253 วัตถุส่องแสงลึกลับ
มีมิและผมพักสั้นๆเสร็จหลังจากกินผลโคคิริ ซึ่งคล้ายกับแตงไทยขนาดจิ๋วและค้นหาต่อในดินแดนป่าของเผ่ากราโดเพื่อที่จะหาอาหาร
“สัตว์ป่าไม่เข้าหาเราหือ?”
มีมิ ผู้กำลังเดินของเธอระหว่างสแกนบริเวณออกความคิดเห็นและแอบมองหน้าผม
“ยกเว้นว่าเป็นสัตว์กินเนื้อ พวกมันน่าจะไม่กล้าโจมตีพวกเรา เหมือนที่เราระวังมัน พวกมันก็ระวังเราด้วยเหมือนกัน”
“ถ้าอย่างนั้นมันเป็นอย่างนั้น”
แน่นอน เพราะทั้งหมดผมไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นแบบนั้นต่อไปไหมถ้าสุดท้ายเราเดินไปทั่วดินแดนสัตว์
มีสัตว์ที่ระวีงดินแดนตัวเองเก่งๆ มันเป็นไปได้ที่พวกมันอาจพยายามเข้าหาเราเพื่อข่มขู่เราแม้ว่ามันไม่โจมตีเราทันที
“อืม พี่อยากจะเลี่ยงการต่อสู้กับสัตว์ป่ามากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้แม้ว่าเราเจอสักตัว”
“ทำไมล่ะ? เราจะสามารถได้เนื้อมาจากพวกมัน ถูกมั้ย?”
“นั่นจริง แต่ไม่มีใครรู้วิธีแล่เนื้อสัตว์ในกลุ่มเรา ใช่มั้ยล่ะ? อย่างน้อย พี่ก็ทำไม่ได้”
“แล่เนื้อ?”
“เอ่อ มาดูกันซิ อืม จำเวลาเมื่อไปเยือนโรงงานเนื้อเพาะเลี้ยงมั้ย เธอเห็นว่าพวกเขาแล่สิ่งมีชีวิตลึกลับพวกนั้นยังไงเพื่อเปลี่ยนมันเป็นเนื้อ ถูกมั้ย? เราต้องทำเหมือนเดียวกันกับสัตว์ป่าถ้าเราล่าได้สักตัว แต่ แน่นอน สัตว์ป่าไม่ได้มีแค่เนื้อในร่างกาย พวกมันก็มีเครื่องในและกระดูกด้วย และถ้าเรารับมือกับเครื่องแบบแย่ๆ น้ำร่างกายและของเสียอาจเล็ดออกใส่เนื้อ และซากศพจะเสียเปล่าอย่างสิ้นเชิง และเราต้องรีดเลือดและแช่เนื้อเพื่อไม่ให้มันเน่าอย่างเร็วด้วย ขึ้นอยู่กับว่าเรารับมือกับซากศพยังไง เราอาจอาบไปด้วยเลือด ดังนั้นเราต้องการน้ำเพื่อล้างมันและแช่เนื้อ”
“เข้าใจแล้ว…… มันฟังดูยากมากๆเลย”
“มันยาก ใครก็ตามที่รู้ว่าใช้อาวุธยังไงอาจสามารถฆ่าเหยื่อได้ แต่มันต้องการทักษะพิเศษเพื่อเปลี่ยนสิ่งที่ล่าสู่เนื้อที่กินได้ อืม ยังไงซะ เราน่าจะยังได้เนื้อแม้ว่าเราทำอะไรอย่างส่งเดช แต่–”
“แต่?”
