ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 28

ร็อบบี้น้อยทั้งตกใจทั้งกังวลก่อนจะลนลานคลานเข้าไปซ่อนตัวใต้เตียงนอน

หลังจากเห็นว่าร็อบบี้เข้าไปหลบเรียบร้อยแล้ว เจนสันจึงเดินไปเปิดประตูห้อง ใบหน้าหล่อเหล่าแต่กลับเรียบนิ่งจ้องมองไปยังพ่อของตน

เจย์ปรายตามองไปยังลูกชายจอมเย็นชาของตัวเองอย่างสงสัย ก่อนจะขมวดคิ้วอย่างงงวย ความน่ารักออดอ้อนเมื่อสักครู่หายไปไหนหมดแล้ว

ร่างสูงขยี้กลุ่มผมดำของลูกชายอย่างรักใคร่ ก่อนจะเอ่ยเพื่อไปทำงาน

“พ่อจะไปทำงานแล้ว เพราะฉะนั้นพี่เลี้ยงจะเป็นคนพาลูกไปโรงเรียน ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”

แม้ว่าดวงตาคู่ใสนั้นแสดงออกถึงความดื้อรั้นเมื่อได้ยินคำว่าโรงเรียน ทว่าเขาก็พยักหน้าตอบกลับไป ก่อนจะเอ่ยตอบสั้น ๆ “คะ—ครับ!”

ร่างสูงรับรู้ได้ถึงความลังเลใจของเด็กน้อยตรงหน้า ก่อนที่คำพูดของโรสจะผลุบเข้ามาในหัวเขา บางทีเด็ก ๆ และผู้ปกครองที่โรงเรียนอาจจะไม่ได้เป็นมิตรกับเจนสันขนาดนั้น เสียงติ๊งดังเตือนขึ้นภายในจิตใจของเจย์

กรอบบทบาทอันสูงส่งแทบพังทลายลงตรงหน้า หลังจากนั้นคนเป็นพ่อจึงเอ่ยปากถามลูกอย่างจริงจัง ‘’เจนสันบอกพ่อ ลูกไม่อยากไปโรงเรียนจริง ๆ ใช่ไหม?”

เด็กน้อยส่ายหัวไปมาก่อนจะเงียบลง

เจย์ถอนหายใจแผ่วเบา ทุกครั้งที่เขาคุยกับเจนสันแบบนี้ เด็กน้อยมักจะให้คำตอบเขาในท่าทีที่เหมือนไม่ใส่ใจเช่นนี้เสมอ

ร่างสูงมักจะคิดเสมอว่า ด้วยปัจจัยหลาย ๆ ด้าน รวมทั้งอำนาจในจุดที่ตนยืนอยู่ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาทำความรู้จักกับลูกของตน

ถึงอย่างนั้น เขาก็เลือกที่จะปิด และลืมมันไปเพื่อให้เจนสันได้สามารถใช้ชีวิตอย่างเด็กธรรมดา ๆ คนหนึ่งได้ แม้กระทั่งประวัติส่วนตัวจริง ๆ ของเจนสัน ตัวเขาเองก็ไม่ได้ส่งให้ทางโรงเรียน

เมื่อร่างสูงเดินลงมาจากชั้นสอง โรสก็ได้จัดการเก็บของเล่นต่าง ๆ หลากชิ้นให้เข้าที่เข้าทาง และเป็นระเบียบเรียบร้อย ทว่าเธอกลับสะดุ้งตกใจจนตัวโยน ครั้นหันกลับมาเจอเจย์ที่ยืนมองเธอหน้านิ่งจากทางด้านหลัง

“ท่านอาเรสคะ คุณต้องการให้ฉันช่วยอะไรหรือเปล่า?” โรสถามอย่างเอ่ยกลัว

“โรส ลอยล์ หยุดใช้ความรักจากแม่แบบผิด ๆ อย่างเธอกับเจนสันได้แล้ว เธอจะทำให้เจนสันแย่กว่าที่เป็นอยู่” ร่างสูงกัดฟันพูดอย่างกดอารมณ์

เจนสันเป็นเด็กที่อารมณ์ไม่คงที่ มันจะกลายเป็นเรื่องยากต่อการปรับตัวของเจนสัน

ร่างบางเอ่ยตอบ “การแสดงของเจนสันดีมากเลยใช่ไหมคะ? เด็กคนนั้นพูดเยอะขึ้นกว่าปกติเลย คุณว่าไหมคะ?”

