ตอนที่ 213 องค์ชายก่อเรื่องชุลมุน (1)

หวนคืนชะตาแค้น

ใน​ค่ำคืน​อัน​เงียบสงัด​ ​อากาศ​เย็นยะเยือก​ดั่ง​นที

ยามค่ำคืน​ไร้​ผู้คน​ ​ใน​พระตำหนัก​ฉิน​เจิ​้ง​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ไม่ได้​เรียก​สนม​มาป​รน​นิ​บัติ​ ​แต่ทว่า​พระองค์​กลับ​ยัง​มิท​รง​พักผ่อน

“​ฝ่า​บาท​ ​โหร​ว.​..​มู่​เฟย​หลวน​สิ้นใจ​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​เงาดำ​โผล่​เข้ามา​ใน​พระตำหนัก​พร้อม​กราบทูล​อย่างนอบน้อม​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​กลับ​ไม่ได้​มีท​่า​ที​ตกใจ​อะไร​ ​พระพักตร์​ไม่​ปรากฏ​ท่าที​เกรี้ยว​โกรธ​เลย​สักนิด​ ​เพียงแต่​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​อย่างนั้น​หรือ​ ​คน​ของ​ใคร​กัน​”​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​เข้าใจ​มู่​เฟย​หลวน​ดี​ ​มู่​เฟย​หลวน​ไม่มี​ความกล้า​จะ​ฆ่าตัวตาย​ได้​แน่นอน​ ​หลาย​วัน​มานี​้​อาการ​ร่อแร่​เต็มที​ ​หาก​นาง​อยาก​ตาย​คง​ตาย​ไป​นาน​แล้ว

“​…​น่าจะเป็น​คน​ของ​กง​อ๋อง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​เงาดำ​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​แต่​ก็​ยัง​เอ่ย​ตาม​ความจริง​อย่าง​ซื่อสัตย์

“หืม​ ​กง​อ๋อง​หรือ​ ​เขา​ข่มอารมณ์​ไว้​ไม่ได้​แล้ว​สิท​่า​ ​หลาย​วัน​มานี​้​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​ได้​ไป​เยี่ยม​มู่​เฟย​หลวน​หรือไม่​เล่า​”

คน​ชุด​ดำ​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​ไปมา​ครั้งหนึ่ง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​พูด​ไม่​กี่​ประโยค​องค์​หญิง​ก็​กลับ​แล้ว​ ​ตอนนั้น​…​เหมือน​สีหน้า​ของ​องค์​หญิง​จะ​ไม่ดี​เท่าไร​นัก​”​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​พยักหน้า​อย่าง​พอ​พระทัย​ ​“​หมิง​เจ๋อ​เป็น​เด็ก​ฉลาด​รู้คุณ​คน​ ​ไม่ต้อง​สนใจ​นาง​หรอก​ ​ออก​ไป​เถิด​”​ ​ถึงแม้​จะ​ตกใจ​กับ​ความเชื่อ​ใจ​และ​ความ​โปรดปราน​ที่​ฮ่องเต้​แคว้น​หวามี​ต่อ​องค์​หญิง​หมิง​เจ๋อ​ ​แต่​คน​ชุด​ดำ​ฉลาด​มาก​พอ​จึง​ไม่ได้​ถาม​ซักไซ้​อะไร​ต่อ​ ​เพียงแต่​ขานรับ​ด้วย​เสียง​ที่​เคารพ​ยำเกรง​เท่านั้น

คน​ชุด​ดำ​จากไป​อย่างรวดเร็ว​ไม่​ต่าง​จาก​ตอน​ปรากฏตัว​มา​อย่าง​เงียบๆ​ ​เมื่อ​ครู่​ ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ก้มหน้า​อ่าน​สาร​ใน​มือ​ต่อ​ ​ทว่า​สักพัก​ก็​ชะงัก​ไป​แล้ว​เอ่ย​เสียง​นิ่ง​ว่า​ ​“​สอง​ปี​มานี​้​…​กง​อ๋อง​ทำตัว​ได้ใจ​เกินไป​กระมัง​”​ ​ขันที​ผู้ดูแล​ที่​คอย​ยืน​รับใช้​อย่างนอบน้อม​ไม่​ไกล​จาก​เขา​นัก​ก้มหน้า​ลง​ไม่กล้า​พูด​อะไร​ ​ฝ่า​บาท​อยาก​ตรัส​อะไร​ก็​ย่อม​ได้​ ​แต่​ข้า​รับใช้​อย่าง​พวกเขา​ใช่​ว่า​จะ​ขานรับ​อะไร​ได้​ตามใจชอบ​สักหน่อย​ ​ในเมื่อ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​เอง​ก็​ไม่ได้​อยาก​ฟัง​คำ​ชี้แนะ​ของ​ใคร​ ​พระองค์​ก็​ไม่ได้​สนใจ​ ​เพียงแค่​แค่น​เสียง​เบา​ที​หนึ่ง​แล้ว​ไม่ได้​ตรัส​อะไร​อีก​

