บทที่ 279 ออกจากเมือง

บทที่ 279 ออกจากเมือง

“ข่าวของอาจารย์อู๋อีกแล้ว มาอ่านกันเร็ว!” เสี่ยวอวิ๋นผู้กำลังท่องโลกอินเทอร์เน็ตภายในหอพักหญิง ตอนนี้ตะโกนเสียงดังขึ้นมา

“ข่าวอะไร?” เสี่ยวหรูที่อยู่ไม่ไกลรีบเข้ามาใกล้

เยี่ยเฟยเฟยที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอน มองคนทั้งสองเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปสนใจหนังสือในมือต่อ

ส่วนคนอื่นภายในหอพักเช่นหวังเหวินถิง เธอไม่อยู่ ปกติแล้วถ้าไม่ใช่ช่วงพักผ่อนตอนกลางคืน เธอก็แทบไม่เคยอยู่ในหอพัก

“โห! อาจารย์อู๋แข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?”

“ใช่ ลงมือได้เท่ไปเลย”

“คนของประเทศอาทิตย์อุทัยนั่นก็ต่ำช้าเสียจริง ดีที่อาจารย์อู๋ลงมือ ถ้าไม่งั้นรุ่นพี่หลิ่วเหยียนเอ๋อร์แย่แน่”

เสี่ยวอวิ๋นและเสี่ยวหรูกำลังรวมหัวกันตรงคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ อ่านข่าวพลางพูดคุยกันเอง พูดชื่นชมอู๋ฝาน และเหยียดหยามการกระทำของเหอเหลียงและโนซาวะ ชูอิจิ

เนื้อหาของบทสนทนาระหว่างคนทั้งสองกระตุ้นความสนใจของเยี่ยเฟยเฟย เธอจึงวางหนังสือลงและเดินเข้าไปใกล้

“พวกเธอประหลาดใจอะไรกันขนาดนั้น” เยี่ยเฟยเฟยเอ่ยถาม

“เฟยเฟย มาดูเหมือนกันเหรอ? ฉันคิดว่าเธอไม่สนใจเพื่อนผู้ชายที่เคยใช้ชีวิตร่วมกับเธอซะอีก” เสี่ยวอวิ๋นหัวเราะตอบ

เยี่ยเฟยเฟยที่ได้อยู่หอพัก และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับอู๋ฝานแล้ว เสี่ยวอวิ๋นกับคนอื่นก็ได้รู้แล้วว่าเธอกับชายหนุ่มไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน ดังนั้นพวกเธอจึงหยุดความเข้าใจผิดที่เลยเถิด แต่มันก็ยังเป็นเรื่องขำขันใช้หยอกล้อกันอยู่

เยี่ยเฟยเฟยมองตอบอย่างว่างเปล่า จากนั้นจึงตอบคำ “พวกเธอสองคนประหลาดใจกันขนาดนั้น ใครบ้างจะไม่อยากรู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น”

“เป็นเรื่องใหญ่เลย” เสี่ยวหรูตอบกลับ “เฟยเฟยดูสิ อาจารย์อู๋หล่อเท่ไปเลยใช่ไหม?”

รูปบนคอมพิวเตอร์ได้แสดงให้เห็นฉากที่อู๋ฝานกระโดดเตะโนซาวะ ชูอิจิ แม้ไม่ทราบว่าใครเป็นคนถ่าย แต่มุมกล้องและจังหวะเวลาถือว่าดีเยี่ยม สีหน้าโกรธเกรี้ยวและเย็นชาของชายหนุ่ม กับใบหน้าของโนซาวะ ชูอิจิที่ตื่นตระหนก ทุกฉากต่างถูกบันทึกเอาไว้ทั้งหมด หนึ่งคนลงมือ หนึ่งคนร่วงโรย พร้อมการที่เขามองเหยียดอีกฝ่ายประหนึ่งราชันแห่งสนาม

ได้เห็นดังนั้น เยี่ยเฟยเฟยก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความนับถือขึ้นมา “ก็ถือว่าหล่อจริง ๆ”

“ใช่ไหมล่ะ เรื่องบ้าบอแบบนี้เกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยของเรา อาจารย์อู๋ที่ถูกบันทึกภาพเด็ดเอาไว้แบบนี้ก็ยิ่งโด่งดัง ไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีกี่คนที่เก็บภาพเอาไว้แล้ว ไม่นานคงได้เกิดอาการคลั่งอาจารย์อู๋กันแน่” เสี่ยวอวิ๋นรำพึงรำพันออกมา

“รวมพวกเธอสองคนด้วยสินะ” เยี่ยเฟยเฟยตอบเสี่ยวอวิ๋นกับเสี่ยวหรู ขณะมองเนื้อหาการแข่งขันที่เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต

“เธอก็ด้วยแหละ!” เสี่ยวอวิ๋นและเสี่ยวหรูพร้อมใจตอบเป็นเสียงเดียว หลังพวกเธอพูดจบ จึงหันมองหน้ากันเองพร้อมยิ้มกว้าง

เยี่ยเฟยเฟยหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย เธอชื่นชมภาพของอู๋ฝานเมื่อครู่นี้ก็จริงอยู่ เพียงแต่เธอไม่คิดยอมรับออกมา “พอได้แล้ว ฉันไม่เล่นกับพวกเธอสองคนแล้ว”

ตอนนี้เองที่เยี่ยเฟยเฟยอ่านเนื้อหาจบ พร้อมกับได้รู้เรื่องการแข่งขันที่เพิ่งจบลงไปไม่นาน ในใจเธอตอนนี้เห็นด้วยที่อู๋ฝานลงมือ รวมถึงหยามเหยียดการกระทำของทั้งเหอเหลียงและโนซาวะ ชูอิจิ แน่นอนว่าคนทั้งสองถูกฝูงชนที่รับชมเหยียดหยามกันไปเรียบร้อยแล้ว และเยี่ยเฟยเฟยก็มองว่าสมควรแล้ว

“ปากไม่ยอมรับ หน้านี่แดงแจ๋” เสี่ยวอวิ๋นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“ฉันไม่พูดกับพวกเธอแล้ว กลับไปอ่านหนังสือต่อดีกว่า” เยี่ยเฟยเฟยหน้าแดงเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับเตียงของตัวเอง พร้อมกับคว้าหนังสือเล่มเดิมขึ้นมา แต่พักหนึ่งแล้วก็ยังไม่ได้อ่าน เพราะในใจเต็มไปด้วยภาพของอู๋ฝานเมื่อครู่นี้

“นี่ เฟยเฟย แม่ของเธอให้เธอมาอยู่ที่บ้านของน้า แต่ตั้งแต่เปิดภาคเรียนเธอกลับไม่เคยอยู่ที่นั่นเลย ทำแบบนี้มันดีจริงเหรอ?” เสี่ยวอวิ๋นเดินเข้ามาพร้อมคล้องแขนเยี่ยเฟยเฟยพลางเอ่ยคำ

“เธออยากพูดอะไรกันแน่?” เยี่ยเฟยเฟยมองเสี่ยวอวิ๋นด้วยความระแวดระวัง

“ฉันกำลังคิดว่าเมื่อไหร่เธอจะกลับไปอยู่บ้านนั้นกับอาจารย์อู๋ แค่คิดก็คงเป็นช่วงเวลาที่วิเศษน่าดู เธอจะได้ถ่ายภาพอาจารย์อู๋ในชีวิตประจำวัน แบ่งปันให้พวกเราได้ดู นี่สิถึงจะเรียกว่าการแบ่งปันของดีกับเพื่อนฝูง” เสี่ยวอวิ๋นจ้อออกมาไม่หยุด

“อย่าแม้แต่จะคิด ไม่มีทาง!” เยี่ยเฟยเฟยปฏิเสธทันควันบราวนี่ออนไลน์

“ไม่แม้แต่จะคิดเลยเหรอ?” เสี่ยวอวิ๋นตอบกลับ “ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ทั้งมหาวิทยาลัยจะมีกี่คนอยากได้ใช้เวลาร่วมกับอาจารย์อู๋ เธอมีโอกาสแต่ไม่คว้าเอาไว้ เสียของจริง ๆ”

“นั่นพวกเขา ไม่ใช่ฉัน” เยี่ยเฟยเฟยตอบกลับ

เพียงแต่เยี่ยเฟยเฟยก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงช่วงเวลาที่ได้พบกับอู๋ฝานเป็นครั้งแรก ตอนนั้นเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นคนอย่างไร จึงระวังตัวจากอีกฝ่ายเข้าขั้นหวาดระแวง แม้แบบนั้นเขาก็ช่วยดูแลเธอเป็นอย่างดี รวมถึงช่วยเธอปกปิดให้พักอยู่อาศัยที่หอพักในมหาวิทยาลัยได้สะดวก ทั้งหมดเพราะเห็นแก่เธอทั้งนั้น

หากคิดไปว่าจะได้อยู่ร่วมใต้หลังคาบ้านเดียวกับคนอย่างอู๋ฝาน มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และเหมือนว่าจะยิ่งปลอดภัยด้วยซ้ำไม่ใช่เหรอ?

