ฮูหยินไม่อยากจะท้วง ฝ่าบาททรงรักฮวามู่หลาน และในเมื่อ เหลียนป๋อ รับ มู่หลาน เป็นธิดาบุญธรรม อีกฝ่ายย่อมเป็น ผู้ปกครองมณฑลอย่างไม่ต้องสงสัย

“อาจารย์ฮู มีอะไรหรือไม่?”ลู่เฟิง ถามและมองไปที่ ฮูหยิน

ฮูหยิน ได้ตอบกลับทันที”ตามธรรมเนียมของอาณาจักรวันมงคลที่ดีที่สุดคือครึ่งเดือนต่อมา แต่หากรีบเร่งเกรงว่าจะจัดเตรียมพิธีการไม่ดี กระหม่อมคิดว่า ควรเลือกเดือนกุมภาพันธ์แทน…”

“ไม่จำเป็น เดือนกุมภาพันธ์นานเกินไป!”

ลู่เฟิง ได้สั่นศีรษะ”อีกครึ่งเดือนต่อมา ให้ท่านทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดจัดเตรียมพิธีการ แน่นอนว่าต้องออกมาดีที่สุด ท่านทำได้หรือไม่?”

ฮูหยิน หัวเราะในใจอย่างขมขื่น เขากล้าที่จะบอกทำไม่ได้หรือไม่?

ฮูหยิน ได้ตอบกลับทันที”กระหม่อมทำได้พะยะค่ะ!”

“ดี!”

ลู่เฟิง ได้พยักหน้าและพูดเสียงดัง”เรื่องนี้ได้ตัดสินใจไปแล้ว เหล่าขุนนางไม่จำเป็นจะต้องพูดอะไรอีก พวกเจ้ากลับไปเตรียมพร้อมกันเถอะ”

“กระหม่อมรับบัญชา!”

“ไปได้!”

ลู่เฟิง ต้องการจะออกไป แต่ในขณะนั้นเอง ฮูหยิน ก็วิ่งมาและพูดขึ้น”ฝ่าบาท ช้าก่อนพะยะค่ะ!”

“…”

ลู่เฟิง รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ยังมีเรื่องอะไรต้องพูดกันอีก?

เขาได้กล่าวถามทันที”อาจารย์ฮู มีอะไรงั้นหรือ?”

“ฝ่าบาท แม้ว่าตำแหน่งไทเฮา พระองค์จะตัดสินใจไปแล้ว แต่ตำแหน่งนางสนมก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ กระหม่อมคิดว่าพระองค์ควรจะแต่งตั้งนางสนมขึ้นมาด้วย”ฮูหยิน ได้กล่าวพูดขึ้น

“กระหม่อมก็เห็นด้วย!”

เหวินอาน ก็ก้าวท้าวออกมา”มีเพียงตำแหน่งนางสนมเท่านั้นที่สามารถรับประกันสายเลือดราชวงศ์ได้ ได้โปรดพิจารณาด้วย”

ลู่เฟิง ได้ตอบกลับ”ข้ายังไม่สนใจ นอกจากนี้ ข้ายังเด็กไม่ใช่คนแก่ใกล้ตายซะหน่อย พวกท่านยังจะกังวลอะไร?”

เหตุผลที่ คนเหล่านี้ กลัวไม่ใช่การแก่ตาย แต่กลัวว่า ลู่เฟิง จะประสบอุบัติเหตุ!

แต่พวกเขาไม่กล้าพูด

“เรื่องนี้ไม่จำเป็นจะต้องพูดแล้ว!”

“กระหม่อมรับบัญชา!”

หนึ่งวันถัดมาเป็นวันขึ้นปีใหม่!

ลู่เฟิง เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงในวังเพื่อเฉลิมฉลองให้กับคนทั้งประเทศ

ในวันที่สองของปีใหม่ข่าวการแต่งงานของจักรพรรดิก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วอาณาจักร

เพียงแค่ใช้เวลาไม่กี่วัน ทุกคนภายในอาณาจักรไม่มีใครไม่รู้ข่าว

การดำเนินการแพร่กระจายข่าวของจินยี่เหว่ยนั้นรวดเร็วมาก!

แม้แต่ จางซุนห่าว ก็ยังได้รับข่าว เขาได้ถอนหายใจออกมา”เห้อ,ดูเหมือนจะไม่มีวาสนาจริง ๆ !”

