บทที่ 222 แกล้งตาย

ฮูหยินซูพร่ำสอนถ่ายทอดวิชางานปักทั้งหมดให้แก่หลันฮวา จากนั้นนางก็มีงานยุ่งจนล้นมือ หลังจากที่โรงงานเริ่มไร้ผู้คนแล้ว หมอซูและฮูหยินซูก็ลอบออกจากโรงงานถุงหอมเงียบ ๆ พวกเขาพากันขึ้นรถม้า ซึ่งเว่ยฉิง ถังหลี่ และซานเป่ารออยู่ด้านใน

“สามี เจ้าพาหมอซูกับฮูหยินซูไปที่เมืองเหยาสุ่ยก่อน แล้วข้าจะตามไปทีหลัง” ถังหลี่สั่ง

เว่ยฉิงคว้ามือภรรยาของตัวเองไว้ หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวลใจ เว่ยฉิงรู้ว่าภรรยาของตัวเองนั้นมีเรื่องที่ต้องทำ แต่เขาก็ยังกังวลที่จะทิ้งนางไว้คนเดียวในหมู่บ้านนี้

“เว่ยฉิง ข้าไม่เป็นไร เจ้าต้องปกป้องหมอซูกับ ฮูหยินซู และซานเป่าด้วยนะ” ถังหลี่พูดกับเว่ยฉิง ด้วยแววตาที่เด็ดเดี่ยว

เมื่อเทียบกับตัวเองแล้ว ทั้งสามคนต้องการการปกป้องจากเว่ยฉิงมากกว่า ชายหนุ่มลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าตกลง ภรรยาของเขาเป็นคนเด็ดเดี่ยว นางจะไม่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้วง่าย ๆ หากเขามัวแต่ชักช้าจะยิ่งทำให้เสียเวลามากขึ้นไปอีก เว่ยฉิงต้องเดินทางไปยังเมืองเหยาสุ่ยก่อนจะรีบกลับมาที่หมู่บ้านเพื่อปกป้องภรรยาของตน!

เว่ยฉิงข่มอารมณ์ของตัวเองไว้ เขาปล่อยนางไป ก่อนจากกันถังหลี่จุมพิตเขาเบา ๆ ที่ข้างแก้ม

“ไม่ต้องเป็นห่วงข้า”

พูดจบนางกระโดดลงจากรถม้าทันที ในที่สุดรถม้าของบ้านสกุลเว่ยก็ค่อย ๆ เคลื่อนที่จนหายลับไปในความมืด หญิงสาวได้แต่อธิษฐานในใจขอให้หมอซูและฮูหยินซูปลอดภัย ขอให้คนทั้งสี่เดินทางออกจากหมู่บ้านลี่เจียได้อย่างไร้ปัญหาใด ๆ เป็นเพราะสตรีชั่วร้ายที่ชื่อกู้อิ๋นเพียงคนเดียวที่ทำให้ครอบครัวของหมอซูต้องเดือดร้อนเช่นนี้!

ในวันข้างหน้าเมื่อถังหลี่มีกำลังมากพอ นางจะทำให้กู้อิ๋นต้องชดใช้กับสิ่งที่นางทำลงไปในวันนี้…

ถังหลี่หันหลังกลับไปยังโรงงานถุงหอมอย่างรวดเร็ว นี่คือส่วนหนึ่งของแผน หลังจากที่ทั้งสองคนเดินทางออกไปจากโรงงาน แม้จะหนีพ้นแต่ก็ยังไม่พอ หากกู้อิ๋นรู้ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่จะต้องเป็นอันตรายอย่างแน่นอน..

ดังนั้นนางต้องป้องกันสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้โดยการให้กู้อิ๋นเข้าใจว่าหมอซูและฮูหยินซูเสียชีวิตไปแล้ว!

ถังหลี่เข้าไปในครัวของโรงงานก่อนจะจุดไฟ…

ยามนี้เป็นเวลากลางดึก ผู้คนในหมู่บ้านต่างหลับใหลโดยไม่รู้ตัวเลยว่าโรงงานผลิตถุงหอมกำลังเกิดเพลิงไหม้ กว่าพวกเขาจะเห็น ไฟที่กำลังลุกไหม้ก็เผาโรงงานวอดวายไปจนเกือบหมดแล้ว

“แย่แล้ว! ไฟไหม้โรงงานถุงหอม!”

“ไฟไหม้! ไฟไหม้! มาช่วยกันดับไฟเร็ว!”

มีเสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้น คนหลายคนในหมู่บ้านเป็นคนงานที่โรงงานถุงหอม พวกเขาถือว่าโรงงานแห่งนี้สำคัญยิ่งกว่าบ้านตัวเองเสียอีก คนทั้งหมดรีบลุกจากที่นอนมาช่วยกันทันที

“หมอซูกับฮูหยินซูเล่า? พวกเขาอาศัยที่โรงงาน! คงไม่เกิดอะไรขึ้นใช่ไหม?”

“ทั้งสองคนเป็นคนดี สวรรค์ ได้โปรดเมตตาพวกเขาด้วย!”

“เร่งมือเข้า ดับไฟซะ!”

ภายในเวลาไม่นานนัก ชาวบ้านต่างรีบหยิบถังน้ำมาคนละไม้ละมือช่วยกันดับไฟ แต่เพราะเปลวเพลิงนั้นรุนแรงมาก กว่าไฟจะดับบ้านก็เหลือแค่โครง!

“เห็นหมอซูกับฮูหยินไหม?”

“หมอซู! ฮูหยินซู!”

“สวรรค์! ดูนั่นสิ!”

เมื่อทุกคนมองไปก็เห็นศพไหม้เกรียมสองศพนอนอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็นเตียง! สองสามีภรรยาสกุลซูถูกไฟคลอกตายขณะหลับใหล!

“หมอซู…ฮูหยินซู…ไม่นะ”

“ทำไมคนดีถึงอายุสั้นเช่นนี้”

“พวกเขาช่างน่าสงสารอะไรเช่นนี้!”

จิตใจของชาวบ้านเต็มไปด้วยความโศกเศร้า บางคนก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ท่ามกลางชาวบ้านมากมายมีหญิงสาวผู้หนึ่งยืนอยู่ นางสวมชุดสีดำจนกลมกลืนไปกับความมืดยามค่ำคืน นางจ้องมองศพด้วยสีหน้าเย็นชาก่อนจะหันหลังจากไป ถังหลี่ที่แอบดูอยู่รู้สึกโล่งใจทันที

สตรีผู้นั้นคือจู้เยว่สาวใช้ข้างกายของกู้อิ๋น ศพทั้งสองที่นางเห็นเป็นเวทมนต์ลวงตาที่ถังหลี่สร้างขึ้น หลังจากดูศพจนแน่ใจแล้วจู้เยว่จึงกลับมารายงานกู้อิ๋นตามที่ถังหลี่คาดการณ์เอาไว้

สีหน้าของกู้อิ๋นเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่สาวใช้บอก

“ตายแล้ว? เจ้าแน่ใจหรือ?”

กู้อิ๋นตกใจมาก นางไม่อยากจะเชื่อเลย

ชายผู้นั้นคือขุมทรัพย์ทางวิชาการแพทย์ เขาเป็นกำลังสำคัญของกู้อิ๋น หากหมอซูตายไปเช่นนี้ย่อมหมายความว่าความพยายามของนางที่ผ่านมาถือได้ว่าสูญเปล่า…

“คุณหนูข้าตรวจสอบแล้วเจ้าค่ะ เป็นศพจริง ๆ เรามาช้าไปแค่เพียงก้าวเดียวเท่านั้น” จู้เยว่กล่าว

ในตอนแรกกู้อิ๋นตั้งใจจะวางแผนลักพาตัวฮูหยินซูในคืนนี้ นางไม่คิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น! หญิงสาวสูดลมหายใจเข้า

ตายจริงหรือ?

การเดินทางของนางในครั้งนี้ช่างไร้ประโยชน์ไปอย่างสิ้นเชิง

แต่ตายไปแล้วก็ดี.. อย่างน้อยหมอซูก็ไม่ต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของผู้อื่น อะไรที่กู้อิ๋นไม่ได้ คนอื่นย่อมไม่ได้เช่นกัน!

หมอเทวดาอันดับหนึ่งจากไปแล้ว กู้อิ๋นต้องเร่งตามหาหมอเทวดาอันดับสองโดยเร็ว

“เราจะค้างที่นี่อีกสักสองวัน” กู้อิ๋นกล่าวกับสาวใช้

นางต้องยืนยันให้แน่ใจว่าหมอซูเสียชีวิตแล้วจริง ๆ

เว่ยฉิงรีบกลับมายังหมู่บ้านก่อนที่เขาจะพบว่าโรงงานถุงหอมถูกไฟไหม้ ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งพากันร่ำไห้ไม่หยุด ทำให้เว่ยฉิงเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ได้เป็นอย่างดี ถังหลี่จัดฉากให้ทุกคนเข้าใจว่าสองสามีภรรยาถูกไฟคลอกตาย ทั้งที่จริงเว่ยฉิงส่งทั้งสองคนไปยังเมืองฉินโจวแล้ว!