ใน​เรือนรับรอง​หมิง​ฟัง​ ​มู่​ชิง​อีนั​่​งอยู​่​ตรง​บานหน้าต่าง​พร้อม​ลูบไล้​แหวน​หยก​ขาว​บน​นิ้ว​อย่างเบามือ​ ​ผ่าน​ไป​นาน​ถึง​หันไป​มอง​เนี่ย​อวิ​๋​นที​่​ยืน​อยู่​ตรง​ประตู​แวบ​หนึ่ง​ ​“​มู่​เฟย​หลวน​ตาย​แล้ว​หรือ​”

เนี่ย​อวิ​๋​นพ​ยัก​หน้า​โดย​ไม่​พูด​อะไร​พลาง​มอง​แววตา​ที่​แสน​ซับซ้อน​ของ​สาวน้อย​ตรงหน้า​ ​สาวน้อย​ท่าที​สงบ​ผู้​นี้​สามารถ​คาดเดา​เรื่อง​ทั้งหมด​ได้​อย่างชัดเจน​ ​กระทั่ง​ยัง​เดา​เรื่อง​ที่ว่า​กง​อ๋อง​เป็น​คน​ลงมือ​จัดการ​มู่​เฟย​หลวน​ได้​ด้วย​สติปัญญา​เช่นนี้​ ​มิน่าเล่า​ถึง​ทำให้​มู่​หร​งอ​วี​้​เจอ​อุปสรรค​รอบด้าน​ ​เพียงแต่​สติปัญญา​อัน​ชาญฉลาด​นี้​กลับ​ชวน​ให้​เนี่ย​อวิ​๋น​แอบ​กังวลใจ​ลึก​ๆ​ ​เพราะ​บางที​…​อาจ​ฉลาด​เกินไป​จน​แพ้ภัยตัว​เอง​ได้

“​ฝ่า​บาท​ส่ง​คน​ไป​ตำหนัก​เย็น​ด้วย​หรือ​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​ถาม

เนี่ย​อวิ​๋​นพ​ยัก​หน้า​ ​ฝ่า​บาท​ทรง​ส่ง​คน​ไป​ตำหนัก​เย็น​จริง​แต่กลับ​ไม่ได้​ช่วย​มู่​เฟย​หลวน​ไว้​ ​เพราะ​ท่าที​ไร้ค​วาม​ปรานี​ของ​ฝ่า​บาท​เช่นนี้​เลย​ทำให้​เนี่ย​อวิ​๋น​ยิ่ง​ใจสั่น​สะท้าน​ ​ไม่ว่า​มู่​เฟย​หลวน​จะ​เคย​ทำ​ใคร​ไว้​ ​แต่​นาง​ก็​เป็น​ถึง​สนม​คนโปรด​ของ​พระองค์​มา​หลาย​ปี​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​เคย​ตั้งครรภ์​หน่อเนื้อเชื้อไข​ของ​พระองค์​ด้วย​ ​ทว่า​ฝ่า​บาท​กลับ​ยอมให้​คนอื่น​ฆ่า​นาง​ทิ้ง​ได้

