บทที่ 191

แม้ว่าโกวต้านจะไม่สามารถระบุความแข็งแกร่งของคนในชุมนุมลับดวงตาเหล่านั้นได้ แต่ซีเว่ยมองเห็นได้จากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขา

“ปีศาจที่ฟักออกมาจากไข่ปีศาจ? ไม่สิ ไม่ใช่…พวกนี้มีพลังน้อยกว่าเซซิลที่ยังไม่ได้กลายเป็นปีศาจเต็มตัวซะอีก”

“ในปราสาทอินทรีเงิน การที่เซซิลถูกทําลายโดยแองโกร่าได้ง่าย ๆ เป็นเพราะไอเทมศักดิ์สิทธิ์ของแองโกร่ามีพลังของซีเว่ยและอัสลานผสานอยู่ หากผู้เล่นต้องสู้กับอะไรแบบนั้นโดยไม่มีไอเทมศักดิ์สิทธิ์ 80% ปาร์ตี้ของเอ็ดเวิร์ดจะถูกทําลายในทันที”

ในเวลานี้ แม้พวกชุมนุมลับดวงตาที่ตอนนี้กําลังไล่ตามโกวต้านจะมีกลิ่นอายปีศาจเหมือนกัน แต่จากมุมมองของซีเว่ย พวกเขาอ่อนแอกว่ามาก นั่นเห็นได้ชัดจากตอนที่คนเหล่านั้นยิงคลื่นพลังเวทมนต์ออกไปพร้อมกัน แต่ไม่สามารถฆ่าโกวต้านได้ในทันที

“ความสามารถในการต่อสู้โดยเฉลี่ยอยู่ที่เลเวล 28″

ซีเว่ยสรุป หลังจากสังเกตเห็นพลังของคนจากชุมนุมลับดวงตา และในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุปว่าคนเหล่านี้มีพลังทัดเทียมกับผู้เล่นชั้น 2 ของศาสนจักรเขา

แต่มันก็ไม่เท่ากันจริง ๆ หรอก เนื่องจากชุมนุมลับดวงตาทํางานในเงามืดมานานหลายปีแล้ว และยังกระจายตัวกันอยู่ทั่วทุกมุมของทวีปตะวันออก สมาชิกของพวกเขาต้องมีจํานวนมากจนน่าตกใจแน่ และหากคนส่วนมากมีพลังระดับนี้

เมื่อคิดแบบนั้น ซีเว่ยก็รู้สึกได้ถึงภัยคุกคามทันที

แต่มันน่าจะไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดนั้น เมื่อเขาคิดต่อไปอีกว่าพวกชุมนุมลับส่งคนที่มีมาตรฐานระดับนี้ออกมา เพื่อทําปฏิบัติการขโมยสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอลฟ์ ซึ่งเสี่ยงต่อการยั่วยุเอลฟ์ป่าทั้งหมด นั่นหมายความว่า พวกเขาอาจมีคนไม่มากที่มีความสามารถระดับนี้…

“แต่ปล่อยให้องค์กรที่ถูกควบคุมโดยพวกปีศาจปฏิบัติการอยู่บนโลกได้นานขนาดนี้ เทพพวกนั้นตาบอดไง?” ซีเว่ยพึมพําอย่างหงุดหงิดเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

แม้แต่เขา เทพเจ้าแห่งเกมที่พึ่งเกิดยังได้พบกับคนของชุมนุมลับดวงตาซ้ําแล้วซ้ําเล่า และครั้งหนึ่งเขาก็เคยอาศัยความแข็งแกร่งของผู้เล่นทําลายแผนการชั่วร้ายของชุมนุมลับ

แต่ก่อนหน้านั้นเทพตนอื่น ๆ ดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็นหรือแม้กระทั่งรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของพวกสชุมนุมลับเลย!

แต่ถ้าลองมาคิดดู สถานการณ์แบบนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติในโลกที่บิดเบี้ยวใบนี้

ท้ายที่สุดโลกใบนี้หมุนรอบเทพเจ้า สําหรับเทพเจ้าและศาสนาต่าง ๆ การต่อสู้เพื่อศรัทธาถือเป็นเรื่องสําคัญที่สุด ในขณะที่เทพเจ้ายุคดึกดําบรรพ์แต่ละองค์นั้นเป็นพวกสันโดษที่ไม่ต้องการศรัทธาเพื่อการดํารงอยู่

นั่นหมายความว่า ไม่มีเทพเจ้าอื่นใดนอกจากอัสลานเทพเจ้าแห่งความยุติธรรม สนใจองค์กรเบ็ดเตล็ดอย่างชุมนุมลับดวงตาที่ไม่มีศรัทธาต่อสิ่งใด และไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาเป็นกลุ่มคนสุ่ม ๆ ที่อนุญาตให้บุคคลใด ๆ หรือผู้ศรัทธาศาสนาใด ๆ เข้าร่วมได้

และชุมนุมลับดวงตาก็ตระหนักดีถึงสถานการณ์ของตนเช่นกัน พวกเขาเข้าใจดีว่าศาสนจักรจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อพวกเขาอย่างไร และใช้ประโยชน์นี้ดึงดูดผู้ศรัทธาจากศาสนาอื่น ๆ มาเสริมสร้างองค์กรของตน พวกเขาจะระมัดระวังเฉพาะศาสนาที่คอยทําลายความชั่วร้ายเช่นวิหารแห่งความยุติธรรม พวกเขาจะคอยหลบหลีกและป้องกันปฏิบัติการของตนจากอัสลานไม่ให้ตรวจพบสิ่งที่พวกเขาทํา

กลับกัน เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่กลัวผู้เล่น เนื่องจากศาสนจักรแห่งเกมของซีเว่ยเป็นศาสนาที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่โดยไม่มีรากฐานใด ๆ พวกเขาส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะฆ่าปิดปากผู้เล่นคนใดก็ตามที่สะดุดเข้ากับแผนการของพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ และปกติแล้วผู้เล่นก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะกลัวและหนีหายไปหลังจากถูกรังแก ทําให้พวกเขาคอยขัดแย้งกับชุมนุมลับดวงตาอยู่เสมอ

“แต่เควสของโกวดําก็นับได้ว่าเสร็จสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้มาเริ่มเควสต์ต่อเนื่องกัน ‘ซีเว่ยคิดและส่งพลังงานเทพเจ้าลงไปยังดินแดนเบื้องล่างอย่างลับ ๆ

[ติ้ง!]