เมื่อ เขารู้ว่า ลู่เฟิง ไม่มีนางสนม เขาก็รีบผลักดันบุตรสาวของตนเอง ไปที่เมืองหลวง เพื่อเชื่อมสัมพันธ์แต่งเข้าวัง

แน่นอนว่าด้วย ศักดิ์ฐานะ และ รูปโฉมงดงาม ของ จางซุนอู๋โกว ย่อมยากที่ชายใดจะต้านทานได้

แต่ทว่าใครจะไปคิดว่าแผนการทั้งหมดของเขาจะไร้ผล

ลู่เฟิงได้แต่งตั้งไทเฮา ของตนเองแล้ว

ตอนนี้บุตรสาวของเขาแม้จะแต่งเข้าวังก็หวังได้แค่ตำแหน่งสนมเอกเพียงเท่านั้น

“ไม่ได้,โอกาสดี ๆ ยังมีเหลืออยู่ ข้าจะปล่อยมันไปไม่ได้!”

จางซุนห่าว ได้พึมพัมออกมา”ถ้า อู๋โกว แต่งเข้าวังได้ รวมถึง อิทธิพลของ หวู่จี๋ ที่คุม สิบสามมณฑลซีหยาง ตระกูล จางซุนของข้า จะกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลมากอย่างแน่นอน”

เมื่อคิดเช่นนั้น จางซุนห่าว ก็มีความกระตือรือร้นที่จะจัดการแต่งงานมากขึ้นเท่านั้น

“แต่ว่า คนที่ฝ่าบาททรงไว้ใจตอนนี้มีด้วยกันสองคน อัครมหาเสนาบดีเจี๋ย และ เสนาบดีซุนฮก ยังมี กั๋วเจีย ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ คนเหล่านี้ เป็นคนที่ฝ่าบาททรงไว้ใจ ข้าต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขา”

หลังจาก จางซุนห่าว จัดการเสร็จ เขาก็ลงไปเตรียมตัวไปเยี่ยมคฤหาสน์ของ กั๋วเจีย

“คุณหนู,นายท่านออกจากจวนไปแล้ว”หลังจาก จางซุนห่าว ออกไป เสี่ยวหยู ก็ได้มารายงานต่อ จางซุนอู๋โกว

จางซุนอู๋โกว ได้พยักหน้า”ข้าเห็นแล้ว!”

“เช่นนั้น บ่าวขอตัว!”

หลังจาก เสี่ยวหยู จากไป จางซุนอู๋โกว ได้หยิบจดหมายออกมามันเป็นจดหมายจาก จางซุนหวู่จี๋

มีเพียงประโยคเดียวข้างต้น : ถ้าเจ้าแต่งเข้าวัง เจ้าจะต้องไม่แสวงหาประโยชน์ส่วนตัวหรือเพื่อครอบครัว เจ้าอย่าได้คาดหวังอะไรจากท่านพ่อมาก

จางซุนหวู่จี๋ รู้ดี ว่า ลู่เฟิง ไม่ใช่จักรพรรดิ ที่ปล่อยให้เครือญาติของเขา ควบคุมอำนาจได้ โดยเฉพาะ จางซุนห่าว ที่พยาพยามทำทุกวิถีทางเพื่อส่ง บุตรสาวเข้าวัง

แน่นอนว่า เรื่องนี้ ไม่อาจหลุดรอดสายต้าของ จินยี่เหว่ยไปได้

ไม่นาน จางซุนห่าว ก็มาถึง คฤหาสน์ของ กั๋วเจีย

คฤหาสน์หลังนี้ถูกมอบให้ กั๋วเจีย โดย ลู่เฟิง เมื่อสองวันก่อน

“แม่ทัพจางซุน มาเยี่ยมข้า ข้ารู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก!”กั๋วเจีย ได้กล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่เขาเฝ้าดูคนรับใช้ของเขาพา จางวุนห่าว เข้ามา

“ใต้เท้ากั๋ว กล่าวเกินไปแล้ว เป็นข้าต่างห่างที่โชคดีที่ได้เดินทางมาพบใต้เท้ากั๋ว!”จางวุนห่าว ได้หัวเราะออกมา

“ใต้ถงใต้เท้าอะไรกัน ข้ายังไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการเลย!”

