

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เห็นก็สร้างความตกใจให้กับผู้ชม หลุมขนาดใหญ่ได้ถูกสร้างขึ้นทันทีที่กลางสาหร่าย

“เงาหลอน”

“แทงเงา…”

ผู้ควบคุมคนนั้นไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบสนอง เมื่อแสงวาบส่องผ่านสาหร่ายเซี่ยเสี่ยวจานก็ปรากฏตัวต่อหน้านักเกราะที่เกือบจะหัวหดไปแล้ว

“ตาย!”

แซ่บ! แซ่บ! แซ่บ!

โล่โผล่ขึ้นมาจากทุกทิศทางรอบตัวนักเกราะ ดาบและมีดบินออกมาจากกล่องเกราะ แต่เขาก็ไม่สามารถทําอะไรเซียเสี่ยวจานได้เลยได้

ในขณะนี้สาหร่ายที่ห่อหุ้มผู้ควบคุมที่อยู่ด้านหลังของนักเกราะได้หายไปทั้งหมด ผู้ควบคุมหญิงคนนั้น คุกเข่าอยู่บนพื้นแล้วปิดหน้าท้องของเธอ เธอยกมือขึ้นและดูเหมือนจะพยายามช่วยเพื่อนร่วมทีมด้วยสาหร่ายทะเล แต่ในช่วงเวลาต่อมาร่างกายของเธอถูกพันด้วยเถาวัลย์

พิธีกรดูตกใจและตื่นเต้น “ว้าวเราเห็นอะไรกันเนี่ย? นักล่าสาวสวยแห่งตํานานอันธพาลล้มผู้ควบคุมของฝ่ายตรงข้ามภายในหนึ่งนาที…ตอนนี้เธอกําลังเผชิญหน้ากับนักเกราะของฝ่ายตรงข้ามแล้ว”

ผู้ประกาศแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เขาเห็น นักล่าต่อสู้กับนักเกราะตัวต่อตัว?!

อย่างไรก็ตามในอีกด้านหนึ่งกล่องเกราะของเลเหรอนกวงก็เปิดออกและอาวุธก็บินออกมาทีละชิ้น พวกมันบินข้ามอากาศและกระพือปีกเหมือนเงา

ตูม ตูม ตูม…

นักรบวิญญาณทั้งสองพยายามขัดขวางการโจมตีของเขาด้วยกําลังทั้งหมด อย่างไรก็ตามจางซวนหยูคํารามทันที “เผาผลาญเลือดและชื่”

“คลื่นทะเลคลั่งเจ็ดชั้น”

แซ่บ! แซ่บ! แซ่บ!

แม้ว่าจางซวนหยูจะยังไม่ได้เป็นปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่ แต่ภาพที่เห็นของคลื่นทะเลคลั่งเจ็ดชั้นนั้นงดงามและส่องแสงมากกว่าการโจมตีเกลียวของหานเฟยเสียอีก

ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครคิดว่านักรบวิญญาณและนักเกราะสามารถร่วมมือกันได้เช่นนี้ นักรบวิญญาณทั้งสองของสามดาบถูกส่งลอยไปในอากาศในพริบตา

เซียเสี่ยวจ้านและนักเกราะยังคงโจมตีซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามนักเกราะพบว่าอาวุธของเขามีประสิทธิภาพน้อยลงเรื่อย ๆ ด้วยความตกใจอาวุธทั้งหมดของเขาก็พันกันอยู่ในอากาศด้วยเถาวัลย์

“แทงเงา..”

หานเฟยดึงเบ็ดไผ่สีม่วงของเขาเหมือนใช้หนังสติ๊กอีกครั้ง “ไป”

โครม…

แกร๊ก!

นักเกราะพบว่าตัวเองลอยอยู่กลางอากาศก่อนที่เขาจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เขายังคงคิดอยู่ว่าฉันเพิ่งเอากล่องเกราะของฉันออกมาใช้! ทําไมฉันถึงลอยอยู่ในอากาศแบบนี้!

ผู้ประกาศกลืนน้ําลายและไม่รู้จะพูดอะไร

อัฒจันทร์เงียบกริบ ผู้ชมทุกคนตะลึง

มีใครบางคนพูดอย่างว่างเปล่าว่า “ฉันเพิ่งเข้ามายังไม่ได้นั่ง แต่มันจบแล้วหรอ?!”

“โห…”

“ตํานานอันธพาล…ตํานานอันธพาล…ตํานานอันธพาล…”

ผู้ชมแทบคลั่ง ตอนแรกหลายคนยังคงหัวเราะเยาะตํานานอันธพาลแต่ในนาทีถัดมาพวกเขาชนะ!

ในที่สุดเจ้าภาพก็ส่งเสียงของเขา “ชนะแล้ว ตํานานอันธพาลของเราชนะ มันน่าตื่นเต้นมาก! พวกเขาใช้เวลาเพียงหนึ่งนาที่ในการยุติการต่อสู้! ทุกคนในตํานานอันธพาลมีพลังและทักษะในการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม … ขอเสียงเป็นกําลังใจให้พวกเขา! เสียงปรบมืออยู่ที่ไหน กองเชียร์อยู่ไหน…”

เสียงปรบมือสนั่น…

“โอ้โห..”

“อันธพาลๆๆๆๆ…”

ผู้ประกาศกลืนน้ําลาย อีฉันจะประกาศเรื่องนี้ยังไงดีล่ะ แม้แต่ฉันก็ยังไม่เห็นชัดเจนว่าตํานานอันธพาลใช้ทักษะการต่อสู้แบบไหน!

