บทที่ 221 รังเกียจเฮ่อเหลียนเวยเวย

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

“​เจียว​เอ๋อร​์​เข้าใจ​ใน​คำสอน​ของ​ท่าน​แม่​ ​แต่​นัง​แพศยา​คน​นั้น​ช่าง​หยิ่งผยอง​ยิ่งนัก​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​กำมือ​แน่น​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความเกลียดชัง​ ​“​นาง​ก็​แค่​เกิด​มา​พร้อม​ใบหน้า​อัน​งดงาม​เท่านั้น​ ​ฮึ่ม​ ​รอ​ให้​ข้า​ข่วน​หน้านาง​ให้​เหมือน​กีบ​เท้า​ก่อน​เถอะ​”

ซู​เหยี​ยน​โม่​ดึง​นาง​ออกมา​ด้าน​ข้าง​ ​และ​หยิก​นาง​ ​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจียว​เอ๋อร​์​ ​แม่​บอก​เจ้า​กี่​ครั้ง​แล้ว​ว่า​ให้​ระวัง​กิริยามารยาท​ทั้ง​คำพูด​และ​การกระทำ​ของ​ตัวเอง​ให้​ดี​ ​เจ้า​เป็น​ลูกสาว​สุดที่รัก​ใน​คฤหาสน์​ผู้พิทักษ์​ ​ใน​สายตา​ของ​ท่าน​พ่อ​ ​เขามอง​ว่า​เจ้า​เป็น​ดั่ง​ไข่มุก​ใน​ฝ่ามือ​ ​และ​ในอนาคต​ ​เจ้า​ก็​จะ​เป็น​นาย​ของ​ตำหนัก​บูรพา​ ​ทุก​สายตา​ต่าง​จับตาดู​เจ้า​และ​พยายาม​มองหา​ความผิดพลาด​ของ​เจ้า​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ตอนนี้​ ​เจ้า​จะ​ต้อง​จำ​เอาไว้​ ​แม้ว่า​จะ​รู้สึก​โกรธเคือง​เพียงใด​ ​แต่​เจ้า​ก็​ต้อง​ไม่เปิดเผย​ความรู้สึก​นั้น​ต่อหน้า​คนอื่นๆ​ ​เข้าใจ​หรือไม่​”

เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​รู้​ว่า​ใบหน้า​ของ​ตนเอง​เผย​ให้​เห็น​ความขุ่นเคือง​ ​และ​แม้ว่า​นาง​จะ​ขุ่นเคือง​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่กล้า​ขัดคำสั่ง​ของ​ท่าน​แม่​ ​นาง​เขย่า​แขน​ของฮู​หยิน​ซู​ ​ก่อน​จะ​ทำ​หน้า​น่ารักน่าเอ็นดู​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ ​“​ลูก​เข้าใจ​แล้ว​”

ฮู​หยิน​ซูลูบ​ผม​ยาว​ของ​ลูกสาว​ด้วย​ดวงตา​เป็นประกาย​ ​“​เจ้า​ไม่ต้อง​ไป​อิจฉา​รูปลักษณ์​ของ​ผู้หญิง​คน​นั้น​หรอก​ ​สุดท้าย​แล้ว​ ​นาง​ก็​เป็น​แค่​เด็กสาว​บ้านนอก​คน​หนึ่ง​เท่านั้น​ ​พรุ่งนี้​ ​พวกเรา​จะ​ไป​สืบ​ดู​ว่านาง​เป็น​ใคร​ ​และ​ทำลาย​ใบหน้า​ของ​นาง​เสีย​”

ไม่ใช่​แค่​ข่วน​หน้านาง​ ​แต่​ทำลาย​ใบหน้า​ของ​นาง​เลย​ทีเดียว​ ​มัน​เป็น​วิธี​ที่​โหดเหี้ยม​ยิ่งกว่า​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​เสียอีก