ภรรยาของเขาพูดว่านางมีคนรู้จักหลายคนที่นั่น ทั้งเฉาจีและสามีภรรยาสกุลฟาง พวกเขาต้องปกป้องหมอซูและฮูหยินซูได้อย่างแน่นอน

เมื่อเว่ยฉิงเดินมาเห็นถังหลี่กำลังร้องไห้ เขาก็เข้าใจทันที

“ฮูหยิน!”

ถังหลี่ร้องไห้น้ำตาอาบแก้ม นางมองไปที่เว่ยฉิงอย่างมีนัยยะสำคัญ คาดหวังให้ชายหนุ่มเล่นไปตามน้ำอย่าได้ทำพิรุธออกมาให้ใครเห็น เขาหันไปมองศพทั้งสองที่ถูกคลุมด้วยผ้าขาว

“นี่คือหมอซูกับฮูหยินซูหรือ? เป็นไปได้อย่างไร เมื่อวานข้ายังเห็นพวกเขาอยู่เลย”

“เจ้าเข้าใจผิดหรือเปล่า?”

เว่ยฉิงคุกเข่าลงตรงหน้าศพ แม้ไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยดเดียว แต่ท่าทางของเขาโศกเศร้ามาก ทั้งดูฝืนกลั้นสะอื้น และพยายามอดกลั้นต่อความทุกข์ใจ ไม่น่าเชื่อเลยว่าการแสดงของเว่ยฉิงดีกว่าถังหลี่เสียอีก !

หญิงสาวถึงกับพูดไม่ออก

ก่อนหน้านี้นางจะวิตกไปทำไม?…

เว่ยฉิงโอบกอดถังหลี่ไว้ในอ้อมแขนของตนเอง ถังหลี่ร้องไห้เงียบ ๆ หมอซูและภรรยาไม่มีบุตรด้วยกัน ดังนั้นหัวหน้าหมู่บ้านจึงเป็นเจ้าภาพในการจัดงานศพ มีเพียงถังหลี่และเว่ยฉิงเท่านั้นที่รู้ความจริง

หลันฮวาเสียใจมาก เด็กสาวใช้เวลาอยู่กับฮูหยินซูมากที่สุดนางนับถือฟู่ฉิงดั่งอาจารย์ของนางคนหนึ่ง

ในเช้าวันนั้นฮูหยินซูกล่าวกับนางคล้ายกับการบอกลา ทำให้หลันฮวารู้สึกไม่สบายใจ ไม่คิดเลยว่าวันต่อมาพวกเขาจะถูกไฟคลอกตายเช่นนี้! ทันทีที่รู้ข่าวหลันฮวาตกใจจนหมดสติ ทำให้สามีของนางเป็นห่วงจนหน้าซีดเซียว

โชคดีที่เฉาเช่าพาหมอที่เก่งกาจมาอยู่ที่บ้านของหลันฮวา ในสถานการณ์ที่โศกเศร้าหดหู่เช่นนี้ ท่านหมอของเฉาเช่ามีประโยชน์มากทีเดียว หลังจากที่เด็กสาวพ้นขีดอันตรายแล้ว ป้าเกาและถังหลี่จึงเข้ามาปลอบประโลมนางอีกครั้ง จนหลันฮวาสงบใจได้ แต่นางก็ยังดื้อดึงลุกขึ้นมาสวมใส่เสื้อผ้ากระสอบเพื่อไว้ทุกข์ให้กับสามีภรรยา

ป้าเกาไม่อาจจะรั้งหลานสาวเอาไว้ได้จึงได้แต่ปล่อยให้จูเฉิงคอยอยู่เคียงข้างภรรยาไม่ห่าง หลันฮวาสวมชุดประสอบไว้ทุกข์ด้วยความกตัญญูอย่างสงบ นางนั่งคุกเข่าอยู่หน้าโลงศพ ตอนนี้หลันฮวาท้องแก่มากแล้วในขณะที่กำลังร้องไห้ จู่ ๆ นางก็ปวดท้องขึ้นมา จูเฉิงรีบพาภรรยากลับไปบ้านทันที!

หลันฮวากำลังจะคลอดแล้ว! หมอที่ประจำบ้านป้าเกาเป็นคนช่วยนางทำคลอด นี่เป็นบุตรคนแรกของหลันฮวาจึงทำให้ใช้เวลาในการคลอดลูกนาน

ถังหลี่และเว่ยฉิงยืนอยู่หน้าประตูทั้งสองคนไม่หลับไม่นอนมาเป็นเวลาถึงสองวันแล้ว ในที่สุดลูกสาวตัวน้อยของหลันฮวาก็ได้ถือกำเนิดขึ้นยามท้องฟ้าใกล้สว่าง