“ถ้ามีโอกาส ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะกลับไปอยู่บ้านสักคืน” เยี่ยเฟยเฟยคิดกับตัวเองอยู่ภายในใจ

อู๋ฝานย่อมไม่ทราบบทสนทนาระหว่างเยี่ยเฟยเฟยและเพื่อนในหอพัก แต่รู้ได้ว่าความนิยมของตนในมหาวิทยาลัยกำลังพุ่งทะยานสูงขึ้น แน่นอนว่า เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรในประเด็นนี้ เพราะตนเพียงต้องการช่วยเหลือหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่น

หลังออกจากมหาวิทยาลัย อู๋ฝานก็ตรงไปยังร้านอาหาร ทั้งยังมีถังอวี่เฟยร่วมทางไปด้วย เพราะจากคำพูดของเธอ ที่ว่าวันนี้หลังเที่ยงต้องไปเดทด้วยกัน ตอนที่ชายหนุ่มทำงานของตัวเองเสร็จ ทั้งสองก็ออกไปพร้อมกัน ส่วนก่อนหน้านั้นหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ เธอกลับหอพักไปพักผ่อนรอ

กิจการของร้านโลกในแหวนยิ่งผ่านไปยิ่งดีมากขึ้น บรรดาผู้มั่งคั่งในเจียงโจวตอนนี้ต่างได้รู้แล้วว่ามีร้านชั้นสูงแห่งนี้อยู่ ทั้งรสชาติของอาหารยังถือได้ว่าดีเยี่ยมที่สุดในเจียงโจว หลายคนจึงเลือกที่จะมานัดรวมตัวร่วมทานอาการกันที่นี่

ส่วนทางด้านร้านคัลเลอร์แมน ที่ห่างจากร้านโลกในแหวนเพียงแค่ข้ามฝั่งถนน ตอนนี้ได้รับผลกระทบอย่างร้ายแรง ผู้จัดการหวงในเวลานี้ยิ่งร้อนใจ

หลังมื้ออาหาร อู๋ฝานและถังอวี่เฟยพากันออกไป ภายในรถ ถังอวี่เฟยยังไม่ได้บอกจุดหมายปลายทางแก่อู๋ฝาน เพียงกล่าวว่าไปถึงแล้วจะรู้เอง

อู๋ฝานไม่ได้มาโดยใช้รถของตัวเอง แต่ใช้รถของถังอวี่เฟย เห็นว่ารถคล้ายกำลังมุ่งหน้าไปทางนอกเมือง เขาจึงอดไม่ได้ที่จะต้องถาม “จะออกไปนอกเมืองเหรอครับ? ที่นั่นมีอะไรรึเปล่า?”

เดิมอู๋ฝานคิดว่าอย่างมากถังอวี่เฟยก็ลากตนเองไปช็อปปิงอีกสักครั้ง แต่ตอนนี้คล้ายจะไม่ใช่เช่นนั้น ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ทั้งหมดต่างอยู่บริเวณใจกลางเมือง ขณะที่ถังอวี่เฟยกำลังขับรถไปทางชายขอบของเมือง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีเจตนาไปห้างสรรพสินค้า

“ออกไปนอกเมืองนิดหน่อยค่ะ” ถังอวี่เฟยในตอนนี้สวมใส่แว่นกันแดดขนาดใหญ่ มันดูเข้ากับเธอจนชวนมอง “วันนี้ที่นั่นมีจัดปาร์ตี้ค่ะ”

“ปาร์ตี้?” อู๋ฝานยิ่งสงสัย ใครกันจะมาจัดปาร์ตี้ที่นอกเมือง?

ไม่นาน คนทั้งสองที่เดินทางออกมานอกเมืองได้ราวสิบนาที รถก็มาถึงบริเวณชายเขาแห่งหนึ่ง ที่นี่ตอนนี้ มีรถราวสามสิบคันจอดเรียงราย ทั้งหมดเป็นรถสปอร์ตหรูที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่าหลักล้านหยวน หลายคันยังไม่ได้ดับเครื่องยนต์ซะด้วยซ้ำ ดังนั้นในขณะนี้จึงได้ยินเสียงดังกระหึ่มตั้งแต่อยู่ไกล ๆ

“งานปาร์ตี้รถหรือไงครับ?” อู๋ฝานที่เห็นเช่นนี้จึงอดไม่ได้ที่จะต้องถาม

“พูดให้ถูกคือ ปาร์ตี้แข่งรถต่างหากค่ะ” ถังอวี่เฟยเผยยิ้มบางตอบรับ

“แข่งรถ?” อู๋ฝานมองกลุ่มรถตรงหน้าตนเอง ถัดจากนั้นจึงมองถังอวี่เฟย พร้อมกับรู้สึกเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา

ที่นี่คืองานแข่งรถ!