“​ท่าน​แม่​พูด​ถูก​ ​ข้า​จะ​ไม่​สร้าง​ปัญหา​อีกต่อไป​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เจียว​เอ๋อร​์​ยก​ริมฝีปาก​เป็น​รอยยิ้ม​ชั่วร้าย​ ​นาง​รู้จัก​วิธีการ​ของ​ท่าน​แม่​ดีกว่า​ใคร​ ​หาก​ท่าน​แม่​บอกว่า​จะ​ทำลาย​ใคร​สัก​คน​ ​ก็​ไม่มีใคร​สามารถ​ช่วยชีวิต​ของ​คน​ๆ​ ​นั้น​ได้

แต่​สอง​แม่​ลูก​ไม่ได้​ตระหนักถึง​คำพูด​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ที่​บอกว่า​เพียงแค่​มีเงิน​และ​อำนาจ​ ​ก็​ไม่ได้​หมายความว่า​จะ​สามารถ​ปิด​แผ่นฟ้า​ด้วยมือ​เดียว​ได้​ ​ใน​โลก​ใบ​นี้​ยัง​มีตัว​แปร​และ​ปัจจัย​อื่นๆ​ ​อีก​มากมาย​ที่สามา​รถ​เปลี่ยนแปลง​สถานการณ์​ได้​ ​ตัวตน​ที่แท้​จริง​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​ตัวแปร​เหล่านี้

 

ท้องฟ้า​แจ่มใส​ ​ไร้​เมฆ​บดบัง​ ​ลม​พัด​เบา​ๆ​ ​มี​หยดน้ำ​บน​ต้นสน​สีเขียว​มรกต​ ​และ​กิ่งก้าน​ที่​สั่น​ไหว​…​ ​เมื่อ​กิ่งไม้​ไม่​สามารถ​รับ​น้ำหนัก​ของ​หยดน้ำ​ได้​อีกต่อไป​ ​มัน​ก็​ค่อยๆ​ ​โน้ม​กิ่ง​ลงมา​เล็กน้อย

แปะ​…

หยาด​ดน​้ำ​ค้าง​หยด​ใส่​ใบหน้า​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​ใน​ตอนนี้​ ​นาง​แต่งหน้า​ใหม่​แล้ว​ ​และ​ได้​เปลี่ยน​ชุด​เป็น​เครื่องแบบ​ที่​สำนัก​ไท่​ไป๋​กำหนด​ ​นาง​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​แต่​ก็​ยัง​ไม่เห็น​คน​สอง​คนที​่​นาง​กำลัง​ตามหา​อยู่​ ​น่าแปลก​ ​พวกเขา​ลา​หยุด​กัน​เช่นนั้น​หรือ​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กลับมา​อย่าง​ผิดหวัง​ ​แต่​ก็​ไม่​เสียเวลา​กับ​เรื่อง​นี้​ ​เมื่อ​นาง​เห็น​ว่า​ไม่มีใคร​อยู่​ ​นาง​จึง​หมุนตัว​และ​เดิน​จากไป​ ​การ​เข้าออก​อย่างรวดเร็ว​ของ​นาง​ทำให้​หลาย​คน​ต่าง​ก็​คาดเดา​กัน​ว่า​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่

“​ดู​สิ​ ​นาง​กลับมา​แล้ว​”

“​นาง​จะ​ต้อง​ลืม​อะไร​บางอย่าง​เอาไว้​ ​แล้ว​กลับมา​เอา​ไป​อย่างแน่นอน​”

“​ดูเหมือน​จะ​เป็น​เช่นนั้น​ ​แต่​คน​พวก​นั้น​ก็​พูด​เกิน​จริง​ไปมาก​ ​ถึงกับ​เรียก​นาง​ว่า​ ​‘​ลูกพี่​’​ ​เลย​ทีเดียว​”

“​ก็​แค่​พวก​บ้านนอก​ที่​ไม่เคย​เห็น​โลก​เท่านั้น​ ​พวกเขา​เพียง​รวมกลุ่ม​กัน​เพื่อ​ความสนุก​สนาน​ ​ทั้ง​ชีวิต​ของ​บางคน​ ​อาจจะ​ยัง​ไม่เคย​ถูก​ประจบประแจง​เลย​ด้วยซ้ำ​ ​ดังนั้น​ ​พวกเขา​จึง​ตั้งใจ​ทำ​เรื่อง​เหล่านี้​เพื่อ​เสแสร้ง​ว่า​พวกเขา​มีอำนาจ​และ​เป็นที่นิยม​อย่างมาก​ก็​เท่านั้น​”

