บทที่28 ข้าเลี้ยงเจ้าเอง

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่28 ข้าเลี้ยงเจ้าเอง

หยุนถิงไม่สนใจสายตาที่ดูถูก รังเกียจ รำคาญและสงสัยของทุกคน เลือกเสื้อผ้าเรียบง่ายในร้านเสื้อผ้า แล้วเลือกซื้อให้เยว่เอ๋อร์ด้วย ก็ถึงพาซูชิงโยวออกไป

หยุนถิงหาที่เงียบๆ แล้วเริ่มทำการตรวจสอบหนองบนใบหน้าซูชิงโยว: “ข้าทำแผลให้เจ้าก่อนนะ ทายาก่อน จำไว้ว่าอย่าให้แผลโดนน้ำเด็ดขาด พรุ่งนี้ข้าจะไปรักษาเจ้าที่บ้าน”

“ได้ ต้องให้ข้าเตรียมอะไรไว้ไหม?” ซูชิงโยวถาม

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวข้าจะเตรียมไปเอง” หยุนถิงเอาสำลีกับยาแดงออกมาจากมิติฆ่าเชื้อให้นาง

ซูชิงโยวเจ็บจนขมวดคิ้ว ถึงแม้ตอนแรกจะแสบๆ แต่หลังจากนั้นไม่รู้ว่าหยุนถิงทาอะไรให้นาง รู้สึกได้ถึงความเย็นสบาย ทำให้นางรู้สึกไม่คันที่แผลมากเท่าไหร่ และดีขึ้นเยอะมาก

หยุนถิงยื่นยาฆ่าเชื้อให้นาง: “ของสิ่งนี้ดีต่อแผลเจ้า อาจจะไม่เหมือนกับยาที่เจ้ากินเมื่อก่อน กินกับน้ำหลังอาหาร วันละสามครั้ง ครั้งละสองเม็ด ครีมนี้ทาวันละสองสามครั้งก็พอแล้ว ผ่านไปสองสามชั่วโมงทาครั้งหนึ่ง สามวันหลังจากนั้นข้าจะไปรักษาแผลที่บ้านเจ้า

อาหารที่เจ้ากินเมื่อก่อนไม่ต้องกินแล้ว ระหว่างที่ข้ารักษาเจ้า เจ้าต้องกินอาหารรสอ่อน ห้ามกินเผ็ดเค็มหรือมันเกินไป เวลากินอะไรก็เอาเข็มเงินทดสอบยาพิษก่อน พวกเครื่องหอมก็ไม่ต้องใช้แล้ว”

“ข้าจำไว้แล้ว คำขอบคุณคงเบาเกินไป ต่อไปหากเจ้ามีอะไรให้ข้าช่วยก็บอกมาได้เลย ข้าจะไม่ปฏิเสธเด็ดขาด” ซูชิงโยวพูดอย่างซาบซึ้งใจ

หยุนถิงสั่งนางเสร็จแล้ว ก็พาเยว่เอ๋อร์ออกไปทันที

“คุณหนูจะรักษาแผลบนใบหน้าให้คุณหนูซูจริงเหรอเจ้าคะ?” เยว่เอ๋อร์ถามอย่างเป็นกังวล

“แน่นอนสิ ข้าจะรอให้ยัยสวยแต่รูปจูบไม่หอมสองคนนั้นมาหน้าแตกอยู่นะ” หยุนถิงตอบ

เยว่เอ๋อร์ก็อดไม่ได้หัวเราะออกมา ทั้งสองเดินเที่ยวอีกสักพัก เดินจนเหนื่อยแล้วก็ถึงกลับจวนซื่อจื่อกัน

พ่อบ้านเห็นพวกนางกลับมา ก็รีบให้คนไปรายงานซื่อจื่อ จากนั้นก็ยกชามา: “ฮูหยิน ท่านเดินเที่ยวทั้งวันคงจะเหนื่อยแย่ นี่เป็นชาหลงจิ่งที่ข้าน้อยชงเอง ท่านลองชิมดูสิ”

“ขอบใจมากนะ ใช่สิพ่อบ้าน ข้าซื้อขนมกุ้ยฮวามาให้ เจ้านี้อร่อยมากเลยนะ ข้ากับเยว่เอ๋อร์ชิมมาแล้ว” หยุนถิงยื่นขนมออกไป

พ่อบ้านแปลกใจ: “ฮูหยินซื้อให้ข้าเหรอ?”