[เควสเสร็จสิ้น: สมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอลฟ์ สําเร็จ]

[ปลดล็อคเควสเสริม: สมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอลฟ์ II]

[คุณได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของผู้ร้ายแล้ว นั่นคือชุมนุมลับดวงตา(อีกแล้ว) แม้ว่าคุณจะไม่รู้ว่าพวกเขาวางแผนจะทําอะไรกับสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอลฟ์ แต่มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ นอกจากนี้คุณก็น่าจะสัมผัสได้ถึงพลังงานอันชั่วร้ายที่เล็ดรอดออกมาจากร่างกายของพวกเขา และเข้าใจว่าพวกเขากําลังถูกกัดกร่อนโดยพลังงานปีศาจ พวกเขากลายเป็นปีศาจและไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป เพื่อปกป้องสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอลฟ์ คุณต้องรวมพลังกันเอาชนะปีศาจที่ชั่วร้ายนี้โดยเร็วที่สุด]

[เป้าหมายของภารกิจ: สังหารปีศาจ (0/21) เรียกคืนสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอลฟ์ (0/1)]

[รางวัลเควส: ปลดล็อกเควส “สมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอลฟ์ III EXP เหรียญเกม และไอเทมแรร์: ซองธนูของเอลฟ์]

(หมายเหตุ: “ปีศาจไม่สามารถหยุดคุณได้อีกต่อไป เร็วเข้าเยาวชนที่กล้าหาญ สร้างปาฏิหาริย์ของคุณ. ]

ในขณะที่เขากําลังหนี โกวต้านก็สังเกตเห็นข้อความแจ้งเตือนเควสเขาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจเมื่อเห็นเควสเข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 แล้ว

และเขาก็ประหลาดใจยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็นรายละเอียดเควสที่ว่า คุณต้องรวมพลังกันเอาชนะปีศาจที่ชั่วร้ายโดยเร็วที่สุด” หมายความว่าเขาคิดถูกแล้วที่ลากสัตว์ประหลาดเหล่านี้ไปหาเอ็ดเวิร์ดและคนอื่น ๆ !

ตามที่คาด ข้าตัดสินใจได้ถูกต้องแม้จะเผชิญกับสถานการณ์ฉุกเฉิน!

เมื่อเขาเปลี่ยนร่างเป็นเสือดาวอีกครั้ง โควต้านก็รู้สึกว่าขนของเขาสดใสขึ้น

ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกหนักใจเล็กน้อยกับเป้าหมายเควส

“เรียกคืนสมบัติ…พูดง่าย…”

คลื่นพลังของศัตรูได้ระเบิด HP ของเขาไปครึ่งหนึ่งทั้งที่เขาอยู่ในร่างปีศาจหมีดินที่มีพลังป้องกันสูงที่สุด กลับกันถ้าเขายังฝืนทนต่อไปและเข้าไปช่วยเด็กคนนี้ออกมา เขาคงจะต้องเปลี่ยนชื่อที่ท่านซีเว่ยตั้งให้เป็นหมาตายถ้าเขายังอยู่นานกว่านั้นอีก 3 วิ

ดูเหมือนเขาจะต้องให้เอ็ดเวิร์ดและคนอื่น ๆ ช่วย ถ้าเขาต้องการทําเควสให้สําเร็จ

“ที่บอกว่าหอกศักดิ์สิทธิ์เซฟาริมเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเอลฟ์ นั่น…ความแตกต่างระหว่างสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์กับอาวุธสวรรค์นั้นสูงมากจริง ๆ”

นั่นคือสิ่งที่โกวตนคิดเมื่อเขานึกถึงนิ้วเท้ายักษ์ของโจที่โจกอดนอนทุกคืนและ AWM ของเขาที่ยังไม่ได้รับมา

“ข้ายังไม่รู้ว่าเซฟาริมมีความสามารถอะไร…”

แม้ว่าไอเทมในตํานานที่ผู้เล่นได้รับจากการฆ่าสัตว์ประหลาดจะนับว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์และมีค่าสถานะสูงเช่นกัน และที่พิเศษสุดเกี่ยวกับมันนั่นคือพวกมันจะแข็งแกร่งไปพร้อมกับผู้ใช้ ซึ่งเป็นอาวุธประเภทที่เติบโตได้

แต่แน่นอนว่าสําหรับคนที่มีทั้งเงิน วัสดุ และอุปกรณ์ พวกเขาสามารถอัพเกรดไอเทมได้อย่างต่อเนื่องด้วยการตีบวก สําหรับคนเหล่านี้ ไม่ว่าไอเทมใด ๆ ก็ถือว่าเติบโตได้ทั้งนั้น

ในเสี้ยววินาทีถัดมาโกวต้านก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ หัวใจของเขาเต้นแรงและร่างกายของเขาก็สั่นกับว่าสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวบางตัวกําลังเข้ามาใกล้เขา