ตอนที่ 190 สู้เพื่อสมุนไพร (2)

ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง

ตอนที่190 สู้เพื่อสมุนไพร (2)

เถ้าแก่อ้วนหันไปมองเซียถงทันที ดวงตาเปี่ยมล้นแววความหวังและคาดหมาย

“คุณหนู สู้ราคาหรือไม่?”

เซียถงแสยะยิ้มมุมปากบางๆ เหลือบหางตามองไปทางเฉียนอวิ๋งพร้อมปริปากกล่าวอย่างสงบว่า

“หนึ่งหมื่น!”

หนึ่งหมื่นเหรียญทอง? ชั่วพริบตาต่อมา บรรยากาศโดยรอบพลันเงียบสงัดดุจป่าช้า เหลือเพียงเสียงหายใจเข้าออกของผู้คนเท่านั้น ยอมจ่ายหนึ่งหมื่นเหรียญทองเพื่อหญ้าเพลิงเมฆาที่มีราคาแต่เดิมอยู่ที่สามสิบเหรียญทอง นี่มันน่าเหลือเชื่อ!

ทันทีที่เถ้าแก่อ้วนได้ยินดังนั้น เขาก็ใจเต้นแรงแทบโดดเด้งออกมาจากลำคอ รีบใช้มือข้างหนึ่งค้ำยันร่างของตัวเองเอาไว้ไม่ให้ล้ม เพราะยามนี้ตื่นเต้นแทบเป็นลม ส่วนทางด้านอิ๋งเอ๋อร์ถึงกับรีบคว้าแขนเสื้อของเซียถงไว้แน่น ราคาขนาดนี้จะไม่ทำให้นางรู้สึกอึดอัดใจได้อย่างไร?

หนึ่งหมื่นเหรียญทองเพื่อหญ้าเพลิงเมฆาแค่ต้นเดียว แค่ได้ยินก็อดใจหายมิได้!

ขายหญ้าเพลิงเมฆาหนึ่งต้นในราคาหนึ่งหมื่นเหรียญทอง นับเป็นราคาที่สูงเสียดฟ้า เถ้าแก่อ้วนคนนั้นรีบกล่าวกับเซียถงทันที สีหน้าท่าทางดูตื่นเต้นยิ่งยวดว่า

“เช่นนั้นทางเราขอขายให้คุณหนูในราคาหนึ่งหมื่นเหรียญทอง!”

พูดจบเขาก็ผลักถุงเงินที่ซือโม่โยนมาให้กลับคืนไปและกล่าวว่า

“หญ้าเพลิงเมฆาของร้านเราขายไปแล้ว พวกท่านเชิญไปหาซื้อทีร้านอื่นดูเถอะ”

พูดจบเขาก็หันหน้ากลับมามองเซียถงด้วยแววตาสุดคาดหวัง

“อิ๋งเอ๋อร์ปล่อยมือ ข้าจะเอาตั๋วเงินจำนวนหนึ่งหมื่นเหรียญทองมาจ่าย”

“คุณหนู ท่านคิดจะใช้เงินตั้งหนึ่งหมื่นเหรียญทองเพื่อซื้อสมุนไพรแค่ต้นเดียวจริงๆ น่ะรึ?”

อิ๋งเอ๋อร์ปั้นหน้าท่าทีลังเล แต่สุดท้ายก็ยอมคลายมือออกจากแขนเสื้อของเซียถง

เซียถงชูตั๋วเงินที่คีบเกี่ยวขึ้นมาและตบลงบนโต๊ะต่อหน้าเถ้าแก่อ้วนคนนั้น

“นี่คือตั๋วเงินจำนวนหนึ่งหมื่นเหรียญทอง สามารถนำไปขึ้นเงินได้ทันที”

“รับทราบ! รับทราบ! ขอบคุณคุณหนูอย่างยิ่งที่อุดหนุน”