…ในห้องส่วนตัวเป่าจินตกตะลึง เขาขยี้ตาและหายใจเข้าลึก ๆ สถาบันที่สี่หรอ? พวกเขากําลังจะกลับมาแล้วสินะ

ในขณะนี้เซียเสี่ยวจ้านและคนอื่น ๆ กําลังโบกมือให้กับผู้ชม ต่างจากการโบกมือในตอนแรกที่พวกเขาโบกมืออย่างไม่เป็นทางการในครั้งนี้

เลอเหรินกวนตะโกนว่า “พวกเราคือตํานานอันธพาลจากสถาบันที่สี่แห่งเมืองทะเลคราม..”

“สถาบันที่สี่สถาบันที่สี่”

ผู้ชมโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น

สมาชิกผู้ชมหลายคนเป็นนักเรียนจากอีกสามสถาบัน ตอนนี้พวกเขาตะลึง อะไรกัน? สถาบันที่สี่หรอ? นักเรียนเหล่านี้มาจากสถาบันที่สี่หรอ พวกเขาแข็งแกร่งแบบนี้ได้อย่างไร?

บางคนน้ําตาแทบไหล ให้ตายเถอะถ้าฉันรู้ว่าสถาบันการศึกษาที่สี่แข็งแกร่งขนาดนี้ฉันจะเดิมพันให้พวกเขาชนะ

หานเฟยและคนอื่น ๆ ก็กลับไปที่ห้องรับรองด้านหลัง

เป่าจินรออยู่ที่นี่แล้ว

เป่าจินมองอย่างไม่เชื่อ “เด็ก ๆ คุณเป็นปรมาจารย์ตกปลาผู้ยิ่งใหญ่จริงๆด้วย”

เซียเสี่ยวจานพูดอย่างว่างเปล่า “แน่นอน แม้ว่าสถาบันของเราจะมีนักเรียนเพียงห้าคน แต่เราก็สามารถแข่งขันกับอีกสามสถาบันได้”

เป่าจินอ้าปากค้าง เขานึกถึงตํานานของสนามประลองทะเลครามซึ่งเป็นตํานานเกี่ยวกับสถาบันที่สี่ที่ครั้งหนึ่งสถาบันอันธพาลกวาดชัยชนะไปหมดในสนามประลองทเลครามแห่งนี้..

จางซวนหยูพูดอย่างเฉื่อยชา “เมื่อไหร่เราจะพบกับคู่ต่อสู้คนต่อไปของเรา”

เป่าจินกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เบี้ยวนิดๆว่า “อืม เนื่องจากความแข็งแกร่งของคุณเกินความคาดหมายของเราเราจึงต้องจัดทีมต่อสู้อีกครั้ง คุณช่วยกลับมาพรุ่งนี้ได้ไหม”

หานเฟยเกาท้อง “วันนี้ไม่มีการต่อสู้แล้วเหรอ”

เป่าจินทําอะไรไม่ถูก ฉันจัดทีมที่อ่อนแอให้พวกคุณเท่านั้น และพวกเขาจะไม่สามารถต้านการโจมตีของคุณได้แม้แต่นาทีเดียว!จนทําให้ไม่มีทีมไหนยอมสู้กับคุณในวันนี้อีก!

ในขณะนี้เขาเหลือบไปเห็นด้านหลังทางกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกําลังเก็บข้าวของและกําลังจะออกไป ทันทีที่พวกเขาเห็นเป่าจินพวกเขาบ่นว่า “เฒ่าเป่าคุณควรเลือกคู่ต่อสู้ที่มีระดับใกล้เคียงกันให้พวกเรานะ!”

หานเฟยและเพื่อนร่วมทีมต้องกลับไปที่สถาบันของพวกเขา มันไม่มีประโยชน์ที่จะรออยู่ที่นั่นต่อไป

ในเวลาเดียวกันสถาบันการศึกษาอีกสามแห่งในเมืองทะเลครามก็อยู่ในความโกลาหลเหมือนกับผู้คนในเมืองทะเลคราม

ปฏิกิริยาแรกของหลายๆคนคือถามอย่างสงสัยว่า “มีนักเรียนใน สถาบันที่สีด้วยหรอ”

สถาบันการศึกษาที่สาม

เย่หนานเฟยยิ้มอย่างขมขึ้นเมื่อทราบข่าว แน่นอนว่าเมื่อเขาได้ยินหานเฟยพูดว่าเขากําลังจะไปสถาบันที่สี่ เขาก็รู้ว่าสถาบันที่สี่กําลังจะกลับมา!

นักเรียนที่ต่อสู้กับหานเฟยในครั้งนั้นต่างตื่นตระหนกและต้องการฟังความคิดเห็นของเย่หนานเฟยเกี่ยวกับเรื่องนี้

เย่หนานเฟยจึงบอกว่า “ไปที่สนามประลองเพื่อดูการต่อสู้ของพวกเขาในวันพรุ่งนี้! บางทีหลังจากดูจบแล้ว คุณจะรู้ว่าสถาบันที่สี่เป็นสถาบันแบบไหน”

มันเหมือนกันสําหรับอีกสองสถาบัน ในขณะนี้ประธานของสถาบันการศึกษาที่หนึ่งและสองกําลังประชุมกัน

“ในที่สุด ไป๋ก่งเย่ ก็ได้พบทายาทของสถาบันอันธพาลแล้ว!”

“พวกอันธพาลกําลังจะกลับมา ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี”

“ฉันยังจําโศกนาฏกรรมในปีนั้นได้…ฉันไม่รู้ว่าเด็กน้อยเหล่านี้จะไปได้ไกลกว่านี้หรือไม่”

“ถ้าพวกเขามีความแข็งแกร่งขนาดนี้ ฉันกลัวว่ารายชื่อ 100 อันดับแรกในปีนี้จะเปลี่ยนไปมาก”

“น่าสนใจจริงๆ”