เจย์คำรามเสียงต่ำก่อนเอ่ย ”เธอรู้ไหมโรส การแสดงของเจนสันอย่างกับคนป่วยทางจิต นี่ฉันต้องขอบคุณเธอจริง ๆ นะ คุณโรส ลอยล์ ฉันจะดูว่าเธอจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อฉันกลับมา” ร่างสูงปล่อยคำพูดที่โหดร้ายก่อนจะเดินออกไป

ร่างของโรสแทบทรุดเมื่อได้ยินคำว่า “จิตเภท” หรืออาการทางจิต ออกจากปากของคน ๆ นั้น

เจนสันคือลูกน้อยของเธออีกคนหนึ่ง ย่อมเป็นเรื่องปกติที่เธอหวังให้ลูกน้อยโตมาอย่างสมบูณ์ ถ้าการปรากฏตัวของเธอเป็นสาเหตุทำให้จิตใจของเจนสันย่ำแย่กว่าเดิม เธอคงไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้อีกต่อไป

“เจนสัน…”

หญิงสาวรีบกุลีกุจอวิ่งขึ้นไปยังชั้นสองของคฤหาสน์

เมื่อร็อบบี้น้อยได้ยินเสียงฝีเท้าของคนเป็นแม่ จิตใจของร่างน้อย ๆ นี่เริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“เจนสัน ฉันต้องไปแล้ว”

เด็กน้องรีบปีนหน้าต่างห้องอย่างรวดเร็วหลังเอ่ยจบ เจสันรีบวิ่งตามร็อบบี้ไปก่อนจะพูดทิ้งท้าย“เอาเบอร์โทรศัพท์ของนายมา!”

“ได้เลย” เด็กน้อยบอกเบอร์โทรก่อนที่เจนสันจะบันทึกมันไว้

ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

เสียงเคาะเรียกที่ประตูดังขึ้น

เจนสันรีบปิดบานหน้าต่างอย่างรวดเร็วก่อนที่จะเดินกลับมาที่ประตูห้องพร้อมเปิดมันออกไป

โรสจ้องไปที่ใบหน้าของหนุ่มน้อยตรงหน้าที่เปลี่ยนกลับมาเป็นเรียบเฉย เย็นชา เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมเจย์ถึงคิดว่าลูกของเธอเป็นโรคป่วยทางจิต

เจนสันมองไปยังหญิงสาวด้วยแววตาที่ต่างจากเดิม ครั้งนี้สายตาเย็นชาเหล่านั้นกลับเต็มไปด้วยการตรวจสอบพินิจพิจารณา

สุดท้ายแล้ว โรสก็คือคุณแม่ เป็นคุณแม่ที่เขาได้แต่เฝ้าหาคิดถึงอยู่ทุกวัน!

“เจน คุณพ่อบอกให้ฉันพาเธอไปโรงเรียนนะ” แม้ในใจลึก ๆ แล้วโรสไม่ได้ต้องการพาเจนสันไปโรงเรียนเลยซักนิด แต่เพราะนั้นคือคำสั่งของเจย์ เธอไม่สามารถเพิกเฉยได้เลย

และถึงแม้จะเป็นคำสั่งของคนปากร้าย เธอก็ยังอธิบายให้เจนสันรู้ว่าพ่อเขาไม่ได้เป็นคนใจร้ายแต่อย่างใด