ตอนที่ 268 เรื่องราวโลลิในฮาเร็มที่ซับซ้อน

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

268 เรื่องราวที่ซับซ้อน

 

――นั่นคือตอนที่ฉันเริ่มเข้าใจว่าสิ่งต่าง ๆ มันไม่ง่ายอย่างนั้น

 

“ลูกพี่หญิง!”

 

“……หืม?”

 

หมอนี่ใครกัน ฉันรู้สึกเหมือนเคยเห็นเรื่องนี้มาก่อน แล้วใครกัน ลูกพี่หญิงที่ว่า ฉันเหรอ?

 

“ข้ามาอยู่ใต้การดูแลตามที่สัญญาไว้แล้ว!”

 

“สัญญา? การดูแล?”

 

……หมอนี่ใครกัน แล้วสัญญาแบบนั้น……ว่าไปแล้ว ตั้งแต่แรกแล้วเป็นสัญญาแบบไหนกัน? ฉันรู้สึกเหมือนฉันรู้จักใบหน้านี้หรือบางทีอาจจะเป็นเสียง

 

ไม่ไหว จำไม่ได้ล่ะ

 

“……อาเร๊ะ? หรือว่าบางที จะบังเอิญลืมข้าไปแล้วกัน?”

 

“อืม”

 

เมื่อฉันพยักหน้า――เขาก็พูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ

 

“ข้าเองไง ข้าเอง! เกนได นักวิวาทไง! คนที่เคยแอบเข้ามาในคฤหาสน์แล้วถูกทุบตี และเจอกันอีกทีที่ห้องขังไงล่ะ! ข้าในตอนนั้นไง!”

 

 …………

 

“อา!”

 

จำได้แล้ว

ใช่ใช่ ฉันจำชื่อและใบหน้าได้ไม่ชัดเจนนัก แต่ฉันจำได้ว่ามีชายคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่าเป็นนักวิวาท

 

“นักวิวาทที่ไม่เคยแพ้การต่อสู้!”

 

แต่เจ้าหมอนี่ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้นเลย!

 

“ใช่แล้วใช่แล้ว! ข้าเอง! ข้าเองไง ข้าเอง!”

 

อ้า ใช่ อืม งั้นเหรอ ฉันนึกออกได้ชัดเจนแล้ว ฉันรู้สึกเหมือนว่าควรต้องกังวลที่จำเรื่องนั้นได้ ฉันจำชื่อของนักวิวาทได้อย่างคลุมเครือ

 

……อาเร๊ะ? เดี๋ยวก่อนสิ?

 

“เอ๊ะ? แล้วทำไมถึงพึ่งโผล่มาล่ะ?”

 

ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันคือช่วงโจมตีตอนกลางคืน เมื่อกว่าปีที่แล้วใช่ไหม?? ไม่แปลกที่อาจจะลืมเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงปีกว่า ๆ ที่ผ่านมาแล้วได้

 

“ข้าไปทำให้ร่างกายบริสุทธิ์มาน่ะ! เพื่อเป็นลูกน้องของลูกพี่หญิงต้องทำตัวให้ซื่อสัตย์อย่างถูกต้องไม่ใช่เหรอ ต้องไม่ทำให้ลูกพี่หญิงอับอายด้วย!”

 

 …………

 

อ้า การทำให้ร่างกายบริสุทธิ์ หมายถึงไปชดใช้บาปมาหรือเปล่า เขาออกมาหลังจากได้รับโทษในข้อหาก่ออาชญากรรมไปใช่หรือเปล่า ……นี่คือผู้บุกรุกที่เข้ามาในคฤหาสน์ของฉันใช่ไหม?

 

“ฉันคิดว่าตอนนั้นคุณพูดแบบนั้น แต่ฉันอายุน้อยกว่าคุณจริงไหม?”

 

“มันไม่สำคัญเน๊! ข้าตัดสิใจที่จะเป็นลูกน้องหรือคนใช้ของคนที่แข็งแกร่างกว่าข้าอย่างท่วมท้น! ข้าจะขอติดตามไปตลอดชีวิต!”

