ตอนที่ 141

Great Doctor Ling Ran

EP 141

By loop

เณรน้อยดงเฉินเขาเดินลงมาตาถนนอย่างมุ่งมั่นเมื่อเขาเห็นป้ายถนนทางเข้าหมู่บ้านที่คลินิคตระกูลหลิงตั้งอยู่ เขาก็ชะลอตัวลงและปรับกระเป๋าเป้สะพายหลังที่หลังของเขา

ในนั้นมีของป่าหลายอย่างที่เขาเอาลงมาจากภูเขาร่วมถึงเห็ดหลากหลายชนิดที่อยู่ในนั้นด้วย

ภูเขาสิบสองน้ำพุซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดสิบสิงน้ำพุซึ่งกินพื้นที่อันกว้างใหญ่และมีป่าที่อุดม ซึ่งคนหนุ่มสาวที่เคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านระแวกนั้นได้เดินทางเข้ามาในตัวเมืองทำให้หมู่บ้านระแวกนั้นเหลือเพียงแต่พวกผู้เฒ่าเพียงเท่านั้น

โดยปกติการที่จะออกไปหาเห็ดที่ดีนั้นควรจะออกไปตั้งแต่เช้าตรู่วันถัดจากมีฝนตก เจ้าอาวาสและลูกศิษย์ของเขาเดินลึกเข้าไปในป่าลึกเพียงเล็กน้อยเพื่อให้พวกเขาสามารถเก็บเห็ดป่าจำนวนมากได้

หลักการพื้นฐานของการหาเห็ดคือการเลือกชนิดของเห็น กล่าวอีกนัยหนึ่งมีเพียงคนเดียวที่เลือกเห็ดเท่านั้นที่สามารถระบุได้ หากเห็ดไม่เป็นที่รู้จักหรือไม่แน่ใจว่าจะทานได้ซึ่งเมื่อพบเห็ดที่น่าสงสัยว่าจะมีพิษให้เดินออกให้ห่างเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัส ความน่าจะเป็นเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินว่าเห็ดนั้นมีพิษหรือไหมคือการดูที่สีของเห็น ตัวอย่างเช่นหากมีโอกาสที่จะรอดจากรับประทานอาหารที่ไม่คุ้นเคยอยู่ที่แปดสิบเปอร์เซ็นแต่ถ้าการเลือกที่จะทานเห็ดที่ไม่รู้จักมันอาจทำให้โอกาสรอดลดลงเหลือหกสิบห้าเปอร์เซ็น

เณรน้องดงเฉินนั้นรู้จักเห็ดหลายชนิดที่ขึ้นในบริเวณวัดสิบสองน้ำพุและเขายังเป็นที่รู้จักในหลายๆหมูบ้าน ดังนั้นเขาจึงรู้ชนิดของเห็ดรอบ ๆ หลายหมู่บ้าน

ไม่เพียง แต่เขาสามารถระบุเห็ดได้เท่านั้น แต่เขายังรู้ได้ว่าเห็ดเกิดขึ้นมาจากที่ไหน ตราบใดที่สารอาหารในดินบนภูเขาไม่ถูกขุดออกจนหมดร่วมถึงใบไม้ที่ทับถมกันโอกาสที่เห็ดจะเกิดขึ้นในบริเวณนั้นและเติบโตก็มีสูง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเกือบสามสิบเปอร์เซ็น ของรายได้ของวัดสิบสองน้ำพุมาจากการหาเห็ดโดยลูกศิษย์ของวัดนั้นเอง

ทุกครั้งที่เณรน้อยดงเฉินลงมาจากเนินเขาเขาจะนำเห็ดแห้งซึ่งมีมูลค่าสูงและไม่หนักเกินไปมาด้วย ทุกครั้งที่เขาพบเห็ดที่มีมีรูปร่างสมบูรณ์เขาจะพกมาเพื่อเอามาให้ตระกูลหลิง

ดงเฉินต้องการรีบไปหาตระกูลหลิ ก่อนเวลาอาหารเย็นเพื่อให้พวกเขาได้ลิ้มรสเห็ดสดๆ

เขากำลังจะไปถึงคลินิคตระกูลหลิงเมื่อเขาเห็นว่ามีคนอยู่กันแออัดที่ทางเข้าเล็กน้อย

มีหญิงชราหลายคนนั่งอยู่บนม้านั่งบริเวณลานกล้าวและนอกประตู พวกเขากำลังพูดคุยกันในขณะที่รอคิว

“นี่ … โยมเกิดอะไรขึ้นหรอ?” หลังจากเณรน้อยดงเฉินทักทายพวกเขาเขาก็ถามด้วยน้ำเสียงที่ของเด็กน้อย

“เฮ้ ท่านเป็นสามเณรหนุ่มจากบนภูเขา” หญิงชรามาพบเขาและสัมผัสหัวของเขา เธอยิ้มและพูดว่า “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทุกคนเขา เข้าคิวรอให้หมอหลิงรักษาโรคกระพรุน”