ลู่เฟิง ยังไม่ได้จัดวางตำแหน่งให้ กั๋วเจีย เวลานี้ กั๋วเจีย เป็นที่ปรึกษาทางการทหารที่ดี หากเขาเป็นขุนนางในชั้นศาล ก็อาจจะมีขุนนางในชั้นศาลไม่พอใจ

ดังนั้น ลู่เฟิง จึงวางแผนป้องกันไม่ให้ กั๋วเจีย มีตำแหน่ง รอจนกว่า อีกฝ่ายจะทำคุณประโยชน์บางอย่าง ค่อยมองหาตำแหน่งในอนาคต ถึงตอนนั้นก็คงจะไม่มีใครกล้าค้าน

“แม้ว่า ใต้เท้ากั๋ว จะยังไม่มีตำแหน่งตอนนี้ แต่ข้ามั่นใจว่า อนาคตของใต้เท้ากั๋วย่อมสดใสอย่างแน่นอน”จางซุนห่าวได้ยิ้มออกมา

“ฮ่าฮ่า,เช่นนั้นต้องขอบคุณแม่ทัพจางซุนแล้ว”กั๋วเจีย ได้ยิ้มออกมา”แม่ทัพจางซุน ข้าได้กลิ่นเหล้าชั้นดี คงมิใช่ว่าท่านเตรียมมาให้ข้ากระมัง?”

“ฮ่าฮ่า,แน่นอน!”

จางซุนห่าว ได้หยิบเหล้าออกมาและกล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม”เหล้าผลไม้นี้หมักจากผลไม้วิญญาณมีสีและกลิ่นที่หอมกล่อมกล่อมเป็นเหล้าผลไม้ชั้นดี ข้าได้ยินมาว่า ใต้เท้ากั๋ว ชื่นชอบการร่ำสุรา ดังนั้นข้าจึงเตรียมมาให้ท่าน”

กั๋วเจีย ได้หยิบมันขึ้นมาและหัวเราะเล็กน้อย”เป็นกลิ่นที่หอมจริง ๆ แต่…”

เขาได้มองไปที่ จางซุนห่าว และยิ้มเล็กน้อย”แม่ทัพจางซุน ช่างมีน้ำใจยิ่งนัก ไม่ทราบว่าข้าพอจะทำอะไรตอบแทนท่านได้บ้าง?”

“ใต้เท้ากั๋ว เดิมข้าเองก็มีเรื่องเล็กน้อยที่อยากจะรบกวน ข้ามีบุตรสาวคนหนึ่งนางเพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติ ข้าหวังว่า ใต้เท้ากั๋ว จะช่วยแนะนำบุตรสาวของข้าสักเล็กน้อยได้หรือไม่”จางซุนห่าว ได้กล่าวพูดออกมา

ดวงตาของ กั๋วเจีย ขยับเล็กน้อย เขาเข้าใจความคิดของ จางซุนห่าว ทันที”ข้าเข้าใจแล้ว!”

“ฮ่าฮ่า,หากใต้เท้ากั๋วให้การช่วยเหลือ ในอนาคต ข้ามีเครื่องดื่มดี ๆ ข้าจะนึกถึงท่านเป็นคนแรกเลย!”จางซุนห่าวได้กล่าวออกมา

“เช่นนั้นก็ประเสริฐ!”

“ใต้เท้ากั๋ว ข้ามีธุระสำคัญบางอย่างที่ต้องไปทำข้าไม่รบกวนท่านแล้วข้าขอตัว!”

จางซุนห่าว ต้องการจะเดินทางไปพบกับ ลิโป้ ผู้บัญชาการทหารม้าของอาณาจักร เขาเองก็ต้องการได้รับการสนับสนุนจากลิโป้

“เชิญ!”กั๋วเจีย ได้ผายมือของเขา

จางซุนห่าว ได้จากไป

กั๋วเจีย ได้มองไปที่อีกฝ่ายและพึมพัมเล็กน้อย”ดูเหมือนว่าข้าจะต้องรีบเข้าวังเพื่อไปกราบทูลเรื่องนี้ต่อฝ่าบาท”

ในเวลานี้ ลู่เฟิง ที่อยู่ในวังก็ได้รับจดหมายเช่นเดียวกัน

เขามองดูจดหมายฉบับนี้ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม