บทที่ 252 ตอนพิเศษ เป็นทั้งพ่อและพี่ชาย

สำรับมนตราของชายาอ๋อง

บทที่ 252 ตอนพิเศษ เป็นทั้งพ่อและพี่ชาย
บทที่ 252 ตอนพิเศษ เป็นทั้งพ่อและพี่ชาย

ในใจของหมี่อี้เหิงทั้งรักและเกลียดหมี่เจ๋อเฉิน

เขาเลี้ยงดูเด็กคนนี้มา เขาเป็นคนสอนหมี่เจ๋อเฉินให้พูดประโยคแรกและเดินก้าวแรกในชีวิต แม้ว่าเขาจะเกลียดสถานะ ‘เด็กเก็บมาเลี้ยง’ ของตน และเกลียดสายตาดูถูกของไทเฮาเจิ้งเป็นบางครั้งก็ตาม

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเติบโตของหมี่เจ๋อเฉินเป็นแรงผลักดันให้เขาอยู่รอดในวัง เขาไม่รู้ว่าหัวใจของเขาได้ผูกติดอยู่กับอีกฝ่ายตั้งแต่เมื่อใด ทั้งกังวลเรื่องการเรียนของเขาในตอนกลางวัน และกังวลเรื่องการนอนหลับของเขาในตอนกลางคืน

ในการรับรู้ของเขานั้น เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่พี่ชายของหมี่เจ๋อเฉินเท่านั้น แต่ยังเป็นพ่ออีกด้วย

ดังนั้นเมื่อเขาเห็นจอกสุราพิษ ความคิดแรกในใจของเขาคือ ‘ลูกช่วยพ่อไม่ได้’ เขาต้องคิดถึงอนาคตของ ‘ลูกชาย’ และไม่กลายเป็นอุปสรรคขัดขวางความก้าวหน้าของเขา

แต่ก็ยังคงมีความแค้นอยู่ในใจ

สุดท้ายเขาก็คิดว่าตัวเองได้ทำดีที่สุดแล้ว ในช่วงสามสิบปีแรก เขาใช้เวลาเกือบยี่สิบแปดปีร่วมกับหมี่เจ๋อเฉินทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็ยังคงรักษาเจตจำนงที่จะรักเขาและไม่ขัดความประสงค์ของเจ้าตัวเลย

แต่สุดท้ายความพยายามมากมายก็ไม่เป็นผล

ไม่เหลือแม้แต่ชีวิต

ในที่สุดเขาก็ยังมีชีวิตรอดมาได้ด้วยความช่วยเหลือของซือฉือ ทว่าต้องกินยาไปตลอดชีวิตที่เหลือของเขา

ดังนั้นเขาจึงอยากกลับมา กลับมาเป็นผู้ชนะที่จะมาทวงทุกอย่างคืนจากหมี่เจ๋อเฉิน ปรากฏตัวต่อหน้าเขา แสดงพลังอำนาจของเขา และบอกหมี่เจ๋อเฉินว่ามันผิดอย่างไรที่เขาตัดสินใจสละหมี่อี้เหิงไปแล้วเลือกอำนาจในตอนนั้น

แม้ว่าหมี่เจ๋อเฉินจะไม่ได้เป็นคนนำสุราพิษมาให้เขา แต่หมี่อี้เหิงก็มองว่าหมี่เจ๋อเฉินในฐานะฮ่องเต้ที่ความจริงแล้วไม่ทราบเจตนาของไทเฮาเจิ้งอาจจะยินยอมพร้อมใจด้วย ไทเฮาเจิ้งจึงคิดจะสังหารเขา

หลังจากนั้น…

ความคิดนี้เปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อใด บางทีอาจจะหลังจากดื่มชาเทพเจ้าที่แม่สาวน้อยมอบให้ ในห้วงนิทราที่เขาต้องการจะดื่มด่ำมากกว่าตื่นขึ้น

เขาคิดว่าในความฝันเขาจะเกลียดหมี่เจ๋อเฉินมาก แต่ใครจะรู้ว่าในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้น ทั้งหมดที่ปรากฏในใจของเขาคือช่วงเวลาแห่งความสุขระหว่างทั้งสองคน

ต่อมาแม่สาวน้อยก็พูดว่า “ไม่ได้มีชีวิตที่ดีมาหลายปีแล้ว จะเสียเวลาไปกับความแค้นเพื่ออะไร แค่ตกหลุมรักและมีความสุขไปด้วยกันไม่ดีกว่าหรือ”

หมี่อี้เหิงอายุมากแล้ว เขายอมรับว่าเขาได้สัมผัสกับความร้อนรุ่มบนโลกนี้ที่แผดเผาเขาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขามีประสบการณ์ผ่านการจากลาและความตาย ความขุ่นเคืองและความโกรธแค้น แต่ท้ายที่สุดคำพูดเช่นนี้ก็จู่โจมเขาได้อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

เขาไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นและจุดประสงค์ของการแก้แค้นหมี่เจ๋อเฉินคืออะไร มันคือการทำให้หมี่เจ๋อเฉินอดทนกับทุกสิ่งที่เขาเคยประสบมาก่อน หรือเพื่อให้เขารู้ว่าเขาก็เป็นคนที่มีอารมณ์ ความรัก และความเกลียดชัง

จนกระทั่งพายุหิมะตกลงมาอย่างกะทันหัน และพิษในกายของหมี่อี้เหิงกลับมาแผลงฤทธิ์อีกครั้ง เขาก็ตระหนักได้ว่าสิ่งเดียวที่เขาต้องการก็คือทำให้อาเจ๋อจดจำเขาได้ จำไว้ว่าพวกเขาเคยติดตามกันและกันและไม่อาจแยกออกจากกันได้

เมื่อเขาตื่นขึ้นมา หมี่เจ๋อเฉินก็ได้แต่งตั้งหลานชายให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และตำแหน่งฮ่องเต้ก็ว่างไว้

เขากล่าวว่า “อาเหิง หากตอนนี้ข้าเลือกได้ ข้าเกรงว่าข้าจะไม่ปล่อยให้ท่านไปจากข้าอีก”

ด้วยประโยคง่าย ๆ เช่นนี้ก็ราวกับว่ามีน้ำเดือดมาละลายหิมะที่สะสมอยู่ในหัวใจของหมี่อี้เหิงมาหลายปี ความเกลียดชังและความขุ่นเคืองใจที่มีมานานกว่าสิบปีดูเหมือนจะไร้ความหมาย ดูเหมือนว่าเขาจะหวังให้อาเจ๋อพูดประโยคนี้กับเขาตั้งแต่เห็นสุราพิษมาจนถึงบัดนี้

ในที่สุดเขาก็รู้ว่าตอนนี้เขาสำคัญกว่าอำนาจ

เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

……………………………………………………..