“ใช่ พ่อบ้านคอยจัดการเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ในจวนซื่อจื่อตลอด คงจะเหนื่อยแย่ ข้าได้กินของอร่อยก็ต้องนึกถึงเจ้าด้วยสิ” หยุนถิงตอบ

พ่อบ้านรู้สึกซึ้งใจ ถึงแม้จะเป็นแค่ขนมกุ้ยฮวาไม่กี่สตางค์ แต่ฮูหยินก็ยังนึกถึงเขาอยู่ ทำเอาพ่อบ้านรู้สึกชอบนางขึ้นมา

“ขอบพระคุณฮูหยิน”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก” หยุนถิงรับแก้วชามาดื่ม: “ชานี้อร่อยมาก แต่ถ้าเป็นชาชมคงจะอร่อยกว่านี้”

“ชานม?” พ่อบ้านไม่เข้าใจ

“ก็ใช้นมสด ใส่ชาดำกับน้ำผึ้งเข้าไป ใช่สิ ดูเหมือนที่นี่จะไม่มีคนเลี้ยงโคนมสินะ?” หยุนถิงถาม

“มีขอรับ ประตูเมืองทิศเหนือมีโคนมขาย เป็นโคนมชั้นดีที่นำเข้ามาจากเผ่าอาโม่ แต่คนในเมืองไม่ชอบกลิ่นนมกัน ดังนั้นเลยไม่ค่อยมีคนไปซื้อ ไม่รู้ว่าที่นั่นจะปิดตัวไปหรือยัง” พ่อบ้านตอบ

จวินหย่วนโยวได้ยินว่านางกลับมาแล้ว ก็รีบมาทันที พอเข้าไปก็ได้ยินที่หยุนถิงพูดกับพ่อบ้าน

“เจ้าอยากได้โคนมเหรอ?” จวินหย่วนโยวถาม

ชาที่ดื่มเข้าปากของหยุนถิงก็พุ่งออกมา: “ซื่อจื่อมาเมื่อไหร่กัน ทำไมเดินมาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลยล่ะ ข้าตกใจมด คอกแคก……”

จวินหย่วนโยวทำหน้าเหนื่อยใจ แล้วรีบไปลูบหลังให้นาง ท่าทางอ่อนโยน: “ครั้งหน้าข้าจะระวังนะ”

เยว่เอ๋อร์ที่เห็นแล้วก็รู้สึกปลื้มใจมาก มีแต่ซื่อจื่อที่ดีต่อคุณหนู คุณหนูเจอคู่ชีวิตที่ดีเสียทีนะ

หยุนถิงไอสองสามที ก็ถึงดีขึ้น: “ซื่อจื่อ ข้าไม่ได้ต้องการโคนม ข้าอยากได้นม ไม่สิ ต้องการนมวัวต่างหาก”

“พ่อบ้าน เจ้าสั่งคนให้ไปซื้อนมวัวสดๆมาหน่อย” จวินหย่วนโยวพูดขึ้น

“ขอรับ”

“ไม่ต้องรบกวนพ่อบ้านหรอก ข้าไปซื้อเองดีกว่า” หยุนถิงยิ้มร่า

ในยุคปัจจุบัน ชานมโด่งดังไปทั่วโลก เป็นเครื่องดื่มที่ผู้หญิงทุกคนชอบดื่ม แทบจะดื่มทุกวันหลายแก้ว การตลาดดีขนาดนี้ ทำไมคนยุคโบราณถึงไม่รู้กันนะ ถ้าชานมได้รับความนิยมที่นี่ ก็สามารถขยายสาขาไปแคว้นอื่นได้ งั้นนางก็จะหาเงินได้ก้อนโต หยุนถิงยิ่งคิดก็ยิ่งได้ใจ แล้วก็หัวเราะออกมา

จวินหย่วนโยวมองดูหยุนถิงที่หัวเราะขึ้นมากะทันหัน แล้วถามอย่างไม่เข้าใจ: “ดีใจขนาดนี้เชียว?”