ด้วย​วิทยา​ยุทธ์​ของ​เนี่ย​อวิ​๋น​แล้ว​ ​หาก​เขา​ไม่​อยาก​ให้​ใคร​สังเกตเห็น​เขา​ ​ต่อให้​เป็น​องครักษ์​คนสำคัญ​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​ก็​ไร้​หนทาง​จะ​สังเกตเห็น​ร่องรอย​ของ​เขา​ได้​ ​ไม่ว่า​จะ​องครักษ์​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​หวา​หรือ​คนที​่​มู่​หร​งอ​วี​้​ส่ง​ไป​ฆ่า​มู่​เฟย​หลวน​ต่าง​ก็​ไม่มีใคร​รู้​ว่ายั​งมี​อีก​คน​อยู่​ใน​เหตุการณ์​นั้น​ด้วย​เช่นกัน​ ​บางที​…​การตาย​ของ​มู่​เฟย​หลวน​อาจจะ​ไม่ได้​โดดเดี่ยว​อย่างที่​นาง​คิด​เสีย​แล้ว

“​ไม่เลว​เลย​”​ ​มู่​ชิง​อี​คลี่​ยิ้ม​บาง​กล่าว​ ​“​อิ​๋ง​เอ๋อร​์​ ​อย่า​ลืม​เอา​ข่าว​นี้​…​ไป​บอก​ท่าน​พ่อ​สักหน่อย​ล่ะ​”

อิ​๋ง​เอ๋อร​์​ที่อยู่​ข้าง​กาย​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​สดใส​กล่าว​ ​“​บ่าว​จำได้​ขึ้นใจ​แล้ว​ ​คุณหนู​วางใจ​ได้​เลย​เจ้าค่ะ​”​ ​มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​แล้ว​เงยหน้า​เหม่อมอง​พระจันทร์​ครึ่ง​เสี้ยว​นอก​หน้าต่าง​ ​จากนั้น​ก็​เอ่ย​อย่าง​เศร้าใจ​ว่า​ ​“​แต่​…​ด้วย​นิสัย​ของ​ท่าน​พ่อ​ ​เกรง​ว่า​พี่​หญิง​ใหญ่​คง​ตาย​อย่าง​ไม่เป็นธรรม​นัก​”​ ​มู่​ฉัง​หมิง​อาจ​ยอม​ทรยศ​เพื่อมู​่​เฟย​หลวน​และ​องค์​ชาย​ตัว​น้อย​ที่​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​แต่​ไม่มีทาง​หักหลัง​มู่​หร​งอ​วี​้​เพราะ​มู่​เฟย​หลวน​ที่​ตาย​ไป​แล้ว​แน่นอน

“​คุณหนู​ ​ต้องการ​ให้​พวกเรา​ใส่​สี​ตี​ไข่​หน่อย​หรือไม่​เล่า​”​ ​อิ​๋ง​เอ๋อร​์​ขยิบ​ดวงตา​งดงาม​พลาง​เอ่ย​ถาม

มู่​ชิง​อีส​่า​ยศีร​ษะ​กล่าว​ ​“​ช่างเถิด​ ​เกิน​ความพอดี​ไป​”

หลาย​วัน​มานี​้​มู่​อวิ​๋น​หรง​ใช้ชีวิต​ใน​วัง​ไม่​ค่อย​ดีนัก​ ​แต่ไหนแต่ไรมา​นาง​เอง​ก็​เป็น​คนขี้ขลาด​ตาขาว​อยู่​แล้ว​ ​เหตุ​ที่​เมื่อก่อน​นาง​กล้า​รังแก​มู่​ชิง​อีก​็​เพราะ​อาศัย​ความ​เป็น​บุตรสาว​คนโปรด​ของ​บิดา​มารดา​และ​ความอ่อนแอ​เรี่ยวแรง​น้อย​ของ​มู่​ชิง​อีก​็​เท่านั้น​ ​บัดนี้​กลับ​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​วัง​ซึ่ง​แทบ​ไม่รู้​จัก​ใคร​เลย​เพียงลำพัง​ ​แม้แต่​พี่สาว​อันเป็น​ที่พึ่ง​หนึ่งเดียว​ของ​นาง​ยัง​มาตา​ยอย​่า​งอนาถ​โดย​กะทันหัน​เช่นนี้​อีก​ ​มู่​อวิ​๋น​หรง​ไม่ได้​หยิ่งผยอง​อย่าง​เฉกเช่น​ปกติ​ ​ทว่า​กลับ​ดู​ไร้​ชีวิตชีวา​และ​อ่อนแอ​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​ขี้ระแวง​ราวกับ​ไม่ว่า​ใคร​ก็​ทำให้​นาง​อกสั่นขวัญแขวน​ได้​ทั้งนั้น​ ​สิ่ง​ที่​สำคัญ​กว่านั​้​นก​็​คือ​ไม่รู้​ว่า​ใคร​เป็น​คน​ส่งข่าว​บอก​นาง​ว่า​ ​พี่​หญิง​ใหญ่​ไม่ได้​ฆ่าตัวตาย​แต่​ถูก​กง​อ๋อง​และ​อวิ​๋​นกุ​้ย​เห​ริน​ฆ่า​ตาย​ต่างหาก​!