“สุดท้ายเนื้อจะไม่ถูกรีดเลือดอย่างถูกต้องและจะหมักไม่ดี ทำให้รสชาติมันธรรมดาและไม่น่าพอใจ”
“……นั่นจะรู้สึกไม่ยุติธรรม โดยเฉพาะที่เราจะชิงชีวิตและหาอาหารใส่ตัว”
“ใช่ นั่นทำไมพี่ไม่คิดถึงการล่าสัตว์เพื่อเนื้อจริงๆ”
และนอกจากนี้ ถ้าเรารับมือมันไม่ดีระหว่างแล่ซากศพ เราอาจดึงดูสัตว์ป่าอื่นที่เป็นสัตว์กินเนื้อด้วย มันอันตรายมากเกินไปที่จะลองบางอย่างที่ไม่คุ้นเคยอย่างสิ้นเชิง
“พี่น่าทึ่งจริงๆ ฮิโระซามะ”
“หืม? อืม พี่คิดว่ามันแค่ความต่างในสภาพแวดล้อมที่เราเกิดและโต”
“แต่หนูไม่รู้สึกว่ามันเป็นนั่นทั้งหมด อืม หนูคิดว่ามันเป็นความคิดตั้งแต่เกิดของพี่……”
“ไม่ไม่ แน่นอนว่าไม่ พี่มีความรู้ทั่วไป เพราะทั้งหมด พี่แค่เคยได้ยินเกี่ยวกับอะไรที่พี่บอกน้องเท่านั้นเกี่ยวกับการล่าและแล่สัตว์ และมันไม่เหมือนว่าพี่มีประสบการณ์กับพวกมันด้วยตัวเอง”
เพราะทั้งหมดมันจะไม่ปรกติสำหรับมีมิ ผู้เกิดและโตที่โคโลนีอวกาศ ที่จะมีความรู้เกี่ยวกับการล่าและแล่สัตว์ ในสภาพแวดล้อมที่ถูกควบคุมเหมือนโคโลนี ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่อย่างอิสระข้างในพวกมันยกเว้นคน ที่มีเผ่าเหมือนเอลฟ์และดวอร์ฟรวมอยู่ด้วยแน่นอน
ไม่มีแมวหรือสุนัขจรจัด ใช่เถอะ มันไม่มีแม้แต่หนูและแมลงสาบ
มีมิ, ทีน่า, และวิสเกอร์เป็นคนโคโลนีอวกาศของแท้ ดังนั้นพวกเธออาจรู้จักตัวตนและรูปลักษณ์ของสิ่งมีชีวิตที่เป็นที่นิยมเช่นสัตว์เลี้ยงเหมือนสุนัขและแมว แต่มันไม่เหมือนพวกเธอเห็นพวกมันด้วยตัวเอง
อืม ผมเดาว่าเอลม่าเป็นข้อยกเว้นเพราะเธอเป็นคุณนายขุนนางเกิดในเมืองหลวงจักรวรรดิ และเป็นทหารรับจ้าง เธอเคยไปหลายที่เนื่องจากงานเก่าของเธอ
“อย่างนั้นเหรอ……”
“ใช่ เพราะทั้งหมดน้องยังคงเด็ก มีมิ ตามกาลเวลา หนูน่าจะสามารถได้รับประสบการณ์เป็นแม้แต่กัปตันยานอวกาศที่ดีกว่าพี่ด้วยซ้ำ”
“กัปตันหือ…… นั่นอาจน่าสนใจนิดหน่อย หนูค้นหาย่าและอะไรๆได้ด้วย”
“ใช่ พี่ก็ค่อนข้างอย่างเจอเธอด้วยเหมือนกัน”
ย่าของมีมิ เซเลสเตีย หือ เธอเป็นน้องสาวคนเล็กของจักรพรรดิผู้ปรกครองปัจจุบัน เกพเปล และถูกพูดว่าหนีจากตระกูลราชวงศ์และกลายเป็นทหารรับจ้างผู้มีชื่อเสียง ที่อยู่ปัจจุบันของเธอนั้นไม่รู้ แต่จากมีมิ เธอจำได้ว่าเจอเธอเมื่อเธอยังเด็ก ถ้าเป็นอย่างนั้น เธออาจยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่งในจักรวาลอันกว้างใหญ่
“……พูดถึงแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับการต่อสู้เมืื่อคืน?”