“หมอหลิงรู้วิธีที่รักษาโรคกระดูกพรุนได้อย่างไร” เณรน้อยรู้สึกทึ่ง

“ฉันก็อายุไม่น้อย แต่การนวดเพื่อรักษาโรคกระดูกนั้นยอดเยี่ยมมาก” หญิงชราแตะไหล่เธอและยิ้ม “ฉันรู้สึกปวดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาแต่หลังจากได้รับการนวดมันก็หายเป็นปกติเลย”

“มันดูน่าตื่นตาตื่นใจดีนะโยม!” เณรน้อยอุทานอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาสงสัยว่าเขาควรจะขอให้เจ้าอาวาสของเขาลงมาจากภูเขาและมาลองให้มาได้รับการนวดจะดีไหม

สภาพความเป็นอยู่ในวัดสิบสองน้ำพุนั้นดูค่อนข้างลำบากยิ่งในช่วงฤดูหนาวซึ่งไฟที่จุดก็ไม่ได้ช่วยคลายความหนาวได้ตลอดเวลามัมทำให้เจ้าอาวาสร้องโอดโอยเสมอด้วยอาการเย็นไปถึงกระดูก…

เณรน้องดงเฉินเริ่มไตร่ตรองในขณะที่เขาเข้ามาในคลินิคโดยชั้นล่างของคลินิคเขาได้ยินเสียงโอดโอยดังลั่นก่อนที่จะพบหลิงรัน

“อ่า …”

เมื่อดงเฉินตามเสียงเขาพบว่าหลิงรันคว้าแขนของคนบางคนอยู่และดึงกลับด้วยความแรง สีหน้าของคนๆนั้นเปลี่ยนไปและเขาก็อดไม่ได้ที่ร้องออกมาด้วยเสียงของความเจ็บป่วย

เณรน้องดงเฉินรู้สึกอึดอัดใจและน่าเริ่มซีดจากความกลัวเพียงเล็กน้อยจาสิ่งที่เขาเห็น‘เกิดอะไรขึ้นที่นั่น?’

“เสร็จแล้ว” หลิงรันวางแขนของคนๆนั้นลง หลังจากนั้นลูบไหล่และแขน หลังจากที่เขารู้สึกว่าพวกเขาไม่เจ็บปวดอีกต่อไปเขาแสดงความขอบคุณอย่างยกใหญ่

ท้ายที่สุดมันเป็นการนวดที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเมื่อผู้คนที่ต่อคิวได้รับการนวดจนเสร็จเขาก็ดูมีความสุขจากเดิมมาก

หลิงรีนพยักหน้า เขาเพิ่งได้รับนวดเพื่อผ่อนคลายขาและแขน หลังจากที่ซึ่งตอนนี้หลิงรันเก็บเวลาของภารกิจได้สามหมื่อนชั่วโมงแล้วและมันทำให้ภารกิจของหลิงรันเกือบที่จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

หลิงรันมีความสุขมากกับการได้รับทักษะทั้งสี่ในหนึ่งลมหายใจถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้เทคนิคการจัดการไคโรแพรคติกไปก่อนหน้านี้แล้ว

แม้ว่าในขณะนี้จะไม่มีรางวัล แต่หลิงรันก็ยังมีสปิริตสูงมากที่ใช้ทักษะเหล่านี้รักษาต่อไป

“ดงเฉิน นายอยู่ที่นี่หรอ” เมื่อหลิงรันย้ายมุมในการนวดของเขาเขาเห็นเณรน้อยดงเฉิน

ดงเฉิน ทักทายเขาแล้วพูดว่า “อัตมานำเห็ดแห้งมาให้”

“แค่เอาเห็ดมาให้หรอ เดียวฉันจะเอาไปไว้ในห้องครัว” หลิงโจวมและออกมา จากนั้นเขาก็ตะโกนว่า “ทุกคนอีกยี่สิบนาทีเท่านั้นดังนั้นเราจะทำการนวดได้อีกสิบคนเท่านั้น ส่วนที่เหลือเราต้องขออภัยเป็นอย่างสูงคุณจะต้องกลับบ้านก่อนวันนี้”

“ถ้าเราจ่ายเงินไม่ได้หรอกเหรอ?”

