บทที่ 116 ฟื้นฟูความมั่นใจ

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

ตอนเที่ยง ณัฐณิชายืนอย่างหดหู่ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหนึ่งถ้วยอยู่หน้าตู้จำหน่ายอัตโนมัติ

เป็นไปไม่ได้ที่จะไดเอต

จะรู้สึกแย่แค่ไหนก็ต้องทานอาหาร

“ณัฐณิชา คุณไปทานข้าวกับท่านประธานไม่ใช่เหรอ ทำไมคุณมาทานสิ่งนี้ล่ะ……”

ทันใดนั้นเสียงของกฐินก็ดังขึ้นข้างหลัง ณัฐณิชายิ้มอย่างเก้อเขิน เพิ่งพบว่าพวกกฐินทานอาหารเสร็จกลับมาแล้ว เธอยิ้มครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “อื้ม อาหารวันนี้ไม่ถูกปากฉันน่ะ อยู่ดีๆ ก็อยากทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป!”

“แบบนี้เอง ปกติฉันก็ชอบทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากเหมือนกัน คราวหน้าทานด้วยกันนะ”

“ได้สิ”

ในที่สุดก็โกหกจนผ่านพ้นไปได้ ตอนบ่าย ด้วยความช่วยเหลือของกฐิน ณัฐณิชาได้เรียนรู้วิธีการใช้เครื่องพิมพ์ วิธีการพิมพ์และแฟกซ์เอกสาร กระทั่งพิมพ์ข้อมูลทั้งหมดที่พี่ดาวให้ออกมาจนหมด ก็ถึงเวลาเลิกงานพอดี

เพื่อนร่วมงานต่างทยอยกันกลับออกไป

แม้แต่กฐินก็บอกลาณัฐณิชาแล้ว ณัฐณิชาลังเลอยู่ในออฟฟิศเป็นนานสองนาน ก่อนจะลงไปยังชั้นล่าง ซึ่งไม่รู้ว่าเวลานี้ธราเทพกลับไปแล้วหรือยัง

และเธอไม่รู้ด้วยว่าจะกลับบ้านยังไง……

เรียกแท็กซี่เหรอ

“ปิ๊นปิ๊น!”

ขณะที่ณัฐณิชากำลังลังเล รถแลนด์โรเวอร์สีดำคันหนึ่งก็มาจอดอยู่ตรงหน้า ณัฐณิชาสะดุ้งตกใจ วันนี้ตลอดทั้งวันเธอค่อนข้างเหม่อลอยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพ่งมองแวบหนึ่งจึงรู้ว่าเป็นรถของธราเทพ

ผู้ช่วยนรินทร์ลดหน้าต่างลง “นายหญิง ขึ้นรถเถอะครับ”

ณัฐณิชาลังเลครู่หนึ่ง ตอนนี้เธอไม่อยากเจอธราเทพเท่าไร ไม่อยากพูดคุยกับเขา แต่ถ้าเรียกแท็กซี่กลับ……นึกไปนึกมาค่าแท็กซี่ก็แพงมาก ณัฐณิชาจึงตัดสินใจอดทน เธอขึ้นรถแล้ว ธราเทพแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองก็ไม่มี เขากำลังจัดการงานในไอแพดที่ถืออยู่ ณัฐณิชาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเขา

เขาน่ะไม่ใช่ว่าทานอาหารกับอภัสราภรณ์อย่างเพลิดเพลินมากหรอกเหรอ

อะไรที่บอกให้ตนช่วยสกัดกั้นพวกผู้หญิง ความจริงตัวเขาเองน่าจะเสพสุขกับมันมากสิไม่ว่า

ณัฐณิชาเบะปากอย่างดูถูก มองวิวนอกหน้าต่างที่เลื่อนไป ยิ่งคิดยิ่งคับข้องใจ

อยู่ในบริษัทธราเทพเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น แต่ตนล่ะ

เธอกัดฟัน ต้องให้คนทั้งบริษัทมองตนด้วยสายตาชื่นชมให้ได้!

“ติ๊งต่อง!”

ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือส่งเสียงแจ้งเตือน ณัฐณิชารีบเปิดดู เห็นว่าเป็นรุ่นน้องคนก่อนหน้านี้ เธอส่งข้อความมาให้ “รุ่นพี่คะ ฉันเห็นอวาตาร์การ์ตูนในโมเมนท์โพสต์ของคุณดูดีมาก รบกวนช่วยออกแบบให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ”

“ได้สิ คุณส่งรูปมาเลย ภาพละสามสิบเหรียญ สามารถปรับแก้ได้”

เมื่อณัฐณิชาเห็นข้อความของรุ่นน้อง ในใจก็รู้สึกยินดียิ่ง ความเศร้าสลดหดหู่ตลอดทั้งวันกลายเป็นควันจางหายไป เธอได้รู้ว่าอันที่จริงตัวเองก็มีคุณค่าอยู่มาก

รุ่นน้องโรงเรียนประถมส่งรูปถ่ายหกรูปในสไตล์ที่แตกต่างกันมาให้ทันที และบอกว่า “นี่คือหกคนในหอพักของเราค่ะ ทั้งหมดหกภาพ รบกวนรุ่นพี่ด้วยนะคะ”

จากนั้นไม่นานก็เป็นข้อความการโอนเงิน

ณัฐณิชาดีใจจนเกือบร้องไห้! เธอรีบพิมพ์ข้อความตอบอย่างรวดเร็ว รับประกันว่าพรุ่งนี้ภาพจะเสร็จสมบูรณ์ จะต้องให้ภาพวาดที่สวยงามแก่พวกเธอทั้งหมด

ได้ยินเสียงแป้นพิมพ์ดังจากข้างตัวไม่หยุด คิ้วคมของธราเทพอดไม่ได้ที่จะขมวดเล็กน้อย

วันนี้ณัฐณิชามีบางอย่างผิดปกติตั้งแต่ตอนเที่ยง เขาให้ผู้ช่วยนรินทร์ไปสอบถามถึงได้รู้ ตอนเช้าณัฐณิชาถูกพี่ดาวเรียกไปพบในห้องทำงานหลังจากออกมาก็มีอาการหดหู่ พี่ดาวคนนั้นธราเทพรู้จัก มีชื่อเสียงด้านความเข้มงวดเฉียบขาด

เขาคิดว่าณัฐณิชาจะมาขอร้องตัวเอง แต่เธอไม่ทำ……

“ดูอะไรอยู่” ทันใดนั้นธราเทพก็ถามขึ้น