เถ้าแก่อ้วนคลี่ยิ้มกว้างพร้อมรับตั๋วเงินดังกล่าวมาชื่นชม

“ไม่เป็นไร เถ้าแก่ หากในภายภาคหน้า ท่านรู้สึกปวดหัวตัวร้อนอย่างไร ก็ตามหาข้าได้ทุกเมื่อ”

มิทราบเช่นกันว่าไฉนเซียถงถึงกล่าววาจาเช่นนี้ออกไป นางเหลือบสายตาปรายมองไปที่เถ้าแก่อ้วนคนนั้นทีหนึ่ง และเดินจากออกมาพร้อมกับหญ้าเพลิงเมฆาในมืออย่างมีนัยแปลกๆ

เฉียนอวิ๋งและซือโม่ต่างยืนมองเซียถงเดินจากออกไปอย่างว่างเปล่า

“คุณหนู ราคาหนึ่งหมื่นเหรียญทอง บ่าวคิดว่ามันแพงเกินไป! นี่เรามาซื้อแค่สมุนไพรกันเองมิใช่รึ?”

อิ๋งเอ๋อร์ปั้นหน้าบึ้งตึง เดินติดตามเซียถงเจืออารมร์ขุ่นเคืองมิใช่น้อย หากรู้ตั้งแต่ก่อนหน้าว่า คุณหนูของตนจะมาทุ่มเงินถุงเงินถังเล่นแบบนี้ คงแกล้งทำเป็นลืมหยิบตั๋วเงินหนึ่งหมื่นเหรียญทองออกมาก็ดี

“ไม่ต้องกังวลไป เดี๋ยวตั๋วเงินหนึ่งหมื่นเหรียญทองใบนั้นก็จะถูกตีกลับคืนมาในอีกไม่ช้าแล้ว”

เซียถงคลี่ยิ้มสีจางผุดขึ้นบนมุมปาก อิ๋งเอ๋อร์แลเห็นประกายแสงเจ้าเล่ห์ส่องสะท้อนออกมาจากดวงตาคู่นั้นของอีกฝ่าย

เหม่อมองรอยยิ้มของคุณหนูตน อิ๋งเอ๋อร์ถึงกับสั่นสะท้านถึงทรวงโดยมิตั้งใจ หรือเป็นไปได้ไหมว่า…คุณหนูของนางจะวางแผนไว้ทุกอย่างหมดแล้ว? แต่จะทำอย่างไรให้ได้ตั๋วเงินกลับมาล่ะ? ในเมื่อมันถูกส่งมอบถึงมือของเถ้าแก่อ้วนคนนั้นไปเรียบร้อยแล้ว?

ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่กับตัวเองนั่นเอง จู่ๆ อิ๋งเอ๋อร์ก็ได้ยินเสียงร้องครวญครางของเถ้าแก่อ้วนเมื่อครู่ดังลั่นด้วยความทรมานสุดแสน ไล่ตามมาจากด้านหลัง

“คุณหนู! หยุดก่อน! คุณหนู!!”

ด้วยความตกใจ อิ๋งเอ๋อร์รีบเร่งหันไปมอง แลเห็นเถ้าแก่อ้วนคนนั้นรีบวิ่งมาทางนี้พร้อมกับมือทั้งสองที่ยกขึ้นปิดคลุมใบหน้า

“มีอะไรงั้นรึ? หรือจะมาขึ้นราคาเพิ่ม?”

เซียถงเหลียวหลังหันไปมองเถ้าแก่อ้วนคนนั้นที่วิ่งมาหา คลี่ยิ้มฉาบเย็นยะเยือกเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบ

เถ้าแก่อ้วนไม่พูดพล่ำทำเพลงอันใดอีก รีบคุกเข่าลงต่อหน้าเซียถงและแหงนศีรษะจับจ้องนางทั้งน้ำตา

“ไม่ ไม่ ข้าไม่กล้ารับเงินของท่านแล้ว! โปรดเอาตั๋วเงินคืนไปเถิด! แต่…แต่ช่วยล้างพิษบนใบหน้าของข้าด้วยเถอะ!”