“อืม เราไม่สามารถได้ยินเสียงอีกแล้วเมื่อเราตื่นขึ้น เพราะเสียงการต่อสู้หยุดแล้ว พวกเขาต้องสรุปมันเวลาไหนสักอย่างเมื่อคืน เพราะไม่มีสัญญาณของการต่อสู้ประปรายหลังจากนั้น เราคิดว่ากองประจำการระบบดาวชนะในท้ายที่สุด……”
ถ้ากองประจำการระบบดาวแพ้ แม้แต่บัวดำจะไม่ไร้รอยขีดข่วน นั่นจะรวมถึงกฤษณะที่จอดอยู่ในโรงจอดของมัน ผมหวังว่าจะไม่เป็นอย่างนั้นจริงๆ
แต่พูดถึงแล้ว เหตุผลที่สาวๆสามารถสรุปว่ากองประจำการระบบดาวชนะคือถ้าพวกเขาถูกกวาดล้างอย่างสิ้นเชิงของระบบดาวข้างเคียงจะถูกส่งออกมาที่นี่ทันที และความเป็นภัยจะปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อกำลังเสริมมาถึง พวกเขาจะทำการโจมตีโจรสลัดผู้ควรทำตัวเองเหนื่อยหลังจากความพยายามกวาดล้างกองกำลังป้องกันระบบดาวรีฟิล
ไม่สำคัญว่าธงแดงเป็นองค์กรโจรสลัดใหญ่แค่ไหน พวกเขายังไม่มีพลังที่ต้องการเพื่อลุยกับกองกำลังผสมของกองประจำการของระบบดาวข้างเคียงพร้อมกันกับหน่วยลาดตระเวนทหารจักรวรรดิ นั่นทำไมวิธีการทำงานประจำนั้นคือกระจายกองกำลังเพื่อเลี่ยงการถูกจัดการทั้งหมดทีเดียว
“ยังไงซะ ขึ้นอยู่กับความเสียหายมากแค่ไหน ทีมช่วยเหลือควรมาหาเราวันนี้หรือพรุ่งนี้”
“แน่นอนหนูหวังว่าอย่างนั้น”
ขณะเราเดินและคุยเล่นกันผ่านป่า เราเห็นภาพของบางอย่างส่องแสงในระยะไกลๆ เอ๋? แสง?
“อะไรกันเนี่ย?”
“มันคือแม่น้ำหรือน้ำพุเหรอ?”
“ไม่เลย มันไม่ได้ดูเหมือนอะไรก็ตามนั้นที่อยู่ข้างนอกแค่สะท้อนแสงจากพระอาทิตย์”
ผมฟันพุ่มไม้ข้างหน้าเราขณะเราเดินหน้าต่อ เดี๋ยว นั่น–!
“นี่คืออะไรกันล่ะเนี่ย?”
“หนูสงสัย?”
มันคือบางอย่างที่อธิบายไม่ได้
ไม่ เดี๋ยวก่อน ให้ผมได้อธิบายว่าทำไมเราตะลึง อะไรที่อยู่หน้าเราไม่ได้มี่มาจากในป่าไม่ได้ดูแล โครงสร้างของมันไม่ใช่วัตถุธรรมชาติอย่างชัดเจน
“ไม่ จริงๆ นี่มันคืออะไรเนี่ย? หัวสว่านหรือบางอย่างเหรอ?”
“มันดูคล้ายกันจริง แต่ไม่ใช่มันใหญ่เกินไปเหรอ?”
“ใช่ มันใหญ่ หือ…… อะไรกันเนี่ย?”