“วันนี้คงไม่ได้แล้วเดียวค่อยมาใหม่ครั้งหน้านะ” หลิงโจวรู้ว่าการเก็บเงินในวันนี้ไม่เหมาะสม มันไม่เกี่ยวกับคนที่ยินดีจ่าย ชุดก่อนหน้าไม่ต้องจ่ายเงินและหากต้องเรียกเก็บเงินชุดต่อมาพวกเขาจะไม่พอใจ มันจะเป็นการดีกว่าถ้าให้หลิงรันพัก

คลินิคตระกูลหลิงนั้นไม่คิดค่าธรรมเนียมใด ๆ สำหรับค่าใช้จ่าย เมื่อถึงเวลาปิดคนที่อยู่ข้างหลังก็รู้สึกเสียดายแต่อย่างไรก็ตามก็เหลือเพียงไม่กี่คนที่ยังยืนดูคนที่คนที่ได้รับการนวด

เณรน้อยดงเฉินจ้องไปที่การนวดของหลิงรันอย่างต่อเนื่องโดยไม่กระพริบตา

เขาไม่ได้พยายามที่จะดูว่าคนที่ถูกนวดจะร้องอย่างไร แต่เขากำลังสังเกตเทคนิคของหลิงรัน

เณรน้อยต้องการที่จะเรียนรู้เล็กน้อยจากเทคนิคนั้นบางทีอาจจะเลียนแบบสไตล์เพื่อที่เขาจะได้นำไปใช้กับเจ้าอาวาสเมื่อเขากับขึ้นไปบนเขา

เมื่อหลิงรันนวดไปถึงคนที่ห้าเขาสังเกตเห็นการแสดงออกของดงเฉินดังนั้นเขาจึงจงใจเปลี่ยนเทคนิคของเขาและใช้การจัดการไคโรแพรคติกสำหรับกระดูกสันหลังส่วนคอกับคนที่หก

เณรน้อยดงเฉินสมาธิหลุดไปครู่หนึ่งหลังจากที่หลิงรันเปลี่ยนเทคนิคแต่เขาก็รีบทำความเข้าใจอย่างรวดเร้ว

ชีวิตของเขาบนภูเขานั้นเรียบง่ายและน่าเบื่อหน่าย นอกเหนือจากการทำความสะอาดวัดเป็นประจำเณรน้อยดงเฉิน ใช้เวลาที่เหลือในการอ่านและทำธูป

ไม่ว่าจะด้วยเทคนิคใดมันก็ช่วยพัฒนาความสามารถของดงเฉินในการเรียนรู้ด้วยตนเองและที่สำคัญที่สุดคือความสามารถของเขาในการมีสมาธิ

หลิงรันดำเนินการจัดการไคโรแพรคติกให้กับกระดูกสันหลังส่วนคอในอีกไม่กี่คนและได้รับคะแนนที่ดี

ดงเฉิน สังเกตเขาอย่างจริงจัง

หลิงรันยังนวดอีกหลานรอบด้วยเหตุนี้เช่นกัน เขาขยายเวลาของเขาซึ่งแต่เดิมควรจะอยู่ที่สิบหน้าที่มันได้ขยายเป็นยีสิบหน้าที่

“นายเข้าใจเทคนิคหรือยัง” หลิงรันรีบถามเณรน้อย

“อ่า … อัตมาไม่ได้ตั้งใจ” เณรน้อยตกใจมาก

หลิงรันหัวเราะและพูดว่า “หากนายต้องการเรียนรู้นายสามารถยืนข้างหลังฉันได้”

“ให้อัตมา?”

“ แน่นอนการจัดการไคโรแพรคติกสำหรับกระดูกสันหลังส่วนคอนั้นง่ายมาก แต่วิธีการนั้นมีความหลากหลายฉันได้เรียนรู้วิธีการจัดการกับกระดูกที่สิบสามชนิด … ” หลิงรันกล่าวในขณะที่เขาใช้คอของคนที่ถูกนวดเป็นเสา

เณรน้อยฟังอย่างตั้งใจขณะที่ดวงตาของเขาเริ่มสำนึกผิดชอบชั่วดี

“ลองดูนะ” หลิงรันพูด เขาจับคอของตัวเอในการสาธิตให้ดู

เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาด้วยไคโรแพรคติกและอยู่ในอันดับที่สี่สิบสองในการจัดการด้านไคโรแพรคติกสำหรับกระดูกสันหลังส่วนคอ อันดับของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่เขาได้รับทักษะครั้งแรกมันเป็นเรื่องง่ายที่จะสอนให้กับเณรน้อยสำหรับเทคนิคระดับสูง

เณรน้อยเริ่มบีบคอตัวเองและเรียนรู้เทคนิคอย่างจริงจัง

หลังจากคลินิคตระกูลหลิงปิดสำหรับวันนี้หลังจากทานอาหาเย็นจนเสร็จและได้สาธิตการนวดของเขาให้เณรน้อยอีกทั้งทำการฝึกด้านการจัดกระดูกด้วยไคโรแพรคติกให้

“อืม … ไปทางซ้ายอีกหน่อย”

“ลองกดให้แรงอีกหน่อย”

“กดลงไป”

“อย่าถู”

หลิงรันหรี่ตาเบา ๆและสั่งเณรน้อยให้เก็บแรงไว้พรุ่งเขาต้องการผู้ช่วยในการทำการนวดในวันพรุ่งนี้