ตอนแรก​ที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เห็น​ศิษย์​น้อง​เหล่านั้น​ ​นาง​ก็​หยุด​เดิน​ ​และ​ต้องการ​จะ​มอบ​ตั๋ว​สอง​ใบ​ที่อยู่​ใน​มือ​ให้​พวกเขา​ ​แต่ก่อน​ที่จะ​ได้​คุย​กัน​ ​เหล่า​คุณหนู​ที่​กำลัง​ฝึก​ปราณ​อยู่​ด้วยกัน​นั้น​ ​กลับ​มอง​นาง​อย่าง​ไม่​ชอบใจ​ ​ราวกับว่า​นาง​พยายาม​ที่จะ​ไต่เต้า​ขึ้น​มา​ ​พวก​นาง​ดูถูก​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​และ​คิด​ว่า​พวก​ตน​มีดี​กว่า​อีก​ฝ่าย

ผู้หญิง​คน​นี้​มี​การพัฒนา​ใน​เรื่อง​อาวุธ​ก็​จริง​ ​แต่​จะ​ไป​มีประโยชน์​อะไร​เล่า​ ​ในเมื่อ​นาง​ไม่ได้​มาจาก​ตระกูล​ที่​ดี​ ​และ​ไม่มี​พลัง​ปราณ​ใน​ร่างกาย​ ​กลุ่มคน​เหล่านั้น​ควร​รายล้อม​พวก​นาง​ ​ไม่ใช่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​พวก​นาง​อยาก​จะ​เปิดหูเปิดตา​ให้​พวกเขา​รับรู้​ว่า​หญิงสาว​คน​นี้​เป็น​เพียงแค่​คนบ้านนอก​คน​หนึ่ง​เท่านั้น

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เข้าใจ​ว่า​มัน​เป็น​เพียง​ความอิจฉา​ใน​ใจ​ของ​พวก​นาง​ ​นาง​จึง​กอดอก​และ​ยิ้ม​ให้​อีก​ฝ่าย​อย่าง​เย้ยหยัน

คนที​่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​มีชื่อ​ว่า​เฉิน​อี​เฟิง​ ​เขา​เป็น​คน​เถรตรง​ ​และ​เกิด​ใน​ตระกูล​แม่ทัพ​ ​เขา​พูด​ขึ้น​อย่าง​ไม่​ระมัดระวัง​ ​“​พวก​เจ้า​ทุกคน​พูด​จบ​แล้ว​หรือยัง​ ​สิ่ง​ที่​พวก​เจ้า​ทำ​ก็​แค่นิน​ทา​ว่าร้าย​คนอื่น​ทั้งวัน​เท่านั้น​ ​พวก​เจ้า​ไม่มี​อะไร​ทำ​แล้ว​หรือ​อย่างไร​ ​แค่​เรื่อง​นี้​ ​เจ้า​ก็​ไม่​สามารถ​เทียบ​กับ​ลูกพี่​ได้​แล้ว​”

“​ใช่​ๆ​ๆ​ ​ลูกพี่​ของ​เจ้า​ช่าง​เป็น​คนที​่​มีอำนาจ​ยิ่งนัก​”​ ​หนึ่ง​ใน​คน​กลุ่ม​นั้น​พูดจา​เหน็บแนม​ประชดประชัน​ ​“​ต่าง​จาก​คนอื่นๆ​ ​ใน​ชั้นเรียน​พลัง​ปราณ​ที่​ไม่​สามารถ​ทำคะแนน​ได้​เลย​ ​แม้แต่​ตระกูล​เฮ่อ​เหลียน​ก็​ยัง​ขับไล่​นาง​ออกจาก​ตระกูล​ ​นาง​คิด​ว่า​ตัวเอง​มีความรู้​ด้าน​อาวุธ​เพียง​เล็กน้อย​ ​แล้ว​จะ​ไม่มีใคร​เอาชนะ​นาง​ได้​ ​แต่​สุดท้าย​แล้ว​ ​นาง​ก็​เผย​ธาตุแท้​ออกมา​ใน​การทด​สอบ​พลัง​ปราณ​ ​ข้า​ไม่เข้าใจ​เลย​ ​นาง​เอง​ก็​มาจาก​คฤหาสน์​ผู้พิทักษ์​ ​แต่​เจียว​เอ๋อร​์​กลับ​มี​จิตใจ​ดี​และ​เห็นอกเห็นใจ​ผู้อื่น​ยิ่งนัก​ ​แม้แต่​ตอนที่​นาง​อยู่​ที่​งาน​ประมูล​ของ​เวย​เจ๋อ​ ​นาง​ก็​ยัง​ไม่​ทำตัว​โดดเด่น​เลย​ ​หาก​ลูกพี่​ของ​พวก​เจ้า​มีดี​กว่านั​้น​ ​แล้ว​ทำไม​นาง​ถึง​ไม่​ไป​ที่​งาน​ประมูล​ ​แล้ว​เดินเล่น​ที่นั่น​เล่า​”