วันนี้​มู่​ชิง​อี​เตรียม​พา​อิ​๋ง​เอ๋อร​์​ออกจาก​วัง​ ​ทว่า​กลับ​ถูก​มู่​อวิ​๋น​หรง​ที่​ไม่รู้​ว่า​โผล่​มาจาก​มุม​ไหน​พุ่ง​เข้ามา​ขวาง​เอาไว้​ก่อน​ ​ ​มู่​อวิ​๋น​หรง​ปรากฏ​สีหน้า​กระวนกระวาย​และ​ขาวซีด​ราว​คนละ​คน​กับ​คุณหนู​สาม​ของ​จวน​ซู่​เฉิง​โหว​ที่​โอหัง​เอาแต่ใจ​ใน​ยาม​ปกติ​อย่าง​สิ้นเชิง

“​พี่​หญิง​สาม​?​”

“​น้อง​หญิง​สี่​ ​ขอร้อง​ช่วย​พา​ข้า​ออก​ไป​จาก​วัง​ที​!​”​ ​มู่​หร​งอ​วิ​๋น​ดึง​แขน​เสื้อ​เอ่ย​ด้วย​ท่าที​ร้อนใจ​โดย​ไม่สน​อะไร​ในเวลานี้​แล้ว

มู่​ชิง​อี​เลิก​คิ้ว​ถาม​ ​“​พี่​หญิง​สาม​ต้อง​เรียน​เรื่อง​ธรรมเนียม​มารยาท​ใน​วัง​มิใช่​หรือ​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ข้า​เอง​ก็​ไม่มี​สิทธิ์​พาจ​วิ​้น​จู่​ออกวัง​ด้วย​”​ ​มู่​อวิ​๋น​หรง​ส่ายหน้า​ด้วย​ท่าที​ลุกลน​ ​“​ขอร้อง​เจ้า​ล่ะ​ ​พา​ข้า​ออกจาก​วัง​ที​เถิด​ ​ข้า​อยาก​กลับ​จวน​…​ข้า​จะ​ไป​เกี่ยวดอง​อย่างว่า​ง่าย​ ​ข้า​จะ​ไม่​เอะอะโวยวาย​อะไร​อีก​ ​ข้า​จะ​ฟัง​เจ้า​ทุกอย่าง​เลย​ ​ได้​โปรด​พา​ข้า​กลับ​จวน​ที​เถิด​”

มู่​ชิง​อีก​วาด​ตาม​อง​มู่​อวิ​๋น​หร​งด​้วย​ท่าที​สงบ​ ​ครั้น​เห็น​ความ​อ่อนล้า​และ​หวาดผวา​ที่​ยาก​จะ​ปิด​ไว้​ได้​ก็​รู้​เลย​ว่า​สอง​วัน​มานี​้​นาง​ขวัญเสีย​ไม่น้อย​ ​ความจริง​สำหรับ​สาวน้อย​ที่อยู่​ภายใต้​การปกป้อง​ของ​พ่อแม่​ ​ไม่เคย​ผ่าน​เรื่อง​เลวร้าย​ใด​เลย​ ​เรื่อง​ที่​ถาโถม​เข้ามา​ใน​หลาย​วันนี้​สำหรับ​มู่​อวิ​๋น​หรง​แล้ว​นับว่า​หนักหนา​พอควร​ ​ในเมื่อ​เรื่อง​ที่​ทำให้​มู่​อวิ​๋น​หร​งก​ลัด​กลุ้มใจ​มาก​ที่สุด​ก่อนหน้านี้​ก็​แค่​กลัว​ว่า​หนิง​อ๋อง​จะ​แอบ​ถูกใจ​แม่นาง​คนใด​เข้า​หรือไม่ก็​เท่านั้น