ใช่มันเป็นวัตถุแหลมส่องแสง ตัดสินจากแค่ส่วนที่มองเห็นได้ อย่างน้อยมันก็ความยาวหนึ่งเมตร มันหาพอสำหรับผมที่จะกำด้วยสองมือ มันเป็นสีขาวและส่องแสงอยู่ตลอด ขณะสำหรับรูปทรงมันผมยืนยันไม่ได้จริงๆเพราะมันถูกฝังอยู่ในพื้น แต่ปลายแหลมของมันดูคล้ายกับสว่านเกลียว
มันไม่ได้รู้สึกเหมือนบางอย่างธรรมมชาติจริงๆ แต่มันก็ไม่ได้ดูเหมือนเป็นวัตถุประดิษฐ์ อย่างไรก็ไม่รู้วัสดุมันสร้างด้วยอะไรคล้ายกับไม้
“ไม่ว่ายังไง เรามาดึงมันออกดีมั้ย?”
“นั่นไม่เป็นอะไรจริงๆเหรอ? ไม่ใช่พี่กังวลว่าแสงที่ส่องออกมาจริงๆแล้วมันเป็นรังสีบางอย่างเหรอ ฮิโระซามะ?”
“พี่ไม่คิดว่ามันเป็นรังสีเชเร็นคอฟ แต่ใช่ มันอาจอันตรายจริงๆหือ”
มันดีที่สุดที่จะไม่จับบางอย่างไม่คุ้นเคย มันเป็นหนึ่งในพื้นฐานเพื่อเลี่ยงอันตราย แน่นอน มันไม่ได้มีเหตุผลที่จะจับวัตถุไม่รู้จักอย่างไม่ระวังเช่นอันนี้
“บางทีมันถูกทิ้งโดยยานโจรสลัดที่ถูกทำลายหรือบางส่วนจากพาหนะอากาศดาวเคราะห์นี้”
“ไม่ว่าแบบไหน หนูคิดว่ามันดีกว่าที่จะไม่จับวัตถุส่องแสงลึกลับนี่ ฮิโระซามะ”
“นั่นจริง ได้ถ้าอย่างนั้น มาแค่ปล่อยมันไว้ตรงนี้เถอะ–”
หลังจากประกาศเจตนาผมปล่อยนี่ไว้ตามลำพัง วัตถุลึกลับเริ่มกระพริบอย่างแรงกล้า อะไร!? มันจะระเบิดหรือ!? ผมปกป้องมีมิข้างหลังผมทันทีและสร้างระยะจากวัตถุ และจากนั้น การกระพริบบรรเทาลงทั้งหมดทีเดียว อะไรกันเนี่ย?
ทำไมมันแม้แต่กระพริบตั้งแต่แรก?
“เจ้านี่มันเริ่มน่ากลัวอ่ะ”
“เราไม่ควรจับมันจริงๆ”
จากนั้นมันเริ่มกระพิบอีกครั้ง หือ? อย่าบอกผมนะว่า–
“เอ๊ะ? คุณ เอ่อ จริงๆแล้วเข้าใจว่าเราพูดอะไรเหรอ?”
“เอ๋? ม-ไม่มีทางที่นั่น……”
มีมืพยายามปฏิเสธคำพูดของผม แต่วัตถุลึกลับกระพิบหนึ่งทีดั่งตอบ
มีมิกลืนคำพูดเธอที่เหลือทันที
“……ถ้าคุณเข้าใจเราจริงๆ ได้โปรดกระพริบสองที”
มันกระพริบสองทีจริงๆ เข้าใจแล้ว
“อย่างที่พี่คิด เจ้านี่มันน่ากลัว เราแค่เมินมันจะดีกว่า”
“หนูเห็นด้วย”
สองเราหันกลับและเริ่มเดินจากไป และวัตถุลึกลับเริ่มกระพริบอย่างเข้มข้นอีกครั้ง มันดั่งมันพยายามอย่างสิ้นหวังเพื่อยั้งเราไว้ อุว้าา อะไรกันเนี่ย? ผมควรทำอะไรเกี่ยวกับนี่?
แปลโดย: wayuwayu
tipme : tipme.in.th/wayuwayutl
ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: http://linktr.ee/wayuwayu