“​น้องสาว​ ​เจ้า​พูด​เรื่อง​อะไร​กัน​ ​เจ้า​กำลัง​ทำให้​ลูกพี่​ของ​พวกเขา​ต้อง​อึดอัด​ใจ​ ​แม้ว่า​นาง​จะ​ใช้​ทรัพย์สมบัติ​ทุกอย่าง​ของ​นาง​ ​ก็​อาจจะ​ยัง​ไม่​สามารถ​ซื้อ​ที่นั่ง​แถว​สุดท้าย​ใน​งาน​ประมูล​ได้​เลย​ด้วยซ้ำ​ ​อย่า​ทำให้​ศิษย์​ที่​ยากจน​คน​หนึ่ง​ต้อง​ลำบากใจ​เลย​”

เหล่า​คุณหนู​ผู้สูงศักดิ์​ทั้งหลาย​ต่าง​พูดคุย​กัน​ใน​กลุ่ม​และ​โบก​พัด​ไปมา​ ​ใบหน้า​ของ​พวก​นาง​เผย​ให้​เห็น​รอยยิ้ม​เย้ยหยัน

“​พวก​เจ้า​ทุกคน​หุบปาก​ซะ​!​”​ ​ยิ่ง​เฉิน​อี​เฟิง​รับฟัง​มาก​เท่าไหร่​ ​เขา​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​โกรธเคือง​มากขึ้น​เท่านั้น​ ​เขา​เอง​ก็​ศึกษา​เรื่อง​อาวุธ​ ​และ​หลังจากที่​เขา​พ่ายแพ้​ให้​กับ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​เขา​ก็​ยอมรับ​ความพ่ายแพ้​ของ​ตนเอง​ ​นอกจาก​อาวุธ​แล้ว​ ​เขา​ยัง​ศึกษาศาสตร์​ของ​พลังจิต​วิญญาณ​ ​ซึ่ง​ไม่ใช่​ทุกคน​ที่จะ​เรียนรู้​ได้​ ​นับประสา​อะไร​กับ​ความยากลำบาก​ใน​การ​หา​ซื้อ​วัสดุ​ที่​จำเป็น​ทุกอย่าง

สิ่ง​ที่​ลูกพี่​ของ​พวกเขา​เก่ง​ที่สุด​ก็​คือ​ ​ต่อให้​จะ​เป็น​วัสดุ​ธรรมดา​แค่ไหน​ ​แต่​ถ้า​อยู่​ใน​มือ​ของ​นาง​แล้ว​ ​มัน​ก็​สามารถ​กลายเป็น​อาวุธ​ชั้นหนึ่ง​ได้​ ​พวก​คน​หัวสูง​เหล่านั้น​ไม่เข้าใจ​โลก​ของ​อาวุธ​เลย​ ​พวกเขา​เพียงแค่​เย้ยหยัน​ที่​ลูกพี่​ของ​พวกเขา​ไม่มี​เงิน​ ​หาก​ลูกพี่​ของ​พวกเขา​มีเงิน​ ​อาวุธ​ทุก​ชิ้น​ที่นาง​สร้าง​ขึ้น​ก็​คงจะ​ขาย​จน​หมดเกลี้ยง​อย่างแน่นอน