 

 …………

 

ตอนที่ฉันพยายามคิดเรื่องต่าง ๆ ก็มีบุคคลแปลกหน้าปรากฏตัวขึ้น……

 

 

 

ตัดสินใจไปที่หมู่เกาะโจรสลัดอากาศ ทันทีที่ได้ยินเรื่องต่าง ๆ จากกัปตันลิกเนอร์

แต่เรายังอยู่ในช่วงกลางฤดูหนาว และยังไม่มีสัญญาณของฤดูใบไม้ผลิเลย

 

“――มิโตะ”

 

ระหว่างทางกลับบ้านจากโรงเรียน ฉันถูกนักวิวาทชื่อเกนไดจับไว้ ซึ่งอาจซุ่มรอฉันอยู่แล้ว และฉันก็ต้องกลับไปที่คฤหาสน์โดยไม่สามารถปฏิเสธเขาได้

 

……ฉันไม่เก่งในการรับสมัครคนเข้ามาฝึกงาน โตยปกติล่ะนะ

หากใครมีความปรารถนาที่จะแข็งแกร่งขึ้น ฉันจะเคารพความปรารถนานั้นและต้องการช่วยเหลือพวกเขา ฉันเป็นนักสู้เช่นนั้น

ฉันไม่ใช่ว่าไม่ชอบคนแบบนี้ คนประเภทที่เห็นได้ชัดว่าหมกมุ่นอยู่กับความแข็งแกร่ง โดยไม่สนใจว่าจะถูกหรือผิดเมื่อพูดถึงความแข็งแกร่ง ฉันคิดว่าเขามีบุคลิกแบบนักสู้จริง ๆ

 

ทว่า จังหวะเวลานั้นแย่มากในทุกแง่มุม ดังนั้น

 

“มาสู้กับเขาจนกว่าเขาจะพอใจที”

 

ฉันตัดสินใจทิ้งมิโตะซึ่งฝึกหอกอยู่เพียงลำพังไว้เป็นคู่ของเกนได

 

“อะ คะ เข้าใจแล้วค่ะ”

 

มิโตะเริ่มคุ้นเคยกับการฝึกนี้แล้ว เธอจึงไม่สับสน และไม่ถามด้วยซ้ำว่าคนนี้เป็นใคร

 

“เอ๊ะ? ข้ากับยัยหนูจิ๋วนี่น่ะเรอะ……?”

 

มิโตะและเกนได

เด็กผู้หญิงที่อายุยังไม่ถึงสิบปี และ ผู้ใหญ่ที่ตัวค่อนข้างใหญ่

 

มีความแตกต่างอย่างมากทั้งในด้านร่างกายและมวลกล้ามเนื้อ

 

แต่ก็เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น

 

“ใช่ ถ้าเอาชนะเด็กคนนี้ได้ จะเรียกฉันว่าลูกพี่หญิงก็ได้ตามใจเลย”

 

“หืม?”

 

หืม?

 

ตอนที่ฉันเงยหน้าขึ้นมองเกนได แล้วเลื่อนสายตาหันไปมองมิโตะ……อาเร๊ะ? ยังไงดีนั่นไม่ใช่รอยยิ้มปกติของเธอ มีบางอย่างแปลก ๆ เกี่ยวกับเธอ……

 

“เนียซามะ ช่วยยืนยันกับหนูทีได้ไหมคะ ถ้าหนูแพ้คน ๆ นี้ คน ๆ นี้จะเรียกเนียซามะว่าพี่สาวได้ตามใจเลยสินะคะ?”

 

“ใช่ แบบเหมือนเขาอยากเรียกฉันแบบนั้นแหละ เป็นคนแปลก ๆ เน๊ะ ทั้งที่ฉันอายุน้อยกว่าแท้ ๆ”

 

“นั่นสินะคะ เน๊”

 

……แปลกจังน๊า ยังไงดีฉันค่อนข้างกลัวรอยยิ้มของมิโตะ……แต่ ม๊า ช่างเถอะ

 

“มิโตะช่วยอ้อมมือทีเน๊ คนนี้อ่อนแอ・・・・”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ หนูจะพยายามทำตัวให้อ่อนโยนให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยค่ะ จะพยายามให้ดีที่สุดเลยค่ะ …………จะทำให้มั่นใจว่าจะไม่ได้ยินคำพูดหยาบคายนั้นอีก”

 

 …………

 

ฟังดูว่างเปล่าจังน๊า

 

มิโตะของฉันจะไม่พูดอะไรที่ป่าเถื่อนแบบนั้น ฉันคิดว่า ฉันได้ยินอะไรบางอย่างเหมือนกับเสียงกรีดร้องของเกนได แต่บางทีอาจเป็นเพียงจินตนาการของฉันก็ได้

 

 

 

และถึงจะมีคนเจ้าปัญหาปรากฎตัวเข้ามา แต่ตอนนี้ฉันมีเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่านั้นอยู่