หยุนถิงก็ถึงรู้สึกตัว: “ซื่อจื่อ ข้าคิดวิธีหาเงินได้ ถ้าขายดี ถึงเวลาก็จะหาเงินได้เยอะเลย รอข้ามีเงินแล้ว ท่านก็ไม่ต้องเหนื่อยแล้วล่ะ ถึงเวลาข้าจะเลี้ยงท่านเอง”

คำพูดเดียว ทำเอาจวินหย่วนโยวชะงักค้าง

ไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับเขามาก่อน ตั้งแต่เขาโตมาก็ได้ควบคุมจวนซื่อจื่อ ถึงแม้จะทรมานจากยาพิษ ถึงแม้จะเจ็บจนเข้ากระดูก เขาก็ไม่กล้าละเลยในหน้าที่เลย

เพราะถ้าเขาปล่อยเมื่อไหร่ ศัตรูก็จะได้โอกาส มีคนจับจ้องและอยากจัดการองครักษ์เงามังกรและจวนซื่อจื่ออยู่มากมาย

แต่นางกลับบอกว่าจะเลี้ยงตัวเอง มองดูรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา ร่าเริง แต่กลับเด็ดเดี่ยวและมั่นใจ หัวใจที่เย็นชาของจวินหย่วนโยวก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา

ซาบซึ้งและดีใจ

นางเป็นคนแรกที่เป็นห่วงตัวเองขนาดนี้ ถึงแม้จะรู้ว่านางแค่พูดไปเท่านั้น แต่นางจริงใจขนาดนี้ จวินหย่วนโยวก็รู้สึกประทับใจมากเหมือนกัน

“ได้สิ” จวินหย่วนโยวพยักหน้าเบาๆ

พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆก็ตกตะลึง ฮูหยินไม่ได้บ้าไปแล้วใช่ไหม ถึงบอกว่าจะเลี้ยงซื่อจื่อ นางรู้ไหมว่าซื่อจื่อมีอำนาจและเงินมากมายแค่ไหน นางจะคุยโวไปไหนกันนะ

แต่ซื่อจื่อเป็นอะไรไป ปกติผู้ชายได้ยินแบบนี้จะรู้สึกโกรธ อายและไม่พอใจไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาถพึงตกลงล่ะ แถมยังทำหน้าดีใจด้วย

ตายล่ะ ซื่อจื่ออยู่กับฮูหยิน ศักดิ์ศรีก็หายไปด้วยเหรอ

“งั้นตอนนี้พวกเราก็ไปกันเถอะ ซื้อจื่อคงไปไม่ไหว ให้พ่อบ้านไปกับข้าก็พอแล้วล่ะ?” หยุนถิงพูดอย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรหรอก ข้าก็ไม่ได้ออกจากจวนนานแล้ว ออกไปเดินเล่นหน่อยก็ดี” จวินหย่วนโยวตอบ

“งั้นก็ดีเลย” หยุนถิงกลับไปเปลี่ยนชุดเรียบง่าย จากนั้นก็เดินขึ้นรถม้ากับจวินหย่วนโยว เยว่เอ๋อร์กับหลิงเฟิงก็ตามหลังมา แล้วมุ่งตรงไปยังฟาร์มประตูเมืองทิศเหนือทันที

พวกเขาเพิ่งออกไป หลีอ๋องโม่ฉือหานก็พุ่งมาที่บ้านอย่างโมโห

“เรียกหยุนถิงออกมาเดี๋ยวนี้!” โม่ฉือหานตะคอกลั่นบ้าน

พ่อบ้านได้ยินว่าหลีอ๋องมา ก็รีบวิ่งไปที่หน้าประตู ก่อนซื่อจื่อไปก็เคยสั่งไว้ว่า ห้ามบอกว่าเขากับฮูหยินไปไหนกับใครทั้งนั้น

“ไม่ทราบว่าทำไมท่านอ๋องถึงโกรธขนาดนี้ มาจวนซื่อจื่อมีเหตุอันใดหรือเปล่า?” พ่อบ้านทำความเคารพแล้วพูด

“อย่าพูดมาก หยุนถิงทำร้ายนางงามของข้า ข้าจะคิดบัญชีกับนาง!”

“บังเอิญจริงเลย ฮูหยินกับซื่อจื่อเพิ่งออกไป ส่วนไปไหนนั้นข้าน้อยก็ไม่รู้เช่นกัน หลีอ๋องเชิญกลับจวนเถิด” พ่อบ้านพูดด้วยสีหน้าเข้มงวด

“ข้าว่านางทำแล้วไม่กล้าออกมายอมรับมากกว่า คิดว่าซ่อนอยู่ในจวนซื่อจื่อแล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไรนางงั้นเหรอ หลีกไป ข้าจะค้นให้ทั่วทุกที่เลย!” โม่ฉือหานกัดฟันกรอด