“​ไม่​จริง​น่า​ ​คุณชาย​เฉิน​ต้องการ​จะ​ทะเลาะ​กับ​พวกเรา​เพื่อ​ปกป้อง​นาง​เช่นนั้น​หรือ​”​ ​มี​ใคร​บางคน​มอง​เขา​หัว​จรด​เท้า​ ​“​คุณชาย​เฉิน​ ​อย่า​บอก​นะ​ว่า​เจ้า​มีความรู้สึก​ต่อ​ลูกพี่​ของ​เจ้า​ ​เช่น​ ​อยาก​จะ​แต่งงาน​กับ​นาง​อะไร​พวก​นั้น​”

หลังจาก​พูด​จบ​ ​ก็​เกิด​เสียงหัวเราะ​ขบขัน​ดัง​ขึ้น​ ​คุณหนู​หนึ่ง​ใน​นั้น​หัวเราะ​อย่างหนัก​จน​น้ำตาไหล​ ​นาง​ชี้​ไป​ทาง​เฉิน​อี​เฟิง​และ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ ​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ทำเป็น​พูดเล่น​ไป​ ​พวก​เจ้า​สอง​คนมีสี​ผิว​ที่​คล้ายคลึง​กัน​ ​ไม่รู้​ว่า​ลูก​ๆ​ ​ของ​พวก​เจ้า​จะ​ออกมา​หน้าตา​เป็น​เช่นไร​ ​ข้า​ไม่​อยาก​จะ​นึก​เลย​ ​มัน​จะ​ไม่เห็น​เป็น​ถ่าน​ก้อน​เล็ก​ๆ​ ​เลย​หรือ​”

เฉิน​อี​เฟิง​รู้สึก​เดือดดาล​ ​และ​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​บ่งบอก​ว่า​พร้อม​เข้าไป​ต่อสู้​เต็มที่​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จับ​ข้อมือ​ของ​เขา​ ​ดูเหมือนว่า​นาง​จะ​ไม่ได้​ใช้กำลัง​มากมาย​นัก​ ​แต่กลับ​ทำให้​เฉิน​อี​เฟิง​หยุด​ฝีเท้า​และ​หันกลับ​มาม​อง​ได้​ ​แววตา​ของ​เขา​ดูป​ระ​หลาด​ใจ​ ​เขา​รู้​ว่า​ลูกพี่​ของ​เขา​มี​ความสามารถ​ก็​จริง​ ​แต่​ยัง​ขาด​พื้นฐาน​อีก​มาก​ ​และ​นาง​ก็​แค่​โชคดี​ที่​เป็น​ฝ่าย​ชนะ​ประลอง​ตอนที่​นาง​เพิ่ง​มาถึง​สำนัก​ไท่​ไป๋​ ​เพราะ​เฮ่อ​เหลียน​เหมย​ไม่ได้​แสดงความสามารถ​อย่างเต็มที่​ก็​เท่านั้น

แน่นอน​ว่า​เขา​ไม่รู้​ว่าการ​ทดสอบ​ครั้งนั้น​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​ ​เพราะ​ท้ายที่สุด​แล้วก็​มี​เพียง​ผู้แข่งขัน​เท่านั้น​ที่​รู้​ ​แต่​ใน​ตอนที่​ทดสอบ​ลูกแก้ว​นั้น​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ลูกพี่​ของ​เขา​ยัง​ไม่มี​ความสามารถ​ใน​การจุด​ไฟ​ให้​กับ​ลูกแก้ว​เลย​ ​แล้ว​ทำไม​ตอนนี้​ ​นาง​ถึง​สามารถ​จับ​ข้อมือ​ของ​เขา​อย่าง​แผ่วเบา​ ​แต่กลับ​ทำให้​เขา​สัมผัส​ได้​ถึง​พลัง​ที่​ไม่เคย​ปรากฏ​มาก​่อน​เช่นนี้​ได้​ ​นี่​…​ไม่น่า​จะ​ใช่​พลัง​จาก​คนที​่​ไม่มี​พลัง​ปราณ​เลย​ด้วยซ้ำ