 

ทันทีที่กลับเข้าถึงบ้าน ฉันก็ได้รับกอดต้อนรับของคาลัวที่รอฉันอยู่ และนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องนั่งเล่น จากนั้นซาคุมะและริโนคิสก็เข้ามาโดยไม่ต้องเรียกหา

 

“――ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่คาดเลยครับ ว่าเป็นไปไม่ได้ที่เราจะสามารถเข้าสู่หมู่เกาะโจรสลัดอากาศได้โดยใช้วิธีการปกติ”

 

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซาคุมะได้ใช้พลังของชิโนบาซเพื่อสำรวจหมู่เกาะโจรสลัดอากาศ

ทว่า เนื่องจากมาเวเลียปิดประเทศมาเป็นเวลานาน ทำให้ดูเหมือนว่าไม่สามารถรวมข้อมูลจากต่างประเทศได้มากนัก ยกเว้นข้อมูลที่สำคัญที่สุด

และตั้งแต่แรกแล้ว หมู่เกาะโจรสลัดอากาศก็ไม่ได้มีอาณาเขตที่ทำให้ต้องเผชิญหน้ากับมาเวเลีย ดังนั้นจึงเป็นที่แน่นอนว่ามีข้อมูลเพียงน้อยนิด

 

แล้วในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ก็ไม่มีทางที่ริโนกิสเองจะออกไปตรวจสอบได้ ดังนั้นเธอจึงมีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของฉัน――พวกเขาไม่อยากให้ฉันไปที่ หมู่เกาะโจรสลัดอากาศ แต่ก็อันตรายเกินไปที่จะปล่อยฉันไว้ตามลำพัง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องให้ร่วมมือกับฉัน 

 

“เหรอ เข้าไม่ได้สินะ”

 

ฉันคิดว่ามันจะง่าย แต่กลับกลายเป็นเรื่องยากอย่างน่าประหลาดใจ

 

ก่อนอื่นเลย ฉันจะเข้าไปลงที่หมู่เกาะโจรสลัดอากาศได้ยังไง

 

ดูเหมือนว่าเรืออื่นที่ไม่ใช่ของโจรสลัดอากาศจะถูกโจมตีเพียงเพราะแค่เข้าใกล้เกาะเท่านั้น 

สิ่งที่กัปตันลิกเนอร์พูดดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง และข้อมูลที่รับมาจากซาคุมะก็ได้รับการพิจารณาว่ามีความถูกต้อง

 

หากเรืออื่นที่ไม่ใช่ของโจรสลัดอากาศเข้าใกล้ ว่ากันว่าจะมีการโจมตีอย่างไม่หยุดยั้งจากเรือโจรสลัดอากาศของเกาะ ปืนใหญ่ และบัลลิซต้าที่ติดตั้งบนเกาะ รวมทั้งเทรบูเชต 

 

ฉันยังคงมั่นใจว่าฉันจะไม่ตาย แต่ก็ตามที่คาดไว้ มันยากนิดหน่อยที่จะต่อสู้บนท้องฟ้าในขณะที่ปกป้องเรือเหาะจากการโจมตีจากทุกทิศทาง

 

พูดโดยสรุปเลยคือ ถ้าฉันพยายามใช้เรือบุกจากด้านหน้า ฉันจะรอด แต่ลูกเรือจะตายไปพร้อมกับเรือ

ฉันไม่สามารถเคลื่อนไหวเรือเหาะได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นฉันจึงต้องมีลูกเรืออย่างแน่นอน อย่างน้อยก็จนกว่าเราจะถึงเกาะ

 

หากอย่างน้อยสามารถขึ้นฝั่งจากทางทะเลได้ ฉันอาจจะว่ายน้ำและแทรกซึมเข้าไปตามลำพัง แต่หมู่เกาะโจรสลัดอากาศเป็นกลุ่มเกาะลอยฟ้า ดังนั้นจึงไม่สามารถเข้าถึงจากทางทะเลได้

 

――เอาล่ะ ก่อนอื่นเราต้องคิดถึงวิธีลงจอดให้ได้ก่อน

 

“เรายังไม่ทราบจำนวนทาสและการปฏิบัติต่อพวกเขาค่ะ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยไปในพื้นที่นี้ ก็เป็นการยากที่จะทราบรายละเอียด”

 