ทันทีที่คลายมือลงจากใบหน้า ก็ปรากฏเป็นใบหน้าเน่าสีดำทมิฬหมองคล้ำต่อหน้าต่อตาเซียถง

“โอ้? เกิดอะไรขึ้นกับเถ้าแก่งั้นรึ?”

เซียถงแสร้งทำเป็นยกมือป้องปากดูประหลาดใจ พลางเอ่ยถามกลับไปคำหนึ่ง

“คุณหนู หยุดเสแสร้งเถิดได้โปรด หลังจากที่ข้ารับตั๋วเงินของท่านมา ก็เอามือไปลูบใบหน้า หลังจากนั้นก็กลายมาเป็นเช่นนี้เลย!”

เถ้าแก่อ้วนคนนี้ทำงานคลุกคลีอยู่กับสมุนไพรนานาชนิดมานับหลายสิบปี จึงรู้ทันทีว่าตนเองโดนวางยาพิษเข้าให้แล้ว ถึงแม้จะรู้ว่ายิ่งเกาก็จะยิ่งทำให้พิษกำเริบ แต่เขาก็รู้สึกคันจนห้ามใจไม่ไหว

“เถ้าแก่ ท่านจะกล่าวใส่ร้ายกันได้อย่างไร? หรือเห็นว่าวางยาพิษกับตาตัวเอง?”

เซียถงเลิกคิ้วเอ่ยถามขึ้นเจือสีหน้าประหลาดใจ

“คุณหนู นี่เป็นตั๋วเงินเมื่อครู่ของท่าน ข้าไม่ต้องการมันแล้ว! รับไปเถอะ! แต่จะอย่างไรก็ช่วยมอบโอสถล้างพิษแก่ข้าด้วยเถอะ!”

“แล้วหญ้าเพลิงเมฆาล่ะ?”

เซียถงโบกสมุนไพรในมือเล่นไปมา

“คุณหนูเอาไปได้เลย! ข้าขอแค่โอสถล้างพิษสักเม็ด!”

เถ้าแก่อ้วนคนนั้นโบกมือให้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในเวลานี้เขารู้สึกคันจนจะแย่แล้ว ในหัวคิดอยู่เพียงเรื่องเดียวคือ โอสถล้างพิษ!

เมื่อได้ยินคำยืนยันเช่นนั้น เซียถงก็ลอบแสยะยิ้มกับตัวเองอย่างลับๆ และเดินตรงไปหาเถ้าแก่อ้วนคนนั้น กวาดสายตาทำเป็นตรวจสอบอาการบนใบหน้าของอีกฝ่ายอยู่สักครู่ และกล่าวว่า

“เงยหน้าให้ข้าดูชัดๆ หน่อยจะได้วินิจฉัยอาการถูก”

เถ้าแก่อ้วนคนนั้นเงยหน้ามองเซียถงทั้งน้ำตา หลังจากนั้นไม่นาน เซียถงก็กล่าวขึ้นต่อว่า

“อืมม…ดูเหมือนจะโดนพิษเล่นงานจริงๆ โชคยังดีที่ข้ามีโอสถล้างพิษติดตัวอยู่เม็ดสองเม็ด”

“เช่นนั้นโปรดมอบให้ข้าด้วยเถิดคุณหนู!”

เถ้าแก่อ้วนโอดครวญใจจะขาดแล้ว

“รับไป”

สิ้นเสียง เซียถงก็โยนบางสิ่งบางอย่างออกจากมือไปให้ มันเป็นโอสถเม็ดกลมสีแดงที่บินเข้ามือของเถ้าแก่อ้วนคนนั้น พอได้มาอีกฝ่ายรีบตบโอสถเข้าปากไปโดยตรง และไม่นานอาการคันบนใบหน้าของเขาก็เริ่มบรรเทาลงทันที