“​ขอโทษ​ด้วย​พี่​หญิง​สาม​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​เสียง​เรียบ

มู่​ชิง​อี​ไม่ยอม​แต่​มู่​อวิ​๋น​หร​งก​ลับ​ตัดสินใจ​แล้ว​ว่า​จะ​หนี​ออกจาก​วัง​หลวง​ที่​แสน​น่ากลัว​นี้​ไป​ให้​ได้​ ​ในเมื่อ​มู่​ชิง​อี​เป็น​เพียง​ความหวัง​เดียว​ของ​นาง​ย่อม​ไม่มีทาง​ยอมแพ้​ง่ายๆ​ ​อยู่​แล้ว​ ​ระหว่าง​ที่​พวก​นาง​ถกเถียง​กัน​อยู่​นั้น​ ​หรง​เฟ​ยก​็​พา​คน​ค่อยๆ​ ​สาวเท้า​เดิน​เข้ามา​หา​แล้ว​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​องค์​หญิง​ ​ฮองเฮา​ได้ยิน​มา​ว่า​สอง​วันนี้​เหอ​หรงจ​วิ​้น​จู่​จิตใจ​ฟุ้งซ่าน​นัก​เลย​ทรง​อนุญาต​ให้​กลับ​จวน​ได้​สอง​สาม​วัน​ ​องค์​หญิง​พาจ​วิ​้น​จู่​ออกจาก​วัง​ไป​ได้​ ​ไม่เป็นไร​หรอก​”​ ​เรียก​ได้​ว่า​หลาย​วัน​มานี​้​หรง​เฟย​ได้ใจ​ไม่น้อย​ ​ศัตรู​ตัวฉกาจ​อย่าง​มู่​เฟย​หลวน​ตาย​แล้วจึง​ทำให้​หรง​เฟ​ยอา​รมณ์​ดี​ไม่​หยอก​ ​ถึงแม้​จะ​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​ฮองเฮา​ให้​มาส​่ง​ข่าว​หยุมหยิม​พวก​นี้​แต่กลับ​ไม่ได้​ทำให้​อารมณ์ดี​ๆ​ ​ของ​นาง​ลดน้อยลง​เลย​ ​กระทั่ง​หรง​เฟ​ยพ​ลอย​คิด​ไป​ว่าความ​เปลี่ยนแปลง​ทุกอย่าง​เกิดขึ้น​หลังจาก​มู่​ชิง​อี​เข้ามา​ใน​วัง​ ​ดังนั้น​ยาม​เผชิญหน้า​กับ​มู่​ชิง​อี​เลย​แสดงท่าที​สนิทสนม​มากขึ้น​ไป​อีก​

มู่​ชิง​อี​ผงะ​เล็กน้อย​ ​ก่อน​จะ​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​เช่นนั้น​ต้อง​ขอ​ขอบ​พระทัย​ฮองเฮา​และ​หรง​เฟ​ยมาก​เพ​คะ​ ​ชิง​อีน​้​อมรั​บบัญ​ชา​”​

พอ​มู่​อวิ​๋น​หรง​ได้ยิน​หรง​เฟ​ยพูด​เช่นนั้น​ก็ดี​อก​ดีใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ไม่​แม้แต่​จะ​เอ่ย​ขอบ​พระทัย​ก็​รีบ​ลาก​มู่​ชิง​อี​ไป​ทาง​ประตู​วัง​แล้ว​ ​หรง​เฟ​ยม​อง​หญิงสาว​สอง​คนที​่​รีบร้อน​จากไป​พลาง​เลิก​คิ้ว​ ​พวก​นาง​ล้วน​เป็น​บุตรสาว​ของ​จวน​ซู่​เฉิง​โหว​ ​ไม่​แปลกใจ​ที่​คน​หนึ่ง​ถึง​ถูก​ฝ่า​บาท​รักใคร่​ดั่ง​ลูกในไส้​ ​ทว่า​อีก​คน​กลับ​มี​จุดจบ​ต้อง​ไป​เกี่ยวดอง​ต่าง​แคว้น​ ​ลำพัง​แค่​ดู​อากัปกิริยา​ก็​รู้​แล้ว​ว่าต่าง​กัน​แค่ไหน