กัปตันลิกเนอร์บอกว่าเขาไม่ได้ไปที่นั่นบ่อยนัก และครั้งสุดท้ายที่เขาไปคือเมื่อไม่กี่ปีก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง

ส่วนทาสนั้น เขาไม่ได้สนใจเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลย

 

จุดประสงค์ของฉันคือการปลดปล่อยทาส

พูดตามตรง ฉันคิดว่าพวกโจรสลัดอากาศมีตัวตนระดับเดียวกับชะมดที่บินได้ และฉันก็คิดว่าเป็นเรื่องดีที่จะทิ้งพวกมันลงทะเล

 

อย่างไรก็ตาม ฉันก็ถูกคัดค้านโดยริโนกิสที่บอกว่า 「ดิฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ค่ะ」

 

ไม่ใช่การคัดค้าน กลับกันนั่นเป็นข้อโต้แย้งต่างหาก

เธอบกว่าในระหว่างที่พวกเรากำลังโยนปลายด้านหนึ่งทิ้งลงทะเล จะมีพวกโจรสลัดที่วิ่งหนีพร้อมกับทาส หรือจับไปเป็นตัวประกันอย่างแน่นอน เป็นเรื่องที่มั่นใจได้เลย

 

ฉันมั่นใจว่าฉันสามารถรับมือกับผู้คนนับหมื่นที่บุกเข้ามาหาฉันได้ แต่ฉันไม่สามารถจัดการกับผู้คนที่หนีจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ เป็นไปไม่ได้สำหรับฉันที่จะจัดการเรื่องทั้งหมดด้วยตัวเอง

 

นอกจากนี้ พวกเขายังบอกกล่าวอีกว่าหากฉันใช้แค่ความรุนแรง ฉันอาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของทาสที่อาจมีความมั่นคงอยู่ในขณะนี้ได้

กล่าวโดยสรุป หากฉันแค่กระทำการรุนแรงโดยไม่ทราบสถานการณ์ภายใน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการทำอะไรผิดลู่ผิดทางไปหมด

 

――สรุปก็คือ นี่เป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยเพียงแค่มีความเข้มแข็งเท่านั้น

 

“เข้าไปสำรวจพื้นที่ ติดต่อชุมชนทาสที่อาจมีอยู่กระจัดกระจาย และดำเนินการให้เกิดการกบฏขึ้นพร้อมกัน――นั่นดูเหมือนจะเป็นทฤษฎีที่เป็นไปได้ที่สุดในตอนนี้ครับ

ยังไงก็ตาม เรื่องพวกนี้ไม่สำคัญใด ๆ เลยหากเราไม่สามารถลงจอดบนหมู่เกาะโจรสลัดอากาศได้ครับ ในทางกลับกัน เมื่อเราสามารถลงไปแล้ว เราอาจจะสามารถจัดการทุกอย่างในพื้นที่ได้เลย”

 

อุมุ……ฉันรู้สึกว่าซาคุมะพูดถูก

 

“นอกจากนี้ หากให้ผมแสดงความคิดเห็นส่วนตัวได้ ผมคิดว่านี่เป็นเป้าหมายที่เนียโอโจ้ซามะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง การใช้สมองเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ครับ”

 

ใช้สมอง……สินะ

 

แน่นอนว่าคงเป็นไปไม่ได้สำหรับคนอย่างฉันที่ยังต้องดิ้นรนกับการบ้านในแต่ละวัน ที่จะสร้างพันธมิตรและเตรียมพร้อมสำหรับการปลดปล่อยทาสอย่างระมัดระวังในสถานที่ที่มีศัตรูมากมายรอบตัวแบบนั้นล่ะสิน๊า

 

 

 

ฉันได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้ชายจากข้างนอก

ดูเหมือนว่ามิโตะจะเล่นกับเขาอย่างอ่อนโยน

 

――อ้า ถ้าหากสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการเพียงแค่ต่อยหรือเตะ เรื่องก็คงเร็วกว่านี้มาก

 

 

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

 

คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ 

{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}

 

ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ

ขอบคุณงับ

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

ไร้สาระ?

ไอ้ความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ จนจะกินอะไรก็เหมือนต้องฝืนกลืน พอเหมือนจะอ้วกก็อ้วกไม่ออกมาติดจุกอยู่ที่คอ ช่างเป็นอะไรที่ทำให้อึดอัดสุดๆเลยน้อ ให้อ้วกติดๆกันจนโล่งยังจะดีซะกว่า ได้แต่ดื่มน้ำไปยาวๆ